Android News
พรีวิว OPPO Find N สมาร์ทโฟนจอพับรุ่นแรกของ OPPO กับความแตกต่างของสัดส่วน ที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ!
พรีวิว OPPO Find N เพิ่งเปิดตัวในงาน OPPO INNO DAY 2021 ไปสด ๆ ร้อนร้อน ล่าสุดก็เดินทางมาถึงประเทศไทยเรียบร้อย ทีมงาน iphone-droid.net ก็ไม่พลาดนำประสบการณ์แรกสัมผัสมาให้อ่านกันเหมือนเดิม บอกเลยว่ารอบนี้ OPPO จัดเต็มมาก ๆ น่าสนใจแค่ไหน ติดตามได้ในบทความนี้เลยครับ!
สมาร์ทโฟนจอพับในทรงที่แตกต่างกว่าที่เคย
OPPO Find N มาพร้อมคอนเซ็ปต์สมาร์ทโฟนจอพับทรงหนังสือ ซึ่งก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร แต่ความใหม่ของรุ่นนี้คงเป็นเรื่อง “สัดส่วน” ที่แปลกตาไปมาก แต่ให้ความรู้สึกที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อครับ ตัวเครื่องจะมาในทรงที่อ้วนและไม่ยาวเหมือนสมาร์ทโฟนจอพับรุ่นอื่น ๆ ที่หน้าจอด้านนอกมีขนาดอยู่ที่ 5.49” ถ้าดูตามตัวเลขอาจจะดูเล็กครับ แต่ถ้าได้ลองจับถือและใช้งานบอกเลยว่ามันไม่เล็กขนาดนั้น
ด้วยอัตราส่วนจอ 18:9 มีความกว้างด้านซ้าย-ขวามากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปนิดหน่อย แต่ไม่สูงจนเกินไปจึงทำให้เราใช้งานมือเดียวได้อย่างถนัด ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ การเลื่อนหน้าจอ เราสามารถกวาดนิ้วไปได้ทั่วทั้งหน้าจอเลย แถมความเก๋ก็คือที่มุมขวาของหน้าจอยังเป็นมุมโค้ง 3D ทีนี้เวลาใช้งานร่วมกับ Gesture Navigation ก็ยิ่งสมูทเข้าไปใหญ่
ส่วนหน้าจอด้านในก็จะมีขนาดอยู่ที่ 7.1” ใหญ่กำลังดี และอัตราส่วนก็จะเป็นแบบ 8.4:9 ให้ความรู้สึกที่ไม่จัตุรัสจนเกินไป กางออกมาก็พร้อมใช้งานในแนวนั้นเลย เราไม่จำเป็นต้องพลิกเป็นแนวนอนแล้ว ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีครับ
ตัวหน้าจอด้านในจะใช้เป็น UTG (Ultra Thin Glass) ที่มีฟิล์มกันรอยติดมาชั้นหนึ่งอยู่ด้วย สัมผัสของหน้าจอจะมีความนุ่ม ๆ ตามสไตล์จอพับ ไม่แข็งแบบกระจกเหมือนหน้าจอด้านอกอะเนาะ
หน้าจอ AMOLED ทั้งคู่ 60Hz กับ 120Hz
ในเรื่องการแสดงผลหน้าจอทั้งนอกและในของ OPPO Find N ใช้เป็น AMOLED ทั้งคู่ ความสวยงามและสีสันทำได้ดีเลย แต่จุดที่แตกต่างกันชัดเจนเลยคือ refesh rate ครับ เพราะหน้าจอด้านนอกจะให้มาที่ 60Hz ส่วนจอด้านในเป็น LTPO ที่สามารถปรับได้ตั้งแต่ 1 – 120Hz เลย ซึ่งถ้าเราใช้งานสลับไปมาแล้วค่อยข้างรู้สึกถึงความสมูทที่แตกต่างกันชัดเจน แอบขัดใจที่จอนอกรู้สึกกระตุกไปเลยทันที
บานพับแนบสนิท ดีไซน์รอยพับแบบหยดน้ำ
อีกเรื่องที่ OPPO Find N ทำได้ดีมาก ๆ ก็คือเรื่องบานพับและการพับหน้าจอนี่แหละครับ ตัวบานพับมีความแข็งแรงมีส่วนประกอบมากถึง 136 ชิ้นตรงนี้ OPPO ใช้ชื่อเรียกว่า Flexion Hinge ที่สำคัญคือให้ความแนบสนิทไปกับตัวเครื่องได้แบบไม่เหลือช่องว่างเลย ความทนทานก็เคลมว่าสามารถพับ-กางได้มากถึง 200,000 ครั้ง ไม่ต้องห่วงเลยล่ะครับ
ส่วนอีกเรื่องที่ยอดเยี่ยมก็คือรอยพับบนหน้าจอ OPPO Find N จะใช้เทคโนโลยีบานพับแบบหยดน้ำหรือ water-drop hinge เมื่อเราพับเข้าหากัน และกางออกก็จะขยายเป็นหน้าจอเต็ม ๆ ทำให้มีรอยตรงกลางระหว่างจอนั้นแทบจะไม่เด่นขึ้นมาเลย ตรงนี้เราชอบมาก เวลาใช้งานในมุมมองอื่น ๆ เอียงเครื่องไปก็ไม่ขัดตากับเส้นตรงกลางเลย
นอกจากนี้ตัวกลไกการพับจอของ OPPO Find N ยังยืดหยุ่นพอที่เราจะปรับมุมมองได้หลากหลาย ไม่ใช่แค่กางออก-พับเข้าเท่านั้น แต่จะกางได้อย่างอิสระตั้งแต่ 50° – 120° กันเลย และตัวซอฟต์แวร์ก็ยังรองรับ FlexForm Mode ด้วย อาทิ ดูวิดีโอบนจอด้านบนและใช้จอล่างเป็นตัวควบคุม วางเครื่องตั้งแล้วใช้ถ่ายรูป Time Lapse เป็นต้น
ความหนาที่เหมือนมือถือ 2 เครื่องประกบกัน
ในเรื่องขนาดของตัวเครื่องก็อย่างที่เห็นเลยครับ ตัวเครื่องจะมีความอ้วนกลมอยู่พอควรเลย ถ้าใช้งานกางหน้าจอเรื่องนี้อาจไม่ได้รู้สึกมาก แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พับจอเข้ามาแล้วใช้งานที่จอนอกจะรู้สึกถึงความหนาที่มากกว่าพอสมควร เหมือนมีมือถือ 2 เครื่องมาประกบกันยังไงยังงั้น ถ้าลองถือใช้แล้วจะมีความรู้สึกว่าอยากดึงส่วนหลังออกไปให้รู้แล้วรู้รอดซะนี่!
แต่โชคดีที่กรอบตัวเครื่องมีความโค้งที่กำลังพอดี ทำให้เวลาเราจับถือยังสบายมือไม่เหลี่ยมจนเกินไปครับ ที่มุมขวาของตัวเครื่องจะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่เพื่อการใช้งานที่ถนัดทั้งตอนกางหรือพับหน้าจอด้วยครับ
ฝาหลังตอบรับกับรูปมือ และดีไซน์โค้งเว้าที่น่าดึงดูด
พลิกกลับมาดูด้านหลังเครื่องกันบ้าง แว้บแรกที่เห็นเชื่อว่าหลายคนต้องคุ้นกับดีไซน์ฝาหลังแบบนี้แน่นอน ใช่แล้วครับ OPPO Find N ใช้ดีไซน์ฝาหลังแบบ Fluid Curve แบบเดียวกับที่เห็นบน OPPO Find X3 Pro เลย ให้ความเนียนของกระจกฝาหลังไล่ไปจนถึงโมดูลกล้องได้อย่างมีมิติผสานกับเพลตกล้องเซรามิกที่ช่วยให้ด้านหลังดูโดดเด่นขึ้นไปอีกด้วยครับ
ส่วนดีไซน์โมดูลกล้องจะมีความคล้าย OPPO Reno6 Series วางกล้องหลัง 3 ตัวลงมาในแนวตรง ที่เลนส์หลักจะมีวงแหวนสีแดงเพิ่มความทรงพลังของกล้องด้วย ตัวไฟแฟลช LED จะอยู่ถัดออกมามีแถบสีดำสลักคำว่า Find N ก็คือเท่สุด ๆ ไปเลยครับ
กล้องหลัง 3 ตัวสเปคเรือธง
กล้องของ OPPO Find N บอกเลยว่าจัดเต็มมาไม่แพ้รุ่นเรือธงเลย ให้กล้องหลังมา 3 ตัวแบ่งเป็น
- 50MP กล้องหลัก (เซ็นเซอร์ Sony IMX766)
- 16MP กล้อง Ultra Wide
- 13MP กล้อง Tele 2X
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 32MP ทั้งหน้าจอนอกและจอในเลยครับ เป็นกล้องแบบเจาะรูทั้งคู่ครับ
แน่นอนว่าความเป็นสมาร์ทโฟนจอพับก็ต้องมีลูกในการเซลฟี่ด้วยกล้องหลังมาด้วย เราสามารถกางหน้าจอออกมาเพื่อเป็น Preview สำหรับเซลฟี่เองหรือให้แบบที่อยู่หลังกล้องดูภาพตัวอย่างก่อนถ่ายก็ได้เช่นกัน
ซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาตอบรับกับจอพับ
อีกเรื่องที่จะทำให้สมาร์ทโฟนจอพับทำงานได้อย่างดีก็คือซอฟต์แวร์ที่รองรับ บน OPPO Find N มีการปรับแต่งซอฟต์แวร์หลาย ๆ อย่างให้เข้ากับหน้าจอพับ อาทิการทำงานหลายแอปบนหน้าจอเดียว ก็มีฟีเจอร์ให้เราใช้ 2 นิ้วลากลงมาเพื่อแบ่งหน้าจอ หรือจะเรียกใช้ Smart Sidebar เพื่อดึงแอปมารวมกันก็ได้
หรือจะเป็นการทำงานที่ไร้รอยต่อ ถ้าเราใช้งานแอปอยู่ที่หน้าจอนอกแล้วกางหน้าจอออกเต็ม ๆ ตัวแอปหลักที่รองรับก็จะขยายใช้งานได้ต่อเนื่องทันที หรือถ้าเราพับกลับมาที่ปกติเป็นการล็อกจออยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการใช้งานต่อที่จอนอกก็เลื่อนหน้าจอเพื่อทำงานต่อได้ทันทีครับ
สเปคระดับเรือธง
พรีวิว OPPO Find N ก็ขอปิดท้ายที่สเปค มาพร้อมสเปคจัดเต็มขั้นสุดด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 888 มีแรมสูงสุด 12GB และความจุสูงสุด 512GB กันเลย แบตเตอรี่ให้มาเยอะถึง 4500mAh กันเลย
ส่วนระบบชาร์จ OPPO Find N รองรับระบบชาร์จไว 33W Flash Charge รองรับชาร์จไร้สายสูงสุด 15W และมีฟีเจอร์ Reverse Wireless Charging ให้อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ได้ด้วย
สรุปสเปค OPPO Find N
- หน้าจอนอก : AMOLED ขนาด 5.49” ความละเอียด FHD+ (1972 x 988 พิกเซล) refresh rate 60Hz
- หน้าจอใน : AMOLED 2X ขนาด 7.1” ความละเอียด FHD+ (1920 x 1729 พิกเซล) refresh rate 120Hz
- CPU : Snapdragon 888 Octa-core 2.84GHz (5nm)
- GPU : Adreno 660
- RAM : 8GB/12GB
- ROM : 256GB/512GB
- แบตเตอรี่ : 4500mAh
- ระบบชาร์จ : 33W Flash Charge
- กล้องหลัง : 3 ตัว
- 50MP กล้องหลัก
- 16MP กล้อง Ultra Wide
- 13MP กล้อง Tele 2X
- กล้องหน้า (ทั้งจอนอก-ใน) : 32MP
- ระบบปฏิบัติการ : Android 12 (ColorOS 12)
สรุปหลังลองจับ
OPPO Find N ก็ถือว่าเป็นอีกรุ่นนวัตกรรมจาก OPPO ที่ออกแบบมาได้ลงตัวดีมาก แม้จะไม่ใช่เจ้ารายที่บุกเบิกตลาดสมาร์ทโฟนจอพับ แต่การมาของรุ่นนี้ก็ทำให้เราเห็นมุมมองใหม่ของสมาร์ทโฟนจอพับที่ลงตัวได้อีก ด้วยอัตราส่วนที่ต่างออกไป การทำงานและการจับถือก็เปลี่ยนไปเป็นคนละเรื่อง แถมยังได้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ทั้งบานพับสุดแข็งแรงพร้อมการพับจอแบบหยดน้ำอีก หลังจากที่ลองสัมผัสมาก็รู้สึกได้เลยว่าน่าจะเป็นอีกรุ่นที่หากวางจำหน่ายจริงจะได้รับความสนใจมาก ๆ แน่ครับ เพราะเราชอบมาก!