รีวิว OPPO Neo 5s ดีไซน์เรียบง่าย หรูหรา มาครบทุกฟังก์ชั่น

OPPO Neo 5s สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่แบบเรียบง่าย หรูหราด้วยการเพิ่มความเงางามของฝาหลัง และกรอบสีทองสำหรับตัวเครื่องสีขาว อีกทั้งยังอัปเกรดสเปคให้แรงขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่น Neo 5 เดิมที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2014

สรุปข้อมูลและสเปค OPPO Neo 5s

• ราคาเปิดตัว 5,990 บาท (พฤษภาคม 2558)
• 2G : GSM 900 / 1800 / 1900 MHz
• 3G : HSDPA 850 / 900 / 2100
• 4G : LTE band 1(2100) / 3(1800) / 7(2600)
• รองรับ 2 ซิม (Micro SIM + Nano SIM)
• ขนาดตัวเครื่อง 131.9 x 65.5 x 8.0 มม.
• น้ำหนัก 135 กรัม
• หน้าจอแสดงผลขนาด 4.5 นิ้ว IPS FWVGA ความละเอียด 854 x 480 พิกเซล
• ระบบปฏิบัติการ ColorOS 2.0.1! (Android 4.4.4 KitKat)
• ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8916 Snapdragon 410
• ซีพียู Quad-core 1.2 GHz Cortex-A53
• กราฟิก (GPU) Adreno 306
• หน่วยความจำ RAM 1 GB
• หน่วยความจำ ROM 8 GB เพิ่มความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 128 GB
• กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล แฟลช LED
• กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
• รองรับ Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.0
• GPS/ A-GPS
• แบตเตอรี่ Li-ion 2,000 mAh (ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้)

ตัวเครื่อง ดีไซน์ และการแสดงผล

OPPO Neo 5s มาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายทรงสี่เหลียมขอบมุมโค้งมน ตัวเครื่องเป็นพลาสติกที่ให้ความเงางามคล้ายกระจกที่ฝาหลังของตัวเครื่อง และกรอบสีทองสำหรับตัวเครื่องสีขาว

ขนาดตัวเครื่อง 131.9 x 65.5 x 8.0 มม. มีขนาดเหมาะมือ สามารถใช้งานมือเดียวได้ และน้ำหนัก 135 กรัม ในส่วนของหน้าจอแสดงผลมีขนาด 4.5 นิ้ว เป็นแผงหน้าจอแบบ IPS LCD ให้ความคมชัดน้อยไปหน่อย FWVGA ความละเอียด 854 x 480 พิกเซล มีความหนาแน่นประมาณ 218 พิกเซลต่อนิ้ว สัดส่วนหน้าจออยู่ที่ประมาณ 64.6% ของสัดส่วนตัวเครื่อง

เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และช่องลำโพงสำหรับเสียงสนทนา ส่วนด้านล่างหน้าจอมีปุ่มนำทางแบบสัมผัสด้านล่างตัวเครื่องมี 3 ปุ่ม เริ่มจากซ้าย ได้แก่ ปุ่มเมนู, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อน ไม่มีไฟส่องสว่าง

ขอบด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.

ขอบด้านล่างตัวเครื่องมีพอร์ตเชื่อมต่อขนาด micro USB และช่องสำหรับไมโครโฟนเสียงสนทนา

ขอบทางด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และขอบทางด้านซ้ายมีปุ่มปิด/เปิดเครื่องหรือปิด/เปิดหน้าจอ

ด้านหลังตัวเครื่องมีเลนส์กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ไฟแฟลช LED และช่องสำหรับสำโพงการเล่นเสียงมัลติมีเดีย

ฝาหลังแกะเปิดได้ มีช่องใส่ซิมขนาด Micro SIM จำนวน 1 ช่องกับขนาด Nano SIM จำนวน 1 ช่อง และช่องใส่ microSD card ความจุสูงสุด 128GB ส่วนแบตเตอรี่ขนาด 2,000 mAh ถูกฝังติดมากับตัวเครื่อง ไม่สามารถแกะออกได้

อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน

OPPO Neo 5s รันระบบปฏิบัติการ ColorOS 2.0.1! (Android 4.4.4 KitKat) หน้าตาอินเตอร์เฟซโดยรวมก็จะคล้ายกับรุ่นอื่น ๆ ในส่วนของหน้าจอหลักหรือหน้าโฮมสามารถปรับแต่งได้ทั้งการจัดเรียงไอคอนแอพพลิเคชั่น การเพิ่มวิดเจ็ต และภาพวอลเปเปอร์ เป็นต้น

สำหรับใครที่เบื่อหน้าตาเดิม ๆ ของอินเตอร์เฟซที่มากับเครื่องก็สามารถเปลี่ยนธีมได้ ซึ่งระบบธีมสามารถเพิ่มดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ฟรีแบบออนไลน์

OPPO Neo 5s รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลผ่าน 2G, 3G และ 4G LTE แต่การใช้งาน 3G, 4G LTE นั้นเลือกใช้ได้เพียง 1 ซิมเท่านั้น เมื่อเลือกแล้วอีกซิมจะสลับไปเป็นการใช้งานบน 2G อัตโนมัติ

ฟีเจอร์การสั่งงานด้วยทางทางมีทั้งแบบขณะหน้าจอปิดและขณะหน้าจอเปิด มาดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

การสั่งงานด้วยท่าทางการวาดบนหน้าจอขณะหน้าจอปิด ได้แก่

• การเคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อเปิดหน้าจอ
• การวาดตัวโอ ” O ” เพื่อปลดล็อคหน้าจอเข้าใช้งานแอพกล้องถ่ายรูปได้ทันที
• การวาดสัญลักษณ์เพื่อควบคุมเครื่องเล่นเพลง

นอกจากนี้ก็สามารถเพิ่มท่าทางการวาดสำหรับเรียกใช้งานฟังก์ชั่นอื่น ๆ ได้ด้วย

การสั่งงานด้วยท่าทางการวาดบนหน้าจอขณะหน้าจอเปิด ได้แก่

• แตะปุ่มโฮม 2 ครั้งเพื่อปิดหน้าจอพร้อมกับล็อคหน้าจอ
• การใช้ 3 นิ้วแตะที่หน้าจอแล้วลากเพื่อจับภาพหน้าจอ

การใช้ท่าทางสำหรับฟังก์ชั่นการโทร

• เมื่อมีสายเข้าสามารถยกมือถือมาแนบหูเพื่อรับสายได้เลย ไม่ต้องแตะหน้าจอเพื่อกกดรับสาย
• ขณะรับสายโทรเข้าหากเปิดลำโพงอยู่ เมื่อยกมือถือมาแนบหูจะสลับไปใช้ช่องลำโพงเสียงเหนือหน้าจอสำหรับหูฟังอัตโนมัติ
• สามารถปิดเสียงสายโทรเข้าได้ง่าย ๆ โดยการคว่ำหน้าจอลง

นอกจากนี้ยังมีโหมดที่สามารถใช้งานหน้าจอได้แม้สวมใส่ถุงมือ ซึ่งก็เป็นฟีเจอร์หนึ่งที่ใส่มาให้กับผู้ใช้งานในเมืองหนาวนั่นเองครับ

การจัดการพลังงานก็มีโหมดประหยัดพลังงานมาให้ทั้งแบบธรรมดาคือใช้งานฟังก์ชั่นของเครื่องได้เหมือนเดิมแต่จะปิดการใช้งานแอพเบื้องหลังเพื่อลดการใช้งานพลังงานให้อยู่ได้ยาวนานขึ้น และอีกหนึ่งโหมดคือแบบขั้นสูง ซึ่งจะใช้งานได้เฉพาะฟังก์ชั่นพื้นฐานเท่านั้น ได้แก่ การโทร ข้อความ เป็นต้น เพื่อแลกกับการให้แบตเตอรี่อยู่ได้นานมากที่สุด

ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช

• Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
• Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
• Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
• Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
• Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
• Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
• รองรับมัลติทัชสูงสุด 5 จุด

OPPO Neo 5s ไม่มีเซ็นเซอร์ Gyro ซึ่งเป็นตัวตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม มีความแม่นยำกว่าเซ็นเซอร์ Accelerator ส่วนใหญ่ใช้ในการควบคุมการเล่นเกมส์ที่ต้องอาศัยการเคลื่อนไวเป็นหลัก เช่น เกมแข่งรถ เป็นต้น

ประสิทธิภาพการทำงาน

OPPO Neo 5s ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8916 Snapdragon 410 ซีพียู Quad-core 1.2 GHz แบบ 64 บิต กับจีพียู Adreno 306 และแรมขนาด 1 GB แม้ว่าจะมาพร้อมกับซีพียู 64 บิตแต่ Neo 5s ยังรันระบบปฏิบัติการ Android 4.4 KitKat ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการแบบ 32 บิตทำให้ไม่สามารถดึงประสิทธิภาพของซีพียู 64 บิตออกมาใช้งานได้

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu ทำคะแนนรวมได้ 21,812 คะแนน และ Quadrant Standard ได้ 12,056 คะแนน ในขณะที่ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย BaseMark OS ได้ 565 คะแนน และผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย NenaMark 2 ได้ 59.9 เฟรมต่อวินาที

กล้องถ่ายรูป

OPPO Neo 5s มีกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 ประกอบด้วย 5 ชิ้นเลนส์ พร้อมแฟลช LED ช่วยถ่ายภาพในที่แสงน้อย มีระบบออโต้โฟกัส, แตะหน้าจอเพื่อโฟกัส, แนบแผนที่ลงในภาพถ่าย, ตรวจจับใบหน้า, HDR และพาโนรามา ขนาดภาพถ่ายสูงสุด 3264 x 2448 พิกเซล และบันทึกวิดีโอที่ความคมชัด 720p ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล

ด้วยเทคโนโลยี Pure Image ทำให้มีลูกเล่นของกล้องให้เลือกใช้และดาวน์โหลดเพิ่มเติมเองได้จากในตัวแอพกล้อง

ตัวอย่างภาพถ่าย

สรุปจุดเด่น

• Qualcomm MSM8916 Snapdragon 410 ซีพียู Quad-core 1.2 GHz แบบ 64 บิต
• กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล มีแฟลช LED
• รองรับการใช้งาน 2 ซิม และใช้งาน 3G/4G LTE ในไทยได้
• เพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 128GB
• ฟังก์ชั่นการใช้งานมีให้เลือกใช้เยอะมาก

จุดสังเกตเพิ่มเติม

• ความคมชัดของหน้าจอน้อยไปหน่อย FWVGA ความละเอียด 854 x 480 พิกเซล
• ปุ่มกดสั่งงานไม่มีไฟส่องสว่าง ทำให้มองไม่เห็นในที่มืด
• แบตเตอรี่ 2,000 mAh ถือว่าน้อยหากเทียบกับฟังก์ชั่นที่มีให้ใช้งาน และไม่สามารถถอดเปลี่ยนเองได้

ขอบคุณ บริษัท ไทย ออปโป้ จำกัด