Android News
แกะกล่องพรีวิว OPPO Find X3 Pro 5G นิยามใหม่ของสมาร์ทโฟนพลัง 1 พันล้านสีทั้งหน้าจอและกล้องหลักคู่สุดจัดเต็ม
OPPO Find X3 Pro 5G สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดเดินทางมาถึงมือทีมงาน iphone-droid.net เรียบร้อย รุ่นนี้มาพร้อมจุดเด่นน่าสนใจมากมาย ทั้งหน้าจอ 10-bit 1 พันล้านสี, กล้องหลักคู่ถ่ายได้ระดับ 1 พันล้านสีและขุมพลังสุดแรงอย่าง Snapdragon 888 5G
วันนี้เราขอมาแกะกล่องพรีวิวให้ได้ชมกันก่อน ดีไซน์จะสวยแค่ไหน อุปกรณ์ภายในกล่องให้อะไรมาบ้าง มาติดตามกันเลยครับ !!
แกะกล่อง OPPO Find X3 Pro 5G
เริ่มต้นที่ตัวกล่องกันก่อนเลยดีกว่า OPPO Find X3 Pro 5G จะมาพร้อมกล่องไซส์มาตรฐานของ OPPO ที่หน้ากล่องมีระบุชื่อรุ่นไว้ชัดเจนว่า OPPO Find X3 Pro 5G ใช้สีพื้นเป็นสีเทาเท่ ๆ ให้ความเรียบหรูของเรือธงจริง ๆ
เปิดกล่องมาชั้นแรกเราจะเจอกับกล่องสีดำที่ภายในมีเอกสารคู่มือ เข็มจิ้มถาดซิมและเคสอยู่ รอบนี้เคสที่แถมมาในกล่องจะเป็นเคสซิลิโคนคุณภาพดีเลยไม่ใช่เคสใสแบบทั่ว ๆ ไปแล้ว ตัวเคสมีการเว้นช่องกล้องและความโค้งได้พอดีกับตัวเครื่องเป๊ะเลย
และแน่นอนด้วยความเป็น Find Series ในกล่องจะมีบัตรรับประกันแบบ World Wide ด้วยหมายความว่าถ้าเราไปต่างประเทศแล้วเกิดเครื่องเสียก็ยังสามารถนำเข้าศูนย์ได้อยู่ครับ
อีกชั้นลงไปเราจะเจอกับตัวเครื่องที่อยู่ในซองอย่างดี สีที่เราได้มารีวิวคือสี Gloss Black ที่เดี๋ยวเราโชว์ให้เห็นเต็ม ๆ อีกที แต่สัมผัสแรกที่จับแอบบอกก่อนเลยว่าเครื่องบางใช้ได้เลยล่ะ
ส่วนชั้นสุดท้ายจะเป็นอุปกรณ์เสริมอย่าง หูฟัง (USB type-C), สายชาร์จ USB type-A to type-C และอะแดปเตอร์ชาร์จไว 65W Super VOOC 2.0 ครับ
เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องก็ครบเลยครับ ไม่มีตัดอะไรออกไปให้กล่องบางแต่อย่างใด มีอุปกรณ์มาให้ทั้งหมด 7 อย่างดังนี้
- ตัวเครื่อง OPPO Find X3 Pro 5G
- เคสซิลิโคน
- หูฟัง (USB type-C)
- สายชาร์จ
- อะแดปเตอร์ 65W Super VOOC 2.0
- เอกสารคู่มือ
- เข็มจิ้มถาดซิม
ดีไซน์สวย ไซไฟมาก ๆ
ได้เวลายลโฉมตัวเครื่องจริงของ OPPO Find X3 Pro 5G กันแล้ว อย่างแรกที่เราอยากนำเสนอเลยก็คือฝาหลัง สีที่เราได้มาคือสี Gloss Black ที่มีความแวววาวสะท้อนมันไปซะทุกสิ่งให้ความหรูหราแบบกระจกเอามาก ๆ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะจุดที่ทำให้รุ่นนี้ดูล้ำมาก ๆ คือความโค้งที่เนียนเอามาก ๆ เกินจากกระบวนการอย่างพิถีพิถันที่ทำให้กระจกเพียงชิ้นเดียวนั้นโค้งขึ้นรูปได้ขนาดนี้ เห็นแว้บแรกแล้วร้อง “ว้าว” เลยล่ะ
ความโค้งที่ขึ้นไปนี่ลามไปจนถึงตัวเลนส์กล้องเลย ซึ่งดีไซน์แบบนี้ OPPO ใช้ชื่อเรียกว่า Gradient Arc Camera เราจะเห็นว่าความโค้งของฝาหลังนั้นขึ้นไปบรรจบที่ชุดกล้องได้อย่างไร้รอยต่อ ที่ตัวเลนส์กล้องของ OPPO Find X3 Pro จะให้มาทั้งหมด 4 ตัวที่เดี๋ยวเราอธิบายสเปคกันอีกทีเนาะ
หน้าจอสุดอลังการ เต็มตาทุกสีสัน
พลิกกลับมาดูที่ด้านหน้ากันบ้าง OPPO Find X3 Pro 5G มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED โค้งความละเอียด QHD+ ที่มีขนาดใหญ่ถึง 6.7” ใช้ดีไซน์มีรูกล้องหน้าอยู่ที่มุมซ้ายบน มองเผิน ๆ ก็เหมือนเรือธงที่จอเต็มทั่วไป แต่ถ้าเราเปิดหน้าจอดูจริง ๆ ต้องร้อง “ว้าว” อีกครั้งแน่ เพราะรายละเอียดความคมชัดและสีสันนั้นสวยงามมาก ๆ รุ่นนี้แสดงผลที่ 10-bit หรือสีสันมากถึง 1 พันล้านสีเลยครับ
ส่วนเรื่องความลื่นไหล OPPO Find X3 Pro 5G มีระบบ Adaptive refresh rate สามารถปรับได้อัตโนมัติตามการใช้งานตั้งแต่ 5Hz – 120Hz ทำให้ประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม ในการใช้งาสนจริงเท่าที่ลองเลื่อนหน้าจอดูก็บอกได้เลยว่าฟินมากครับ จอลื่นจริง ๆ
บนหน้าจอก็ยังคงมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วเหมือนเดิม แตะปุ๊บก็สแกนปลดล็อคได้ปั๊บไม่ต้องรอนานเลย
ตัวเครื่องบางและน้ำหนักเบา
ที่รอบ ๆ ตัวเครื่องจะใช้กรอบโลหะที่หรูหราเข้ากับฝาหลังเป็นอย่างดี ขนาดตัวเครื่องทำได้ดีด้วย อย่างที่ทราบว่าเรือธงในยุคนี้ที่ใส่เทคโนโลยีกล้องแบบจัดเต็ม มักจะมีน้ำหนักที่หนักเกิน 200 กรัม และความหนาที่พอประมาณ แต่ OPPO Find X3 Pro 5G ทำได้ดีมากเพราะบางสุดเพียง 8.26 มม. และหนักแค่ 193 กรัมเท่านั้น บางและเบากว่าที่คิดเยอะครับ
ตำแหน่งปุ่มกดของ OPPO Find X3 Pro 5G นั้นยังอยู่ที่เดิมเช่นเดียวกับรุ่นก่อน ๆ ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอยู่ฝั่งซ้ายมือ ส่วนปุ่ม Power ยังคงอยู่ที่ด้านขวาพร้อมแถบสีเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ของ OPPO ครับ
ด้านบน-ล่างของตัวเครื่องจะเป็นแบบโค้งมนนิด ๆ พร้อมมีการทำมุมให้เหลี่ยมหน่อย ที่ด้านล่างจะมีพอร์ตการเชื่อมต่อ USB Type-C เพียงพอร์ตเดียวเท่านั้น ช่องหูฟัง 3.5 มม. ไม่มีแล้ว ไมโครโฟนและลำโพงหลักก็จะอยู่ที่ด้านล่างนี้ด้วยครับ ส่วนด้านบนจะมีเพียงไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนอย่างเดียว
ถาดใส่ซิมของ OPPO Find X3 Pro 5G จะเป็นแบบ Dual-SIM แน่นอนว่าไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ OPPO Find X3 Pro 5G ทำออกมาได้ดีมาก ทั้งงานประกอบที่หรูหรา ความไซไฟของฝาหลังที่ล้ำแนวอนาคตแบบนี้ หน้าจอที่เต็มตาสวยคมแบบไร้ที่ตินี่ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ แถมขนาดและน้ำหนักยังไม่มากจนเกินไปในระดับเรือธงด้วยกันถือว่ารุ่นนี้ทำมาดีเลยล่ะครับ
กล้องหลังที่ถ่ายได้ระดับ 1 พันล้านสี
อีกหนึ่งไฮไลท์ของ OPPO Find X3 Pro 5G ก็คือ “กล้อง” ที่รุ่นนี้สามารถถ่ายได้ระดับ 10-bit หรือ 1 พันล้านสี เช่นเดียวกับหน้าจอที่รองรับสีสันมากขนาดนี้ โดยสเปคคร่าว ๆ ของกล้องทั้ง 4 ตัวของรุ่นนี้จะมีดังนี้ครับ
- 50MP กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony IMX766 f/1.8 OIS
- 50MP กล้อง Ultra Wide เซ็นเซอร์ Sony IMX766 f/2.2 มุมกว้าง 110 องศา
- 3MP กล้อง Micro Lens f/3.0 ซูมสูงสุด 60x แบบกล้องจุลทรรศน์
- 13MP กล้อง Tele f/2.4 รองรับ Hybrid Zoom 5x และ Digital Zoom 20x
จะเห็นว่ามีกล้อง 50MP ถึง 2 ตัวเลย ใช่แล้วครับ 2 ตัวนั้นคือกล้องหลักที่รองรับการถ่ายภาพแบบ 10-bit และใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX766 ทั้งคู่ด้วย คุณภาพยอดเยี่ยม
นอกจาก 2 ตัวหลัก 50MP แล้ว OPPO Find X3 Pro 5G ยังมีกล้อง Micro Lens ตัวใหม่ที่ให้เราได้ภาพขยายจากการมองเห็นจากตาเราได้สูงสุดถึง 60 เท่า ซึ่งกล้องตัวนี้จะแตกต่างจากกล้อง macro ที่มีอยู่บนสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ เพราะเป็น Micro Lens ไม่ใช่ macro นะครับ การทำงานจะคล้ายกล้องจุลทรรศน์เลยเราสามารถเอาไปจ่อวัตถุใกล้ ๆ ได้และยังมี Ring Flash มาช่วยเพิ่มความสว่างด้วย
ส่วนกล้อง Tele หรือกล้องซูมรอบนี้ OPPO เลือกใช้แบบปกติไม่ใช่ Periscope แต่ความสามารถในการซูมยังยอดเยี่ยม เพราะสามารถซูมแบบ Hybrid Zoom ได้ถึง 5x และไปไกลสุดแบบ Digital Zoom ได้ถึง 20x เลยครับ
ขุมพลัง Snapdragon 888 5G เร็วแรงที่สุด
ในเรื่องสเปคก็มองข้ามไม่ได้เช่นกัน OPPO Find X3 Pro 5G นั้นมาพร้อมหน่วยประมวลผล Snapdragon 888 5G ตัวท็อปสุด ร่วมกับความจุ 12GB RAM + 256GB ROM เรียกว่าหายห่วงในเรื่องประสิทธิภาพได้เลย จัดเต็มแบบสุด ๆ
ชาร์จไวทั้งแบบสายและไร้สาย
OPPO Find X3 Pro 5G ได้แบตเตอรี่มาที่ 4500mAh รองรับชาร์จไวแบบสายที่ 65W SuperVOOC 2.0 และครั้งแรกบน Find Series คือรองรับระบบชาร์จไร้สายด้วย แถมยังเร็วถึง 30W AirVOOC อีกต่างหาก มีฟีเจอร์ Reverse Wireless Charging ที่ 10W ด้วยครับ
สรุปสเปค OPPO Find X3 Pro 5G
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.7” ความละเอียด QHD+ , refresh rate 120Hz, รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 1300 nits
- CPU : Snapdragon 888 Octa-core 2.84GHz (5nm)
- GPU : Adreno 660
- RAM : 12GB LPDDR5
- ROM : 256GB UFS 3.1
- แบตเตอรี่ : 4500mAh
- ระบบชาร์จ : 65W SuperVOOC 2.0 (แบบสาย) 30W AirVOOC (ไร้สาย)
- กล้องหลัง : 4 ตัว
- 50MP กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony IMX766 f/1.8 OIS
- 50MP กล้อง Ultra Wide เซ็นเซอร์ Sony IMX766 f/2.2 มุมกว้าง 110 องศา
- 3MP กล้อง Micro Lens f/3.0 ซูมสูงสุด 60x แบบกล้องจุลทรรศน์
- 13MP กล้อง Tele 2x f/2.4 รองรับ Hybrid Zoom 5x และ Digital Zoom 20x
- กล้องหน้า : 32MP f/2.2
- รองรับการเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/6, Bluetooth 5.2, NFC และพอร์ต USB Type-C
- ระบบปฏิบัติการ : Android 11 (Color OS 11.2)
สรุปหลังแกะกล่อง
ก็ถือว่าเป็นเรือธงที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับ OPPO Find X3 Pro 5G ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น สเปคที่จัดเต็ม จุดขายที่ชัดเจนในเรื่องการแสดงผลทั้งหน้าจอและกล้อง สเปคต่าง ๆ ก็ไม่เป็นรองเรือธงรุ่นไหนในตอนนี้เลย เรียกว่าครบเครื่องมาก ๆ ครับ สำหรับ OPPO Find X3 Pro 5G ตอนนี้ยังไม่ประกาศราคาทางการในไทย เราจะได้ทราบพร้อมกันในวันที่ 18 มี.ค.นี้ครับ แต่ใครที่อยากได้เป็นกลุ่มแรกตอนนี้ก็มีเปิดจองแบบ Exclusive Blind Booking จนถึงวันที่ 17 มี.ค.นี้
โดยรับของแถมมูลค่ารวมกว่า 19,497 บาท ประกอบด้วย
- OPPO AirVOOC Wireless Charger 45W
- KEVLAR Case
- Premium Card
- หูฟังไร้สาย OPPO Enco X
โดยหูฟัง OPPO Enco X นี้ถือเป็นหูฟัง TWS ระดับแฟล็กชิพของ OPPO จับมือร่วมกับ Dynaudio ผู้นำด้านการผลิตเครื่องเสียงจากเดนมาร์กเพื่อมอบประสบการณ์การฟังที่ดีท่ีสุด
มาพร้อมคุณสมบัติเด่นมากมาย ทั้ง
- ระบบเสียง DBEE 3.0 Sound System
- การส่งผ่านแบบไร้สาย LHDCTM
- ระบบลดเสียงรบกวนที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้ 4 รูปแบบ
- ระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่นานถึง 25 ชั่วโมงเมื่อชาร์จในเคสชารจ์เพียงครั้งเดียว
- โทรได้อย่างไหลลื่นดว้ยไมโครโฟนbuilt-inในตัวหูฟัง,ไมโครโฟนarrayแบบคู่ภายนอกหูฟังและอัลกอริธึมควบคุม เสียงรบกวนด้วยไมโครโฟน 3 ตัว พร้อมกันกับฟิลเตอร์และระบบตรวจจับเสียงลม
- รองรับ Qi Wireless charging
แถมดีไซน์ยังดูหรูหราเข้ากับเครื่อง OPPO Find X3 Pro 5G อย่างมาก ใช้งานคู่กันนี่เรียกว่าได้ประสบการณ์สูงสุดเลยล่ะครับ
ดูรายละเอียดของ OPPO Find X3 Pro 5G Exclusive Blind Booking เพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ