Featured
รีวิว OnePlus 10T 5G นี่แหละ “Flagship Killer” ที่แฟน ๆ รอคอย
รีวิว OnePlus 10T 5G สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่กลับมาทวงคืนบัลลังก์ Flagship Killer ได้อย่างสมภาคภูมิ รอบนี้เน้นไปที่ประสิทธิภาพที่เร็ว แรง ทรงพลัง ทั้งชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen 1 | หน้าจอ Fluid AMOLED Display 120Hz | ระบบชาร์จไว 150W SUPERVOOC แต่ราคาคุ้มค่ามากขึ้นเปิดตัวไม่ถึง 30,000 บาทเลยด้วยครับ!
และเท่าที่เราลองใช้งานมาอย่างจริงจังบอกเลยว่ารุ่นนี้คือการกลับมาของ Flagship Killer จาก OnePlus อย่างแท้จริง มีจุดที่ชอบเยอะมาก ๆ มีอะไรบ้างติดตามได้จากรีวิวฉบับเต็มของ OnePlus 10T 5G นี้เลยครับ!
สรุปสเปค OnePlus 10T 5G
- หน้าจอ : Fluid AMOLED ขนาด 6.7″ ความละเอียด FHD+
- Refresh rate : 120Hz
- CPU : Snapdragon 8+ Gen 1 (4nm)
- RAM : 8GB/16GB (+ 7GB RAM Expansion)
- ROM : 128GB/256GB
- แบตเตอรี่ : 4800mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 150W SUPERVOOC
- กล้องหน้า : 16MP
- กล้องหลัก : 3 ตัว
- กล้องหลัก 50MP
- กล้อง Ultra Wide 8MP
- กล้อง macro 2MP
- ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย OxygenOS 12
- สีสัน : Jade Green, Moonstone Black
ประสิทธิภาพที่ เร็ว แรง ทรงพลัง!
ขอเริ่มกันที่จุดเด่นอย่างเรื่องประสิทธิภาพก่อนเลยดีกว่า อย่างที่ทราบว่า OnePlus มักจะใช้คำว่า T ตามท้ายให้กับรุ่นอัปเกรดในช่วงปลายมาแต่ไหนแต่ไร ซึ่งคำว่า T นี้ก็แสดงถึงการอัปเกรดประสิทธิภาพแบบองค์รวมอยู่เสมอ แน่นอนว่าบน OnePlus 10T 5G ก็นำแนวคิดนี้ไปสู่อีกระดับโดยมีสโลแกนว่า ‘Evolve Beyond Speed’ เนื่องจากเน้นที่ความเร็วที่มากขึ้นและชาญฉลาดยิ่งขึ้น
โดยขุมพลังของรุ่นนี้อัปเกรดขึ้นจากรุ่น Pro ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปีมาเป็น Snapdragon 8+ Gen 1 รุ่นล่าสุดและทรงพลังที่สุดของ Qualcomm ในตอนนี้ ซึ่งชิปตัวนี้มาพร้อมกับ CPU Qualcomm Kryo ปรับปรุงให้รวดเร็วมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในด้าน GPU ก็ใช้ Adreno 730 ที่เพิ่ม Clock speeds ทำให้ CPU และ GPU มีความเร็วเพิ่มขึ้น 10% และยังใช้พลังงานน้อยลง 30% เมื่อเทียบกับ Snapdragon 8 Gen 1
นอกจาก CPU และ GPU ที่แรงขึ้นแล้ว สิ่งที่ Snapdragon 8+ Gen 1 ทำได้ดีขึ้นก็คือ AI รุ่นนี้ใช้ Qualcomm AI เจนเนอเรชั่น 7 ให้การปรับปรุงประสิทธิภาพ AI Engine ที่เร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 4 เท่า! ในขณะที่ให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นถึง 20% ต่อวัตต์
RAM สูงสุด 16GB พร้อมขยายได้อีก 7GB
ในเรื่องของ RAM OnePlus 10T 5G มาพร้อม RAM แบบ LPDDR5 สูงสุด 16GB เรียกว่าจัดเต็มขั้นสุด นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ RAM Expansion ที่ขยายเพิ่มเติมได้อีก 7GB รวมเป็น 23GB ได้เลย ซึ่งตรงนี้ OnePlus เคลมว่าเราสามารถเปิดแอปไว้เบื้องหลังได้มากถึง 35 แอป โดยที่ไม่มีแอปไหนดีดออกหรือโหลดใหม่เลยล่ะครับ ส่วนความจุภายในก็มีให้เลือกมากสุดเป็น 256GB แบบ UFS 3.1 เข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วแน่นอน!
ผลทดสอบระดับสูง แรงจริง!
เห็นว่าประสิทธิภาพสูงมากขนาดนี้ เพื่อให้ได้เห็นภาพกันจริง ๆ เราเลยทดสอบประสิทธิภาพผ่านแอป Benchmark ทั้ง AnTuTu Benchmark และ Geekbench 5 ให้ดูบอกเลยว่าคะแนนโหดสมใจสายตัวเลขจริง ๆ ครับ ฝั่ง AnTuTu ได้ไปสูงถึง 1022455 คะแนน ทะลุล้านสบาย ๆ เลย
ส่วน Geekbench 5 ก็ได้คะแนน Single-Core ไปที่ 1278 คะแนน และ Multi-Core ที่ 3842 คะแนน เรียกว่าเป็นคะแนนอันดับต้น ๆ ในกลุ่มสมาร์ทโฟนเรือธงแล้วล่ะครับ
ระบบระบายความร้อนใหม่ เย็นขึ้นได้ถึง 5ºC
นอกจากเรื่องประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นแล้ว การจัดการเครื่องความร้อนของ OnePlus 10T 5G ยังทำได้ดีขึ้นอีก ด้วยเทคโนโลยีระบายความร้อนแบบ Cryo-velocity VC ที่ทาง OnePlus ใช้เวลาในการพัฒนายาวถึง 18 เดือน เป็นระบบระบายความร้อนที่ใหญ่ที่สุดและล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมาโดยมี cooling area รวมกว่า 37,000 มม. ช่วยปรับลดอุณหภูมิเครื่องได้ดีมากขึ้นถึง 5º C หายห่วงเรื่องการเล่นเกมหนัก ๆ ได้เลยว่าจะร้อนจนเล่นต่อไม่ไหวหรือเกมกระตุก
เล่นเกมดี สัมผัสประสบการณ์ Fast & Smooth ที่แท้จริง!
พูดถึงเรื่องประสิทธิภาพมาทุกด้านแล้ว ถึงเวลาลงสนามจริงอย่างการเล่นเกมกันเลยดีกว่า เกมที่เราจะใช้ทดสอบ OnePlus 10T 5G ในรอบนี้มี 3 เกมหลัก ๆ คือ Asphalt 9, Apex Legends และ Genshin Impact ครับ ซึ่งในการจัดการเรื่องเกม OnePlus ก็มีแอป Games มาช่วยจัดการทั้งหน่วยประมวลผล, เครือข่าย รวมถึงการแจ้งเตือนให้พร้อมสำหรับการเล่นเกมที่สุดอีกด้วย
นอกจากนี้ซอฟต์แวร์ของ OxygenOS 12.1 ยังมาพร้อมกับ HyperBoost Gaming Engine ที่ออกแบบมาเพื่อให้การเล่นเกมราบรื่นขึ้นและตอบสนองไวมากขึ้นด้วย GPA Frame Stabilizer ช่วยลดความผันผวนของอัตราเฟรมเมื่อเล่นเกม เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่นและเสถียรยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน LSTouch ยังลดความหน่วงในการสัมผัสได้ถึง 10 ms ด้วยการเพิ่มอัตราการสนองการสัมผัสเป็น 1000 Hz พร้อมลดอัตราการดีเลย์ของสัญญาณทำให้เราเล่นเกมได้อย่างสนุกและลื่นไหลขั้นสุดเลยล่ะ
เล่น Asphalt 9 บน OnePlus 10T 5G
มามะ…มาเล่นเกมกันได้แล้ว เริ่มที่ Asphalt 9 ก่อนเลย เราสามารถเลือกปรับระดับกราฟิกได้ที่ High Quality พร้อมเปิด 60fps ได้ด้วย เท่ากับว่าเปิดกราฟิกได้ที่สูงสุดเท่าที่จะปรับได้ในตอนนี้แล้ว เท่าที่ลองเล่นก็เรียกว่าสบาย ๆ ครับกราฟิกสวยสะใจ แถมความลื่นไหลระดับ 60fps บนหน้าจอใหญ่ 6.7″ แบบนี้ยิ่งทำให้ถูกใจเข้าไปใหญ่เลย
เล่น Apex Legends บน OnePlus 10T 5G
ต่อมากับ Apex Legends เกมใหม่ที่กราฟิกจัดเต็มเหมาะกับสเปคเครื่องแรง ๆ อย่าง OnePlus 10T 5G เลย ตัวเกมให้เราเลือกกราฟิกได้สูงสุดถึง Extreme HD คู่กับเฟรมเรตแบบ Ultra (60fps) หรือจะเลือกปรับไปที่กราฟิกแบบ Original และเฟรมเรตเหลือ Normal (30fps) ก็ได้ ซึ่งในที่นี้เราเลือกแบบ Extreme HD คู่กับ Ultra เพื่อความลื่นไหลสุด ๆ เท่าที่เราลองเล่นก็บอกเลยว่าเล่นได้ดีจริง ๆ กราฟิกสวยอลังการมาก บวกกับความลื่นไหลระดับ 60fps ตลอดทั้งเกม ความไวในการสัมผัสของหน้าจอนั้นยอดเยี่ยม บวกกับมีลำโพง Stereo ที่คอยขยายขอบเขตเสียงให้เรารู้มิติของกระสุนหรือฝีเท้าได้อีก
เล่น Genshin Impact บน OnePlus 10T 5G
ปิดท้ายที่ Genshin Impact เกมกินสเปคที่สุดบนสมาร์ทโฟนตอนนี้ แต่บน OnePlus 10T 5G ก็สบายมาก ปรับกราฟิกได้ที่สูงสุดทั้งหมดบวกกับ 60fps อีก เท่าที่เราเล่นอย่างต่อเนื่องถือว่าทำเฟรมเรตได้ดีเลย แทบไม่เจอจังหวะกระตุกหรือเฟรมดรอปแบบรู้สึกได้แบบที่ชวนหัวร้อนเลย ตัวเกมเล่นได้อย่างลื่นไหลมาก ให้เราเก็บเลเวลได้อย่างต่อเนื่องไม่กังวลเรื่องความกระตุกของเกมอีกต่อไป
ความร้อนล่ะ ? เป็นอย่างไรบ้าง
3 เกมที่เราทดสอบไป OnePlus 10T 5G เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมจริง ด้วยชิปเซ็ตตัวแรงอย่าง Snapdragon 8+ Gen 1 แต่จุดที่เราประทับใจกว่าความลื่นไหลในการเล่นเกมก็คือเรื่อง “ความร้อน” ครับ อย่างที่บอกไปว่ารุ่นนี้มาพร้อมระบบระบายความร้อนใหม่ที่ใหญ่ที่สุดและล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ OnePlus มี cooling area รวมกว่า 37,000 มม. ซึ่งเท่าที่เราลองเล่นเกมแบบจริงจังจากเครื่องนี้ก็บอกเลยว่าอยู่ในระดับอุ่น ๆ เท่านั้นเอง ไม่เจอความร้อนสะสมจนร้อนมาถึงมือและเล่นต่อไม่ได้เลย
Glacier Mat Case เคสเสริมสำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ
แต่แค่ระบบระบายความร้อนในตัวเครื่องอย่างเดียวคงยังไม่พอสำหรับเกมเมอร์ OnePlus ยังมีอุปกรณ์เสริมเป็นเคสชื่อ Glacier Mat Case ที่เอาใจสายเกมด้วยเคสลวดลายพิเศษท่ีนอกจากดีไซน์จะเท่ไม่เหมือนใครแล้ว OnePlus ยังเคลมว่าเคสตัวนี้ยังมาพร้อมความสามารถในการจัดการความร้อนของตัวเครื่องในระหว่างการเล่นเกมได้อีก 2.3º C อีกด้วย
**เคสตัวนี้จะมีวางจำหน่ายแยกภายหลังงานเปิดตัว ไม่มีแถมมาในกล่อง**
สรุปแล้วในเรื่องประสิทธิภาพของ OnePlus 10T 5G ก็ต้องบอกเลยว่าเร็ว แรง ทรงพลังสมกับวางตัวเองเป็นสมาร์ทโฟนสำหรับการเล่นเกม และประสิทธิภาพสูงสุดจริง ๆ เพราะนอกจากชิปเซ็ตตัวท็อปอย่าง Snapdragon 8+ Gen 1 จะรองรับทุกเกมในตอนนี้และลื่นทุกเกมแล้ว ในเรื่องการจัดการความร้อน OnePlus 10T 5G ยังปรับปรุงมาได้อย่างลงตัว ไม่เจอความร้อนสะสมจนเครื่องกระตุกหรือถือเล่นได้แบบไม่สบายมือเลย ตลอดเวลาที่เราทดสอบการเล่นเกมราบรื่นดีมาก ๆ แถมรุ่นนี้ยังมีเคสเสริมที่เข้ามาเพิ่มทั้งความเท่และจัดการเรื่องความร้อนได้ดีขึ้นไปอีก เรียกว่าทำการบ้านมาดีจริง ๆ รอบนี้
ดีไซน์สวยพรีเมี่ยม ละมุนมือ
คุยเรื่องประสิทธิภาพไปเต็มที่แล้ว กลับมาดูเรื่องดีไซน์กันบ้าง เพราะรุ่นนี้ก็มาพร้อมดีไซน์ที่น่าสนใจไม่น้อยเลย OnePlus 10T 5G มาพร้อมดีไซน์ที่พรีเมี่ยม หรูหราระดับเรือธง มองแว็บแรกก็รู้เลยว่ารุ่นนี้ไม่ธรรมดา พอยิ่งสัมผัสยิ่งถูกใจครับ
เครื่องที่วางจำหน่ายในบ้านเราจะมีให้เลือก 2 สีที่มีพื้นผิวของฝาหลังแตกต่างกันไปเลยคือ…
- สีดำ Moonstone Black ผิวด้านพร้อมพื้นผิวที่ได้แรงบันดาลใจจากหินบะซอลต์ เพื่อให้รู้สึกถึงพลังและความมั่นคง เท่ แปลกใหม่ โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร
- สีเขียว Jade Green ผิวมันวาวลุคเซรามิกได้แรงบันดาลใจจากหยก สัมผัสลื่นมือ มาในโทนสีเขียวอ่อนอมเทา อ่อนโยนและนุ่มนวล การผสมผสานของสีที่ไม่เหมือนใคร ดูหรูหราทันสมัย
ซึ่งแน่นอนว่าสีที่เราได้มารีวิวคือสีเขียว Jade Green เวลากระทบกับแสงจะเหมือนเซรามิกหรูหรา และเมื่อสัมผัสก็จะได้ความละมุนและนุ่มนวลมาก ๆ
โมดูลกล้องที่ไล่ระดับจากฝาหลังได้อย่างแนบเนียน
อีกจุดที่เราชอบมาก ๆ ก็คือโมดูลกล้องที่มีความนูนขึ้นมาจากตัวเครื่องอย่างกลมกล่อม เพราะเป็นการไล่ระดับขึ้นมาจากกระจกฝาหลังชิ้นเดียวกัน เพิ่มมิติด้วยการตัดสีดำที่เข้ากันอย่างมากและยังเสริมให้ตัวกล้องดูทรงพลังขึ้นอีกด้วย
กรอบเครื่องหรูหรากับหนึ่งปุ่มที่หายไป…
กรอบเครื่องของ OnePlus 10T 5G เป็นแบบมันวาวให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมเนียนไปกับฝาหลังได้อย่างดี ให้ความรู้สึกเวลาจับถือได้เป็นอย่างดี ตำแหน่งปุ่มกดก็อยู่ที่มุมมาตรฐานของ OnePlus มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอยู่ฝั่งซ้ายมือ และปุ่ม Power ที่ฝั่งขวา
แต่…รอบนี้มีหนึ่งปุ่มที่หายไปจากตัวเครื่องแล้วคือ Alert Slider ที่ใช้ปรับโปรไฟล์เสียงของตัวเครื่อง (ปิดเสียง, สั่น, เปิดเสียง) ซึ่งปุ่มนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ของ OnePlus มาอย่างยาวนานตั้งแต่ OnePlus One รุ่นแรก แต่ถึงแม้จะไม่มีปุ่มนี้ก็ไม่ได้มีผลต่อการใช้งานแต่อย่างใด
หน้าจอ Fluid AMOLED 6.7″ เต็มตาระดับ 1 พันล้านสี
พลิกกลับมาดูที่หน้าจอกันหน่อย OnePlus 10T 5G มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Flat ที่หลายคนชอบ และคราวนี้วางตำแหน่งกล้องไว้ตรงกลางแล้วด้วย ให้ความสมมาตรมากขึ้นเวลาใช้งานต่าง ๆ รวมถึงจะเซลฟี่ก็ให้ตำแหน่งในการมองที่ดีขึ้นด้วย
ส่วนการแสดงผลก็ไม่ต้องห่วงเลยมาพร้อมความละเอียดระดับ FHD+ พร้อมการแสดงสีแบบ 10Bit หรือ 1 พันล้านสี ความสวยสดไม่ต้องพูดเยอะครับ อยู่ระดับท็อปของวงการ เอามาดูหนัง เล่นเกมนี่ฟินมาก แถมยังได้ขอบจอที่บางเฉียบระดับนี้อีกเวลาเปิดคอนเทนต์แบบเต็มจอจึงได้อารมณ์ที่เต็มจอจริง ๆ ครับ
ลื่นไหลระดับ 120Hz สมกับความ Fast & Smooth
ในเรื่องการตอบสนองหน้าจอ OnePlus 10T 5G มาพร้อม Refresh rate สูงถึง 120Hz มอบประสบการณ์การใช้งานแบบ Fast & Smooth ได้ยอดเยี่ยมจริง ๆ เพราะไม่ใช่แค่การเล่นเกมที่ดีขึ้น การใช้งานทั่วไปไม่ว่าจะเลื่อนหน้าจอ ปัดเข้า-ออกแอป พอได้จอ 120Hz แล้วสัมผัสได้ตั้งแต่ตอนนั้นเลย
บนหน้าจอของ OnePlus 10T 5G ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วยและความเร็วที่ทำได้ก็คือเร็วมาก ๆ เรียกว่าแค่แตะก็สแกนติดแล้ว สมกับ Fast & Smooth จริง ๆ มาถึงระบบรักษาความปลอดภัยกันเลย นอกจากนี้ระบบสแกนใบหน้าของรุ่นนี้ก็มาให้ใช้ด้วย ความเร็วก็ยอดเยี่ยมเหมือนกันเลย
ดีไซน์ด้านบน-ล่างแบบตัดเหลี่ยม
ดีไซน์ด้านบนและล่างของ OnePlus 10T 5G จะใช้เป็นแบบตัดเหลี่ยมไปเลย เพิ่มลูกเล่นให้ตัวเครื่องไม่นิ่งจนเกินไป ด้านบนตัวเครื่องจะมีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนและ IR Infrared สำหรับใช้งานตัวเครื่องเป็นรีโมทควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าครับ
ส่วนด้านล่างจะมีพอร์ตการเชื่อมต่อหลัก USB-C , ไมโครโฟนและลำโพงประกบคู่กันเลย ซึ่งลำโพงหลักตัวนี้สามารถใช้งานคู่กับลำโพงสนทนาที่เหนือหน้าจอได้ด้วยเพื่อใช้งานเป็นลำโพงคู่ Stereo นั่นเองครับ
ลำโพงคู่ Stereo เสียงทรงพลัง
ซึ่ง Dual Speaker ลำโพงสเตอริโอคู่ของ OnePlus 10T 5G นี้ก็มอบมิติของเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งการฟังเพลง การดูหนัง หรือการเล่นเกมที่สมบูรณ์เพื่อประสบการณ์เสียงที่สมจริงยิ่งขึ้น เพราะในการเล่นเกมระบบเสียงที่ดีจะช่วยให้เรารับรู้เสียงศัตรูหรือเสียงปืนดังมาจากทางไหนได้ดีกว่าลำโพงแบบตัวเดียว
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ OnePlus 10T 5G ก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมทั้งเรื่องความหรูหราของงานประกอบ สีสันที่โดดเด่นและแปลกใหม่อย่าง Jade Green ละมุนละไมเมื่อกระทบกับแสงและสัมผัสจริง โมดูลกล้องที่ไล่ระดับได้อย่างแนบเนียน หน้าจอแบบ Flat ที่ปรับตำแหน่งกล้องมาอยู่ตรงกลางลงตัวมากขึ้น และถ้ายังมีปุ่ม Alert Slider ก็จะคงเอกลักษณ์ของ OnePlus ได้ดีเลย
ซอฟต์แวร์สุดลื่นไหล OxygenOS 12.1
มาต่อในเรื่องซอฟต์แวร์กันสักหน่อย OnePlus 10T 5G มาพร้อม OxygenOS 12.1 ที่ครอบทับอยู่บน Android 12 ที่มีหน้าตา UI เป็นมิตรมากขึ้นไอคอนต่าง ๆ มาในโทน 3D และสีสันสดใส อย่างที่ทราบว่า OxygenOS กับ ColorOS นั้นหันมาพัฒนาซอฟต์แวร์ร่วมกันแล้ว UI บางส่วนของรุ่นนี้ก็จะมีความเป็น OPPO อยู่ไม่น้อยเลย
แต่บางหน้าก็แตกต่างกันอยู่อย่างเช่นหน้ารวมแอปที่บน OxygenOS 12.1 จะตั้งมาเป็นค่าเริ่มต้นเลย ในหน้าจอหลักเราสามารถเลื่อนหน้าจอขึ้นเพื่อดูหน้ารวมแอปหรือ App Drawer ได้เลย
หรือหน้า Shelf ที่รวมเอาทางลัดในการเข้าแอปหรือ Widget สวย ๆ เราก็สามารถลากนิ้วบริเวณมุมขวาบนของหน้าจอลงมาได้ เราว่าออกแบบ UI มาได้สวยไม่น้อยเลย
ในเรื่องการปรับแต่ง OxygenOS 12.1 ก็สามารถปรับ Wallpapers, Always-On Display, ไอคอน, แถบ Quick Settings, โทนสี, ฟอนต์, หรืออนิเมชั่นการสแกนลายนิ้วมือได้ด้วย ตรงนี้เลือกปรับได้เยอะเลย
ส่วนความลื่นไหลก็คงไม่ต้องห่วงอยู่แล้ว OxygenOS นี่ขึ้นชื่อในเรื่องความลื่นไหลที่เป็นอันดับต้น ๆ ของ Android เลยก็ว่าได้ ยิ่งพอใช้บนหน้าจอ 120Hz และสเปคระดับสูงสุดแบบนี้ก็ทำให้ OnePlus 10T 5G นั้นรองรับการอัปเดต Android ไปได้อีกหลายรุ่น อย่าง OxygenOS 13 ที่จะปล่อยอัปเดตเร็ว ๆ นี้ก็ได้แน่นอน!
กล้อง Triple AI Camera 50MP
และก็มาถึงเรื่องกล้อง เอาจริง ๆ รุ่นนี้ไม่ได้เน้นเท่ากับรุ่น Pro อย่างที่เห็นว่าไม่มีโลโก้ Hasselblad เพื่อเสริมความจัดเต็มแล้ว แต่สเปคกล้องที่ให้มาก็ไม่ธรรมดาครับ ให้กล้องหลังมา 3 ตัวประกอบด้วย
- กล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX766 พร้อม OIS
- กล้อง Ultra Wide 8MP มุมกว้าง 119º
- กล้อง Macro 2MP เข้าใกล้วัตถุได้ 4 ซม.
จุดแตกต่างเมื่อเทียบกับรุ่น Pro เดิมก็คือกล้อง Ultra Wide ความละเอียดลดลงเหลือ 8MP มุมกว้าง 119º (รุ่น Pro ได้ 50MP มุมกว้างสุด 150º) และกล้อง Tele 3.3X ที่หายไปเหลือเป็นกล้อง Macro แทน ก็อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้ไม่ได้เน้นเรื่องกล้องสำคัญที่สุดอยู่แล้ว แต่จุดที่ยังเหนือชั้นมาก ๆ ก็คือเซ็นเซอร์กล้องหลัก 50MP Sony IMX766 พร้อม OIS และซอฟต์แวร์ที่มี AI คอยจัดการได้เป็นอย่างดีนี่แหละครับ
กล้องหลัก 50MP พร้อม AI ที่เก่งกาจ ภาพถ่ายเหนือชั้น
ซึ่งเท่าที่เราลองใช้งานก็บอกเลยว่ากล้องหลัก 50MP ตัวนี้ยอดเยี่ยมมาก ทั้งในเรื่องของความละเอียดที่ให้เราได้ภาพที่คมชัด ขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ที่ช่วยให้ละลายฉากหลังได้เนียนเป็นธรรมชาติ โทนสีของกล้องที่สวยและถูกใจเรามาก ๆ Dynamic Range ดี HDR ทำได้กว้าง ตรงนี้เป็นผลพวงมาจาก AI ที่เก่งกาจคอยปรับภาพถ่ายของเราให้สวยแบบจบหลังกล้องได้ทันที ไม่ต้องไปต่อที่แอปไหน ซึ่งภาพถ่ายตัวอย่างทั้งหมดที่จะได้เห็นนี้ไม่ผ่านการปรับแต่งเพิ่มเติมเลยล่ะ
Ultra Wide มุมกว้าง 8MP
กล้อง Ultra Wide ของ OnePlus 10T 5G ความละเอียด 8MP อาจจะดูน้อยไปสักหน่อยสำหรับรุ่นเรือธง แต่เท่าที่ลองใช้งานจริงก็ถือว่าทำได้ดีครับ เก็บมุมได้กว้างเลย แต่รายละเอียดถ้าเทียบกับกล้องหลักก็จะเห็นความต่างที่ชัดเจนทั้งความคมชัดและโทนสีที่ Ultra Wide จะอมเหลืองกว่านิดหน่อย แต่ถ้าไม่ได้เน้นการซูมดูรายละเอียดแบบเยอะ ๆ เราว่าก็ยังเป็นกล้องที่เพียงพอต่อการใช้งานอยู่ครับ
กล้องหลัก 50MP กล้อง Ultra Wide 8MP กล้องหลัก 50MP กล้อง Ultra Wide 8MP
กล้อง Macro 2MP เข้าใกล้ได้ 4 ซม.
และกล้องตัวสุดท้ายกับ Macro ที่มาแทนที่กล้องซูมเดิม ถ้าสายที่ชอบถ่ายวัตถุระยะใกล้ ๆ ก็ถือว่าพอจะใช้งานได้ดี แต่ต้องมีแสงเพียงพอสักนิด
Portrait ถ่ายคนดีจริง มีให้เลือก 2 ระยะ
ส่วนการถ่ายคน OnePlus 10T 5G ก็มีโหมด Portrait มาให้ใช้งาน ซึ่งความดีงามก็คือเราสามารถเลือกระยะของภาพได้ 2 ระยะคือ 1X หรือ 2X อยากถ่ายแบบเต็มตัวกว้าง ๆ หรือครอปครึ่งตัวสวย ๆ ก็เลือกได้เลยทั้ง 2 ระยะใช้กล้องหลัก 50MP ในการเก็บภาพทั้งหมด คุณภาพจึงยอดเยี่ยม แถมยังมีฟิลเตอร์มาให้เลือกปรับใช้มากถึง 8 แบบช่วยให้เปลี่ยนอารมณ์ของภาพได้จากตรงนี้เลย ถ่ายเสร็จก็พร้อมแชร์ทันที ซึ่งภาพถ่าย Portrait ที่ได้จากรุ่นนี้ต้องบอกว่าสุดยอดมาก ทั้งการตัดขอบที่เนียนตา การปรับแต่งสีที่สวย HDR ที่เข้ามาใช้งานได้ด้วย และรอบนี้รู้สึกได้เลยว่าไม่มีเอฟเฟกต์ใบหน้าออร่าแบบรุ่นก่อน ๆ แล้ว ทำให้มีความเป็นธรรชาติขึ้นเยอะ
กลางคืนสวยด้วย Nightscape
ในการถ่ายภาพกลางคืน OnePlus 10T 5G ก็มาพร้อมโหมด Nightscape สุดเก่งเหมือนเดิม ในโหมดนี้ตัวกล้องจะใช้การเก็บภาพในหลาย ๆ สภาพแสงและนำมาประมวลผลเพิ่มเติมเพื่อให้เราได้ภาพกลางคืนที่สีสวยและคมชัดขึ้น แถมยังมีฟิลเตอร์ในเลือกใช้แต่งสีเพิ่มเติมอีกด้วย ช่วยให้ภาพกลางคืนสวยและแปลกตาขึ้นไปอีกครับ
กล้องหน้า 16MP เซลฟี่ใช้ได้นะ
ส่วนกล้องหน้าอาจจะไม่ใช่จุดที่เน้นมากบนรุ่นนี้ แต่ก็ให้ความละเอียดมาที่ 16MP พร้อมความสามารถในการเซลฟี่ครบครัน ตั้งแต่ Selfie HDR, Night Selfie, Portrait หรือ Portrait Retouching ที่ปรับใบหน้าให้สวยเนียนก็มีเช่นกัน และนี่คือภาพเซลฟี่ที่ถ่ายจาก OnePlus 10T 5G ครับ
วิดีโอสูงสุด 8K
ปิดท้ายเรื่องกล้องที่วิดีโอ OnePlus 10T 5G มาพร้อมความสามารถในการถ่ายวิดีโอสูงสุดที่ 4K/60fps ในกล้องหลัง และ 1080p/30fps ในกล้องหน้า ในวิดีโอยังได้ระบบกันสั่น OIS และมีฟีเจอร์ AI Highlight Video ที่คอยจัดการในเรื่องแสงและที่แสงน้อยเข้ามาใช้งานด้วย แต่จะถูกจำกัดอยู่ที่ความละเอียด 1080p/30fps เท่านั้นครับ
สรุปแล้วในเรื่องของกล้องแม้ OnePlus จะบอกว่าไม่ได้เน้นเท่าไหร่ แต่เท่าที่ลองใช้งานแล้วถือว่ารุ่นนี้มีกล้องที่น่าประทับใจไม่น้อยเลยล่ะครับ โดยเฉพาะไฟล์ภาพจากกล้องหลักที่ทำงานคู่กับ AI ได้อย่างชาญฉลาด ทำให้เราได้ภาพที่สวยพร้อมใช้งานได้ทันที หรือจะเป็นโหมด Portrait ที่เลือกระยะได้มากกว่าแค่ 1X แถมมีฟิลเตอร์ให้ใช้หลากหลาย ถ่ายสวยและจบหลังกล้องได้เลย โหมดกลางคืน Nightscape ที่ทำงานรวดเร็ว และถ้าได้กล้อง Ultra Wide ที่ความละเอียดสูงขึ้นก็จะดีมากๆ
แบตเตอรี่ 4800mAh ใช้งานได้ยอดเยี่ยม
OnePlus 10T 5G ให้แบตเตอรี่มา 4800mAh ถือว่าเยอะเพียงพอต่อสเปคที่ได้มาแล้วล่ะครับ เท่าที่เราลองใช้งานจริงก็ถือว่าอึดใช้ได้เลย ด้วยสเปคที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ก็คงอยากจะเล่นเกมหรือใช้งานตลอดอยู่แล้ว ซึ่งรุ่นนี้ก็ตอบโจทย์เป็นอย่างดีเลย เราแทบไม่ต้องกังวลว่าแบตฯจะหมดเอาง่าย ๆ ใช้งานได้อย่างเต็มที่ก็ผ่านตลอดวันได้สบายครับ
ชาร์จไว 150W SUPERVOOC มาตรฐานใหม่ของความเร็ว
ส่วนเรื่องชาร์จ OnePlus 10T 5G มาพร้อมระบบชาร์จไว 150W SUPERVOOC* เทคโนโลยีการชาร์จที่เร็วที่สุดที่เคยมีมาของ OnePlus และแน่นอนยังคงมาพร้อมความปลอดภัยเหมือนเดิม หมดกังวลเรื่องแบตเตอรี่เหลือน้อย เพราะ OnePlus เคลมว่าชาร์จแค่ 3 นาที ก็ได้แบตฯขึ้นมาประมาณ 30% แล้วหรือ 3 นาทีเราสามารถดู YouTube ได้ 4 ชม.หรือจะเล่นเกมก็ได้ 1 ชม.เลยทีเดียว
*อะแดปเตอร์ที่แถมมาให้ในกล่องจะรองรับได้สูงสุดถึง 160W SUPERVOOC แต่ตัวเครื่องรองรับสูงสุดที่ 150W SUPERVOOC ครับ
หรือถ้าชาร์จจาก 0 – 100% ก็จะใช้เวลาเพียง 19 นาทีเท่านั้น เรียกว่าเร็วแบบหายห่วงเลย หมดปัญหาต้องมาคอยนาน ๆ เวลาแบตฯใกล้หมดอีกต่อไป ซึ่งความเร็วระดับนี้หากนึกถึงสถานการณ์จริงแบตฯใกล้จะหมดเต็มที แค่เราแวะร้านกาแฟเสียบชาร์จสักหน่อยแล้วไปสั่งเครื่องดื่มสักแก้ว ระหว่างรอทำจนถึงดื่มเครื่องดื่มจนหมดก็คงมีเวลาให้เครื่องชาร์จแบตฯขึ้นมามากพอที่จะใช้ได้ต่อทั้งวันแล้วล่ะครับ หรืออีกสถานการณ์หากลืมชาร์จตอนกลางคืนแล้วตื่นมาแบตฯหมดเกลี้ยงไปเลย เราก็แค่เสียบชาร์จตอนที่ตื่นแล้วไปอาบน้ำแต่งตัวภายในเวลานั้นเราก็จะมีแบตฯที่มากพอให้ใช้งานตลอดทั้งวันแน่นอน เยี่ยมไปเลยใช่ไหมล่ะครับการชาร์จเร็วระดับนี้เนี่ย!
แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะระบบชาร์จไว 150W SUPERVOOC ของ OnePlus 10T 5G ยังมาพร้อมกับอัลกอริธึม AI ที่ช่วยให้ OnePlus ชาร์จได้ดีที่สุดในหลายสถานการณ์ไม่ว่าจะเป็น
- Rapid Charge – ชาร์จไวแบบเต็มประสิทธิภาพ สำหรับการชาร์จตอนเช้าก่อนออกไปใช้งานทั้งวัน
- Game mode – ชาร์จไวขณะที่เล่นเกมไปด้วย ระบบจะตรวจจับความร้อนและชาร์จให้อย่างเหมาะสม
- Entertainment mode – ชาร์จไวขณะหน้าจอเปิดอยู่
- Cold mode – ชาร์จไวแม้อยู่ในสถานที่เย็นจัดได้ต่ำสุดถึง -20º C โดยระบบจะใช้ความร้อนของ CPU เข้าช่วยด้วย
และเห็นชาร์จไวระดับนี้ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความทนทานของแบตเตอรี่เลยครับ เพราะ OnePlus 10T 5G มาพร้อมฟีเจอร์ Battle Health Engine ที่ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้นานกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปถึง 2 เท่า จากปกติสมาร์ทโฟนทั่วไปจะเริ่มแบตฯเสื่อมเมื่อผ่านการชาร์จไปกว่า 800 รอบ แต่บน OnePlus 10T 5G สามารถยืดไปได้เป็น 1,600 รอบ แบตเตอรี่ถึงจะเริ่มเสื่อมนั่นเอง
ราคาและโปรโมชั่น
OnePlus 10T 5G เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว มีให้เลือก 2 สี 2 ความจุมีราคาดังนี้ครับ
- OnePlus 10T 5G สีดำ Moonstone Black ความจุ 8GB + 128GB ราคา 24,990.-
- OnePlus 10T 5G สีเขียว Jade Green ความจุ 16GB + 256GB ราคา 27,990.-
โดยจะเริ่มเปิด Pre-order วันที่ 2 – 8 กันยายนนี้ผ่าน 2 ช่องทางคือ AIS Online Store และ Shopee (OnePlus Official Store)
รับของสมนาคุณมูลค่ารวม 8,390 บาท (OnePlus 10T 5G Glacier Mat Case Grey EU มูลค่า 1,390 บาท + OnePlus 10T 5G E-VIP Card มูลค่า 7,000 บาท)
โดย OnePlus 10T 5G จะเริ่มวางจำหน่าย First-sale รอบพิเศษวันที่ 9 กันยายนนี้ ลูกค้า AIS | Shopee ที่ทำการ Pre-order ผ่าน AIS Online Store | Shopee สามารถนำใบเสร็จ | หมายเลขคำสั่งซื้อ ไปแลกของขวัญที่งาน OnePlus 10T 5G Pop-up Event ได้ ในวันที่ 10 กันยายน 2565 ครับผม
สรุปแล้ว “นี่คือ Flagship Killer ตัวจริงที่แฟน ๆ OnePlus รอคอยแน่นอน”
สรุปแล้ว OnePlus 10T 5G ก็คือ Flagship Killer ที่กลับมาทวงบัลลังก์ได้อย่างสมภาคภูมิ เพราะสเปคที่อัดแน่นมาในทุกด้านตั้งแต่ชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen 1 ที่เร็วแรงในทุกการทำงาน, หน้าจอ Fluid AMOLED 6.7″ Refresh rate 120Hz ที่ลื่นไหลในทุกการสัมผัส, มี RAM สูงสุด 16GB ใช้งานได้เหลือ ๆ จะเปิดแอปเบื้องหลังไว้ 30 กว่าแอปก็ไม่เด้งหลุด, ระบบระบายความร้อนใหม่ 3D Cooling system 2.0 ขนาดใหญ่ช่วยลดความร้อนสะสมในการใช้งานหนัก ๆ ได้เป็นอย่างดี, ระบบชาร์จไว 150W SUPERVOOC ที่ชาร์จแค่ 19 นาทีก็เต็ม ทั้งหมดที่ว่ามานี้คือจุดเด่นที่แฟน ๆ OnePlus ต้องการและมาในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น ซึ่งรุ่นนี้ก็เริ่มต้นที่ 24,990 บาท และท็อปสุดที่ 27,990 บาทเท่านั้น ไม่ถึง 30,000 บาทเลย ในเรตราคานี้หาได้ยากที่จะได้สเปคจัดเต็มขนาดนี้แน่นอนครับ ครบเครื่องมาซะขนาดสายเกมที่ต้องการสเปคโหด ๆ พร้อมประสบการณ์ระดับ Fast & Smooth ในราคาคุ้มค่าก็ไม่ควรพลาดแล้วจริง ๆ ครับ!
จุดเด่น
- ชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen 1 ที่เร็ว แรง และจัดการพลังงานได้ดีเยี่ยม
- หน้าจอ Fluid AMOLED ลื่นไหล 120Hz
- RAM สูงสุด 16GB ใช้งานได้เหลือ ๆ จะเปิดเป็น 10 แอปก็ไม่เด้งหลุด
- ระบบระบายความร้อน 3D Cooling system 2.0 ช่วยให้เครื่องเย็นขึ้น ทำงานราบรื่น
- แบตเตอรี่ 4800mAh ใช้งานได้เป็นอย่างดี
- รองรับชาร์จไว 150W SUPERVOOC แค่ 19 นาทีก็เต็ม 100% แล้ว
- กล้องหลัก 50MP ที่ยอดเยี่ยมพร้อมซอฟต์แวร์ที่ชาญฉลาด
จุดสังเกต
- ไม่มีปุ่ม Alert Slider แล้ว
- กล้องเสริมอีก 2 ตัว (Ultra Wide + Macro) อาจไม่ได้โดดเด่นนัก