Smart Review
รีวิว OnePlus Nord 3 5G สมาร์ทโฟน 5G ที่คุ้มค่าที่สุด จัดเต็มด้วยชิป Dimensity 9000 | ความจุ 16GB + 256GB | ชาร์จไว 80W SUPERVOOC ในราคาไม่ถึง 20,000 บาท!
รีวิว OnePlus Nord 3 5G การกลับมาของซีรีส์ Nord ตัวหลัก ที่ยกเครื่องอัปเกรดสเปคให้สูงสุดระดับเรือธง! ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ต Dimensity 9000, หน้าจอ Full-view AMOLED ขนาด 6.74″, ความจุอัดแน่น 16GB + 256GB, ระบบชาร์จไว 80W SUPERVOOC Endurance Edition และดีไซน์พรีเมี่ยมในสี Misty Green เรียกว่าจัดมาให้ครบตามสโลแกนของซีรีส์นี้อย่าง “Pretty much everything you could ask for.” จริง ๆ
และหลังจากที่เราลองใช้งานจริงกว่า 1 สัปดาห์วันนี้ก็จะมารีวิวจุดเด่นและจุดสังเกตของ OnePlus Nord 3 5G รุ่นนี้ให้ชมกันเต็ม ๆ ว่ารุ่นนี้เหมาะกับใคร พร้อมแล้ว ติดตามกันเลยครับ!
สรุปสเปค OnePlus Nord 3 5G
- หน้าจอ : Full-view AMOLED ขนาด 6.74″
- ความละเอียด : 2772×1240 พิกเซล
- Refresh rate : 120Hz
- CPU : MediaTek Dimensity 9000 (4nm)
- RAM : 16GB (LPDDR5X)
- ROM : 256GB (UFS 3.1)
- แบตเตอรี่ : 5000mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 80W SUPERVOOC Endurance Edition
- กล้องหน้า : 16MP f/2.4
- กล้องหลัก : 3 ตัว
- กล้องหลัก 50MP (เซ็นเซอร์ IMX890) f/1.9, OIS
- กล้อง Ultra Wide 8MP f/2.2
- กล้อง macro 2MP f/2.4
- ระบบปฏิบัติการ : Android 13 ครอบทับด้วย OxygenOS 13
- สีสัน : Misty Green
แกะกล่อง OnePlus Nord 3 5G
ก่อนจะไปยลโฉมตัวเครื่องกับฟีเจอร์การใช้งาน เรามาดูแพ็กเกจและอุปกรณ์ที่ให้มากับ OnePlus Nord 3 5G กันก่อนดีกว่า ตัวกล่องจะเป็นขนาดมาตรฐานในสีดำพร้อมแถบสีน้ำเงินที่เขียนว่า Nord Nord Nord ตามฉบับของ OnePlus Nord ในปี 2023 นี้
เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับกล่องสีดำที่ภายในมีเอกสารคู่มือ, การ์ดต้อนรับรวมถึงเข็มจิ้มถาดซิมอยู่ในนั้นครับ อ๊ะ…ใช่แล้วครับ รอบนี้ไม่มีเคสซิลิโคนแถมให้ในกล่องแล้วนะ
ชั้นถัดไปจะเจอกับตัวเครื่อง OnePlus Nord 3 5G อยู่ในซองอย่างดี ตัวเครื่องมีติดฟิล์มกันรอยมาให้จากโรงงานเหมือนเดิม เดี๋ยวเราค่อยมาดูกันอีกทีละกันเนาะ
ถัดลงไปจะเจอกับสายชาร์จสีขาว-แดงเป็นเอกลักษณ์และอะแดปเตอร์ชาร์จไว 80W SUPERVOOC Endurance Edition ครับผม
อะ…เบ็ดเสร็จอุปกรณ์ในกล่องของ OnePlus Nord 3 5G ก็จะมีด้วยกัน 5 อย่างดังนี้เลยครับ
- ตัวเครื่อง OnePlus Nord 3 5G
- สายชาร์จหัว USB-C to A
- อะแดปเตอร์ชาร์จไว 80W SUPERVOOC Endurance Edition
- เอกสารคู่มือ
- เข็มจิ้มถาดซิม
ดีไซน์ที่สง่างามและพรีเมี่ยมกว่าที่เคยกับสี Misty Green
ถึงเวลาชมดีไซน์ของ OnePlus Nord 3 5G แบบชัด ๆ แล้วครับ รอบนี้มาพร้อมดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Nord Series ปีนี้คือฝาหลังโค้ง 2.8D และมีโมดูลกล้องหลัง 2 วงเด่น ๆ ซึ่งคล้ายกับ OnePlus Nord CE3 Lite 5G ที่เราเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้
แต่สีสันและวัสดุจะพรีเมี่ยมขึ้นด้วยฝาหลังกระจกมันวาวที่มีความหรูหราและแข็งแกร่ง บวกกับสีใหม่ Misty Green ที่ลดความสดใสมอบความสุขุมและทางการขึ้นมาอีก ทำให้ Look and Feel ของ OnePlus Nord 3 5G ยกระดับขึ้นอีกพอควรเลยครับ
กรอบเครื่องเหลี่ยมสุดบางเฉียบ Flat-edged Thin body
กรอบเครื่องของ OnePlus Nord 3 5G จะเป็นแบบกรอบเหลี่ยม Flat-edged ผิวสัมผัสแบบด้านที่ให้ความรู้สึกที่ดีมากเวลาจับถือ ไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือแถมความบางยังพอดิบพอดีที่ 8.15 มม.ทำให้รู้สึกถึงความบางอย่างชัดเจนแต่ก็ยังจับได้พอดีมือ แบบที่ไม่รู้สึกว่าจับลำบากด้วยครับ
ส่วนน้ำหนักก็เพียง 193.5 กรัม เป็นน้ำหนักที่พอถือแล้วรู้สึกว่าเบากำลังดี แต่ก็ได้ความ Solid จากวัสดุที่อัปเกรดขึ้นมาเป็นอย่างดี เป็นอีกรุ่นที่เราว่าฟิลลิ่งเวลาถือบนมือดีมาก ๆ เลยล่ะครับ
ปุ่ม Alert Slider ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมของ OnePlus
และหากพูดถึงสมาร์ทโฟน OnePlus รุ่นไฮเอนด์ก็ต้องถึงปุ่ม Alert Slider ถูกไหมล่ะครับ ซึ่ง OnePlus Nord 3 5G รุ่นนี้ก็มีให้เราได้เลื่อนสลับโหมดเสียงได้อย่างลงตัวที่มุมขวาของตัวเครื่อง เหนือปุ่ม Power เหมือนเดิม มอบประสบการณ์การใช้งานที่สมกับเป็นสมาร์ทโฟน OnePlus จริง ๆ
นอกจากปุ่ม Alert Slider ที่สร้างความโดดเด่นให้กับตัวเครื่องแล้ว ตำแหน่งปุ่มกดต่าง ๆ ก็วางไว้ได้ดีเหมือนเดิม ทั้งปุ่ม Power ที่อยู่ถัดลงมา หรือจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงที่อยู่ฝั่งซ้ายของตัวเครื่อง ความลงตัวก็คือเมื่อกรอบเครื่องเหลี่ยมมอบสัมผัสที่ดีเวลาเราจับถือและเลือกกดปุ่มสั่งการก็ได้ความไร้รอยต่อได้เป็นอย่างดีทีเดียวครับ
หน้าจอ Full-view AMOLED 120Hz
พลิกกลับมาดูที่หน้าจอ OnePlus Nord 3 5G ได้หน้าจอ Full-view AMOLED ขนาด 6.74″ ที่แสดงผลได้เต็มตาเหมือนชื่อจอเลย ขอบจอบางเฉียบ มีรูกล้องหน้าอยู่ตรงกลางเล็ก ๆ ไม่กวนสายตาเวลาใช้งาน ยิ่งพออยู่กับ Wallpaper หลักของรอบนี้ที่ส่วนบนเป็นสีดำแล้วก็เนียนตาเข้าไปใหญ่ครับ
ในเรื่องการตอบสนองหน้าจอของ OnePlus Nord 3 5G ก็มาพร้อม Refresh rate 120Hz และยิ่งได้ OxygenOS ที่มีความ Fast & Smooth เอกลักษณ์ของ OnePlus ด้วยแล้วก็ทำให้ประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลจริง ๆ ครับ
ส่วนการแสดงผลก็ไม่ต้องห่วงเลยมาพร้อมความละเอียดระดับ FHD+ พร้อมการแสดงสีแบบ 10Bit หรือ 1 พันล้านสี ความสวยสดไม่ต้องพูดเยอะครับ เอามาดูหนัง เล่นเกมนี่ฟินมาก แถมยังได้ขอบจอที่บางเฉียบระดับนี้อีกเวลาเปิดคอนเทนต์แบบเต็มจอจึงได้อารมณ์ที่เต็มจอจริง ๆ ครับ
รอบ ๆ เครื่องลงตัว
ขอวกกลับมาดูด้านบน-ล่างตัวเครื่องอีกหน่อยละกันครับ พอร์ตการเชื่อมต่อหลักจะอยู่ที่ด้านล่างก็แน่นอนว่ามีพอร์ต USB-C ไมโครโฟน, ช่องใส่ซิม และลำโพงหลักของตัวเครื่องอยู่ด้านล่างนี้ครบ
ส่วนด้านบนก็จะมีตัว IR Blaster สำหรับใช้งานเป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านแอป IR Remote ที่แถมมาให้อยู่แล้ว รวมถึงมีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนอยู่ด้านบนนี้ด้วยครับ
ช่องใส่ซิมของ OnePlus Nord 3 5G จะเป็นแบบ Dual-Slot คือสามารถใส่ได้ 2 ซิมพร้อมกัน แต่แน่นอนเพิ่ม microSD ไม่ได้แล้วเนาะ
ลำโพง Stereo เสียงดี มิติยอดเยี่ยม
ตัวลำโพงของ OnePlus Nord 3 5G ได้มา 2 ชุดคือลำโพงหลักของตัวเครื่องที่อยู่ด้านล่างและลำโพงสนทนาที่อยู่เหนือหน้าจอ ซึ่ง 2 ตัวนี้จะใช้งานร่วมกันเป็นลำโพง Stereo มอบเสียง 2 ทิศทางได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าเราจะดูคอนเทนต์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมก็ได้มิติเสียงที่ดีมาก ๆ เลยล่ะครับ
ระบบรักษาความปลอดภัยครบ
ส่วนเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย OnePlus Nord 3 5G ได้มาครบทั้งระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ทำงานได้รวดเร็ว แตะก็สแกนติดแล้วนอกจากนี้ระบบสแกนใบหน้าของรุ่นนี้ก็มาให้ใช้ด้วย ความเร็วก็ยอดเยี่ยมเหมือนกันเลยครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ OnePlus Nord 3 5G ก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมเลยครับ แม้ภายนอกจะดูเรียบง่าย แต่ถ้าได้ลองสัมผัสตัวจริงแล้วบอกเลยว่าฟิลลิ่งในการจับถือดีมาก ทั้งขนาดที่กำลังพอเหมาะ น้ำหนักเบาแค่ 193.5 กรัม ดีไซน์แบบ Flat-edged thin body ที่กรอบเครื่องเหลี่ยมจับได้ถนัดและมีความโค้งเล็ก ๆ ของฝาหลังที่รับรูปมือเวลาจับถือ หน้าจอที่ใหญ่ถึง 6.74″ แต่ตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่เทอะทะ มีปุ่ม Alert Slider ที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นความลงตัวครบเครื่องฉบับที่ Nord Series จะให้ได้แล้วจริง ๆ ครับ
ประสิทธิภาพระดับเรือธง นี่คือ Nord Series ที่ทรงพลังที่สุดที่เคยมีมา!
มาต่อในเรื่องประสิทธิภาพกันเลยครับ อย่างที่ทราบว่า Nord Series นั้นแต่แรกเริ่มถูกวางไว้ในกลุ่มสมาร์ทโฟนรุ่นกลางประสิทธิภาพดีที่มาเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ OnePlus แต่สำหรับ OnePlus Nord 3 5G ในปีนี้ได้ยกระดับสเปคขึ้นมาเทียบเท่าระดับเรือธงเรียบร้อย เริ่มต้นจากชิปเซ็ตที่ใช้เป็น MediaTek Dimensity 9000 ขนาด 4nm ชิปเรือธงจากปีที่แล้วที่มั่นใจได้ในเรื่องความแรงและการจัดการพลังงาน!
หรือจะเป็นหน่วยความจำที่ยกระดับขึ้นด้วย RAM แบบ LPDDR5X ขนาด 16GB พร้อมกันนี้ยังมีฟีเจอร์ RAM Expansion ที่สามารถขยายเพิ่มได้สูงสุด 12GB (รวมแล้วก็ 28GB เลยพี่!) นอกจากนี้ยังมีระบบ RAM-Vita ที่การันตีการใช้งานหลาย ๆ แอปได้อย่างลื่นไหล ส่วน Storage ภายในก็มี 256GB แบบ UFS 3.1 อีกด้วย
ผลทดสอบระดับเรือธง!
เห็นว่าจัดสเปคมาสูงขนาดนี้ เพื่อให้ได้เห็นภาพกันจริง ๆ เราเลยทดสอบประสิทธิภาพผ่านแอป Benchmark ทั้ง AnTuTu Benchmark v10 และ Geekbench 6 ให้ดูบอกเลยว่าคะแนนโหดสมใจสายตัวเลขไหม ฝั่ง AnTuTu ได้ไปสูงถึง 868950 คะแนน!
ส่วนฝั่ง Geekbench 6 ก็ได้คะแนน Single-Core ไปที่ 1153 คะแนน และ Multi-Core ที่ 3386 คะแนน เรียกว่าเป็นคะแนนที่สูงที่สุดในสมาร์ทโฟน Nord Series เลยก็ว่าได้ครับ
เล่นเกมดีมี MediaTek Adaptive Game Tech
สำหรับสายเกมก็คงคาดหวังกับสเปคที่ให้มาของ OnePlus Nord 3 5G นี้ไม่น้อย ซึ่งต้องบอกเลยว่าจะไม่ผิดหวังแน่นอนเพราะนอกจากชิปเซ็ตที่เร็วแรงระดับนี้แล้วในตัวชิป Dimensity 9000 ยังมีเทคโนโลยี MediaTek Adative Game ที่เข้ามาช่วยจัดการพลังงานได้ดีขึ้นถึง 18% และยังจัดการเฟรมเรตในแต่ละเกมให้ลื่นไหลและคงที่กว่าเดิมอีกด้วย
ลองเล่นจริงเลยไหมล่ะ!?
มาถึงขั้นนี้ก็คงต้องมาลองเล่นเกมจริงจังกันแล้วล่ะ สำหรับเกมที่เราใช้ทดสอบ OnePlus Nord 3 5G จะมี 3 เกมประกอบด้วย Asphalt 9, PUBG และ Shadow Fight 4 Arena ซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาดังนี้เลย…
เล่น Asphalt 9 บน OnePlus Nord 3 5G
เริ่มที่ Asphalt 9 ก่อนเลย เราสามารถเลือกปรับระดับกราฟิกได้ที่ High Quality พร้อมเปิด 60fps ได้ด้วย เรียกว่าปรับได้สูงสุดเท่าที่จะปรับได้ในตอนนี้แล้ว เท่าที่ลองเล่นก็ OnePlus Nord 3 5G ก็เล่นได้ชิลเลยครับ กราฟิกสวยเต็มตาบนหน้าจอ Full-view AMOLED ความลื่นไหลก็ได้ระดับ 60fps เต็ม ๆ ด้วยครับ
เล่น PUBG บน OnePlus Nord 3 5G
ต่อมากับเกมยิง PUBG เราสามารถตั้งค่าระดับกราฟิกได้ 2 แบบคือ กราฟิก UltraHD + เฟรมเรต Ultra กับ กราฟิก HDR + เฟรมเรต Extreme ซึ่งเราเลือกเล่นแบบที่ 2 เพราะอยากได้เฟรมเรตที่ลื่นที่สุดระดับ 60fps และเท่าที่เล่นก็ได้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมเลยครับ ความไวในการตอบสนองหน้าจอดี แถมการที่ได้ลำโพง Stereo มาด้วยก็ยิ่งช่วยให้เกมแนวนี้สนุกสะใจจริง ๆ ครับ
เล่น Shadow Fight 4 บน OnePlus Nord 3 5G
ปิดท้ายที่เกมต่อสู้ภาพสวย Shadow Fight 4 เกมนี้เราก็ยังปรับกราฟิกได้ที่ระดับสูงสุด (Ultra) ได้เหมือนเดิม ตัวเกมเล่นได้อย่างลื่นไหล ภาพก็คือสวยขั้นสุดมาเลย การตอบสนองบนหน้าจอก็ยังช่วยให้เราแตะสั่งงานโจมตี หรือควบคุมทิศทางหลบคู่ต่อสู้ได้แบบทันท่วงที เล่นแล้วไม่ขัดใจเลยครับ
สำหรับประสิทธิภาพในการเล่นเกมของ OnePlus Nord 3 5G ก็ยอมรับเลยว่าผ่านการยกระดับขึ้นมาเป็นระดับเรือธงแล้วจริง ๆ เพราะทั้งการตั้งค่าในเกมหรือการตอบสนองความลื่นไหลนั้นสูงสุด เล่นแล้วสะใจ เต็มอิ่ม แถมฮาร์ดแวร์ภายในยังมีการอัปเกรดระบบระบายความร้อน VC ใหม่ขนาด 4129mm2 ที่ช่วยลดความร้อนสะสมเวลาเล่นเกมให้ดียิ่งขึ้น ทำให้เราเล่นได้เพลิดเพลินกว่าเดิม แม้จะเล่นต่อเนื่องเครื่องก็อยู่ในเกณฑ์อุ่น ๆ เท่านั้นครับ
แบตเตอรี่ก้อนใหญ่ 5000mAh ใช้งานสบายใจ
ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ OnePlus Nord 3 5G ก็ให้มามากถึง 5000mAh เป็นมาตรฐานใหม่ของ Nord Series ไปแล้ว ใช้งานได้อย่างยาวนานจุใจ จะเล่นเกมหนัก ๆ ถ่ายรูปเยอะ หรือเล่นโซเชี่ยลตลอดวันก็เอาอยู่สบายครับ
ระบบชาร์จไว 80W SUPERVOOC พร้อมชิปควบคุมการชาร์จพิเศษ
แต่แน่นอนว่าต่อให้อึดแค่ไหนเราก็ต้องชาร์จอยู่ดีเนาะ ซึ่งระบบชาร์จไวของ OnePlus Nord 3 5G ก็ได้ชาร์จไว 80W SUPERVOOC Endurance Edition ที่ทาง OnePlus เคลมว่าชาร์จจาก 0 – 100% ได้ในเวลาเพียง 32 นาทีเท่านั้น! ซึ่งความเร็วระดับนี้จะถูกควบคุมผ่านชิป SUPERVOOC S ด้วย ทำให้ชาร์จได้รวดเร็วแต่ก็ไม่อันตรายและเก็บความร้อนสะสมมากนัก
นอกจากนี้ยังมีกลไกการชาร์จแบบใหม่ที่ช่วยยืดสุขภาพแบตเตอรี่ให้นานขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า! ต้องชาร์จกว่า 1600 รอบ หรือคิดเป็นกว่า 4 ปีก่อนที่แบตฯจะเริ่มเสื่อมประสิทธิภาพลง ตรงนี้เราสามารถเช็กได้จากสุขภาพแบตของตัวเครื่องเลย ถ้าต่ำกว่า 80% เรียกว่าเริ่มเสื่อมแล้วนั่นเองครับ
กล้องหลัง 3 ตัวที่อัปเกรดมาระดับเรือธง
มาต่อที่เรื่องกล้องเลยครับ ไม่ใช่แค่เรื่องชิปเซ็ตที่ยกระดับขึ้นระดับเรือธงเท่านั้น เพราะกล้องของ OnePlus Nord 3 5G ก็อัปเกรดขึ้นมาแบบจัดเต็มเช่นกัน ซึ่งรุ่นนี้จะมีกล้องหลัง 3 ตัวสเปคคร่าว ๆ ดังนี้เลย
- 50MP กล้องหลัก (เซ็นเซอร์ IMX890) f/1.8 พร้อม OIS
- 8MP กล้อง Ultra Wide f/2.2
- 2MP กล้อง Macro f/2.4
อย่างที่เห็นจากสเปคกล้องหลักของ OnePlus Nord 3 5G นั้นเป็นเซ็นเซอร์ตัวใหม่ IMX890 ตัวเดียวกับที่ใช้อยู่บน OnePlus 11 5G เลย หมายความว่าประสิทธิภาพนั้นถูกยกระดับขึ้นมาแล้ว แถมยังมีกล้อง Ultra Wide 8MP มาให้ใช้ถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษและกล้อง Macro 2MP มาถ่ายภาพระยะใกล้อีกด้วยครับ
กล้องหลัก 50MP ตัวเดียวกับเรือธง!
อย่างที่บอกว่ากล้องหลักของ OnePlus Nord 3 5G นั้นใช้ IMX890 ตัวเดียวกับเรือธง OnePlus 11 5G เลย ตัวซอฟต์แวร์ก็ยังมี AI คอยจัดการภาพเพิ่มเติมเหมือนเดิม คุณภาพที่เราได้สัมผัสก็บอกเลยว่ายอดเยี่ยมครับ ทั้งการเก็บ Dynamic Range และสีสันที่คงเอกลักษณ์ของ OnePlus ได้เป็นอย่างดี ความคมชัดก็ไม่ต้องพูดถึงครับ แถมพอเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นเราก็สามารถใช้งาน Digital Zoom ระดับ 2X หรือ 3X ได้แบบที่ภาพยังคมชัดอยู่ ทดแทนการที่ไม่แถมเลนส์ซูมมาให้ได้ระดับหนึ่งเลยล่ะครับ
Ultra Wide เก็บมุมกว้างความละเอียด 8MP
กล้อง Ultra Wide ของ OnePlus Nord 3 5G ได้มาที่ความละเอียด 8MP อาจจะไม่ได้มากมายอะไร แต่เท่าที่ลองใช้งานจริงก็ถือว่าทำได้ดีครับ เก็บมุมได้กว้างเลย คุณภาพก็โอเค แต่รายละเอียดถ้าเทียบกับกล้องหลักก็จะเห็นความต่างที่ชัดเจนทั้งความคมชัดและโทนสีที่ Ultra Wide จะอมฟ้ากว่านิดหน่อย แต่ถ้าในที่ที่มีแสงเพียงพอก็เก็บความคมชัดได้ดีเลยครับ
กล้อง Macro 2MP เข้าใกล้ได้ 4 ซม.
และกล้องตัวสุดท้ายกับ Macro ที่มาเสริมในการถ่ายภาพระยะใกล้ สำหรับสายที่ชอบถ่ายวัตถุระยะใกล้ ๆ ในระยะใกล้สุด 4 ซม.ก็ถือว่าพอจะใช้งานได้ดี แต่ต้องมีแสงเพียงพอสักนิดไม่งั้นใช้กล้องหลักซูมเอาดีกว่าครับ
กลางคืนสวยด้วย Nightscape
ในการถ่ายภาพกลางคืน OnePlus Nord 3 5G ก็มาพร้อมโหมด Nightscape สุดเก่งเหมือนเดิม ในโหมดนี้ตัวกล้องจะใช้การเก็บภาพในหลาย ๆ สภาพแสงและนำมาประมวลผลเพิ่มเติมเพื่อให้เราได้ภาพกลางคืนที่สีสวยและคมชัดขึ้น
Portrait ถ่ายคนเก่งขึ้นด้วย TurboRAW HDR 1.0
ส่วนการถ่ายคน OnePlus Nord 3 5G ก็มีโหมด Portrait มาให้ใช้งานพร้อมลูกเล่นการปรับละลายฉากหลังได้หลายระดับเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังมี Filters ให้เลือกใช้งานอีกเพียบที่เด่น ๆ เลยคงหนีไม่พ้น Bokeh Flare Portrait ที่จะมาเพิ่มดวงโบเก้ให้สวยขึ้นไปอีก ซึ่งภาพถ่าย Portrait ที่ได้จากรุ่นนี้ต้องบอกว่าทำได้ดีเลยครับ ทั้งการตัดขอบที่เนียนตา การปรับแต่งสีที่สวย HDR ที่เข้ามาใช้งานได้ด้วย แต่ที่น่าเสียดายก็คือระยะของภาพใช้ได้แค่ 1X ไม่มีตัวเลือก 2X มาให้เนาะ
กล้องหน้า 16MP เซลฟี่มุมกว้างใช้ได้
ส่วนกล้องหน้าก็ใช้งานได้ดีครับ ได้ความละเอียดมาที่ 16MP มุมมองกว้างเซลฟี่ได้แบบไม่อึดอัด พร้อมลูกเล่นครบถ้วน ตั้งแต่ Selfie HDR, Night Selfie, Portrait หรือ Portrait Retouching ที่ปรับใบหน้าให้สวยเนียนก็มีเช่นกัน และนี่คือภาพเซลฟี่ที่ถ่ายจาก OnePlus Nord 3 5G ครับ
วิดีโอสูงสุด 4K/60fps ที่กล้องหลัง…
ปิดท้ายเรื่องกล้องที่วิดีโอ OnePlus Nord 3 5G มาพร้อมความสามารถในการถ่ายวิดีโอสูงสุดที่ 4K/60fps ในกล้องหลัง และ 1080p/30fps ในกล้องหน้า ในวิดีโอยังได้ระบบกันสั่น OIS และมีฟีเจอร์ AI Highlight Video ที่คอยจัดการในเรื่องแสงและที่แสงน้อยเข้ามาใช้งานด้วย แต่จะถูกจำกัดอยู่ที่ความละเอียด 1080p/30fps เท่านั้นครับ
สรุปแล้วเรื่องกล้องของ OnePlus Nord 3 5G ก็ถือว่าเป็นชุดกล้องที่ถ่ายได้สนุกและใช้งานได้ค่อนข้างครอบคลุมทีเดียวครับ เพราะทั้งกล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์เรือธงที่เราสามารถเก็บภาพได้คมชัดในระยะ 1X หรือจะซูมเข้าไปหน่อย 1.5X – 2X ก็ยังเอาอยู่ ไม่เสียรายละเอียดจนเกินไป หรืออยากได้มุมกว้างก็มี Ultra Wide มาขยายมุมมองให้อีก ระบบ AI ก็เก่งพอที่จะปรับภาพให้เราได้ไฟล์สวย ๆ แบบพร้อมใช้ทันทีหลังถ่ายเลยด้วย โทนสีที่เป็นเอกลักษณ์ของ OnePlus ก็ยังอยู่ครบ เราว่านี่เป็นกล้องที่ไว้ใจได้ไม่น้อยเลยล่ะครับ
ซอฟต์แวร์ OxygenOS 13.1 ที่ลื่นไหล
เรื่องซอฟต์แวร์ OnePlus Nord 3 5G ก็มาพร้อม Android 13 ที่ครอบทับมาด้วย OxygenOS 13.1 มีหน้าตา UI เป็นมิตรไอคอนต่าง ๆ มาในโทน 3D และสีสันสดใส รวมถึงพวก Widget และ Large Folder ที่ช่วยให้เราปรับแต่งหน้าจอได้สนุกขึ้นกว่าเดิม
ในเรื่องการปรับแต่ง OxygenOS 13.1 ก็สามารถปรับ Wallpapers, Always-On Display, ไอคอน, แถบ Quick Settings, โทนสี, ฟอนต์, หรืออนิเมชั่นการสแกนลายนิ้วมือได้ด้วย ตรงนี้เลือกปรับได้เยอะเลย
การตอบสนองของ UI ก็ทำได้ดีไม่ใช่แค่ลื่นไหลฉบับ 120Hz อย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องการสั่นตอบสนองที่ช่วยให้ทุกการทำงานดูพรีเมี่ยมมากขึ้น ทั้งการแตะสแกนลายนิ้วมือ, การเลื่อนหน้าจอใช้ Navigation Gesture, กดปุ่มชัตเตอร์ และอีกมากมาย ซึ่งตรงนี้ต้องชมระบบสั่น X-axis linear motor ที่ช่วยให้การสั่นที่นุ่มนวล ไม่แข็งจนเกินไป ทำให้เวลาเราสั่งงานหรือเลื่อนหน้าจอแล้วเจอการสั่นเล็ก ๆ ตอบกลับเข้ามาเพิ่มเติมเพิ่มประสบการณ์ที่ดีขึ้นมากจริง ๆ
ส่วนเรื่องการอัปเดต OnePlus เคลมว่า OnePlus Nord 3 5G นั้นจะรองรับการอัปเดต Android เวอร์ชั่นหลักถึง 3 ปี หมดห่วงเรื่องการใช้งานต่อเนื่องนาน ๆ ได้เลย
OnePlus Nord Buds 2r
นอกจาก OnePlus Nord 3 5G แล้ว รอบนี้ยังมี OnePlus Nord Buds 2r หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ออกมาอัปเดตสเปคของ OnePlus Nord Buds 2 เดิมด้วย ไหน ๆ ก็เปิดตัวมาคู่กันแบบนี้ วันนี้เราพามาชมพร้อมแนะนำฟีเจอร์น่าสนใจของหูฟังตัวนี้ไปด้วยเลยเนาะ
สำหรับ OnePlus Nord Buds 2r จะมีให้เลือก 2 สีคือ สีเทา Deep Gray และสีน้ำเงิน Triple Blue ซึ่งสีที่เราได้มารีวิวเป็นสีเทา Deep Gray ตัวเคสชาร์จจะมาในทรงแคปซูลขนาดกำลังพอดี ที่ด้านหน้าจะมีโลโก้ OnePlus ชัดเจน ส่วนตัวหูฟังก็จะมาในทรง In-Ear ที่มีก้านยื่นออกมาเล็กน้อยครับ
ในเรื่องการเชื่อมต่อก็ทำได้ง่ายดายแค่เปิดฝาเคสชาร์จขึ้นมาก็จะมี Pop-Up ให้เรากดเชื่อมต่อได้ทันที ไม่ยุ่งยากเลยจริง ๆ ครับ ส่วนจุดเด่นของ OnePlus Nord Buds 2r เราขอแยกเป็น 5 ไฮไลท์เด่นดังนี้เลยครับ
1.เสียงเบสที่หนักแน่น
เสียงเบสที่หนักแน่นคือคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดของ OnePlus Nord Buds 2r ด้วยไดร์เวอร์ขนาดใหญ่ 12.4 มม. แถมยังมี Sound Master Equalizer และ Dolby Atmos กับ Dirac Audio Tuner เป็นกุญแจสำคัญของการสร้างเอฟเฟคเสียงเบสที่หนักแน่นอีกต่างหาก
2.Clear Call การโทรที่ชัดเจน
OnePlus Nord Buds 2r มาพร้อมกับ Dual Mics และ AI Clear Call Algorithm พร้อมทั้ง Wind-noise Reduction Mechanical Design จึงมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับคุณภาพเสียงการโทรที่ชัดเจนอย่างแน่นอน
3.ความทนทาน
OnePlus Nord Buds 2r หูฟังที่คุ้มราคาที่สุดมอบความทนทานให้กับผู้ใช้ อย่างการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ที่พอดีกับช่องหูของคน, อายุแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 38 ชม., มีความสามารถกันน้ำกันเหงื่อที่ IP55, อีกทั้งยังมาพร้อมกับการรับประกัน 12 เดือน สำหรับการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ รับประกันการใช้งานอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวล
4.การเชื่อมต่อ
OnePlus Nord Buds 2r ทุ่มเทเพื่อที่จะมอบประสบการณ์ที่รวดเร็วและราบรื่นให้กับผู้ใช้ทุกคน เพลิดเพลินไปกับการเชื่อมต่อที่ไม่สะดุดด้วยบลูทูธ 5.3 ความหน่วงต่ำ 94ms และการจับคู่ที่รวดเร็ว
5.คุณสมบัติพิเศษ
นอกจากคุณสมบัติ 4 อย่างข้างต้นแล้ว ยังมีคุณสมบัติพิเศษอีกด้วย OnePlus Nord Buds 2r จะมีสติกเกอร์เป็นของขวัญให้กับผู้ซื้อไปด้วย ซึ่งออกแบบมาในแพ็กเกจกล่องสุ่มเพื่อให้เราได้สุ่มเลือก แสดงความเป็นตัวเองด้วยการออกแบบสติกเกอร์ที่ไม่เหมือนใคร อย่างของเราก็ได้เป็นภาพมองบนแนว ๆ แบบนี้เลย
ราคาและโปรโมชั่น
ปิดท้ายกับเรื่องราคา OnePlus Nord 3 5G และ OnePlus Nord Buds 2r เปิดมาดังนี้
- OnePlus Nord 3 5G (16GB + 256GB) สีเขียว Misty Green ราคา 19,990 บาท
- OnePlus Nord Buds 2r มีให้เลือก 2 สี สีเทา Deep Gray และฟ้า Triple Blue ราคา 1,190 บาท
โดย OnePlus Nord 3 5G จะมีโปรโมชั่นพิเศษคือ เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่วันนี้ – 13 กรกฎาคม 2566 จะได้รับส่วนลดทันที 2,000 บาท เหลือเพียง 17,990 บาทเท่านั้น และยังได้รับของสมนาคุณดังนี้ด้วย
- OnePlus Nord 3 5G Sandstone Bumper Case มูลค่า 590 บาท
- OnePlus E-VIP Card ลูกค้าจะได้รับการรับประกันจอแตก จำนวน 1 ครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อเครื่อง
พิเศษ! สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ OnePlus Nord 3 5G หรือ OnePlus 11 5G, OnePlus Nord CE 3 Lite 5G จะได้ลุ้นรับสิทธิ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เป็นบัตรเข้าร่วมงาน ‘Meet your Magic Power’ วันที่ 22 ก.ค. 66 นี้ ไปพบกับ Jackson Wang , brand ambassador ของสมาร์ทโฟน OnePlus APAC ด้วย ห้ามพลาดเด็ดขาด !!!
ช่องทางการจัดจำหน่าย
- COM7 : https://com7.co/3rgzBo5
- LAZADA : https://bit.ly/449uYKP
- Shopee : https://bit.ly/3NOqOCo
- Thisshop : https://bit.ly/43dM0pY
- TikTok Shop : https://bit.ly/46yn5Ad
และ OPPO Brand Shop
สรุปแล้ว “นี่คือการกลับมาของ Nord Series ที่ยกเครื่องสู่ระดับเรือธงอย่างแท้จริง”
สรุปแล้ว OnePlus Nord 3 5G ก็ถือเป็นการกลับมาของ Nord Series ที่อัปเกรดขึ้นมาเป็นระดับเรือธงอย่างแท้จริง ด้วยชิป Dimensity 9000, ความจุอัดแน่น RAM 16GB (LPDDR5X) + Storage 256GB (UFS 3.1), แบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมยังมอบประสบการณ์จาก OnePlus ได้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่ความ Fast & Smooth ด้วยหน้าจอ Full-view AMOLED 120Hz, ชาร์จไว 80W SUPERVOOC Endurance Edition ดีไซน์พรีเมี่ยม Flat-edged Thin body ที่มาพร้อมปุ่ม Alert Slider และยังได้สีใหม่ Misty Green มาอีก เรียกว่าจัดมาให้ครบตามสโลแกนของซีรีส์นี้อย่าง “Pretty much everything you could ask for.” ใครที่ต้องการความครบเครื่องในฉบับของ OnePlus และไม่อยากจ่ายเกิน 20,000 บาท เราว่านี่คือตัวเลือกที่น่าสนใจจริง ๆ ครับ