Featured
รีวิว OnePlus 8 Pro เรือธงรุ่นใหม่พลังแรง หน้าจอ QHD+ 120Hz, กล้อง 4 เลนส์ และรองรับชาร์จไร้สายรุ่นแรกของแบรนด์
รุ่นพี่ใหญ่ของ OnePlus 8 Series อย่าง OnePlus 8 Pro มาแล้วครับ โดยชูโรงด้วยหน้าจอแสดงผลคมชัดขั้นสูง, Refresh Rate 120Hz มี 5G พร้อมด้วยกล้อง 4 เลนส์ และการรองรับ 30W Wireless Charging เป็นครั้งแรกของแบรนด์
สรุปสเปค OnePlus 8 Pro
- ขนาดตัวเครื่อง : 165.3 × 74.35 × 8.5 มม.
- น้ำหนัก : 199 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Fluid Display ชนิด AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3168 x 1440 พิกเซล) 513 ppi, มี Refresh rate 120Hz, อัตราส่วน 19.8:9 และรองรับ HDR10+
- หน่วยประมวลผล : Snapdragon 865 Octa Core
- โมเด็ม 5G : Snapdragon X55
- GPU : Adreno 650
- RAM : 12GB LPDDR5
- ROM : 256GB (UFS 3.0)
- กล้องถ่ายรูปหลัง 4 เลนส์ แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ IMX689 รูรับแสง f/1.78 และรองรับระบบกันสั่นไหว OIS
- เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 120 องศา รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.44 และรองรับ Hybrid Zoom 3x
- เลนส์ Color Filter ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย OxygenOS 10
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax, Bluetooth 5.1, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 4510mAh รองรับ Warp Charge 30T และ 30W Wireless Charging
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
ตามสไตล์ของ OnePlus ครับ ที่กล่องจะมีสีแดงเข้ม โดยมีเลข “8” อยู่ด้านบนชัดเจน และด้านขวาระบุ “OnePlus 8 Pro”
เมื่อเปิดออกมาจะเจอกับตัวเครื่อง OnePlus 8 Pro ทันที โดยในกล่องที่วางเครื่องจะมีคู่มือการใช้งานเบื้องต้น, ใบรับประกันสินค้า, สติ๊กเกอร์โลโก้ OnePlus, จดหมายจากซีอีโอ และอุปกรณ์เปิดถาดซิม ขณะที่ชั้นล่างสุดจะเป็นเคสใส, สาย USB Type-C และอะแดปเตอร์ Warp Charge 30T
ดีไซน์ของ OnePlus 8 Pro จะคล้ายกับ OnePlus 8 อย่างมากครับ ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องที่มีความโค้งมน เพื่อให้จับถือได้อย่างสะดวกมากขึ้นเวลาวใช้งานนานๆ ที่สำคัญคือตัวเครื่อง ก็ค่อนข้างบางเมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอที่ 8.5 มม. เท่านั้นครับ
โดยสีที่เราได้มาเป็นสีเขียว Glacial Green ที่ตัวกระจกมีความด้านทำให้ดูสวยงามมากขึ้น ไม่มีการสะท้อนใบหน้า แถมติดรอยนิ้วมือได้ยากมากๆ และเมื่อโดนแสงในมุมต่างๆ แสงสีเขียวก็จะเล่นเฉดเขียวอ่อนปนเขียวเข้ม โดยอีกสีที่วางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นสีฟ้า Ultramarine Blue ครับ
การออกแบบของ OnePlus 8 Pro ช่วยให้ป้องกันน้ำและฝุ่นได้ในมาตรฐาน IP68 ครับ ช่วงฝนตกก็ใช้งานต่อได้ ไม่ต้องกลัว
OnePlus 8 Pro ถือเป็นหน้าจอแสดงผลที่มีสีสันที่สวยที่สุด ณ ตอนนี้จากการให้คะแนนของ DisplayMate ครับ โดยมีขนาดอยู่ที่ 6.78 นิ้ว ความละเอียด QHD+ หรือ 2K+ (3168 x 1440 พิกเซล) มี 513 ppi และรองรับทั้งการแสดงผล HDR10+ อีกด้วย
นอกจากนี้ หน้าจอของรุ่นนี้ยังรองรับ Refresh Rate 120Hz ทำให้การเลื่อนหรือสัมผัสระหว่างใช้งานและเล่นเกมทำให้ดูลื่นไหลมากๆ ไม่มีอาการเบลอของตัวอักษร ที่สำคัญยังใช้งาน 120Hz ได้แม้ว่าจะเปิดความละเอียดสูงสุดที่ QHD+
รอบเครื่องของ OnePlus 8 Pro เริ่มด้วยเหนือหน้าจอแสดงผลกันครับ จะมีกล้องหน้า Punch Hole ที่มุมซ้ายบน และมีลำโพงตัวที่ 2 ที่รองรับการเล่นเสียงแบบสเตอริโอ Dolby ATMOS ด้วย
ฝั่งซ้ายตัวเครื่องจะมีปุ่มสำหรับเพิ่มและลดเสียง
ทางขวาจะมีตัวเลื่อนสำหรับเปลี่ยนโหมดเสียงระบบ (เสียงเข้า, สั่น และเงียบ) ถัดลงมาเล็กน้อยจะมีปุ่ม Power อยู่ครับ
ขณะที่ล่างตัวเครื่องจะมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่องที่ต้องพลิกหน้า-หลังครับ ถัดไปจะมีไมโครโฟนตัวที่ 2, พอร์ต USB Tpye-C และลำโพงตัวที่ 1
ส่วนด้านบนมีเพียงไมโครโฟนตัวที่ 2
และสุดท้ายที่ด้านหลังมีกล้องหลังที่เรียงเป็นแนวตั้งกลางตัวเครื่องเหมือนกับ OnePlus 8 แต่จะนูนขึ้นมาเยอะกว่าครับ โดยที่ด้านซ้ายจะมีเลนส์ Telephoto 3x และถัดลงมาจะมีทั้งไมโครโฟนตัวที่ 3 พร้อมด้วยไฟแฟลช Dual LED
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฎิบัติการ
OnePlus 8 Pro แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่ครอบทับด้วย OxygenOS 10 ช่วยให้การทำงานต่างๆ การสัมผัสนั้นไหลลื่นขึ้น รวมถึงการจัดการทรัพยากรและซอฟต์แวร์ภายในเครื่องได้ดีขึ้น
หน้าตา UI : OxygenOS 10
Live Wallpaper วอลเปเปอร์สวยงาม
ใน OnePlus 8 Pro ก็มี Live Wallpaper หรือวอลเปเปอร์เคลื่อนไหวที่มีให้เลือกหลายแบบและหลายสีสันครับ ทั้งโทนสว่างๆ หรือมืดๆ ก็มีให้ครบ
Always-on-Display บอกสถานะเครื่องง่ายๆ ไม่ต้องเปิดจอ
สำหรับ Always-on-Display ก็มีมาทุกรุ่นที่เป็นจอ OLED ของ OnePlus อยู่แล้วครับ เป็นการบอกสถานะตามที่เรารู้กันดีครับ ซึ่งสะดวกสบายมากๆ จะดูเวลา, การแจ้งเตือนต่างๆ ของแอปพลิเคชั่น หรือแบตเตอรี่คงเหลืองก็ทำได้หมด
โหมดมืดดีขึ้นด้วย Dark Theme 2.0
ใครที่ชอบใช้งานตอนกลางคืน เราอยากให้ลองเปิดโหมดธีมมืดดูครับ เพราะใน OnePlus 8 Pro มี Dark Theme 2.0 ทำให้เราอ่านข้อความต่างๆ ได้สบายตามากขึ้น ซึ่งพื้นหลังสีดำยังช่วยประหยัดแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนจอ AMOLED อย่าง OnePlus 8 Pro ได้เช่นกัน
ระบบเสียงลำโพงคู่แบบสเตอริโอ Dolby Atmos
มาครบความบันเทิงจริงๆ สำหรับ OnePlus 8 Pro ที่มีระบบเสียง Dolby Atmos มาให้เช่นกัน โดยเป็นลำโพงคู่ที่ปล่อยทั้งด้านบนและล่าง แถมแบ่งช่องซ้าย-ขวาได้อย่างสมบูรณ์ จะเล่นเกมหรือรับชมภาพยนตร์ก็มาให้ครบรสแน่นอน
ระบบความปลอดภัยขั้นสูง
และก็เช่นเคยครับสำหรับเรือธงรุ่นนี้ มีทั้งการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแสดงผลที่ทำได้รวดเร็วและเสถียรมากครับ ทั้งยังจดจำได้มากสุด 5 ลายนิ้วมือ
ส่วนการสแกนใบหน้าก็ยังทำได้ดี ปลดล็อดได้ไว และจดจำใบหน้าได้ตรงครับ
แอปที่ 2 ใช้งานโซเชียลได้แบบแยกบัญชี
สำหรับ OnePlus 8 Pro ก็มาพร้อมกับฟีเจอร์แอปคู่ขนานที่เป็นการโคลนแอปพลิเคชั่นสำหรับแชทให้เป็น 2 ตัวได้ โดยแต่ละตัวจะเป็นการแยกใช้งานกันคนละบัญชีอย่างสิ้นเชิง
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
เรื่องของประสิทธิภาพแทบไม่ต้องกังวลอะไรครับ เพราะ OnePlus 8 Pro ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 Octa-core ที่เป็นขุมพลังเรือธงที่แรงที่สุดใน Android ทั้งยังมี RAM ชนิด LPDDR5 ถึง 12GB ช่วยให้สลับแอปพลิเคชั่น ใช้งานหลายแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้พร้อมกันและต่อเนื่อง และความจุที่ใช้มาถึง 256GB แบบ UFS 3.0 ทำให้การเปิดหรือติดตั้งแอปต่างๆ ก็ทำได้รวดเร็วมาก
สำหรับผลการทดสอบทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมตั้งแต่หน่วยประมวลผล, การ์ดจอ และหน่วยความจำด้วยโปรแกรม AnTuTu Benchmark ทำได้ไปได้ที่ 580,897 คะแนน
ส่วนผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ทำคะแนนฝั่ง Single-Core ไปที่ 905 และคะแนน Multi-Core ที่ 3,305
ฟีเจอร์และทดสอบด้านการเล่นเกม
OnePlus 8 Pro ก็ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Game Space ที่รวมเกมทั้งหมดไว้ในที่เดียว โดยมีการบอกเวลาว่าในวันนี้เล่นมากี่นาทีแล้ว รวมถึงการเปิดโหมด Fnatic ที่ปรับประสิทธิภาพตัวเครื่องให้เหมาะสมกับเกมนั้นๆ ด้วย
Call Of Duty: Mobile
การปรับตั้งค่าของเกมนี้ เราปรับภาพกราฟิกเป็น Very High และเฟรมเรทระดับ Max เพื่อให้ลื่นไหลสุดๆ โดยลองเล่นในโหลด Frontline ก็เล่นได้แบบไม่มีกระตุกหรือเฟรมเรทดรอปครับ และก็เล่นได้ต่อเนื่องโดยไม่มีอาการผิดแปลกอะไรครับ
RoV
เกมฮิตอย่าง RoV ก็สามารถปรับภาพทุกอย่างได้สูงสุดทั้งหมด และเล่นในโหมดปกติ 5 VS 5 อยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง ตลอดการเล่นไม่มีอาการกระตุกอะไรครับ เฟรมเรทก็มีวิ่งนิ่งๆ ที่ 60fps และก็มีบางจังหวะขึ้นไป 61fps ก็มีบ้างครับ
Asphalt 9: Legends
และสุดท้ายกับเกม Asphalt 9: Legends ที่เป็นเกมแนะนำในการเล่นในเครื่องนี้ครับ เพราะภาพที่ได้ก็สวยงาม และมีการสั่น Haptic ตามจังหวะของเกม ทำให้เราเล่นได้สนุกมากขึ้น
แบตเตอรี่อึด ชาร์จไวและทั้งแบบสายและไร้สาย
สำหรับ OnePlus 8 Pro ก็มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่เพิ่มจาก OnePlus 8 เป็น 4510mAh ซึ่งก็อึดกว่าเดิมแน่นอนครับ ใครที่เล่นเกมต่อเนื่องก็น่าจะได้เกินครึ่งวันแน่นอน ส่วนใครที่ใช้งานทั่วไปก็อยู่ได้ตลอดวันครับ ส่วนใครที่เล่นจนแบตเตอรี่ใกล้หมด ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะชาร์จแล้วรอนานๆ เพราะ OnePlus 8 Pro มาพร้อมกับเทคโนโลยี Warp Charge 30T ซึ่งจากที่เราลองชาร์จจาก 19% เต็ม 100% ใช้เวลาประมาณ 70 นาทีเท่านั้น
ที่สำคัญ OnePlus 8 Pro ยังเป็นรุ่นแรกของแบรนด์ที่รองรับการชาร์จไร้สาย Wireless Charging ที่มีกำลังไฟถึง 30W ด้วย
แถมยังมีการชาร์จย้อนกลับที่ให้ OnePlus 8 Pro ชาร์จแบตเตอรี่ให้สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นๆ ตามมาตรฐาน Qi ด้วย เรียกว่าแบตเตอรี่แล้ว ก็ต้องแบ่งให้คนอื่นบ้าง
กล้องถ่ายรูป
เรื่องกล้องของ OnePlus 8 Pro ถือว่าจัดเต็มสมเป็นเรือธงครับ โดยมีทั้งหมด 4 เลนส์ที่กล้องหลัง พร้อมด้วยความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซล ถึง 2 เลนส์ และ 1 เลนส์ที่กล้องหน้า โดยแต่ละเลนส์มีดังนี้
กล้องถ่ายรูปหลัง 4 เลนส์ ประกอบด้วย
- เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.78 และรองรับระบบกันสั่นไหว OIS
- เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 120 องศา รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.44 และรองรับ Hybrid Zoom 3x
- เลนส์ Color Filter ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
ขณะที่กล้องหน้า Push-Hole มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45
คมชัดสูง 48 ล้านพิกเซล ทั้งเลนส์หลักและ Ultra-Wide Angle
OnePlus 8 Pro มีเลนส์หลักความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซล ทำให้ภาพถ่ายมีความคมชัด ได้รายละเอียดสูงกว่าภาพแบบปกติครับ โดยเราสามารถซูมไปยังสิ่งเล็กๆ ในภาพได้ใกล้มากขึ้นกว่าเดิม หรือจะนำไปทำเป็นภาพขนาดใหญ่ก็ได้เช่นกัน
เลนส์หลัก
ภาพความละเอียด 48 ล้านพิกเซล / ครอป
ภาพความละเอียด 48 ล้านพิกเซล / ครอป
เลนส์ Ultra-Wide Angle
ภาพความละเอียด 48 ล้านพิกเซล / ครอป
ภาพความละเอียด 48 ล้านพิกเซล / ครอป
เลนส์หลักถ่ายสวยงาม ไม่ต้องแต่งเพิ่ม
ในเลนส์หลักที่มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เราสามารถถ่ายภาพที่เป็นการรวม 4 พิกเซล เป็น 1 พิกเซล ได้ตามปกติเช่นกันครับ โดยภาพที่ได้ออกมาจะมีเฉดสีและสีสันต่างๆ ที่จัดเต็มมากขึ้น แสงและเงาก็มีโทนที่สมจริงกว่าเดิมด้วยครับ
Ultra Wide Angle มุมมองกว้าง 120 องศา เก็บได้ครบ
เลนส์ Ultra Wide Angle ของรุ่นนี้มีความพิเศษที่ความคมชัดถึง 48 ล้านพิกเซลครับ มากกว่าสมาร์ทโฟนเกือบทุกรุ่น ที่นอกจากเราได้ภาพมุมกว้างๆ ถึง 120 องศาแล้ว ภาพถ่ายเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ชัดเจน และคมชัดไม่ต่างจากเลนส์หลัก
เลนส์หลัก / เลนส์ Ultra Wide Angle
ถ่าย Portrait เบลอฉากหลังแบบธรรมชาติ
การถ่ายภาพละลายหลังหรือ Portrait เป็นจุดเด่นหนึ่งใน OnePlus 8 Pro เรื่องการตัดขอบบุคคลเรียกว่าไว้ใจได้แน่นอน ตัดได้เนียน ไม่กินตัวบุคคล การเบลอก็มีการไล่เลเยอร์สวยงาม ทำให้ดูมีมิติมากขึ้น ที่สำคัญคือยังรองรับทั้งการถ่ายกล้องหลังและกล้องหน้าเลยด้วย
กล้องหลัง
กล้องหน้า
ฟิลเตอร์ 4 แบบผ่านเลนส์ Color Filter
เลนส์ที่ 4 ของ OnePlus 8 Pro มีความพิเศษในการใช้งานฟิลเตอร์ 4 แบบที่มีความพิเศษมากๆ ได้แก่ สีด้าน, สดใส, ขาวดำ และโฟโตโครมที่ให้ภาพได้ฟิลเตอร์แบบไม่ซ้ำสมาร์ทโฟนรุ่นไหนเลยด้วย
โฟโตโครม
ฟิลเตอร์อื่นๆ
ฟีเจอร์ Macro ถ่ายได้ใกล้สุดถึง 4 ซม.
จัดมาให้ครบทุกมุมมองสำหรับ OnePlus 8 Pro ที่ก็สามารถถ่าย Macro หรือการถ่ายวัตถุในระยะได้ใกล้สุดถึง 4 เซนติเมตรครับ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็เห็นได้ชัดเจน สีสันก็ครบเหมือนเดิม โดยการโฟกัสระหว่างการถ่ายโหมดนี้ก็เร็วพอสมควร ไม่ต้องรอนาน
ถ่ายภาพกลางคืนได้สวยงาม ดูธรรมชาติด้วย Nightscape 3.0
OnePlus 8 Pro มาพร้อมกับฟีเจอร์ Nightscape 3.0 ช่วยให้ถ่ายภาพตอนกลางคืนได้สว่างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญไม่ใช่แค่การปรับภาพให้สว่างมากขึ้น แต่เรื่องเฉดสีในภาพและวัตถุต่างๆ ก็แทบไม่ต่างกับการถ่ายในตอนกลางวัน
โหมดปกติ / โหมด Nightscape 3.0
Nightscape 3.0 ยังใช้งานกับเลนส์ Ultra Wide Angle ได้ด้วยเช่นกันครับ ถ่ายกลางคืนได้ ถ่ายมุมกว้างก็มาพร้อมกันเลย
โหมดปกติ / โหมด Nightscape 3.0
กล้องหน้า AI ก็สวยได้แบบธรรมชาติ
และสุดท้ายใครที่ชอบถ่ายเซลฟี่แบบปกติก็ถ่ายได้สวยงามไม่แพ้กับกล้องหลัง มีการปรับแต่งใบหน้าให้สวยงามโดยอัตโนมัติแต่ไม่ได้แต่งจนจัดอะไรครับ เพราะยังคงเน้นความเป็นธรรมชาติอยู่ด้วย
สรุปจุดเด่น
- กล้องหลัง 4 เลนส์ความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซล ถึง 2 เลนส์ ถ่ายได้ครบทุกมุมมองทั้ง Ultra-Wide, Wide, Macro พร้อมด้วยเลนส์พิเศษอย่าง Color Filter
- กล้องหน้าถ่ายได้สวยงามความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ปรับ AI Beauty ได้ 3 ระดับ
- หน้าจอแสดงผลสวยขั้นสุด Fluid Display ชนิด AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด QHD+ พร้อม Refresh Rate 120Hz และรองรับ HDR10+ ด้วย
- หน่วยประมวลผลท็อปสุดฝั่ง Android อย่าง Qualcomm Snapdragon 865 พร้อม RAM 12GB และ ROM 256GB
- รองรับเครือข่าย 5G
- แบตเตอรี่ 4510mAh ทั้งยังรองรับเทคโนโลยี Warp Charge 30T, ชาร์จไร้สาย Wireless Charging และการชาร์จย้อนกลับให้อุปกรณ์อื่นๆ ได้
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
สำหรับ OnePlus 8 Pro มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Glacial Green และ Ultramarine Blue สนนราคาคอยู่ที่ 34,990 บาท พิเศษ! สำหรับลูกค้า Pre-order ที่สั่งจอง OnePlus 8 Pro สี Ultramarine Blue รับไปเลยชุดกล่อง Pop-up ที่มาพร้อมกับ Sandstone Bumper Case และ Karbon Bumper Case พร้อมกับชุดหูฟัง Bullet Wireless Z (Black) พร้อมบัตร VIP Card ประกันหน้าจอแตก 1 ครั้งนาน 1 ปี มูลค่ารวมสูงสุดถึง 16,069 บาท
ส่วนลูกค้าท่านไหนที่ซื้อเครื่องผ่าน AIS รับส่วนลดค่าเครื่องสูงสุด 10,500 บาท โดย OnePlus 8 Pro เริ่มต้น 24,490 บาท รับเพิ่มฟรี สิทธิดู YouTube Premium และ AIS PLAY FAMILY ฟรีสูงสุด 6 เดือน แถมเพิ่มโปรโมชันสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก AIS รับสิทธิ ชม Netflix นาน 3 เดือนเฉพาะในช่วงสั่งซื้อเครื่องล่วงหน้าเท่านั้น