Featured
รีวิว OPPO A58 เต็มพิกัด ทุกความบันเทิง จัดเต็ม RAM 6GB+6GB ชาร์จไว 33W SUPERVOOC l ลำโพงสเตอริโอคู่ l จอใหญ่ 6.72”
รีวิว OPPO A58 สมาร์ทโฟน “เต็มพิกัด ทุกความบันเทิง” ที่ให้เราได้ใช้งานอย่างสนุกทุกการเคลื่อนไหว ตั้งแต่การได้ RAM 6GB + 6GB, เทคโนโลยีชาร์จไว 33W SUPERVOOC ผ่านแบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมด้วยหน้าจอแสดงผล Sunlight สู้แสงได้สบายๆ แม้ใช้กลางแจ้ง ขนาดใหญ่ 6.72” แบบเต็มตา และมีประสิทธิภาพระดับสูงด้วยขุมพลัง Helio G85
สรุปสเปค OPPO A58
- ขนาดตัวเครื่อง : 165.65 × 75.98 × 7.99 มม.
- น้ำหนัก : 192 กรัม
- หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 6.72 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 × 1080 พิกเซล), 391 PPI รองรับ Touch Sampling Rate 180Hz, 100% DCI-P3, 100% sRGB และความสว่างสูงสุด 680 นิต
- หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio G85
- RAM : 6GB LPDDR4X
- ROM : 128GB eMMC 5.1 รองรับการใส่ MicroSD สูงสุด 1TB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย ColorOS 13.1
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5 (802.11ac), Bluetooth 5.3, NFC, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh ชาร์จไว 33W SUPERVOOC
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
แกะกล่อง OPPO A58
หน้ากล่องของ OPPO A58 มีชื่อรุ่นระบุอย่างชัดเจนทั้งส่วนบนตัวกล่อง และตรงด้านล่างหน้ากล่องที่ชื่อ “58” ใหญ่ๆ ครับ ขณะที่ฝั่งด้านขวาตัวกล่องจะมีสเปคชูโรงระบุอย่างชัดเจนให้ทราบกันก่อนครับ
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องของ OPPO A58 ก็ให้มากันครบถ้วน ตั้งแต่ตัวเครื่อง OPPO A58 ที่ติดฟิล์มกันรอยมาให้เรียบร้อย, หัวชาร์จ 33W SUPERVOOC, สาย USB Type-C, เข็มปิดถาดซิม, เคสใส และคู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
OPPO A58 แกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดของแบรนด์อย่าง Android 13 พร้อมครอบทับด้วย UI เวอร์ชัน ColorOS 13.1 ซึ่งมาพร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ ให้ใช้งานกันครบถ้วน รวมถึงประสิทธิภาพการทำงานก็ไหลลื่นเลยครับ
มาพร้อมการสแกนลายนิ้วมือด้านข้างเพิ่มคาวมสะดวก !
ในรุ่นนี้มาพร้อมการสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่องที่เพื่อคาวมสะดวกในการใช้งานมากๆ ทั้งยังสแกนได้เร็ว เสถียร และแม่นยำมากๆ ซึ่งสามารถจดจำลายนิ้วมือได้ถึง 5 แบบครับ
ส่วนการสแกนใบหน้าก็ยังคงมีมาให้ตามมาตรฐานทั่วไปครับ
ลำโพงสเตอริโอดังขึ้นสูงสุด 300% Ultra Volume
อีกเทคโนโลยีชูโรงที่ OPPO A58 จัดมาให้จะเป็นลำโพงสเตอริโอที่มีความกระหึ่มมากๆ จากปกติที่เร่งได้เพียง 100% แต่รุ่นนี้จัดมาให้ถึง 300% เมื่อใช้งานแบบลำโพงเพียวๆ เพิ่มความดังในตอนที่เราต้องการใช้ในที่ที่มีเสียงรบกวนเยอะครับ
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ขุมพลัง Helio G85 พร้อมรองรับ RAM Expansion
OPPO A58 ใช้หน่วยประมวลผล MediaTek Helio G85 Octa-core ในการขับเคลื่อน ซึ่งชิปตัวนี้มีความเร็ว Clock สูงสุดที่ 2.0GHz ควบคู่กับ GPU Mali G52 MC2 พร้อมเทคโนโลยี HyperEngine ที่เร่งประสิทธิภาพให้ตัวเครื่องเล่นเกมได้อย่างไหลลื่นเป็นพิเศษกว่าเดิม
รองรับ RAM Expansion เพิ่มได้อีก 6GB
RAM จริงๆ ที่รุ่นนี้ให้มาจะอยู่ที่ 6GB ซึ่งจริงๆ แล้วก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปอย่างเปิดเล่นโซเซียลหรือเล่นเกมทั่วไปในระดับภาพปกติได้ แต่ก็ยังมาพร้อมเทคโนโลยี RAM Expansion ที่เป็นการเพิ่ม visual RAM ได้อีก 6GB รวมเป็น 12GB ที่เพิ่มความไหลลื่นขึ้นไปอีกขั้นครับ
ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.0.4-OB4 ได้มาที่ 279,841 คะแนน
ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 433 คะแนน และ Multi-Core ที่ 1,456 คะแนน
ทดสอบการเล่นเกม
ROV
มาเปิดกันด้วยเกม ROV เราสามารถเปิดภาพได้ในระดับสูง (ยังไม่สูงมาก) และเฟรมเรทสูงครับ พอเล่นในเกมจริงๆ ก็ทำได้เยี่ยมมาก เล่นไม่มีอาการงอแงหรือกระตุกอะไร แถมเฟรมเรทก็นิ่งมากครับ
MapleStory R: Evolution
มาต่อกันด้วยเกมใหม่บนมือถอือย่าง MapleStory R กันครับ โดยที่เกมนี้สามารถเปิดภาพสูงสุดที่คมชัดได้สบายๆ เล่นได้ไหลลื่น ไม่มีอาการเฟรมดรอปเลยเวลามีเอฟเฟ็กต์การตีขึ้นมาครับ
PUBG Mobile
และท้ายสุดกับเกม PUBG Mobile สามารถเล่นได้สบายๆ ด้วยการปรับภาพได้ที่ระดับ HD และเฟรมเรทสูงครับ หน้าจอตอบสนองได้ไว ไม่ดีเลย์ และก็ไม่เจอการกระตุกอะไรครับ
พลังแบตเตอรี่ 5000mAh ใช้งานได้จบครบทั้งวัน !
OPPO A58 ให้แบตเตอรี่มาที่ 5000mAh ที่มีความเพียงพอในการใช้งานทั่วไปได้ครบเต็มวันอยู่แล้ว (หากไม่ได้เล่นเกมตลอดเวลา) ซึ่งถ้าใครโทรต่อเนื่องทำได้เกินวันไปถึง 32 ชั่วโมง หรือหากดูวิดีโอผ่านYouTube จะได้นานสุดถึง 16 ชั่วโมง หรือถ้าจะเล่นเกมก็จัดเต็มต่อเนื่อง 5 ชั่วโมงครับ
และเมื่อแบตเตอรี่เหลือมาถึงตอนค่ำๆ ก็ชาร์จ OPPO A58 ได้ด้วยเทคโนโลยีชาร์จเร็วระดับเรือธงแบบ 33W SUPERVOOC ที่ชาร์จได้ถึง 52% ในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้นครับ
กล้องหลังที่เหนือกว่าด้วย 50MP AI CAMERA
มาปิดท้ายกันด้วยเรื่องกล้องกันครับ OPPO A58 มาพร้มกล้องหลังคู่ 50MP + 2MP ที่ใช้งานได้ครบถ้วน และยังโดดเด่นในด้านการถ่ายภาพ Portrait เช่นเคย
กล้องหลังคมชัดสูงสุด 50MP พร้อม AI Auto HDR
เลนส์หลักในรุ่นนี้จัดมาให้เต็มที่ที่ความละเอียดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล ช่วยให้ถ่ายภาพได้ความละเอียด 8160 x 6144 พิกเซล สามารถนำไปครอปภาพเพื่อจัดองค์ประกอบใหม่ หรือจะซูมภาพเพื่อให้เห็นรายละเอียดเล็กๆ ก็ได้เหมือนกันครับ
ขณะที่ในโหมดถ่ายภาพปกติ ก็มาพร้อม AI Auto HDR สามารถถ่ายย้อนแสงได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวกับสมาร์ทโฟนราคาระดับเดียวกัน สีสันมีการเพิ่มค่าความอิ่มสีมากขึ้นแต่ก็ไม่ได้จัดจนดูแสบตาเกินไป อยู่ในระดับที่พอดีมากๆ และไม่ต้องมาปรับอะไรเพิ่มเติม
ชูโรงการถ่ายภาพบุคคลด้วย AI Portrait Retouching
ในโหมดภาพบุคคลก็ยังคงเป็นจุดเด่นในทุกรุ่นของ OPPO เช่นเคย และแม้ว่า OPPO A58 จะเป็นรุ่นกลาง แต่ก็ยังถ่ายภาพบุคคลได้สวย เบลอหลังได้เนียนๆ ไม่มีรอยแหว่งรอบตัวบุคคล ถือว่ามาเป๊ะมากๆ ครับ แต่ก็แอบเสียดายเล็กๆ ตรงที่กล้องหลังไม่สามารถปรับบิวตี้ในโหมดภาพบุคคลได้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่จะไม่สามารถปรับบิวตี้ได้ แต่ก็ยังฉลาดด้วยการมี AI Dermabration ที่ AI สามารถจดจำริ้วรอย สิว หรือจุดด่างดำบนใบหน้า และทำการเบลอให้อัตโนมัติครับ
Night Mode ยังใช้งานได้อย่างสวยงามในที่แสงน้อย
OPPO A58 ที่แม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนตัวกลาง แต่ก็ยังให้เราถ่ายภาพได้ครบทุกสภาวะแสง ซึ่งในช่วงกลางคืนหรือที่แสงน้อยมากๆ (ที่ยังต้องมีแสงจากรอบข้าง) รุ่นนี้ก็ยังทำได้ดี เก็บรายละเอียดส่วนที่มืด เพิ่มความสว่าง และลด Noise ได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว และใช้เวลาประมวลผลต่อภาพประมาณ 3 วินาทีเท่านั้นครับ ทั้งนี้ ในโหมดนี้ก็ยังรองรับ Nightt Filter เพื่อเพิ่มลูกเล่นของโหมดนี้เข้าไปอีก โดยจะมีทั้งหมด 6 แบบ ได้แก่ คอนโมโพลิแทน,จักรวาล, พิศวง, สีทองทันสมัย, ไซเบอร์พังก์ และฟลามิงโก
เซลฟี่ยังทำได้สวยงามเป็นธรรมชาติ
อีกจุดเด่นของ OPPO คือการถ่ายภาพเซลฟี่นั่นเองครับ โดยสามารถปรับได้ทั้งการเบลอฉากหลัง และการปรับบิวตี้ด้วย AI ได้ตั้งแต่ 1% -100% ครับ ซึ่งความโดดเด่นตามสไตล์ของ OPPO ก็ยังมาเต็มด้วยความสดใสบนใบหน้า จับได้ชัด ไม่เบลอหรือหลุดโฟกัสครับ
ดีไซน์สวยสะดุดตาด้วยกระบวนการ OPPO Glow
มาปิดท้ายกันด้วย ดีไซน์ของ OPPO A58 ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยสะดุดตาตามสไตล์ของ OPPO A Series ในยุคหลังๆ ที่ทำได้งดงามมากขึ้นด้วยพื้นผิวฝาหลังแบบด้าน ติดรอยนิ้วมือได้ยากมากๆ พร้อมกับลวดลายที่มีมิติมากกว่าเดิมครับ
โดยในรุ่นนี้มาด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีดำ Glowing Black ที่เราได้มาในรีวิวนี้ครับ โดยเราจะได้เอฟเฟ็กต์แบบ OPPO Glow ที่ได้ความระยินระยับของฝาหลังคล้ายกับดวงดวงบนอวกาศที่เต็มท้องฟ้า ให้ความเรียบง่าย คลาสสิก แต่ดูหรูหรา
ขณะที่อีกสีจะเป็นสีเขียว Dazzling Green ที่ถูกสร้างสีสันขึ้นมาจาก OPPO Glow ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Glowing Silk Design ที่นำพื้นผิวฝาหลังให้เหมือนผ้าไหมมาสู่ฝาหลัง ซึ่งในสีเขียว Dazzling Green จะให้ความมีชีวิตชีวาที่มากขึ้นครับ
ชูโรงด้วยดีไซน์ที่เบาเฉียบ
OPPO A58 ได้ขนาดตัวเครื่องที่มีความบางอยู่ที่ 7.99 มม. ซึ่งเป็นขนาดที่บางมากๆ ใน OPPO A Series และแน่นอนว่าผู้หญิงมือเล็กๆ ก็สามารถถือใช้งานได้อย่างถนัดและไม่ต้องกลัวหลุดมือแน่นอนครับ
ขณะที่เรื่องน้ำหนักก็อยู่ที่ 192 กรัมเท่านั้น โดยเป็นน้ำหนักที่กำลังพอเหมาะ ถือใช้งานนานๆ ไม่ได้เมื่อยมือและก็ไม่ได้เบาจนเกินไปครับ
พร้อมใช้ทุกสถานการณ์ด้วยมาตรฐาน IP54
งานประกอบของ OPPO A58 ก็ทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยการรองรับมาตรฐาน IP54 ที่ช่วยป้องกันละอองน้ำและฝุ่นได้เป็นอย่างดี ไร้กังวลแน่นอน ซึ่งเหมาะมากสำหรับคนที่กังวลในการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ ที่พร้อมตลอดเวลาครับ
หน้าจอสดใสพร้อมขนาดใหญ่เต็มตา 6.72″
OPPO A58 จัดหน้าจอแสดงผลพาเนล LCD (LTPS) ขนาด 6.72 นิ้วมาให้ ซึ่งเป็นขนาดที่ใช้งานได้ใหญ่และเต็มตามากๆ โดยที่ขอบหน้าจอก็ไม่ได้หนาจนรบกวนสายตามาเกินไปด้วยครับ
ในเรื่องความละเอียดหน้าจอจะให้มาแบบ Full HD+ (2400 × 1080 พิกเซล) มีความหนาแน่นพิกเซลอยู่ที่ 391 PPI โดยยังรองรับความไหลลื่นในการสัมผัสหน้าจอ Touch Sampling Rate 180Hz รวมไปถึงการได้ค่ามาตรฐานสี 100% DCI-P3 และ 100% sRGB ที่ได้สีสันหน้าจอสดใสสุดๆ
ส่วนการใช้งานที่กลางแจ้งก็จะได้ความสว่างสูงสุดในโหมด Sunlight Display ถึง 680 นิตที่ช่วยให้เราใช้งานหน้าจอได้ชัดเจนเหมือนเดิมครับ
พาชมรอบเครื่อง
มาดูกันที่ฝั่งด้านหน้ากันบ้างครับ โดยที่เหนือหน้าจอจะได้กล้องหน้าแบบ Punch Hole ตรงกลางมาให้ พร้อมด้วยลำโพงสเตอริโอตัวแรกที่ด้านบน
ทางฝั่งซ้ายตัวเครื่องจะมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง พร้อมกับช่องที่ 3 ให้ใส่ MicroSD Card สูงสุด 1TB แยกออกไปอีกช่องครับ
ส่วนทางขวาจะได้ปุ่ม Power ที่ผสานระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ พร้อมด้วยปุ่มเพิ่มและลดเสียงครับ
ทางด้านล่างจะยังคงมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. มาให้ ตามด้วยไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงสเตอริโอตัวที่ 2
ท้ายสุดที่ด้านหลังจะมีดีไซน์แบบ OPPO Glow มีโมดูลกล้องหลัง 2 วง วงแรกเป็นเลนส์หลัก 50MP ส่วนวงที่ 2 เป็นเลนส์ถ่ายภาพบุคคลพร้อมไฟแฟลช LED 1 ดวงที่อยู่ด้วยกัน โดยที่ OPPO ยังทำแถบมันเงาตัดกับฝาหลังส่วนอื่นและสลักตัวอักษรไว้ว่า “INNOVATIVE AI CAMERA”
สรุปการใช้งาน OPPO A58
OPPO A58 จัดเป็นสมาร์ทโฟนที่ทำได้ตามสโกแกนมากๆ “เต็มพิกัด ทุกความบันเทิง” ที่จัดเต็มมาให้ใช้งานตั้งแต่การได้หน้าจอใหญ่ 6.72 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ สู้แสงด้วย Sunlight Display สีสันหน้าจอถือว่าใช้งานได้ยอดเยี่ยมกับราคาระดับนี้ครับ รวมถึงการได้ชิปเซ็ต Helio G85 ช่วยให้ใช้งานได้เร็วแรง ควบคู่กับการได้ RAM 6GB เพิ่มหน่วยความจำได้อีก 6GB และ ROM ใหญ่ 128GB เก็บสิ่งต่างๆ ไม่ได้ไม่ต้องกลัวเต็มครับ
ทั้งนี้ สิ่งที่รุ่นนี้ให้มาแบบเกินราคาจริงๆ เลยคือชาร์จไว 33W SUPERVOOC พร้อมแบตเตอรี่ใหญ่ 5000mAh แถมยังได้ลำโพงสเตอริโอคู่ พร้อมโหมด Ultra Volume ช่วยเพิ่มระดับเสียงขึ้นถึง 300%
ราคาและวันวางจำหน่าย OPPO A58
OPPO A58 วางจำหน่ายในราคา 6,299 บาท โดยเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ