รีวิว OPPO A57 4GB+64GB สมาร์ทโฟนน้องเล็กจาก OPPO ที่มาพร้อมสเปคไม่ธรรมดาทั้งหน้าจอ 6.56″ สีสันสดใส แบตเตอรี่ 5,000mAh พร้อมชาร์จไว 33W SUPERVOOC ได้ลำโพงสเตอริโอแบบ Ultra-Linear และที่สำคัญยังมาพร้อมความจุ 4GB + 64GB ให้ใช้งานกันอย่างลื่นไหลไม่มีสะดุดอีกด้วย
นอกจากนี้ OPPO A57 4GB+64GB ยังมีดีไซน์ที่สวยเด่นแบบ OPPO Glow Design ตัวจริงสวยแค่ไหน การใช้งานเป็นอย่างไร วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net รีวิวให้ชมแบบเต็ม ๆ ติดตามครับ!
สรุปสเปค OPPO A57 4GB+64GB
- ขนาดตัวเครื่อง : 163.74 × 75.03 × 7.99 มม.
- น้ำหนัก : 187 กรัม
- หน้าจอ : LCD ขนาด 6.56” ความละเอียด HD+ (1612 x 720 พิกเซล)
- refresh rate : 60Hz
- CPU : MediaTek Helio G35 Octa-Core 2.3GHz (12nm)
- GPU : IMG GE8320
- RAM : 4GB (พร้อม RAM Expansion + 4GB)
- ROM : 64GB
- รองรับ micro-SD : สูงสุด 1TB
- แบตเตอรี่ : 5,000mAh
- ระบบชาร์จ : 33W SUPERVOOC
- กล้องหน้า : 8MP f/2.0
- กล้องหลัง : 2 ตัว
- 13MP กล้องหลัก f/2.2
- 2MP กล้อง Depth f/2.4
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.3, ช่องหูฟัง 3.5 มม.และพอร์ต USB Type-C
- ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 12.1 บน Android 12
- สีสัน : สีเขียว Glowing Green, สีดำ Glowing Black
แกะกล่อง OPPO A57 4GB+64GB
ก่อนอื่นเรามาดูอุปกรณ์ที่ให้มาก่อนดีกว่า สำหรับกล่องของ OPPO A57 จะมาในสีฟ้าตัดดำตามสไตล์ OPPO A Series ครับที่ด้านระบุชื่อรุ่นว่า OPPO A57 ชัดเจน และที่มุมซ้ายบนก็จะเป็นความจุ ซึ่งรุ่นที่เราได้มารีวิวเป็นความจุใหม่ 4GB + 64GB ด้วยนะ
เปิดกล่องชั้นออกเราจะเจอกับกล่องสีดำอยู่ที่มีโลโก้ OPPO ภายในเราจะพบกับตัวเครื่องและอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ประกอบไปด้วย 6 อย่างดังนี้ครับ
- ตัวเครื่อง OPPO A57 4GB+64GB
- เคสซิลิโคนใส
- สายชาร์จ USB type-A to type-C
- อะแดปเตอร์ชาร์จไว 33W SUPERVOOC
- เอกสารคู่มือ
- เข็มจิ้มถาดซิม
OPPO Glow Design เปล่งประกาย อย่างโดดเด่น
แกะเช็กอุปกรณ์เรียบร้อย ได้เวลามาชมตัวเครื่องกันแล้วครับ OPPO A57 4GB+64GB มาพร้อมดีไซน์โดดเด่นด้วยฝาหลัง OPPO Glow Design ที่เพิ่มความเปล่งประกายราวกับกลุ่มดาว กาแล็กซี่ เมื่อมีการสะท้อนแสงเราจะเห็นลูกเล่นของความระยิบระยับที่ฝาหลังอย่างชัดเจนครับ
OPPO A57 4GB+64GB มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ Glowing Black และสีเขียว Glowing Green ซึ่งสีที่เราได้มาเป็นสีเขียว Glowing Green ตัวผิวสัมผัสที่ด้านหลังจะเป็นแบบมันวาว แต่ก็มี Texture ซ่อนอยู่ภายในนั้นอย่างที่บอกไปครับ ซึ่งสีนี้จะให้ความสดใสและมีชีวิตชีวา โดดเด่นน่ามอง ส่วนสีดำจะมาในโทนเรียบง่ายผิวสัมผัสเป็นแบบด้านครับ
ดีไซน์ขอบเหลี่ยมสุดคลาสสิก
กรอบตัวเครื่องของ OPPO A57 4GB+64GB จะใช้ดีไซน์แบบขอบเหลี่ยมที่มีความคลาสสิก ด้วยการตัดขอบตัวเครื่องแบบตรงเพื่อลดความกว้างของตัวเครื่องให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งนอกจากจะจับถือได้ง่ายแล้ว ยังมอบรูปลักษณ์ระดับไฮเอนด์อีกด้วย
ในส่วนของขนาดและน้ำหนัก OPPO A57 4GB+64GB ถือว่าทำได้ดีเลย มาพร้อมความบางเพียง 7.99 มม.และเบาแค่ 187 กรัมเท่านั้น ถือใช้งานได้อย่างสบายมือและไม่รู้สึกว่าเทอะทะจนเกินไปครับ
หน้าจอ 6.56″ สีสันเต็มอิ่ม
พลิกกลับมาดูที่ด้านกันบ้าง OPPO A57 4GB+64GB มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ 6.56″ ใช้ดีไซน์แบบ Waterdrop Display หรือรอยบากทรงหยดน้ำ ที่ทำให้เราได้เห็นพื้นที่หน้าจอที่ค่อนข้างเต็ม ความละเอียดที่ให้มาระดับ HD+ (1612 x 720 พิกเซล) ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปรวมถึงดูคอนเทนต์แล้วครับ
อีกทั้งหน้าจอของ OPPO A57 4GB+64GB ยังมีฟีเจอร์ All-day eye care ที่สามารถปรับระดับความสว่างได้ต่ำถึง 2 nits เพื่อการรับชมคอนเทนต์ที่สบายตาในที่มืด และปรับความสว่างให้เข้ากับสภาพแวดล้อมอัตโนมัติ
มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ที่ปุ่ม Power
การวางตำแหน่งปุ่มกดของ OPPO A57 4GB+64GB ก็ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานของ OPPO ครับมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอยู่ที่ฝั่งซ้ายมือและปุ่ม Power อยู่ที่ฝั่งขวา ซึ่งที่ปุ่ม Power นี้จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้วย ให้เราใช้งานได้สะดวก แตะสแกนได้ทันที
ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อก็จะวางไว้ที่ด้านล่างตัวเครื่องครับ มีพอร์ตหลักเป็น USB-C และช่องหูฟัง 3.5 มม. ก็มีมาให้ด้วย ข้าง ๆ ก็จะเป็นไมโครโฟนสนทนา และลำโพงหลักของตัวเครื่องครับ
ลำโพงสเตอริโอแบบ Ultra-Linear ด้วยนะ
ซึ่งตัวลำโพงหลักของตัวเครื่องนี้ก็ใช้งานคู่กับลำโพงสนทนาเหนือหน้าจอเพื่อใช้งานเป็นลำโพง Stereo ได้ด้วย โดยตัวลำโพงเป็นแบบ Ultra-Linear ด้วย ให้มิติเสียงออก 2 ทิศทาง ถือเป็นอีกจุดเด่นที่น้อยรุ่นนักจะให้มาในกลุ่มราคานี้เลยก็ว่าได้ครับ
ถาดซิมแบบ Triple Slot เพิ่ม micro-SD ได้สูงสุด 1TB
ส่วนถาดซิมของ OPPO A57 4GB+64GB จะอยู่ที่ฝั่งซ้ายมือเหนือปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ตัวถาดเป็นแบบ Triple-Slot ด้วย หมายความว่าเราสามารถใส่ได้ 2 ซิมพร้อมกับเพิ่ม micro-SD โดยที่ไม่ต้องสละช่องใดออกไป และตัว micro-SD ก็รองรับสูงสุดถึง 1TB เลยด้วย ถ้าความจุในเครื่อง 64GB ไม่พอก็เพิ่มได้เต็มที่ครับ
มีมาตรฐานกันฝุ่นกันน้ำที่ IP54 ด้วยนะ
นอกจากดีไซน์จะสวยและความทนทาน OPPO A57 4GB+64GB ก็ไม่น้อยหน้า เพราะผ่านการทดสอบมามากมาย รวมถึงมาตรฐานกันฝุ่นกันน้ำที่ IP54 ด้วย ทำให้ตัวเครื่องสามารถทนทานฝนหรือละอองน้ำที่กระเด็นมาโดนได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเสียเอาง่าย ๆ ครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ OPPO A57 4GB+64GB ก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียวครับ ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องกรอบเหลี่ยมสุดคลาสสิก แต่ก็มีเพิ่มลูกเล่นของความเปล่งประกายที่ฝาหลังแบบ OPPO Glow Design เข้าไป แถมสีสันอย่าง Glowing Green ก็ได้ความสดใสและมีชีวิตชีวาอย่างมากทีเดียว เป็นสมาร์ทโฟนราคาเบา ๆ ที่ออกแบบได้สวยเกินคาด!
ประสิทธิภาพทรงพลัง
มาต่อกันในเรื่องประสิทธิภาพ OPPO A57 4GB+64GB มาพร้อมกับชิปเซ็ต MediaTek Helio G35 ที่มาพร้อมการออกแบบ 12nm ใช้งานได้กำลังดี ในเรื่องความลื่นไหลที่ร่วมกับ ColorOS 12.1 ก็ช่วยให้ตอบสนองได้ลื่นไหลครับ
ROM และ RAM ขนาดใหญ่
ส่วนเรื่องความจุภายใน รุ่นนี้เราได้มารีวิวก็คือรุ่น 4GB + 64GB ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป รวมถึงการเก็บไฟล์ได้เป็นอย่างดีครับ แต่ถ้าไม่พอจริง ๆ ก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะอย่างที่บอกว่ารุ่นนี้สามารถเพิ่ม micro-SD ได้สูงสุดถึง 1TB กันเลย ทีนี้จะเก็บรูป เก็บเพลง หรือไฟล์อะไรก็ไม่ต้องห่วงว่าจะเต็มได้ง่าย ๆ แล้วครับ
มี RAM Expansion เพิ่มได้สูงสุดอีก 4GB
แม้ RAM ที่ให้มาในตัวเครื่องจะมี 4GB แต่ด้วยฟีเจอร์ RAM Expansion ของ OPPO เราสามารถขยายเพิ่มได้สูงสุดอีก 4GB ทำให้ การทำงานนั้นราบรื่นขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสลับแอปไป-มา หรือทำงานไปพร้อม ๆ กันในหลายแอปก็ยังไหวครับ
แบตเตอรี่ที่ทนทาน 5,000mAh ใช้งานได้ยาวนาน
อีกเรื่องที่ทำให้ OPPO A57 4GB+64GB เป็นสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพทรงพลังก็คือแบตเตอรี่ครับ รุ่นนี้ให้มามากถึง 5,000mAh ช่วยให้เราใช้งานหนัก ๆ ได้ทั้งวันแบบไม่ต้องกังวล หรือถ้าใช้งานทั่วไปก็ลากยาวไปถึง 2 วันได้สบายครับ ด้วยแบตฯระดับนี้
รองรับชาร์จไว 33W SUPERVOOC
นอกจากแบตฯจะอึดมากแล้ว ในเรื่องระบบชาร์จก็หายห่วงครับ เพราะ OPPO A57 4GB+64GB มาพร้อมระบบชาร์จไว 33W SUPERVOOC ที่สามารถชาร์จแบตฯ 5,000mAh ได้เต็มในเวลาเพียง 71 นาที หรือถ้าต้องการใช้งานแบบด่วน ๆ ทาง OPPO ยังเคลมอีกว่าชาร์จเพียง 10 นาที ก็สามารถดู YouTube ได้อีก 2.87 ชม.กันเลย ไวมากกก!
ทดสอบคะแนนโดย Benchmark กันหน่อย
เห็นสเปคโดยรวมของ รีวิว OPPO A57 ไปแล้ว ถ้าจะให้เห็นประสิทธิภาพว่ารุ่นนี้อยู่ในกลุ่มไหน คงต้องมาทดสอบผ่านแอป Benchmark กันหน่อย ว่าคะแนนออกมาประมาณเท่าไหร่ ซึ่งเราลองทดสอบผ่าน AnTuTu Benchmark ก็ออกมาที่ 115469 คะแนน
และทางฝั่ง Geekbench 5 ก็ได้คะแนน Single-Core ไปที่ 166 คะแนน และ Multi-Core ไปที่ 970 คะแนน พอเห็นกันแล้วว่ารุ่นนี้อยู่ในระดับเริ่มต้น ที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
เล่นเกมหน่อยดีกว่า
ด้วยสเปคระดับนี้หลายคนคงอยากรู้ว่าถ้าทำมาเล่นเกมฮิตจริง ๆ จะได้ประมาณไหน เราทดสอบให้ผ่าน 2 เกมอย่าง Asphalt 9 และ PUBG ครับ โดย OPPO A57 4GB+64GB จะมีฟีเจอร์ Games ที่ช่วยจัดการระบบให้พร้อมกับการเล่นเกม รวมถึงจัดการแจ้งเตือนด้วย ซึ่งในนี้จะมี Performance Settings ให้เราเลือกปรับ เราก็จัดไปที่โหมด Pro Gamer เลยเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของเครื่องครับ
เล่น Asphalt 9 บน OPPO A57
สำหรับ Asphalt 9 เราก็สามารถปรับระดับกราฟิกไปที่ High Quality หรือสูงสุดได้ เท่าที่เราลองเล่นดูก็ถือว่าทำได้ดีครับเฟรมเรตในเกมจะอยู่ที่ 25 – 30fps ถือว่าเล่นได้อยู่ครับ กราฟิกในเกมก็สวยเลย แถมอยู่บนหน้าจอที่ใหญ่ระดับนี้ก็โอเค
เล่น PUBG บน OPPO A57
มาที่ PUBG เราจะสามารถเลือกระดับกราฟิกสูงสุดได้ที่ Balanced กับเฟรมเรตที่ Medium เท่าที่เราลองเล่นเฟรมเรตในเกมจะอยู่ที่ 19 – 25fps ซึ่งถือว่าเล่นได้อยู่ แต่ถ้าอยากได้ลื่นขึ้นอีกหน่อยก็ปรับกราฟิกไปที่ Smooth จะโอเคขึ้นครับ แต่จุดที่เราชอบจริง ๆ คงเป็นลำโพง Stereo ของ OPPO A57 4GB+64GB ให้เสียงบอกทิศทางได้ดี ยิ่งเป็นเกมแนว Battle Royale แบบนี้ก็ช่วยให้เล่นได้สนุกยิ่งขึ้นเยอะ
โดยรวมในเรื่องประสิทธิภาพก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียวครับ ในเรื่องการทำงานทั่วไปด้วยระบบที่จัดการได้ดีก็มอบความลื่นไหลให้ในระดับที่ดี หรือจะเป็นการทำงานหนักอย่างการเล่นเกม ก็ใช้ได้ เรื่องความจุก็ให้มา 4GB + 64GB เพียงพออยู่อีกทั้งยังขยาย RAM เพิ่มได้อีก 4GB อันนี้ช่วยให้ลื่นไหลขึ้นได้จริง และที่ขาดไม่ได้เลยคงเป็นเรื่องของแบตเตอรี่ที่จุสูงถึง 5,000mAh และยังมีชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC มาอีก ตอบโจทย์สายใช้งานหนัก ๆ มากครับ
ระบบกล้องประสิทธิภาพ ถ่ายภาพระดับ HD
และเรื่องกล้อง OPPO A57 4GB+64GB ก็ไม่ธรรมดาให้กล้องหลังคู่แบ่งเป็น
- กล้องหลัก 13MP f/2.2
- กล้อง Depth 2MP f/2.4
- รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุด 1080p
- กล้องหน้า 8MP f/2.0
- รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุด 1080p
สำหรับฟีเจอร์การใช้งานก็มี Auto HDR มาให้ รวมถึง Dazzle Color ที่ช่วยเพิ่มความสดใสของภาพถ่ายให้ใช้งานด้วย หรือจะเป็นโหมดมาตรฐานทั่วไปทั้ง Portrait, Nightscape mode ที่มีลูกเล่นฟิลเตอร์ให้ปรับแต่งเพิ่มความสวยสดของภาพกลางคืนก็มีให้ด้วยครับ และนี่คือตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ OPPO A57 4GB+64GB ครับ
กล้องหน้า 8MP มี AI Portrait Retouching ด้วย
ส่วนกล้องหน้า OPPO A57 4GB+64GB ก็ให้มา 8MP อย่างที่บอกไป มีฟีเจอร์ AI Portrait Retouching ที่จะคอยปรับแต่งใบหน้าให้สวยงามและเป็นธรรมชาติด้วย
ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุด ColorOS 12.1
ปิดท้ายที่ระบบปฏิบัติการ รีวิว OPPO A57 มาพร้อม ColorOS 12.1 ที่ครอบทับอยู่บน Android 12 หมายความว่านี่เป็นเวอร์ชั่นบล่าสุดของทาง OPPO แล้วนั่นเองครับ ระบบปฏิบัติการมีความลื่นไหลและการปรับแต่งที่ทำได้หลากหลายมากขึ้น
รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่าง FlexDrop ที่ให้เราเรียกใช้แอปในหน้าต่างขนาดเล็กที่เคลื่อนย้ายได้อย่างยืดหยุ่น หรือจะเป็นการแปลภาษาด้วย 3 นิ้วกับ Google Lens แปลข้อความทั้งหน้าได้อย่างรวดเร็ว เป็นต้น
วางจำหน่ายแล้ว ราคา 6,299 บาท
OPPO A57 รุ่นความจุใหม่ 4GB + 64GB ตอนนี้ก็วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเรียบร้อยเพียง 6,299 บาท มีให้เลือก 2 สีคือ สีเขียว Glowing Green และสีดำ Glowing Black ครับ
สรุปแล้ว “นี่คือสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กที่ครบเครื่องทั้งความจุเยอะ ดีไซน์สวย และประสิทธิภาพทรงพลังในงบไม่ถึง 6,300 บาท”
สรุปแล้ว OPPO A57 4GB+64GB ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนน้องเล็กที่ครบเครื่องในหลาย ๆ ด้านตั้งแต่ประสิทธิภาพที่มีความจุเยอะ 4GB + 64GB พร้อมฟีเจอร์ RAM Expansion อีก 4GB และเพิ่ม micro-SD ได้สูงสุด 1TB แบตเตอรี่ที่มากถึง 5000mAh พร้อมชาร์จไว 33W SUPERVOOC อีกต่างหาก นอกจากนี้ยังได้ดีไซน์ที่สวยงามแบบ OPPO Glow Design ถูกใจวัยรุ่น รันด้วยระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุด Android 12 ที่ครอบทับด้วย Color OS 12.1 อีกต่างหาก เรียกว่าครบเครื่องในงบไม่ถึง 6,300 บาทจริง ๆ ครับ ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กที่ได้ครบตั้งแต่ดีไซน์สวย ๆ ฟีเจอร์ใช้งานได้จริง ก็ลองมองมาที่ OPPO A57 ได้เลยครับ
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3xDL7ul
จุดเด่น
- ดีไซน์สวย OPPO Glow Design
- ความจุเยอะ 4GB + 64GB พร้อม RAM Expansion สูงสุด 4GB
- แบตเตอรี่ 5,000mAh ใช้งานได้อย่างยาวนาน
- รองรับชาร์จไว 33W SUPERVOOC
- ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย ColorOS 12.1
จุดสังเกต
- หน้าจอความละเอียด HD+ และมี refresh rate 60Hz