Smart Review
รีวิว OPPO Band 2 สมาร์ตแบนด์ดีไซน์เทรนดี้ ผู้ช่วยออกกำลังกายระดับมืออาชีพ
รีวิว OPPO Band 2 สมาร์ตแบนด์รุ่นล่าสุดจาก OPPO ที่มาพร้อมจุดเด่นในเรื่องของดีไซน์เทรนดี้ลงตัวเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้วัยรุ่นอย่างเป็นอย่างดี มีฟีเจอร์ในเรื่องการออกกำลังกายครบถ้วน รวมถึงแบตเตอรี่ที่อึดใช้งานได้ยาวนานถึง 14 วันอีกด้วย ดีไซน์ที่ว่าสวยเทรนดี้จะเป็นอย่างไร ฟีเจอร์ใช้งานจริงถูกใจเราแค่ไหน ติดตามได้จากรีวิวเต็มฉบับนี้เลยครับ!
คุณสมบัติ OPPO Band 2
- ขนาดตัวเครื่อง : 45.3 x 29.1 x 10.6 มม.
- น้ำหนัก : 33 กรัม (พร้อมสาย)
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 1.57″ ความละเอียด 256 x 402 พิกเซล
- เซ็นเซอร์ : เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, เซ็นเซอร์ตรวจวัดออกซิเจนในเลือด, เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวแบบ 6 แกน
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0
- แอปพลิเคชั่นเชื่อมต่อ : HeyTap Health (รองรับ Android 6.0 ขึ้นไปและ iOS 13 ขึ้นไป)
- มาตรฐานกันน้ำ : 5 ATM
- สีสัน : สีฟ้า Baby Blue, สีดำ Midnight Black
อุปกรณ์ภายในกล่อง
ก่อนอื่นเรามาเช็กอุปกรณ์ในกล่องกันก่อนเลย ตัวกล่องจะเป็นสีขาวมาตรฐานตามฉบับ OPPO ที่ด้านหน้าจะระบุไว้แค่ Band เฉย ๆ ส่วนภาพประกอบก็จะเป็นสีดำ Midnight ทั้งหมดด้วย แม้สีที่เราเลือกซื้อจะเป็นสีฟ้า Baby Blue ก็ตามครับ ตรงนี้ต้องเช็กสีจากด้านหลังกันอีกทีเนาะ
ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องก็จะมีมาให้ 3 อย่างหลัก ๆ ประกอบด้วย
- OPPO Band 2
- สายชาร์จ
- เอกสารคู่มือและใบรับประกัน
หน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 1.57″ เต็มตายิ่งขึ้น
ได้เวลามายลโฉม OPPO Band 2 กันแล้วครับ รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.57″ แสดงผลได้เต็มตาด้วยและสีสันสวยงามเลยครับ
รอบนี้ OPPO ปรับทรงหน้าจอใหม่เป็นสี่เหลี่ยมทำให้มีอัตราส่วนในการแสดงผลมากขึ้น รายละเอียดบนหน้าจอก็แสดงได้ครบถ้วนในหน้าหลักเลย
ในเรื่องการแสดงผลสีสันก็ทำได้สวยสดและคมชัดตามสไตล์จอ AMOLED เลยครับ ให้ขอบเขตสี DCI-P3 ถึง 100% และความสว่างก็ทำได้สูงสุดถึง 500 nits ใช้งานกลางแจ้งได้สบาย ๆ ครับ
ดีไซน์เทรนดี้ สมาร์ตกะทัดรัด
อย่างที่เราบอกไว้ตอนต้นว่ารุ่นนี้มาพร้อมดีไซน์เทรนดี้มีความสดใสและเหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความกะทัดรัดแต่ก็ยังแฝงความสมาร์ตในตัวได้เป็นอย่างดี สีที่เราได้มาเป็นสีฟ้า Baby Blue มีความน่ารักมาก ๆ ด้วยสายซิลิโคน 2 สีคือ ฟ้ากับขาว มอบความโดดเด่นไม่น้อยเลยเมื่อใส่ไว้บนข้อมือ
ตัวสายรัดก็เป็นซิลิโคนที่ให้ความรู้สึกสบายเวลาใส่บนข้อมือ นุ่มรับกับผิวหนังและยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี มีให้เลือกปรับได้หลายระดับ จะเป็นข้อมือเล็ก-ใหญ่ก็ใส่ใช้งานได้อย่างคล่องตัวแน่นอนครับ
มีให้เลือก 2 สีสองสไตล์
OPPO Band 2 มีให้เลือก 2 สีคือ สีฟ้า Baby Blue (สีที่เราได้มารีวิว) มีความสดใสน่ารักเหมาะกับสาว ๆ ที่มีความคิวท์ ๆ และอีกสีคือสีดำ Midnight Black ที่จะมาในโทนเรียบหรู หนุ่ม ๆ ที่ต้องการความเรียบง่ายน่าจะถูกใจครับ
น้ำหนักเบาแค่ 33 กรัม สวมใส่สบายตลอดทั้งวัน
น้ำหนักของ OPPO Band 2 ก็ถือเป็นจุดเด่นที่เราชอบมาก ๆ เพราะมีน้ำหนักแค่ 33 กรัมเท่านั้น (รวมสายแล้ว) ใส่แล้วไม่ได้รู้สึกหนักหรือถ่วงข้อมือแต่อย่างใด ทำให้เราสามารถใส่ใช้งานได้ตลอดทั้งวันโดยไม่เมื่อยเลยจริง ๆ ครับ
ไร้ปุ่มกดใช้งานด้วยหน้าจอสัมผัสล้วน ๆ
รอบ ๆ ตัวเรือนของ OPPO Band 2 จะไม่มีปุ่มกดใด ๆ ให้กดเลยเพราะการทำงานทั้งหมดจะใช้ผ่านหน้าจอที่เป็นระบบสัมผัส ใช้งานได้อย่างลื่นไหลและตอบสนองได้ดี รูปแบบก็ไม่ยุ่งยากแค่เลื่อนไปในทิศทางต่าง ๆ หรือแตะเข้าใช้งานเท่านั้นเองครับ
ที่ด้านหลังของ OPPO Band 2 จะมีเซ็นเซอร์สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจและ PIN สำหรับชาร์จแบตฯอยู่ด้วย นอกจากนี้เรายังเห็นโลโก้ OPPO อยู่ที่ด้านหลังนี้เช่นกันครับ
กันน้ำระดับ 5 ATM
เห็นตัวเล็ก ๆ แบบนี้แต่ OPPO Band 2 ก็มาพร้อมความอึดระดับ 5 ATM คือสามารถใส่ลงน้ำลึกได้สูงสุดถึง 50 เมตรรวมถึงรองรับการใส่ว่ายน้ำได้ด้วย เรียกว่าอึดถูกใจเลย แบบนี้ใส่ใช้งานทั่วไปโดนฝน, เปียกเหงื่อหรือจะโดนน้ำกระเด็นใส่ตอนล้างมือก็ไม่ต้องกังวลเลยล่ะครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ OPPO Band 2 ก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมแบบสมาร์ตกะทัดรัดด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 1.57″ อัตราส่วนกว้างเต็มตา มีความเทรนดี้ด้วยสีสันน่ารัก และทีเด็ดสุดคงหนีไม่พ้นน้ำหนักที่เบาแค่ 33 กรัม ทำให้เราสวมใส่ได้อย่างสบายข้อมือ จะใส่ติดตัวตลอดทั้งวันก็สบายมาก
เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่านแอป HeyTap Health
สำหรับแอปที่ใช้เชื่อมต่อกับ OPPO Band 2 นั้นจะใช้แอปที่มีชื่อว่า HeyTap Health ของ OPPO ที่สามารถดาวน์โหลดได้จาก Play Store ได้เลย ตัวแบนด์รองรับสมาร์ตโฟน Android ทุกรุ่นที่รันบน Android 6 ขึ้นไปครับ ซึ่งในแอปตัวนี้ก็จะมีสถานะของ OPPO Band 2 ข้อมูลที่วัดค่ามาได้รวมถึงการปรับแต่งเพิ่มเติมด้วยครับ
รูปแบบหน้าจอที่มีให้เลือกมากกว่า 150 แบบ
ในเรื่องการปรับแต่ง OPPO Band 2 ก็มีรูปแบบหน้าจอให้เลือกใช้งานมากมาย ในตัวเรือนเองเราสามารถแตะค้างเพื่อเลือกรูปแบบได้ ซึ่งในค่าเริ่มต้นจะมีให้เลือกประมาณ 8 แบบ ทั้งแบบที่โชว์ข้อมูลการออกกำลังการครบถ้วน หรือจะเป็นแนวเรียบ ๆ ที่โชว์นาฬิกากับวันที่ก็มี
แต่แน่นอนว่าความเป็นสมาร์ตแบนด์รูปแบบหน้าจอก็สามารถเลือกดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้อีกเพียบ OPPO เคลมว่ามีให้เลือกมากกว่า 150 แบบเลยทีเดียว แต่ตรงนี้ต้องมาดาวน์โหลดเพิ่มเติมผ่านแอป HeyTap Health แล้วครับ ในนั้นจะมีหมวดหมู่ให้เลือกมากมายเลยจริง ๆ
เลือกรูปมาเป็นภาพหน้าจอก็ได้นะ
หรือถ้าใครที่อยากให้ภาพหน้าจอเป็นรูปของเราเอง OPPO Band 2 ก็สามารถตั้งค่าได้เช่นกัน ซึ่งเราสามารถเลือกรูปได้สูงสุด 3 รูปและแตะเพื่อสลับรูปเมื่ออยู่บนข้อมือก็ได้ หรือจะเลือกปรับตำแหน่งของนาฬิกา สีฟอนต์อันนี้เข้าไปตั้งค่าเพิ่มเติมกันผ่านแอป Hey Tap Health ได้เหมือนเดิมครับ
AI Outfit Watch Face 2.0 มิกซ์แอนด์แมตช์ให้เข้ากับทุกลุคได้ง่าย ๆ
หรือถ้าอยากได้เป็นโทนสีสวย ๆ ที่ตรงตามชุดที่เราใส่ในวันนั้นนั้น OPPO Band 2 ก็ยังมีหน้าจอ AI Outfit Watch Face 2.0 ที่ให้เราเลือกใช้ภาพถ่ายหรือถ่ายภาพเข้าไปใหม่ จากนั้นระบบจะคำนวณสีในภาพและแปลงออกมาเป็นรูปแบบหน้าจอกราฟิกในโทนสีเดียวกันได้อย่างลงตัว
อย่างในรีวิวนี้เราถ่ายภาพนางแบบที่ใส่ชุดสีฟ้า-ขาวเข้าไป ระบบก็ตรวจจับสีในภาพและแปลงออกมาเป็น Watch Faces หลายแบบเพื่อให้เราเลือกใช้กันแบบเก๋ ๆ เลย ตรงนี้เราว่าดีมาก เพราะในแต่ละวันเราก็ต้องมีหลายลุค การที่มีรูปแบบหน้าจอที่เปลี่ยนสีเข้ากับลุคนั้น ๆ ในแต่ละวันได้ ถือเป็นเรื่องเยี่ยมจริง ๆ
ฟีเจอร์เรื่องสุขภาพครบทั้งวัดอัตราการเต้นหัวใจและออกซิเจนในเลือด
ในเรื่องฟีเจอร์สุขภาพ OPPO Band 2 ก็จัดมาให้ครบทั้งการวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชม. เพื่อการออกกำลังกายที่แม่นยำและมั่นใจ เพราะหากมีอัตราการเต้นที่สูงเกินไปก็จะมีการแจ้งเตือนให้เรารับรู้ด้วย หรือจะเป็นการวัดออกซิเจนในเลือด SpO2 รุ่นนี้ก็ทำได้เช่นกันครับ
ติดตามการนอนหลับด้วย OSleep
นอกจากจะวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้แล้ว OPPO Band 2 ยังรองรับการติดตามการนอนด้วยฟีเจอร์ OSleep ที่จะระบุข้อมูลการนอนของเราได้อย่างละเอียดตั้งแต่นอนจนหลังตื่นนอน หลับลึกแค่ไหน หลับตื้นเท่าใด เราสามารถดูข้อมูลอย่างละเอียดได้จากบนข้อมือเลยด้วยนะ ใครที่อยากทราบข้อมูลไปปรับใช้การนอนถูกใจแน่นอนครับ
โหมดออกกำลังกายกว่า 100 โหมด
ในเรื่องการออกกำลังกาย OPPO Band 2 ก็จัดเต็มมาด้วยการรองรับโหมดการออกกำลังกายมากถึง 100 โหมด พร้อมตรวจจับการออกกำลังกาย 4 โหมดแบบอัตโนมัติ ทั้ง เดิน, วิ่ง, Elliptical Machine และ Rowing Machine ทำให้เราไม่พลาดการเก็บค่าการออกกำลังกายเลยจริง ๆ ครับ
อัปเกรดการวิ่งด้วยข้อมูลและหลักสูตรที่เหนือชั้น
สำหรับโหมดการวิ่งก็มีการเสริมพิเศษด้วยโหมด Running Course หรือหลักสูตรสำหรับการวิ่งอย่างมือโปร โหมดนี้จะมีเทคนิคการสิ่งในรูปแบบต่าง ๆ มาให้เราใช้งานตั้งแต่ เรียนรู้จังหวะการก้าว, ระยะก้าว, การประเมินสมรรถภาพหัวใจ, ผลการเต้นแอโรบิก, อัตราการฟื้นตัวของอัตราการเต้นของหัวใจ, ระยะการฟื้นฟูร่างกายจากการออกกำลังกาย รวมถึง 13 หลักสูตรการวิ่งแบบมือโปร ช่วยให้เราวิ่งได้อย่างเชี่ยวชาญและมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเองครับ
มีโหมดเทนนิสมืออาชีพ ช่วยให้เข้าใจการเล่นของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ OPPO Band 2 ยังมีโหมดการออกกำลังกายเฉพาะอย่างโหมดเทนนิสมืออาชีพ ที่จะช่วยจดจำทุกจังหวะการเคลื่อนไหวต่าง ๆ อาทิ การตีแบบ Forehand, Backhand รวมถึงความเร็วในการสวิงไม้ เพื่อให้เราได้ทราบถึงการเล่นได้ดียิ่งขึ้น
ฟีเจอร์ทั่วไปที่เสริมให้ใช้งานในชีวิตประจำวันได้สะดวกขึ้น
ไม่ใช่แค่ฟีเจอร์การออกกำลังกายกับสุขภาพที่ครบเครื่อง ในฟีเจอร์ทั่วไปก็ให้มาครบทั้งการรับแจ้งเตือน (รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ), แจ้งเตือนสายเข้า, ควบคุมเครื่องเล่นเพลง, การตั้งปลุก, หรือฟีเจอร์ Find My Phone ก็มีมาครบ เรียกว่าถึงไม่ใช่สายออกกำลังกายหรือสุขภาพมากนัก ก็ยังใช้งาน OPPO Band 2 ได้อย่างคุ้มค่าแน่นอนครับ
แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 14 วัน
ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่เหมือนเดิม OPPO เคลมว่า OPPO Band 2 สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 14 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เท่าที่เราลองใช้งานเกือบสัปดาห์ ก็รู้สึกว่าแบตเตอรี่อึดน่าพอใจมาก ตั้งแต่ชาร์จเต็มครั้งแรกที่แกะกล่องมาตอนนี้ก็ยังเหลืออยู่ประมาณ 75% อยู่เลย เรียกว่าใช้งานได้อึดอย่างที่เคลมไว้จริง ๆ ครับ คิดว่าในการใช้งานทั่วไปอยู่ในเรตใช้ 10 – 12 วันชาร์จ 1 ครั้งแน่นอน ถูกใจคนที่ชอบลืมชาร์จบ่อย ๆ ได้เลยเพราะชาร์จครั้งหนึ่งใช้ได้นานจริง ๆ ครับ
มีระบบชาร์จไว 5 นาทีใช้ได้ทั้งวัน
ส่วนระบบชาร์จก็มีชาร์จไวมาให้ OPPO เคลมว่าชาร์จแค่ 5 นาทีก็ใช้งานได้ต่อเป็นวันแล้วล่ะครับ ซึ่งตัวที่ชาร์จก็จะเป็นแบบเฉพาะ แม่เหล็กแปะที่ด้านหลังได้เลย ไม่กินพื้นที่ในการวางชาร์จเท่าไหร่เนาะ
ราคา 2,999 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้
OPPO Band 2 เปิดราคามาเพียง 2,999 บาท มีให้เลือก 2 สีคือสีฟ้า Baby Blue (สีที่เรารีวิว) และสีดำ Midnight Black โดยเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศครับผม
สรุปแล้ว “นี่คือสมาร์ตแบนด์ดีไซน์เทรนดี้ที่ความสามารถครบครันสุด ๆ”
สรุปแล้ว OPPO Band 2 ก็ถือว่าเป็นสมาร์ตแบนด์ที่น่าสนใจมาก ๆ จาก OPPO ด้วยการอัปเกรดจากรุ่นก่อนในทุกมิติ ตั้งแต่หน้าจออัตราส่วนใหม่ใช้งานได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แสดงผลได้สวยเต็มตาด้วยจอ AMOLED ขนาด 1.57″ ดีไซน์ที่เทรนดี้ น้ำหนักเบาแฝงทั้งความเป็นแฟชั่นและสปอร์ตไปในตัว เข้าได้กับทุกลุคในชีวิตประจำวัน ฟีเจอร์ในเรื่องการออกกำลังกายก็ครบครันทั้งวิ่ง ตีเทนนิสหรือประเภทอื่น ๆ อีกกว่า 100 โหมด และท้ายที่สุดก็คือแบตเตอรี่ที่อึดใช้งานได้นานถึง 14 วันต่อหนึ่งการชาร์จ เป็นความสามารถที่ครบครันในรุ่นเดียวจริง ๆ ใช่ไหมล่ะครับ ใครที่กำลังมองหาสมาร์ตแบนด์ดีไซน์สวยและกะทัดรัดพร้อมความสามารถตอบโจทย์ เราว่า OPPO Band 2 รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจจริง ๆ ครับ
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3TDiRQQ