OnePlus Watch 3 มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นจากรุ่นก่อนในหลาย ๆ ด้าน แม้ว่าจะดูเหมือน Watch 2 แต่อุปกรณ์สวมใส่รุ่นใหม่นี้มีหน้าจอ LTPO AMOLED ขนาด 1.5 นิ้วที่ใหญ่กว่าพร้อมขอบไทเทเนียมและกระจกแซฟไฟร์ แผงหน้าจอมีความสว่างสูงสุด 2,200 nits มองเห็นได้ง่ายในที่กลางแจ้ง

อีกอย่างที่เพิ่มเข้ามาใหม่ก็คือเม็ดมะยม ซึ่งสามารถใช้นำทาง UI ได้ ต่างจาก Watch 2 โดยรุ่นใหม่ OnePlus Watch 3 มีขนาด 46 มม. และมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Emerald และ Obsidian Titanium กรอบยังคงทำจากสแตนเลสสตีลเช่นเดียวกับ Watch 2 ของปีที่แล้ว
Watch 3 กันน้ำได้ 5ATM ทนน้ำและฝุ่นระดับ IP68 และมีคุณสมบัติความทนทาน MIL-STD-810H เช่นเดียวกับรุ่นปีที่แล้ว รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth และไม่มีตัวเลือกการรุ่นเซลลูลาร์
ในด้านซอฟต์แวร์ OnePlus Watch 3 มาพร้อม WearOS 5 ของ Google พร้อมระบบนิเวศแอปที่ครอบคลุมและ RTOS ที่กำหนดเองสำหรับการทำงานงานทั่วไป พร้อมชิปเซ็ต Snapdragon W5 ซึ่งมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลร่วม BES 2800 และพื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 32GB

Watch 3 มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคัล 8 ช่องสัญญาณ และเซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือด 16 ช่องสัญญาณสำหรับการติดตามสุขภาพ นอกจากนี้ สามารถติดตามการนอนหลับ ความเครียด และกิจกรรม รวมถึงการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ซึ่งจะพร้อมใช้งานในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 รวมถึงยังมี Health Check-In 60 วินาทีใหม่ซึ่งจะแสดงภาพรวมของข้อมูลสุขภาพที่สำคัญของผู้ใช้งาน และระบบ GPS แบบความถี่คู่

OnePlus ให้แบตเตอรี่รุ่นใหม่ขนาด 631mAh ใช้งานได้นานถึง 5 วันเมื่อใช้งานปกติและนานถึง 3 วันเมื่อใช้งานหนัก มีโหมดประหยัดพลังงานให้ใช้งานได้นานสูงสุด 16 วัน

OnePlus Watch 3 มีราคาอยู่ที่ 329 ดอลลาร์ (ประมาณ 11,000 บาท) โดยผู้ที่สั่งซื้อล่วงหน้าจะได้รับคูปองมูลค่า 50 ดอลลาร์ ซึ่งจะเริ่มจัดส่งในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้
ที่มา: OnePlus