Featured
รีวิว OPPO A73 สมาร์ทโฟนจัดเต็มทุกความบันเทิง จอใหญ่ 6.44 นิ้ว ดีไซน์พรีเมี่ยม, เบาบาง พร้อม 30W VOOC 4.0 ในราคา 6,999 บาท
OPPO A73 สมาร์ทโฟนเติมเต็มด้านความบันเทิง Activate the moment มาพร้อมหน้าจอ Ultra HD Display ขนาด 6.44 นิ้ว, กล้องหลัง 4 เลนส์ ฟีเจอร์ครบครัน ใช้งานได้ไหลลื่นผ่านหน่วยประมวลผล Snapdragon 662 Octa-Core ควบคู่ RAM 6GB พร้อมเก็บรูปภาพหรือวิดีโอต่างๆ เพื่อความบันเทิงได้ไม่ต้องกลัวเต็มด้วยความจุถึง 128GB พร้อมชาร์จเร็ว 30W VOOC Flash Charge 4.0
สรุปสเปค OPPO A73
- ขนาดตัวเครื่อง : 159.8 x 72.9 x 7.45 มม.
- น้ำหนัก : 163 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Ultra HD Display ชนิด AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล), 408 PPI, อัตราส่วน 20:9, อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่ 90.7% และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3
- หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 662 Octa Core
- RAM : 6GB
- ROM : 128GB
- กล้องถ่ายรูปหลัง 4 เลนส์แบบ แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Ultra Wide Angle มุมกว้าง 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Monochrome ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- เลนส์ Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้าเลนส์หลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย ColorOS 7.2
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0 และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 4015mAh รองรับ 30W VOOC Flash Charge 4.0
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเครื่อง OPPO A73 พร้อมติดฟิล์มกันรอย
- สาย USB Type-C
- อะแดปเตอร์ 30W VOOC 4.0
- อุปกรณ์เปิดถาดซิม
- เคสใส
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ดีไซน์สุดบาง พร้อมวัสดุและดีไซน์สุดพรีเมี่ยม
ความพิเศษของ OPPO A73 อยู่ที่ดีไซน์ OPPO A73 ด้วยวัสดุที่ใช้คล้ายกับหนังที่ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมมากๆ ไม่มีการติดรอยนิ้วมือแน่นอน จับถือได้สบายไม่ลื่นมือ ที่สำคัญ เมื่อมองลึกเข้าไปที่ตัวฝาหลังจะมีรอยขรุขระที่ทำให้ความคล้ายวัสดุหนังกลายเป็นเหมือนหนังเลยทีเดียว
ขณะที่ตัวขอบจะเป็นขอบแบนเพื่อความสะดวกในการถือมากขึ้น ทั้งนี้ ตัวเครื่องด้านหลังเป็นแบบ 2.5D ที่มีความโค้งเล็กน้อย ทำให้ใช้งานได้ไม่บาดมือและใช้งานได้นาน
โดยสีสันที่เราได้แบบจัดจ้านเป็นสีส้ม Dynamic Orange ขณะที่อีกสีที่มีให้เลือกเป็นสีน้ำเงิน Navy Blue
หน้าจอของ OPPO A73 ชูโรงด้านความสวยงามแบบ Ultra HD Display พาเนล AMOLED ในขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ มีความคมชัดตามมาตรฐาน พร้อมอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 90.7% และอัตราส่วน 20:9 เพื่อการรับชมได้เต็มตา
ความพิเศษของหน้าจอ OPPO A73 ยังมีเทคโนโลยี Sunlight Screen ที่ปรับความสว่างอัตโนมัติเมื่ออยู่ในที่แสงจ้า เพื่อให้เราเห็นสิ่งที่อยู่ในหน้าจอได้ชัดเจน รวมถึง Moonlight Screen ที่จะลดแสงสว่างระหว่าง 2 – 10 นิต พร้อมกรองแสงสีฟ้าเพื่อปกป้องดวงตาของเราเมื่อใช้ในที่แสงน้อย
เหนือหน้าจอแสดงผลมีกล้องหน้าที่ฝังในหยดน้ำ พร้อมด้วยลำโพงสนทนาที่ด้านบนตรงกลางครับ
ซ้ายตัวเครื่องมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง และ MicroSD Card อีก 1 ช่อง พร้อมด้วยปุ่มเพิ่มและลดเสียง
ฝั่งขวามีเพียงปุ่ม Power เพียงอย่างเดียว
ด้านบนตัวเครื่องมีเพียงไมโครโฟนตัวที่ 2 เพื่อตัดเสียงรบกวน
ขณะที่ด้านล่างมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ถัดไปทางขวาจะมีไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก
และที่ด้านหลังเครื่องจะมีกล้องหลัง 4 เลนส์จัดเรียงเป็นสี่เหลี่ยมอยู่ในกรอบแบบ 2×2 Array Design แถมมีโลหะรอบนอกเพิ่มความงามขึ้นไปอีกขั้น ถัดออกไปทางขวามีไฟแฟลช LED อยู่
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
OPPO A73 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่ครอบทับด้วย ColorOS 7.2 ที่เป็นรุ่นล่าสุดของแบรนด์ครับ ทำให้ใช้งานได้ไหลลื่นและมีความปลอดภัยสูงที่สุด
หน้าตา UI : ColorOS 7.2
ถนอมสายตาพร้อมโหมดมืด ใช้งานได้แบบสบาตา
OPPO A73 ให้เราได้ใช้งานอย่างสบายตาทั้งตอนกลางวันและกลางคืนครับ โดยเราสามารถเปิดโหมดถนอมสายตาเพื่อตัดแสงสีฟ้าได้ออกไปเยอะพอสมควรครับ
ขณะที่ก็มีโหมดมืดที่ใช้งานได้อีกแบบเพื่อให้พื้นหลังของระบบและแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่รองรับเป็นสีทำทั้งหมดโดยอัตโนมัติครับ
จอ AMOLED ก็ต้องมี Always-on Display
ฟีเจอร์ Always-on Display ก็มีให้ใช้งานเช่นกันครับ โดยจะแสดงสถานะเครื่องคร่าวๆ ได้ทันทีบนหน้าจอล็อกครับ
ระบบความปลอดภัย
OPPO A73 รองรับ In-Display Fingerprint Unlock 3.0 หรือการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้ทันทีเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ซึ่งทดสอบแล้วใช้งานได้รวดเร็วและเสถียรดีเลยทีเดียว แม้ว่ามือจะเปียกอยู่เล็กน้อยก็ยังคงจดลายนิ้วมือได้เช่นกัน
หรือใครจะใช้งานเป็นการสแกนใบหน้าก็ได้เช่นเดียวกัน
ใช้งานสะดวกขึ้นด้วยท่าทางเดินไอคอนลง
OPPO A73 มีหน้าจอที่ใหญ่ อาจทำให้การเอื้อมมือไปกดแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่อยู่ด้านบนทำได้ยากครับ ดังนั้นฟีเจอร์นี้เข้ามาช่วยได้มาก เพียงแค่เราลากขึ้นที่มุมซ้ายล่างหรือขวาล่าง ทำให้แอปต่างๆ รวมมาอยู่ที่หน้าจอย่อทั้งหมดครับ
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
OPPO A73 ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 662 Octa Core ความเร็ว 2.0GHz ควบคู่กับ GPU Adreno 610 และ RAM 6GB + ROM 128GB ทั้งยังมีฟีเจอร์ Hyper Boost 2.1 ช่วยให้แอปพลิเคชั่นและเล่นเกมต่างๆ ได้ไหลลื่นมากขึ้น
ส่วนผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ทำคะแนนฝั่ง Single-Core ไปที่ 311 และคะแนน Multi-Core ที่ 1,370
ปิดการแจ้งเตือนง่ายๆ ด้วย Game Space
แอปพลิเคชั่น Game Space นอกจากจะช่วยให้รวบรวมเกมทั้งหมดไว้ในที่เดียว ทั้งยังปรับโหมดของการเล่นเกมได้ 3 แบบ ได้แก่ โหมดแข่งขัน, โหมดสมดุล และโหมดกำลังไฟต่ำ แถมยังปิดกั้นการแจ้งเตือนต่างๆ ได้สบาย
ทดสอบการเล่นเกม
ROV
สำหรับเกม ROV สามารถเล่นได้แบบสบายๆ ครับ โดยเฟรมเรทนั้นอยู่ที่ประมาณ 59-61fps ตลอดทั้งเกม เล่นได้แบบลื่นๆ ซึ่งการตั้งค่าที่เราเปิดจะเป็นกราฟิกระดับสูงทั้งหมดครับ ยกเว้นการแสดงผลที่เปิดได้ในระดับสูง
PUBG Mobile
สำหรับ PUBG Mobile ก็เล่นได้อย่างไหลลื่นครับ การสัมผัสช่วงการหมุนหน้าจอหรือการเคลื่อนที่ทำได้ดี หรือในช่วงการกดยิงหรือปุ่มต่างๆ ก็มีอาการดีเลย์น้อย ส่วนใครที่เล่น Call of Duty: Mobile ก็เล่นได้แบบไม่มีปัญหาเช่นกันครับ
แบตเตอรี่เยอะพร้อมชาร์จไว 30W VOOC 4.0
OPPO A73 ให้แบตเตอรี่มาถึง 4015mAh ซึ่งจริงๆ สามารถใช้งานได้ทั้งวันถ้าใช้งานทั่วไป ทั้งยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W VOOC 4.0 ซึ่งสามารถชาร์จเต็มเร็วสุดเพียง 55 นาทีเท่านั้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วยเช่นกันครับ
นอกจากนี้ ก็ยังมีฟีเจอร์โหมดประหยัดพลังงานขั้นสุดหรือ Super Power-Saving Mode ที่ใครแบตใกล้หมดจริงๆ ก็พร้อมใช้งานได้นานอยู่รอดจนกลับบ้านแน่นอน โดยเมื่อใช้งานโหมดนี้สามารถสแตนด์บายได้ถึง 17 ชั่วโมง และคุยโทรศัพท์ได้นานสูงสุด 1.58 ชั่วโมง แม้เหลือแบตเตอรี่เพียง 5%
Super Nighttime Standby ก็เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่ช่วยประหยัดพลังงานเมื่อเรานอน ทำให้ระหว่างที่เรานอน แบตเตอรี่จะไม่ลดเยอะเกินไปราวๆ 2%
กล้องถ่ายรูป
สิ่งที่ขาดไปไม่ได้เพื่อให้รุ่นนี้สมบูรณ์คือเรื่องกล้องครับ โดยใช้งานได้อย่างเต็มที่พร้อมความสวยงามทั้งการถ่ายโหมดปกติที่มี AI เข้ามาช่วย, การถ่ายมุมกว้างด้วยเลนส์ Ultra-Wide และ Portrait ที่มี 2 เลนส์พิเศษเข้ามาช่วยอีกแรง
คลิกเดียวก็ถ่ายสวยด้วย AI Dazzle Color
OPPO A73 มาพร้อมกับ AI ที่ช่วยแยกแยะและจดจำหมวดหมู่ของแต่ละวัตถุพร้อมความสามารถในการปรับแสงและสีสันต่างๆ ให้อย่างเหมาะสมครับ เช่น อาหาร, ท้องฟ้า หรือสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
Ultra-Wide Angle ถ่ายได้กว้างสุด 119 องศา
ในรุ่นนี้ตัดเลนส์ Ultra-Wide Angle มาให้เต็มๆ ถึง 119 องศา ทำให้ได้มุมมองที่ครบ แถมภาพที่ได้ให้ความสดใสไม่ต่างจากเลนส์หลัก ทั้งยังรองรับ HDR ที่ถ่ายย้อนแสงได้อย่างสวยงามอีกต่างหาก
เลนส์หลัก / เลนส์ Ultra-Wide Angle
กลางคืนก็จัดเต็มด้วย Night Mode
มีมาให้เช่นเดียวกันสำหรับโหมดการถ่ายภาพกลางคืนที่ OPPO A73 ทำได้เป็นอย่างดีครับ เห็นรายละเอียดของภาพรวมถึงสีสันต่างๆ ในช่วงแสงน้อยได้ชัดเจน มี Noise น้อยลงกว่าเดิม และระยะเวลาในการประมวลผลก็รอไม่นานเลยด้วย
Portrait เนียนๆ พร้อมเลนส์พิเศษเพิ่มมิติการถ่ายภาพ
OPPO นี่นชูจุดเด่นในเรื่องของการถ่าย Portrait มาทุกรุ่น รวมถึงรุ่นนี้ที่ทำออกมาได้ดี ตัดขอบได้เนียนมากๆ ทั้งบริเวณรอบตัวบุคคลหรือกระทั่งเส้นผมก็ไม่มีการเบลอหายไป ซึ่งโหมดนี้ก็ใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังครับ
กล้องหลัง
กล้องหน้า
ส่วนฟิลเตอร์ที่เป็นอีก 2 เลนส์ของ OPPO A73 จะเป็นเลนส์ Mono ที่อยู่ในฟิลเตอร์ O6 ที่ให้ความย้อนยุคเบาๆ ทำให้ภาพออกมาได้หลายอารมณ์ และเลนส์ Mono ที่เป็นฟิลเตอร์ O7 มาพร้อมความสีขาว-ดำที่ให้ลูกเล่นให้เราได้ลองถ่ายกันเยอะสมควรครับ
ฟิลเตอร์ O6
ฟิลเตอร์ O7
ถ่ายเซลฟี่สวยงาม AI Beautification 2.0
กล้องหน้าของรุ่นนี้มาพร้อมความอัจฉริยะด้วย AI Beautification 2.0 ที่สามารถปรับสีผิวและความสวยงามบนใบหน้าได้อัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมครับ ซึ่งเราเห็นความเป็นธรรมชาติและการที่แต่งจนไม่เกินเบอร์จนเกินไป
เซลฟี่กลางคืนก็สวยด้วย Front Night Mode
ในโหมดกลางคืนรุ่นนี้ก็เรียกว่าทำออกมาได้สวยงามมากๆ ครับ สามารถเร่งแสงและความคมชัดในช่วงที่ถ่ายในที่แสงน้อยหรือตอนกลางคืนออกมาได้เป็นอย่างดี และ Noise ในภาพก็แทบไม่มีให้เห็นด้วย
โหมดปกติ / Front Night Mode
สรุปจุดเด่น
- ดีไซน์พรีเมียมด้วยวัสดุคล้ายหนัง น้ำหนักเบาและมีความบาง ทำให้ใช้งานได้สุดสะดวกสบาย
- หน้าจอแสดงผลสวยจัดเต็มชนิด OLED ขนาด 6.44 นิ้ว คมชัดระดับ Ultra HD Display
- จัดหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 662 ใช้งานได้ไหลลื่นทั้งเล่นเกมหรือใช้งานทั่วไป
- รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 30W VOOC Flash Charge ชาร์จเต็มใน 55 นาที
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมฟีเจอร์ Super Power Saving ใช้งานได้นานแม้แบตเหลือน้อย
- กล้องหลัง 4 เลนส์ รองรับทุกฟีเจอร์ทั้งเลนส์หลัก, Ultra-Wide Angle และเลนส์สำหรับ Portrait อีก 2 เลนส์
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ตัวเครื่องไม่กันน้ำ
– ราคา 6,999 บาท พร้อมรับส่วนลดทันที 500 บาท, E-VIP Card ประกันหน้าจอแตก 1 ปี มูลค่า 3,000 บาท
– ของสมนาคุณ เมื่อซื้อที่ Lazada, Shopee, JD Central และ Thisshop หรือ สามารถซื้อแพ็คคู่พร้อมกับ OPPO Enco W11 ได้ในราคาพิเศษ 7,998 บาท จากราคาปกติ 8,298 บาท ที่ OPPO Online Official ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563
– หรือสามารถเป็นเจ้าของในราคาเริ่มต้นเพียง 2,690 บาท เมื่อซื้อที่ผู้ให้บริการเครือข่าย ดีแทค ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมของแต่ละช่องทางได้ที่
- Lazada: https://bit.ly/34jCPct
- Shopee: https://bit.ly/3m4s6si
- JD Central: https://bit.ly/34CoJTs
- Thisshop: https://bit.ly/2HuBfeY
- ดีแทค: https://bit.ly/327kFJo
- OPPO Online Official: https://bit.ly/2HluuMw