รีวิว nubia Neo 5 GT 5G เกมมิ่งโฟนตัวล่าสุดจากแบรนด์ nubia รอบนี้มาพร้อมสโลแกน “Born To Win” ยกระดับสเปคภายในด้วยชิป Unisoc T9100 Octa-Core 2.7GHz, หน้าจอ OLED ขนาด 6.8″, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6000mAh พร้อมชาร์จไว 80W อีกทั้งยังมีฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกมครบ ทั้ง Gaming shoulder triggers และ ดีไซน์ฝาหลัง RGB Light เท่ ๆ ด้วย ทั้งหมดนี้เคาะราคาเบา ๆ ไม่ถึง 9,000 บาทเท่านั้น!

หลังจากเราลองใช้งานมากว่า 1 สัปดาห์ ก็พร้อมจะมีรีวิวให้อ่านกันแล้วว่า รุ่นนี้คุ้มค่าสักแค่ไหน เล่นเกมดีไหม คะแนนทดสอบสูงรึเปล่า ติดตามได้จาก รีวิว nubia Neo 3 GT 5G รุ่นนี้เลยครับ
ราคา nubia Neo 3 GT 5G
ก่อนอื่น…บอกราคากันตั้งแต่ตรงนี้เลยละกันเนอะ เผื่อใครเห็นดีไซน์จากภาพปกหรือไฮไลท์สเปคก็โดนใจแล้ว nubia Neo 3 GT 5G มีให้เลือกความจุเดียวเลยคือ 12GB+256GB กับ 2 ตัวเลือกสี Electro Yellow และ Interstellar Gray ราคาเบา ๆ เพียง
nubia Neo 3 GT 5G (12GB+256GB) ราคา 8,999 บาท

สรุปสเปค nubia Neo 3 GT 5G
- หน้าจอ : OLED ขนาด 6.8″
- ความละเอียดหน้าจอ : FHD+ (2392 x 1080 พิกเซล), ความสว่างสูงสุด 1300nits
- Refresh rate : 120Hz
- ชิปเซ็ต : Unisoc T9100 Octa-Core 2.7GHz (4nm)
- RAM : 12GB
- ความจุ : 256GB
- แบตเตอรี่ : 6000mAh
- ระบบชาร์จไว : 80W
- กล้องหน้า : 16MP f/2.0
- กล้องหลัง : 2 ตัว
- 50MP กล้องหลัก f/1.8
- 2MP กล้อง Depth f/2.4
- ระบบปฏิบัติการ Android 15 (MyOS 15)
- สีสัน : Electro Yellow, Interstellar Gray

แกะกล่อง nubia Neo 3 GT 5G
เอ้า…เรามาแกะเช็กดูแพ็กเกจกันดีกว่าครับ ตัวกล่องของ nubia Neo 3 GT 5G นั้นมาในแบบเกมมิ่งสุด ๆ ด้วยตัวกล่องสีเหลือง-ดำ อันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์นี้ ที่ด้านหน้ามีระบุชื่อรุ่น Neo 3 GT เด่น ๆ พร้อมคำเปรย Win more Games ด้วย

เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับตัวเครื่องเลยอยู่ในซองอย่างดี ที่ด้านหน้าก็มีข้อมูลไฮไลท์สเปคครบถ้วน อาทิ หน่วยประมวลผลเกมมิ่ง T9100 6nm, ระบบชาร์จไวสุด ๆ พร้อมแบตเตอรี่จุใจ, ระบบระบายความร้อน VC ขนาดใหญ่, มีปุ่ม Shoulder Triggers ควบคุมพิเศษ, หน้าจอสุดอลังการ และความจุขนาดใหญ่ด้วยครับ

ชั้นถัดลงไปก็จะมีอุปกรณ์เสริมสำหรับตัวเครื่องครบ ทั้ง เคสใส, เอกสารคู่มือ, เข็มจิ้มถาดซิม, สายชาร์จ USB-C to C และอะแดปเตอร์ชาร์จไว 80W ด้วย


เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ภายในกล่องของ nubia Neo 3 GT 5G ก็จะมีมาให้ 6 อย่างประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง nubia Neo 3 GT 5G
- เคสใส
- สายชาร์จ USB-C to C
- อะแดปเตอร์ชาร์จไว 80W
- เอกสารคู่มือ
- เข็มจิ้มถาดซิม

ดีไซน์เกมมิ่งสุด ดุดันตั้งแต่แว้บแรกที่เห็น
เอาล่ะ…เช็กอุปกรณ์และแพ็กเกจกันไปแล้ว ถึงคราวมายลโฉมตัวเครื่องแบบเต็ม ๆ กันเลยดีกว่า nubia Neo 3 GT 5G มาพร้อมดีไซน์เกมมิ่งขั้นสุด แบบ Cyber-Mecha Design ใครเห็นก็ต้องรู้เลยว่ารุ่นนี้เน้นเกมแค่ไหนเนาะ สีที่เราได้มาเป็นสี Interstellar Gray หรือสีเทา-น้ำเงินสุดเท่!


ที่ฝาหลังจะมีลวดลาย Carbon-Fiber ที่สัมผัสลงไปจะรู้สึกถึงพื้นผิวจริง ๆ ช่วยกันลื่นได้เวลาหยิบจับถือ มีการแบ่งพื้นที่ต่าง ๆ ของฝาหลังให้อารมณ์ความทันสมัยและดุดันสำหรับการเล่นเกมดีจริง ๆ

นอกจากนี้ยังมีข้อความระบุไว้ในส่วนต่าง ๆ ทั้ง NEO “Win More Games” ที่สื่อถึงชื่อรุ่นและชัยชนะของการแข่งขัน

หรือจะเป็นส่วนบนที่มีคำว่า GT ที่สื่อถึงรุ่นทรงพลังสุดและตัวเลข 03 ที่เป็นรุ่นซีรีส์นี้ และยังมีดีไซน์คล้ายดวงตาอันดุดันพร้อมไฟ RGB อยู่ภายใน ที่จะติดขึ้นเมื่อมีการแจ้งเตือนหรือขณะเล่นเกมอีกด้วย


หน้าจอ OLED 6.8″ ลื่นไหล 120Hz
พลิกกลับมาดูที่ด้านหน้ากันบ้าง nubia Neo 3 GT 5G นั้นมาพร้อมหน้าจอ OLED แบบแบนขนาดใหญ่ถึง 6.8″ เรียกว่าเต็มตาเต็มใจกันเลย แถมยังมีขอบจอที่บางเฉียบใช้ได้เลยด้วย ในเรื่องการแสดงผลทำได้ดีเลยครับ บนความละเอียด FHD+ สีสันและความคมชัด ครบถ้วน

เอามาเล่นเกมที่ภาพสวย ๆ ก็ถูกใจ หรือจะว่างเว้นมาใช้งานดูคอนเทนต์ คลิปสั้น ตัวอย่างเกม ตัวอย่างหนัง หรือซีรีส์ยาว ๆ ตัวหน้าจอของ nubia Neo 3 GT 5G ก็ถือว่าเอาอยู่จริง ๆ ครับ

ด้านการตอบสนองก็รองรับสูงสุดที่ Refresh rate 120Hz มอบความลื่นไหลในการใช้งานทั่วไป ไปจนถึงการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี และที่เราชอบมาก ๆ ก็คงเป็นเรื่องหน้าจอแบนที่ใช้งานได้พอดี ไม่ติดขัดนี่แหละ

รอบเครื่องเหลี่ยม พร้อม Gaming Shoulder Triggers
รอบ ๆ ตัวเครื่องของ nubia Neo 3 GT 5G ก็ออกแบบมาได้ดีเช่นกันครับ ใช้ดีไซน์แบบกรอบเหลี่ยมผิวด้าน ทำให้เราจับถือใช้งานได้อย่างสะดวกสะบาย และกระชับมือ ให้การจับถือที่ดีทั้งการใช้งานแนวตั้งและแนวนอน

ตำแหน่งปุ่มกดจะอยู่ที่ฝั่งขวามือของตัวเครื่องทั้งหมดเพื่อให้กดได้ง่ายในฝั่งเดียว มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง, ปุ่ม Power สีแดงที่มีพื้นผิวตัดเฉียงบนปุ่มเพิ่มความเท่ด้วย และที่ขาดไม่ได้เลยคือ Gaming Shoulder Triggers แถบสัมผัสด้านข้างตัวเครื่อง

เป็นทางเลือกสำหรับเกมเมอร์ เพิ่มตัวควบคุม L R คล้ายกับบนจอยคอนโทรลเลอร์ยังไงยังงั้นเลยครับ ซึ่งตัว Gaming Shoulder Triggers นี้ก็มีการเว้าลงไปจากตัวกรอบเครื่องเล็กน้อย เพื่อให้แตะสัมผัสได้แบบสะดวกด้วยนะ

ส่วนด้านล่างตัวเครื่องก็จะมีพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB-C อยู่ตรงกลาง และไมโครโฟน, ช่องใส่ซิม กับลำโพงหลักของตัวเครื่อง ซึ่งตำแหน่งอาจจะแตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไปนิดหน่อย เพราะวางไว้ที่มุมซ้าย

ซึ่งถ้าเราถือใช้งานในแนวนอนก็จะมาอยู่ที่มุมล่างแทน ตรงนี้มีจุดสังเกตนิดหน่อยที่เราเจอมา คือเมื่อตำแหน่งถูกวางไว้มุมล่างเวลาใช้งานแนวนอน ก็เผลอเอามือไปบังบริเวณลำโพงเวลาเล่นเกมแบบเอาจริงเอาจังหน่อยได้อยู่ อาจจะต้องปรับตัวนิดหน่อยในการวางมือน่ะนะ

มีทั้งระบบสแกนลายนิ้วมือและสแกนใบหน้า
ด้านระบบความปลอดภัย nubia Neo 3 GT 5G นั้นได้เซ็นเซอรืสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอมาด้วย เป็นแบบ Optical ใช้งานได้ดีครับ แตะสแกนได้เร็วพอประมาณ อาจจะไม่ได้แตะปุ๊บติดเลย แต่แช่ไว้สักครู่ก็สแกนเข้าเครื่องได้อยู่ หรือถ้าไม่ถนัดต้องมาคอยแช่นิ้วไว้ ตัวเครื่องก็ยังมีระบบสแกนใบหน้ามาให้ใช้ร่วมกันด้วย ปลุกจอแล้วสแกนใบหน้า เลื่อนหน้าจอก็เป็นอีกทางเลือกเหมือนกันเนาะ

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ nubia Neo 3 GT 5G ก็ถือว่าทำได้เท่สมกับความเป็นเกมมิ่งครับ ทั้งฝาหลังที่เห็นแว้บแรกก็รู้ทันทีว่ารุ่นนี้ออกแบบมาพิเศษ สำหรับสายเกมเมอร์แน่นอน เท่ซะ! ทั้งลวดลายที่มีให้ ตัวไฟ RGB ไว้กระพริบตอนเล่นเกม หรือจะเป็นหน้าจอ OLED ขนาดใหญ่ 6.8″ เต็มตาดี มี Gaming Shoulder Triggers เพิ่มทางเลือกในการควบคุมให้จริงจังขึ้นอีก ลงตัวใช้ได้เลยล่ะครับดีไซน์ของ nubia Neo 3 GT 5G เนี่ย!

ชิปเซ็ต Unisoc T9100 5G ขุมพลังเกมมิ่งในงบไม่ถึง 9,000 บาท
มาต่อในเรื่องสเปค nubia Neo 3 GT 5G มาพร้อมชิป Unisoc T9100 5G ขนาด 6nm แบบ Octa-Core ความเร็วสูงสุด 2.7GHz รองรับ 5G ด้วยนะ ถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับมือถือที่มีงบไม่ถึง 9,000 บาทแบบนี้ครับ

นอกจากนี้ในเรื่องของความจุก็ให้มาเยอะเช่นกันกับ RAM 12GB พร้อมฟีเจอร์ Extended RAM สูงสุดอีก 12GB เท่ากับว่าขยายแล้วรวมกันสูงสุดถึง 24GB กันเลย ส่วนความจุในตัวเครื่องก็มีเยอะ 256GB แหนะ โหลดเกมได้อย่างจุใจกันไปเลยนะ

ผลทดสอบก็ไม่ธรรมดา
เพื่อให้เห็นภาพสเปคของ nubia Neo 3 GT 5G อีกสักหน่อย เราลองทดสอบผ่านแอป Benchmark อย่าง AnTuTu Benchmark v.10.4.6 ดูหน่อย คะแนนออกมาที่ 530976 เลยนะ ถือว่าไม่ธรรมดา อยู่ในระดับเดียวกับกลุ่ม Snapdragon 6 Series หรือ Dimensity 6000 Series เลยนะ!

ส่วนผลทดสอบฝั่ง Geekbench 6 ก็ได้คะแนนไปไม่น้อย Single-Core 874 คะแนน และ Multi-Core 2359 คะแนนครับ เป็นคะแนนที่สูงอยู่นะ สำหรับมือถือในกลุ่มราคาไม่ถึง 9,000 บาทแบบนี้

ซอฟต์แวร์น่าสนใจ ฟีเจอร์เกมมิ่งจัดเต็ม!
มาเข้าเรื่องซอฟต์แวร์กันบ้าง nubia Neo 3 GT 5G นั้นใช้ MyOS 15 บนพื้นฐาน Android 15 ก็ถือเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดตอนนี้แล้วแหละเนอะ ตัว UI ของเครื่องมีการปรับแต่งมาให้เป็นเกมมิ่งสุด ๆ ตั้งแต่ Wallpaper ที่เลือกมาให้, ไอคอนต่าง ๆ เหมือนปรับโฉมมาให้เข้ากับฝาหลังที่เกมมิ่งจ๋าอยู่แล้วได้อย่างไม่แปลกปลอม

นอกจากนี้ยังมีการปรับแต่งที่หลากหลาย ทั้งรูปแบบ Theme ที่มีติดเครื่องมาให้เลือก 6 แบบ ถ้าแบบค่าเริ่มต้นดูดุดันไป ก็ปรับเป็นแบบลดทอนกว่านั้นได้ หรือจะเลือกเป็นแบบพื้นฐานคลีน ๆ ก็ได้เช่นกัน, Wallpaper ที่มีให้เลือกใช้หลายประเภท แบบ Still หรือ Live, ปรับแต่งหน้าจอล็อกได้หลากหลาย ไปจนถึงเปลี่ยนเอฟเฟกต์ตอนสแกนลายนิ้วมือ ที่สำคัญคือเท่ ๆ ทั้งนั้นครับ

ควบคุมขั้นสุดด้วย Gaming Shoulder Triggers
อย่างที่บอกไปว่าตัวเครื่อง nubia Neo 3 GT 5G นั้นมาพร้อมกับ Gaming Shoulder Triggers ให้เราเลือกเพิ่มปุ่ม L R และปรับแต่งในเกมต่าง ๆ ได้ ซึ่งเราว่าเล่นเกมสะดวกขึ้นมาก โดยเฉพาะเกมแนว FPS หรือเกมยิงที่ต้องการความไวในการตอบสนอง จะตั้งให้ปุ่ม L เป็นตัวเล็ง และปุ่ม R เป็นตัวยิงเหมือนเล่นเกมคอนโซลก็ได้ ทำให้ลดการบังหน้าจอปรับการควบคุมให้ใช้งานง่าย ลดการบดบังสายตาขณะเล่นเกมเลยนะ

มี AI Game Space 3.0 ยกระดับการเล่นเกมด้วย AI อัจฉริยะ
สำหรับศูนย์รวมเกมของ nubia Neo 3 GT 5G จะมีชื่อว่า Game Space ช่วยรวมเอาเกมที่โหลดมาในเครื่องไว้ที่เดียว และเราสามารถปรับแต่งประสิทธิภาพตัวเครื่องและการตั้งค่าอื่น ๆ ของแต่ละเกมผ่านในแอปนี้ด้วยครับ นอกจากนี้เมื่อเราเข้าไปในเกม ก็จะสามารถเรียกหน้า AI Game Space 3.0 ออกมาได้ด้วย ตรงนี้จะเหมือนตัว Dashboard สำหรับการตั้งค่าเพิ่มเติมภายในเกม ทั้งรูปแบบประสิทธิภาพของตัวเครื่อง ตั้งค่า Shoulder Triggers, การล็อกความสว่างหน้าจอ, บันทึกหน้าจอ และอื่น ๆ อีกเพียบเลยด้วย

มีผู้ช่วยคนเก่ง Demi เติมเต็มทั้งความสนุกและฟังก์ชันใช้งาน
หรือจะเป็นสายผู้ช่วยอัจฉริยะ nubia Neo 3 GT 5G ก็มีผู้ช้วยเสมือนชื่อ Demi ที่จะเข้ามาเติมเต็มทั้งความสนุกและฟังก์ชันใช้งาน ประกอบด้วย
- Demi Care & Demi Awakening: ดูแลด้วยเสียง/ข้อความ พร้อมปลุกคุณทุกเช้า
- Demi Live: ไลฟ์สดผ่านตัวละคร Demi ได้ง่าย ๆ ทั้งบนมือถือและ PC
- M-Yell & M-Radio: จดจำสถานการณ์ในเกมแบบเรียลไทม์ คอยแจ้งเตือน ชื่นชมชัยชนะ และปลอบใจในยามพ่ายแพ้
- AI Behavioral Learning & AI Trigger: เรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้ และปรับแต่งเลย์เอาท์ปุ่มควบคุมให้อัตโนมัติ
- NeoTurbo AI Engine & AI Power Saving: ปรับฉากและประสิทธิภาพด้วย AI ช่วยประหยัดพลังงาน ยืดอายุแบตเตอรี่

เล่นเกมกันเลยดีกว่า
เอาล่ะ! ดูสเปค ผลทดสอบ และฟีเจอร์กันมามากแล้ว ถึงคราวมาลงสนามจริงกับการเล่นเกมกันเลยดีกว่า โดยเกมที่เราจะใช้ทดสอบ nubia Neo 3 GT 5G มีด้วยกัน 4 เกมคือ Asphalt 9, Call of Duty Mobile, ROV และ PUBG Mobile ครับ ผมทดสอบของเรากับ 4 เกมนี้ก็ออกมาดังนี้เลย

เล่น Asphalt 9 บน nubia Neo 3 GT 5G
สำหรับ Asphalt 9 บน nubia Neo 3GT 5G นั้นสามารถปรับกราฟิกได้หลากหลาย แต่ที่เราลองแล้วลงตัวสุดจะอยู่ที่ Default ร่วมกับเฟรมเรต 60fps ครับ ตัวเกมเล่นได้ในกราฟิกที่สวยกำลังดี ความลื่นไหลดีมาก พอทุกอย่างอยู่บนหน้าจอ OLED ขนาด 6.8″ ก็มอบประสบการณ์ที่ดีงามใช้ได้เลยล่ะครับ




เล่น Call of Duty บน nubia Neo 3 GT 5G
ต่อมากับเกมยิงอย่าง Call of Duty กันบ้าง การตั้งค่ากราฟิกและเฟรมเรตของ nubia Neo 3 GT 5G นั้นปรับได้สูงสุดที่ Medium + High ครับ ถือว่าเพียงพออยู่ในระดับ 30fps แบบสะใจ ภาพก็สวย และได้ทีเด็ดในเรื่องการควบคุมกับ Shoulder Triggers ทำให้การเล่นเกมแนวยิงนี้สมบูรณ์ขึ้นมาก เล็ง ยิง สะใจขึ้น ได้อารมณ์เหมือนเครื่องคอนโซลขึ้นไปอีกครับ




เล่น ROV บน nubia Neo 3GT 5G
ด้าน ROV ปรับตั้งค่าได้เยอะเลยครับ ทั้ง HD Display, Display Quality ได้เกือบสูงสุด, ส่วน FPS เปิด 60fps ได้ด้วย ทำให้เป็นการตั้งค่าเกือบสูงสุดของเกมนี้แล้วล่ะครับ โดยที่เราลองเล่นมาจริง ๆ ตัวเครื่อง nubia Neo 3 GT 5G ทำได้ดีมาก เฟรมเรตเท่าที่ดูจากตอนเล่นจะวิ่งนิ่ง ๆ 60fps ไม่มีจังหวะกระตุกจนตัวเลขลดลงเลยครับ สาย ROV ต้องถูกใจแน่ ๆ แบบนี้




เล่น PUBG บน nubia Neo 3 GT 5G
ปิดท้ายที่เกม PUBG ตัวเกมให้เราเลือกกราฟิกกับเฟรมเรตได้ 2 แบบคือ Smooth + Extreme หรือ HD + Ultra ซึ่งในการทดสอบนี้เราเลือกไปที่แบบแรก เพื่อให้ได้เฟรมเรตที่ลื่นที่สุดครับ ตัวเกมทำได้ดีเลยในระดับ 60fps ครับ ความต่อเนื่องเวลาเล่นดี เฟรมเรตนิ่ง และเช่นเดียวกับ Call of Duty พอเป็นเกมยิง เราก็สามารถตั้งค่า Shoulder Triggers ให้สั่งงานเป็นปุ่มยิงเพิ่มเติมได้อีก เล่นแล้วมันฟินกว่าใช้นิ้วโป้งแตะบนหน้าจอจริง ๆ นะแบบนี้




สรุปแล้วในเรื่องการเล่นเกม nubia Neo 3 GT 5G ก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมใน 4 เกมที่เราได้ทดสอบไป ประสิทธิภาพที่ดีสมราคา อย่างที่บอกไปว่ารุ่นนี้ตั้งงบไว้ไม่เกิน 9,000 บาท แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ปรับกราฟิกการตั้งค่าได้สูงสุด ๆ แต่เท่าที่เลือกปรับได้ก็ลื่นไหลเพียงพอแล้ว มีทางเลือการควบคุมต่าง ๆ เป็นเกมมิ่งอย่างแท้จริง รวม ๆ คือ Born To Win สมชื่อล่ะครับแบบนี้

แบตเตอรี่จุใจ 6000mAh พร้อมชาร์จไว 80W
ด้านแบตเตอรี่ nubia Neo 3 GT 5G ให้ความจุมาจัดเต็มถึง 6000mAh เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการเล่นเกมอย่างต่อเนื่องจริง ๆ แบตฯระดับนี้ใช้งานได้เพียงพอมาก ๆ ครับ ด้วยสเปคและขนาดหน้าจอต่าง ๆ ถือว่าใส่เต็มจริง ๆ และหากใช้งานแบบหมดหลอดจริง ๆ ก็ยังมีระบบชาร์จไวถึง 80W มาให้อีก ใช้งานร่วมกับที่ชาร์จที่แถมมาในกล่องได้เลย ชาร์จไวหายห่วง แป๊บเดียวกลับมาลุยกันต่อได้แล้วครับ!

กล้องหลัง 50MP ประมวลผลดีเลยนะ
มาปิดท้ายที่เรื่องกล้อง แม้ nubia Neo 3 GT 5G จะวางตัวมาเป็นสมาร์ทโฟนเกมมิ่ง ที่เน้นประสิทธิภาพและประสบการณ์การเล่นเกมเป็นหลัก แต่ในเรื่องกล้องก็ให้มาเพียงพอต่อการใช้งานเหมือนกัน กับกล้องหลังคู่ 50MP + 2MP ครับ

ซึ่งการประมวลผลภาพก็ถือว่าไม่ธรรมดาครับ ทั้งการจัดการแสง สี หรือ Dynamic Range ที่ทำได้ดีเกินคาด ตัวประมวลผลหลังถ่ายทำได้ยอดเยี่ยมเลย ตัวกล้องหลักก็ยืดหยุ่นให้เราได้ใช้งานหลายระยะ หลังถ่ายปรับภาพให้คมและสวยเพียงพอ ลูกเล่นในการถ่ายภาพก็เยอะทีเดียว จะโหมด Portrait โหมด Pro โหมดกลางคืนมีให้ครบครับ



















ส่วนกล้องหน้าของ nubia Neo 3 Gt 5G ก็ให้ความละเอียดมาที่ 16MP f/2.0 เซลฟี่สวยกำลังดี มุมกว้างนิดหน่อย มีการประมวลผลที่ดีอย่างที่บอกไป ถ่ายออกมาสวยใช้ได้เลยล่ะครับ



ด้านวิดีโอเหมือนจะไม่เน้น แต่ก็สามารถถ่ายวิดีโอกล้องหลังได้สูงสุด 4K/30fps อยู่นะ ส่วนกล้องหน้าได้แค่ 1080p/30fps ตามมาตรฐานครับผม

สรุปแล้ว “นี่คือสมาร์ทโฟนเกมมิ่งสเปคเยี่ยมดีไซน์เท่ เกิดมาเพื่อชนะ ในงบไม่ถึง 9,000 บาท”
สรุปแล้ว nubia Neo 3 GT 5G ก็เป็นสมาร์ทโฟนเกมมิ่งที่ครบเครื่อง “Born To Win” หรือ “เกิดมาเพื่อชนะ” ในงบไม่ถึง 9,000 บาท อย่างแท้จริง เพราะให้มาทั้งดีไซน์สุดเท่ มีลวดลายและไฟ RGB ที่ถูกใจสายเกมแน่นอน หน้าจอขนาดใหญ่ OLED 6.8″ 120Hz มี Gaming Shoulder Triggers เพิ่มทางเลือกในการควบคุมเกม และยังได้ซอฟต์แวร์ที่ปรับแต่งมาให้ลงตัวตั้งแต่แกะกล่อง สเปคภายในก็เพียงพออย่างชิป Unisoc T9100 ความจุ 12GB+256GB แบตเตอรี่เยอะ 6000mAh กับชาร์จไว 80W ทั้งหมดนี้พอมองว่ารวมอยู่ในราคาสุดคุ้มไม่ถึง 9,000 บาท ก็เรียกว่าน่าสนใจทีเดียวครับ ใครที่มีงบไม่มาก แต่อยากได้ความเกมมิ่งแบบจัดหนัก เราว่า nubia Neo 3 GT 5G รุ่นนี้ก็เหมาะเหม็งแล้วล่ะครับ!
