Featured
รีวิว OPPO Band สมาร์ทแบนด์เพื่อสุขภาพที่ดีที่สุด ในราคาเพียง 1,199 บาท
OPPO Band สมาร์ทแบนด์ตัวแรกของ OPPO มาพร้อมคุณสมบัติเด่นมากมายทั้งฟีเจอร์การวัดออกซิเจนในเลือด, วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, โหมดการออกกำลังกายกว่า 12 โหมด, กันน้ำลึกได้ 50 เมตร, แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 12 วัน, หน้าจอ AMOLED 1.1” และอีกเพียบ ฟีเจอร์เพียบขนาดนี้แต่ราคาค่าตัวเบา ๆ แค่ 1,199 บาทเท่านั้น
ใช้งานจริงเจ๋งแค่ไหน วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net จะมารีวิวให้ชมกันครับ พร้อมแล้วไปชมกันเล้ยย !
ดีไซน์เรียบง่าย เข้าได้กับทุกลุค
มาเริ่มต้นที่ดีไซน์ก่อนเลย OPPO Band มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่เข้าได้กับทุกลุคมีให้เลือก 2 สีคือ Black และ Lavender ซึ่งสีที่เราได้มาเป็นสีดำสุดคลาสสิคเลย
OPPO Band มาพร้อมหน้าจอ AMOLED full-color display ขนาด 1.1” แสดงสีสันได้อย่างครบถ้วน มีขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 สีสันสวยงามสู้แสงได้ดีจะใช้งานกลางแจ้งก็ไม่หวั่น นอกจากนี้ยังใช้กระจกกันรอยขีดข่วนผิวโค้ง 2.5D ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดีอีกด้วยนะ
ตัวหน้าปัดของ OPPO Band ก็สามารถปรับรูปแบบได้หลากหลายผ่านแอป HeyTap Health ที่เดี๋ยวเราอธิบายการใช้งานให้อีกทีเนาะ
ตัวสายของ OPPO Band จะเป็นแบบ Sport Strap เป็นซิลิโคนคุณภาพสูงที่ให้เราสวมใส่ได้อย่างสบายข้อมือ รวมถึงใช้งานได้แบบไม่ระคายเคืองแม้เหงื่อจะออกด้วย ตัวสายมีความยาว 130-205 มม. ใช้งานได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายครับ
OPPO Band มาพร้อมความสามารถกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน 5ATM ด้วย ลงน้ำลึกได้ระดับ 50 เมตรหรือจะใส่ว่ายน้ำแบบจริงจังก็ไม่มีปัญหาเลยครับ
เริ่มใช้งานกันเลย
เห็นดีไซน์คร่าว ๆ ของ OPPO Band ไปแล้ว ทีนี้เรามาดูการใช้งานกันเลยดีกว่า OPPO Band จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอป HeyTap Health เราสามารถดาวน์โหลดทั้งบนระบบ iOS และ Android เชื่อมต่อและจับคู่กันไม่ยากครับเพียงแค่เปิด Bluetooth และทำการจับคู่ตามขั้นตอน
การควบคุมของ OPPO Band จะใช้ระบบสัมผัสที่หน้าจอเป็นหลัก เราสามารถเลื่อนขึ้น-ลงเพื่อเลือกแอปต่าง ๆ รวมถึงการเปลี่ยนหน้าปัดหรือ Watch faces ก็ใช้การปัดซ้าย-ขวาแทนครับ
ไหน ๆ ก็พูดเรื่องหน้าปัดมาแล้ว เราขอเสริมในเรื่องของ Watch faces ของ OPPO Band อีกหน่อย เราสามารถเลือกปรับได้หลากหลายอย่างที่บอกไป บนตัว OPPO Band เองจะสามารถเลือกได้ 5 แบบ แต่ถ้ามาเลือกเพิ่มบนแอป HeyTap Health จะมีให้เลือกถึง 40 แบบด้วยกัน
หรือจะเลือกภาพถ่ายจากในเครื่องมาเป็นภาพหน้าปัดได้ด้วย โดยให้เราเข้าไปที่แอป HeyTap Health เลือกไปที่ OPPO Band กด Watch faces แล้วไปที่หมวด Photos จากนั้นเลือกรูปภาพที่เราอยากใช้เป็นภาพ Watch faces ในนี้เราจะสามารถเลือกรูปแบบการวางเลขนาฬิกาได้ 3 แบบด้วย เพื่อไม่ให้บังภาพที่จะแสดงผลเนาะ
วัดออกซิเจนในเลือดได้แบบต่อเนื่อง
มาพูดถึงฟีเจอร์เด่นของ OPPO Band กันบ้าง สมาร์ทแบนด์รุ่นนี้มาพร้อมเซ็นเซอร์การวัดออกซิเจนในเลือดแบบ Optical สามารถตรวจวัด SpO2 ได้แบบต่อเนื่องถึง 28,800 ครั้ง รวมถึงการตรวจวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนและอัตราการหายใจอย่างละเอียด ให้ผู้ใช้สร้างนิสัยการนอนหลับที่ดีขึ้นได้
โหมดตรวจจับการนอนก็มีมาให้ด้วยนะ โดย OPPO Band จะคอยบันทึกและวิเคราะห์ Sleep length และ Sleep stage ว่าเราหลับได้ลึกแค่ไหน หลับนานแค่ไหน เพื่อให้เราเข้าใจพฤติกรรมการนอนหลับและพัฒนาพฤติกรรมการนอนได้ดียิ่งขึ้นนั่นเองครับ
นอกจากนี้ยังสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอด 24 ชม. ช่วยให้เราออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นคอยติดตามและป้องกันไม่ให้เราออกกำลังกายมากเกินไปได้ พร้อมกันนี้หากอัตราการเต้นหัวใจของเราสูงหรือต่ำเกินไป ก็จะมีการสั่นแจ้งเตือนให้เรารับรู้ถึงความผิดปกติด้วยครับ
12 โหมดการออกกำลังกาย
สำหรับโหมดการออกกำลังกาย OPPO Band มีโหมดมาให้เลือกมากถึง 12 โหมดครอบคลุมกีฬายอดฮิตทั้งหมดประกอบด้วย
- วิ่งกลางแจ้ง
- วิ่งในร่ม
- วิ่งเผาผลาญไขมัน
- เดินกลางแจ้ง
- ขี่จักรยานกลางแจ้ง
- ขี่จักรยานในร่ม
- การเดินวงรีด้วยเครื่อง Elliptical
- พายเรือ
- คริกเก็ต
- แบดมินตัน
- ว่ายน้ำ
- โยคะ
ซึ่งตัว OPPO Band จะมีการตรวจจับและบันทึกค่าการออกกำลังกายได้อีกด้วย ช่วยให้เราเห็นพัฒนาการในการออกกำลังกายและสร้างแรงจูงใจในการออกกำลังกายในครั้งต่อ ๆ ไป
หรือถ้าใช้งานทั่วไป OPPO Band จะมี Multicolored X ที่ช่วยเก็บค่าพื้นฐานอย่างการนับก้าวเดินรวมถึงการเผาผลาญแคลอรี่อยู่แล้ว ให้เราแตะที่หน้า Watch faces 1 ครั้งหน้านี้จะแสดงขึ้นมา ซึ่งเป้าหมายกิจกรรมนี้เราสามารถตั้งได้จากตัวแอป HeyTap Health ได้เลยว่าอยากเดินให้ครบกี่พันก้าวในแต่ละวัน หรือเผาผลาญแคลอรี่เท่าไหร่ เป็นต้น
แจ้งเตือนได้ครบ ภาษาไทยรองรับ
ในส่วนของการแจ้งเตือน OPPO Band ก็รองรับการแจ้งเตือนได้อย่างสมบูรณ์ และรองรับภาษาไทยครบถ้วนด้วย เวลามีข้อความเข้าหรือการแจ้งเตือนต่าง ๆ ที่เข้ามาบนสมาร์ทโฟนที่เราเชื่อมต่อ ทีนี้ก็ไม่พลาดแล้วล่ะครับ แถมยกข้อมือขึ้นมาดูได้เลยไม่ต้องเปิดมือถือมาเช็คด้วยเนาะ สะดวกดี เราสามารถเข้าไปตั้งค่าการแจ้งเตือนที่จะเด้งมาที่ OPPO Band ได้ที่แอป HeyTap Health เลยครับ
ฟีเจอร์การควบคุมสมาร์ทโฟนอื่น ๆ
OPPO Band ยังมีฟีเจอร์การควบคุมมือถือเพิ่มเติมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมเครื่องเล่นเพลงผ่านข้อมือ, การควบคุมปุ่ม Shutter, จับเวลา หรือค้นหาสมาร์ทโฟนก็ทำได้เช่นกัน เลือกไปที่หมวก Tools ได้เลยครับ
แบตเตอรี่ใช้ได้นาน 12 วัน
ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่ OPPO Band นั้นมาพร้อมแบตเตอรี่ 100mAh ใช้งานได้ยาวนาน 12 วัน หายห่วงเรื่องการชาร์จบ่อย ๆ ได้เลย ใส่ติดตัวในชีวิตประจำวันหรือออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องได้ไม่มีปัญหา หรือจะใส่ไปเที่ยวสักทริปชาร์จจนเต็มก็ไม่ต้องพกที่ชาร์จติดตัวไปแล้วครับ สะดวกดีเลย
แต่ถ้าต้องการชาร์จจริง ๆ OPPO Band ก็มาพร้อมระบบชาร์จเร็วที่ชาร์จเต็มเพียงแค่ 1.5 ชม. เท่านั้น โดยการชาร์จของ OPPO Band จะต้องถอดเอาตัวเรือนออกมาแล้วเสียบเข้ากับแท่นชาร์จที่แถมมาในกล่องนั่นเองครับ
สรุปแล้ว “นี่เป็นสมาร์ทแบนด์เพื่อคนรักสุขภาพ ฟีเจอร์ครบในราคาเบา ๆ”
สรุปแล้ว OPPO Band ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทแบนด์ที่ครบเครื่องในเรื่องฟีเจอร์สำหรับคนรักสุขภาพ มีเซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือด เซ็นเซอร์ Heart rate ครบ ตัวเรือนดีไซน์เรียบง่ายกันน้ำได้ระดับ 50 เมตร โหมดออกกำลังกายมาตรฐานมีมาให้ไม่ขาด แบตเตอรี่อึดใช้งานได้นาน 12 วัน และที่ขาดไม่ได้ก็คือการปรับแต่งที่หลากหลายสมกับเป็นสมาร์ทแบนด์ที่มาจากแบรนด์ OPPO จริง ๆ ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทแบนด์สักเรือนมาเสริมสุขภาพเราให้ดียิ่งขึ้นในงบที่สมเหตุสมผล OPPO Band ตัวนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะครับ
OPPO Band ราคา 1,199 บาท
OPPO Band วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเรียบร้อยที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศครับ