Connect with us

Featured

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G สมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายพอร์ตเทรตได้ดีที่สุดเสมือนกล้อง DSLR ในราคาหมื่นต้น!

Published

on

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G สมาร์ทโฟนรุ่นน้องเล็กจาก OPPO Reno7 Series 5G ที่มาตอกย้ำจุดยืน The Portrait Expert ในราคาที่จับต้องได้มากขึ้นไปอีก รุ่นนี้มาพร้อมความสามารถด้านการถ่ายภาพไม่แพ้รุ่นพี่เลยด้วยฟีเจอร์ Bokeh Flare Portrait, Selfie HDR และอีกเพียบ 

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G

และหลังจากที่เราไปลองใช้งานและถ่ายภาพมาอย่างจุใจแล้ววันนี้จะมารีวิวเต็ม ๆ ให้ชมกันว่ารุ่นนี้ The Portrait Expert สมชื่อสักแค่ไหน พร้อมแล้วติดตามกันเลยครับ!

สรุปสเปค OPPO Reno7 Z 5G

  • หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.4″ ความละเอียด FHD+ 
  • refresh rate : 60Hz
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 695 5G (6nm)
  • RAM : 8GB (+ 5GB RAM Expansion)
  • ROM : 128GB
  • แบตเตอรี่ : 4500mAh
  • ระบบชาร์​จ : ชาร์จไว 33W SUPERVOOC
  • กล้องหน้า : 16MP
  • กล้องหลัก : 3 ตัว
    • กล้องหลัก 64MP
    • กล้อง Depth 2MP
    • กล้อง macro 2MP
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 12
  • สีสัน : Rainbow Spectrum, Cosmic Black
รีวิว OPPO Reno7 Z 5G

ดีไซน์ OPPO Glow พร้อมพื้นผิว 2 เลเยอร์ในชิ้นเดียว

เริ่มต้นที่ดีไซน์กันก่อนเลย OPPO Reno7 Z 5G มาพร้อมฝาหลังอันโดดเด่นและเทคโนโลยีเฉพาะอย่าง OPPO Glow ที่จะมอบผิวสัมผัสแบบด้านที่สบายมือเวลาจับถือ แต่ก็แทรกความระยิบระยับด้วย Texture ภายใน ตรงนี้เป็นจุดที่เราชอบมาก เพราะน้อยแบรนด์ที่จะทำฝาหลังได้สวยแบบนี้และไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือจนเกินไปด้วย

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G
รีวิว OPPO Reno7 Z 5G

ความพิเศษในรอบนี้ไม่ใช่แค่พื้นผิวแบบ OPPO Glow อย่างเดียวเท่านั้น เพราะฝาหลังของ OPPO Reno7 Z 5G ยังมีเทคนิคพิเศษอีกอย่างคือมีพื้นผิว 2 เลเยอร์บนฝาหลังแผ่นเดียว โดยเป็นการผสานกันของพื้นผิวเงาและด้าน 2 เลเยอร์พร้อมกับซ้อนด้วยพื้นผิวของ OPPO Glow ในชั้นสุดท้ายด้วยวิธีนี้ทำให้ OPPO สามารถตัดการตกแต่งรอบ ๆ ฐานของกล้องเป็นอีกรูปแบบ ทำให้ฝาหลังมีทั้งพื้นผิวด้านคู่กับพื้นผิวมันเงาในแผ่นเดียวได้อย่างลงตัวครับ

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G

Dual Orbit Lights วงแหวนแจ้งเตือนสุดแนว

แต่ทีเด็ดสุด ๆ ของรุ่นนี้คงหนีไม่พ้นไฟแจ้งเตือนแบบใหม่ที่ OPPO เรียกว่า Dual Orbit Lights เป็นวงแหวนที่อยู่รอบเลนส์กล้องหลักทั้ง 2 ตัว เวลามีการแจ้งเตือนเข้ามาหรือตอนเสียบชาร์จ วงแหวนรอบ ๆ เลนส์กล้องจะมีไฟติดขึ้นมาเป็นสี น้ำเงิน ฟ้าอ่อน ฟ้าคราม หรือเบบี้บลู เสมือนวงแหวนสวรรค์ 2 วงที่ตกลงมาจากท้องฟ้ายามค่ำคืนยังไงยังงั้น และยิ่งสะท้อนลงบนฐานกล้องที่เป็นแบบมันวาวก็ยิ่งคมชัดและสม่ำเสมอเข้าไปอีก

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G
รีวิว OPPO Reno7 Z 5G

Ultra-Slim Retro Design ขอบเหลี่ยมน่าสัมผัส

OPPO Reno7 Z 5G มาพร้อมดีไซน์ขอบเหลี่ยมหรือ Ultra-Slim Retro Design ที่เป็นเอกลักษณ์ชวนให้สัมผัสได้อย่างดี ผิวสัมผัสของกรอบเครื่องก็เป็นแบบด้านด้วย ทำให้จับถือได้ดีไม่เหนียวมือหรือดูสกปรกได้ง่าย มีความบางเฉียบเพียง 7.55 มม.ในสี Cosmic Black และ 7.49 มม.สำหรับสี Rainbow Spectrum

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G

น้ำหนักของตัวเครื่องก็ทำได้ดีเลย เบาแค่ 173 กรัมเท่านั้น ตามสไตล์ OPPO Reno Series ที่เน้นความบางและเบาจริง ๆ ครับ ถือใช้งานได้อย่างสะดวก จะเล่นนาน ๆ ก็ไม่ต้องกลัวเมื่อยข้อมือ

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G

หน้าจอ Single Punch-Hole AMOLED FHD+

มาดูที่หน้าจอของ OPPO Reno7 Z 5G กันบ้าง รุ่นนี้ใช้จอ Single Punch-Hole AMOLED FHD+  ขนาด 6.4″ ในเรื่องการแสดงผลทำได้ดีทีเดียวครับ ใช้พื้นที่หน้าจอไปมากถึง 90.8% กันเลย ส่วนเรื่องสีสันก็สวยคมชัดตามสไตล์จอ AMOLED เลยครับ ถ้าเอามาดูหนังดู MV หรือภาพความละเอียดสูงถูกใจแน่นอน

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G
รีวิว OPPO Reno7 Z 5G

และแน่นอนว่าความเป็นหน้าจอ AMOLED ก็จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ In-Display Fingerprint Unlock มาให้ด้วย การทำงานถือว่ารวดเร็วเลยทีเดียว แตะสแกนได้ง่าย นอกจากนี้ระบบรักษาความปลอดภัยอื่นก็ยังมีระบบสแกนใบหน้ามาให้ใช้งานควบคู่กันด้วย ถือว่าสะดวกทีเดียวครับ

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G

ปุ่มกดวางได้ดี พอร์ตการเชื่อมต่อให้มาครบ

ตำแหน่งปุ่มกดของตัวเครื่องก็วางไว้ในมุมมาตรฐานของ OPPO เลยครับ ด้านซ้ายมือเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ที่อยู่ด้านขวามือ แต่รอบนี้ที่ปุ่ม Power ไม่มีแถบสีเขียวเข้ามาเพิ่มครับ

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G

พอร์ตการเชื่อมต่อของ OPPO Reno7 Z 5G จะอยู่ที่ด้านล่างของตัวเครื่องมีมาให้ครบทั้งพอร์ตการเชื่อมต่อหลักเป็น USB-C ด้านข้างมีไมโครโฟน ลำโพงหลักของตัวเครื่องและช่องหูฟัง 3.5 มม.ก็มีมาให้ด้วยครับรุ่นนี้ ส่วนด้านบนจะมีเพียงไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนอย่างเดียวครับ

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G
รีวิว OPPO Reno7 Z 5G

ปิดท้ายที่ช่องใส่ซิม OPPO Reno7 Z 5G จะอยู่ที่ฝั่งซ้ายมือของตัวเครื่อง ตัวถาดซิมเป็นแบบไฮบริดต้องเลือกว่าใส่ซิมที่ 2 หรือใส่ micro-SD แทนครับ

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G

โดยรวมในเรื่องของดีไซน์ก็ถือว่ายอดเยี่ยมและโดดเด่นเลยสำหรับ OPPO Reno7 Z 5G ทั้งฝาหลังที่มีเอกลักษณ์แบบ OPPO Glow ดีไซน์กรอบเหลี่ยม Ultra-Slim Retro Design ที่ช่วยดึงดูดความน่าสนใจของดีไซน์ขึ้นอีกเยอะ และทีเด็ดก็คือไฟแจ้งเตือน Dual Orbit Lights ที่ไม่เหมือนใครอีกด้วยครับ!

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G

กล้อง High-Res 64MP

มาต่อที่กล้องอีกหนึ่งไฮไลท์ของ OPPO Reno7 Z 5G รุ่นนี้ให้กล้องหลังมา 3 ตัวและกล้องหน้า 1 ตัวมีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้ครับ

  • กล้องหลัก High-Res 64MP f/1.7
  • กล้อง Depth 2MP f/2.4
  • กล้อง macro 2MP f/2.4
  • กล้องหน้า 16MP f/2.4
รีวิว OPPO Reno7 Z 5G

ในเรื่องกล้องจะเห็นว่า OPPO Reno7 Z 5G ได้กล้องหลักความละเอียดสูง 64MP มาเลย ในเรื่องคุณภาพมั่นใจได้เลยว่าถ่ายภาพวิวหรือภาพ Portrait ออกมาได้คมชัดสุด ๆ แน่นอน ส่วนอีก 2 ตัวที่ให้มาคือกล้อง Depth และ macro ครับ

ถ่าย Portrait ดั่งกล้อง DSLR ด้วย Bokeh Flare Portrait

ไฮไลท์ในเรื่องการถ่าย Portrait ของ OPPO Reno7 Z 5G นี้ก็คือโหมด Bokeh Flare Portrait นี่เองครับ ด้วยฟีเจอร์นี้เราจะสามารถถ่ายภาพได้สวยดั่งกล้อง DSLR ระดับไฮเอนด์ที่มีรูรับแสงกว้างได้ด้วยอัลกอริธึมเฉพาะของ OPPO ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสว่างให้กับแบบ พร้อมเบลอฉากหลังและเพิ่มดวงโบเก้ให้อัตโนมัติ ที่สำคัญก็คือโหมดนี้เราสามารถใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลยด้วยนะ

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G

เท่าที่เราลองใช้งานจริง โหมดนี้ก็ช่วยให้เราได้ภาพ Portrait สวยดั่งกล้อง DSLR ตามที่ OPPO บอกจริง ๆ ครับ แถมยังได้ความเก่งกาจของ AI ที่ช่วยปรับความเนียนของใบหน้า ปรับโทนสีให้สวยขึ้นแม้เป็นภาพย้อนแสงก็ไหว ความเนียนของโบเก้ที่เพิ่มเข้ามาก็ไม่ใช่สักแต่ว่าเบลอและเพิ่มดวง ๆ ขึ้นมา แต่ทุกดวงที่เพิ่มขึ้นมามีมิติและสมจริงแบบที่ควรจะเป็น ทำให้ยิ่งเนียนเหมือนใช้กล้อง DSLR เข้าไปใหญ่เลยล่ะครับ

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G
รีวิว OPPO Reno7 Z 5G
รีวิว OPPO Reno7 Z 5G
รีวิว OPPO Reno7 Z 5G

กล้องหน้า 16MP เซลฟี่สวย Bokeh Flare Portrait ได้เหมือนกัน

อย่างที่บอกว่าโหมด Bokeh Flare Portrait นั้นสามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ซึ่งบนกล้องหน้าความละเอียด 16MP นี้ก็ช่วยให้เราได้ภาพที่คมชัดพร้อมกับการละลายฉากหลังเพิ่มโบเก้เป็นดวง ๆ สวยไม่แพ้กล้องหลัง แถมยังได้ความหน้าเนียนด้วย Portrait Retouching ซึ่งเทคโนโลยีนี้สามารถระบุจุดสำคัญบนใบหน้าสูงสุดถึง 373 จุด สามารถลบจุดด่างพร้อยบนใบหน้าด้วย AI มอบเอฟเฟกต์การปรับแต่งใบหน้า ในการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอพอร์ตเทรตทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ที่มีความสวยงามเป็นธรรมชาติได้

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G
รีวิว OPPO Reno7 Z 5G
รีวิว OPPO Reno7 Z 5G
รีวิว OPPO Reno7 Z 5G

Selfie HDR เซลฟี่ได้คมชัดแม้แสงน้อยหรือย้อนแสง

อีกหนึ่งฟีเจอร์ของกล้องหน้า OPPO Reno7 Z 5G ที่เราชอบมาก ๆ ก็คือ Selfie HDR ฟีเจอร์นี้จะเป็นการเพิ่ม Dynamic Range ให้ภาพเซลฟี่ขึ้น ไม่ว่าเราจะถ่ายภาพย้อนแสงหรือภาพในที่แสงน้อยก็มั่นใจได้เลยว่า ใบหน้าของแบบจะคมชัดและรายละเอียดโดยรวมของภาพก็จะยังได้แสงที่เท่า ๆ กันไม่มีจุดไหนที่โดดเกินไป ซึ่งฟีเจอร์นี้จะเปิด Auto มาที่ค่าเริ่มต้นแล้ว จะถ่ายเซลฟี่ในมุมไหนก็เอาอยู่ครับ และเราสามารถใช้ Selfie HDR กับ Bokeh Flare Portrait พร้อมกันใน Portrait mode ได้ ซึ่งถ้าจะให้แนะนำมุมเซลฟี่ที่จะออกมาสวยปังที่สุดก็คงเป็นเซลฟี่กับทิวทัศน์ของเมืองในตอนกลางวัน คาเฟ่เก๋ ๆ สักที่ที่มีพื้นหลังเป็นฉากพระอาทิตย์กำลังตกดิน หรือเซลฟี่กับเพื่อน ๆ ในตอนกลางคืนใต้ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่หรือแสงไฟนีออนของบาร์ต่าง ๆ ในเมือง

รีวิว OPPO Reno7 Z 5G
รีวิว OPPO Reno7 Z 5G

ถ่ายวิวดีด้วย AI Scene Recognition

ในการถ่ายภาพทั่วไป จะถ่ายวิว ถ่ายอาหาร OPPO Reno7 Z 5G ก็ยังเก่งเพราะมี AI Scene Recognition ที่จะเข้ามาจัดการปรับภาพ โทนสี และความคมชัดให้เข้ากับภาพที่เราจะถ่ายอาทิ ถ่ายวิวที่ท้องฟ้าสวยเคลียร์ก็จะได้ฟ้าที่สีสวยขึ้น ถ่ายภาพดอกไม้ก็สีสดขึ้น หรือถ่ายอาหารก็ดูน่ากิน นอกจากนี้ในกล้องหลังก็ยังมี Auto HDR ที่จะคอยดึง Dynamic Range ให้กว้างขึ้น จะถ่ายย้อนแสงก็มั่นใจได้ว่าหน้าจะไม่มืดกลืนไปกับฉากหลังครับ

Macro ส่องวัตถุใกล้ ๆ ได้ด้วย

และปิดท้ายที่กล้องตัวสุดท้ายกับกล้อง macro ที่มีความละเอียด 2MP อาจจะไม่ได้มากมายแต่ก็ให้เราได้เก็บภาพในระยะใกล้สุดที่ 4 ซม. แต่ตรงนี้ต้องบอกก่อนว่าจำเป็นต้องมีแสงเพียงพอต่อการถ่ายนิดหน่อยเพื่อความคมชัดของภาพครับ

โดยรวมในเรื่องกล้องของ OPPO Reno7 Z 5G ก็ทำได้น่าประทับใจมากครับ โดยเฉพาะจุดเด่นอย่าง Portrait ที่ตอกย้ำความเป็น The Portrait Expert ได้อย่างครบถ้วน ส่วนการถ่ายเซลฟี่ ถ่ายวิว หรือ Macro ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน เรียกว่าเป็นกล้องที่ครบเครื่องใช้ได้เลยล่ะครับ

ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุด ColorOS 12

มาต่อกันที่เรื่องซอฟต์แวร์และประสบการณ์การใช้งานครับ รีวิว OPPO Reno7 Z 5G นั้นมาพร้อม ColorOS 12 เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดของ OPPO ตอนนี้ครอบทับอยู่บน Android 11 ตัว UI มีความสวยงามมากขึ้น ใช้งานได้อย่างลื่นไหล

หรือจะเป็นในเรื่องการปรับแต่ง ColorOS 12 ก็ยังมีมาให้เราเลือกมากมาย ทั้งรูปแบบ Theme, ธีมสีของตัวเครื่องที่ปรับได้มากขึ้น, รูปแบบไอคอน, รูปแบบอนิเมชั่นสแกนนิ้ว หรือกระทั่ง AOD ก็มีด้วย เรียกว่าใครที่ชอบการปรับแต่งที่หลากหลายให้เป็นสไตล์เราไม่เหมือนใคร น่าจะถูกใจ

ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 695 5G

สำหรับประสิทธิภาพของ OPPO Reno7 Z 5G ก็สบายใจหายห่วงได้ครับ รุ่นนี้มาพร้อมชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 695 5G ขนาด 6nm ที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งการทำงานทั่วไป จนถึงการประมวลผลหนัก ๆ ผ่านการเล่นเกม

ความจุภายในตัวเครื่องให้มาเป็น 8GB + 128GB ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ตัวความจุภายในถ้าไม่พอก็ยังสามารถเพิ่ม micro-SD ได้อย่างที่บอกไป ส่วนแรมก็มีฟีเจอร์ RAM Expansion ที่จะมาขยายให้เราใช้งานได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น ตรงนี้เราสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 5GB เลย รวมกับที่ให้มาจริง ๆ ก็เป็น 13GB กันเลยนะ

ผลคะแนนเป็นไงบ้างนะ ?

เพื่อให้ได้เห็นภาพว่าประสิทธิภาพของ OPPO Reno7 Z 5G อยู่ในระดับไหน เราก็ได้ทดสอบผ่านแอป AnTuTu Benchmark และ GeekBench 5 มาให้เห็นคะแนนคร่าว ๆ กันครับ โดยคะแนนของ AnTuTu ก็ออกมาสูงทีเดียว ได้ไป 349480 คะแนน

ส่วนฝั่ง GeekBench 5 ก็ได้คะแนน Single-core ไปที่ 641 คะแนน และ Multi-core 1843 คะแนนครับ

เล่นเกมกันสักหน่อย!

ไหน ๆ เราก็ทดสอบประสิทธิภาพไปแล้ว ก็มาต่อที่การเล่นเกมเลยดีกว่า เกมที่เราใช้ทดสอบในรอบนี้คือ Call of Duty และ Pokemon Unite ครับ และผลการทดสอบก็ออกมาดังนี้เลย

เล่น Call of Duty บน OPPO Reno7 Z 5G

สำหรับเกม Call of Duty เราสามารถเลือกระดับกราฟิกได้ที่ High คู่กับเฟรมเรตระดับ Max เลย ซึ่งเท่าที่เราลองเช็ก fps ที่รันได้จริง ๆ ก็รันที่ 39 – 40fps ตลอดทั้งเกมนะครับ ให้ความลื่นไหลที่น่าประทับใจทีเดียวกับเกมแนวยิงแบบนี้ การสัมผัสก็ถือว่าทำได้ติดนิ้วใช้ได้

เล่น Pokemon Unite บน OPPO Reno7 Z 5G

ต่อมากับ Pokemon Unite เราก็ยังสามารถปรับระดับกราฟิกและเฟรมเรตได้ที่สูงสุดเช่นกัน ซึ่งตัวเกมรันได้อย่างลื่นไหลเลย เฟรมเรตที่เราเจอจะอยู่ที่ 54 – 60fps กันเลย ถือว่าเล่นได้อย่างลื่นสุด ๆ เลยล่ะครับระดับนี้

ในเรื่องประสิทธิภาพ OPPO Reno7 Z 5G ก็ทำได้อย่างดี ใครที่ชอบเล่นเกมกราฟิกสูง ๆ ก็หายห่วงได้ ชิปเซ็ต Snapdragon 695 คู่กับแรม 8GB (+ 5GB RAM Expansion) ถือว่าทำได้ดีเลย ไม่เจอปัญหาการใช้งานว่ากระตุกหรือค้างให้หงุดหงิดแน่นอนครับ

แบตเตอรี่ 4500mAh ใช้ได้ยาวนาน ไม่มีสะดุด

ปิดท้ายที่เรื่องแบตเตอรี่และการชาร์จ OPPO Reno7 Z 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4500mAh ซึ่งถือว่าเยอะมาก ๆ เลยทีเดียว เท่าที่เราลองใช้งานมาก็ถือว่าผ่าน 1 วันได้สบาย ๆ กับการใช้งานทั่วไป แต่ถ้าใช้งานหนักหน่อย มีเล่นเกม ถ่ายรูปต่อเนื่อง ก็ยังเอาอยู่ตลอดทั้งวันแน่นอนครับ สบายใจได้เลย

ส่วนระบบชาร์จ OPPO Reno7 Z 5G ก็มาพร้อมระบบชาร์จไว 33W SUPERVOOC ที่ชาร์จ 0 – 100% ได้ในเวลาเพียง 63 นาทีเท่านั้น หรือถ้ามีเวลาไม่มากนักแต่ต้องใช้งาน OPPO เคลมว่าชาร์จ 5 นาทีก็สามารถคุยโทรศัพท์ได้ถึง 3 ชั่วโมงแล้วครับ ไวจริง ๆ

OPPO Reno7 Z 5G ราคา 12,990 บาท

สมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่ดีที่สุด OPPO Reno7 Z 5G รุ่นล่าสุด กับนวัตกรรมถ่ายภาพที่ให้เป็นตัวเองได้ไม่จำกัดด้วยพอร์ตเทรต เตรียมวางจำหน่ายในราคา บาท มี 2 สี ได้แก่ สีรุ้ง Rainbow Spectrum และสีดำ Cosmic Black จองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 16 มีนาคมนี้ พร้อมรับของสมนาคุณ E-VIP Card ประกันหน้าจอแตก และ OPPO SPORTS BAG มูลค่ารวม 7,499 บาท

เป็นเจ้าของ OPPO Reno7 Z 5G ได้ง่ายขึ้นเมื่อจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย ในราคาเริ่มต้นเพียง 4,790 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 16 มีนาคม 2565 เท่านั้น

โดย OPPO Reno7 Z 5G จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 มีนาคม 65 เป็นต้นไป ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

สรุปแล้ว “นี่คือสมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายพอร์ตเทรตได้ดีที่สุดในงบหมื่นต้น”

สรุปแล้ว OPPO Reno7 Z 5G ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่เก่งในเรื่องการถ่ายพอร์ตเทรตเหนือคู่แข่งในกลุ่มราคาเดียวกันจริง ๆ ด้วยฟีเจอร์เจ๋ง ๆ อย่าง Bokeh Flare Portrait ช่วยเปลี่ยนภาพถ่ายให้สวยดั่งกล้อง DSLR แบบที่หาได้ยากในเรตราคานี้ อีกทั้งสเปคที่ให้มายังครอบคลุมการใช้งานครบ ทั้ง หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.4″ ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 695 5G มีความจุ 8GB + 128GB แบตเตอรี่เยอะ 4500mAh ชาร์จไว 33W SUPERVOOC และที่สำคัญยังได้ดีไซน์ทรง Ultra-Slim Design ที่โดดเด่นสะดุดตาอีกด้วย ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปพอร์ตเทรตสวย ๆ ในงบที่สบายกระเป๋าอยู่ OPPO Reno7 Z 5G คือตัวเลือกที่เราแนะนำที่สุดในตอนนี้เลยล่ะครับ!

จุดเด่น

  • กล้องทั้งหน้า-หลังถ่ายพอร์ตเทรตดีมาก
  • Ultra-Slim Retro Design ดีไซน์ขอบเหลี่ยม สวยงามน่าสัมผัส
  • ไฟแจ้งเตือน Dual Orbit Lights เท่มาก!
  • หน้าจอ Single Punch Hole AMOLED FHD+ 6.4″ แสดงผลได้ดี
  • แบตเตอรี่ 4500mAh อึดมาก พร้อมชาร์จไว 33W SUPERVOOC
  • มีช่องหูฟัง 3.5 มม.

จุดสังเกต

  • หน้าจอยังมี refresh rate 60Hz
Funtouch OS 15 All new features you need to know Funtouch OS 15 All new features you need to know
Android News11 ชั่วโมง ago

Funtouch OS 15 มีอะไรใหม่ ระบบปฏิบัติการอัปเกรดใหม่จาก vivo บน Android 15

ในยุคสมัยที่ผู้คนพึ่...

IT News1 วัน ago

AIS รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567

AIS รายงานผลประกอบกา...

IT News1 วัน ago

สรุปข่าวรอบสัปดาห์ระหว่างวันที่ 26 ต.ค. – 1 พ.ย. 67

ข่าวเด่นช่วงระหว่างว...

HUAWEI MatePad Pro 12.2 Jubilee Diamond HUAWEI MatePad Pro 12.2 Jubilee Diamond
News1 วัน ago

กุญแจแห่งความสำเร็จ! เมื่อผู้บริหาร JUBILEE DIAMOND เลือก HUAWEI MatePad Pro 12.2 ตัวช่วยทำงานที่ครบครัน พร้อมมอบสิทธิพิเศษเครื่องประดับเพชรแท้ JUBILEE DIAMOND

ในโลกธุรกิจที่เปลี่ย...

News1 วัน ago

AIS eSports ปิดฉากทัวร์นาเมนต์อีสปอร์ต ระดับมัธยมศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในไทย ปีที่ 4

AIS eSports ปิดฉากทั...

Infinix HOT 50 Pro+ Smartphone gaming Infinix HOT 50 Pro+ Smartphone gaming
Android News1 วัน ago

Infinix เปิดตัว HOT 50 Pro+ เกมมิ่งสมาร์ทโฟน 6,499 บาท

Infinix เปิดตัว HOT ...

Apple News1 วัน ago

ลือต่อ !! ชิปโมเด็ม 5G และ Wi-Fi บน iPhone รุ่นปี 2025 จะเป็นชิปแยก 2 ตัว

ไม่นานนี้มีข้อมูลจาก...

Samsung Galaxy Immersive Gardena Samsung Galaxy Immersive Gardena
News1 วัน ago

ครั้งแรก! ของการนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยจากซัมซุง SAMSUNG GALAXY IMMERSIVE GARDENA ในงานดอกไม้ประจำปี ที่เซ็นทรัลชิดลม วันนี้-15 พ.ย. 67

ซัมซุง ร่วมเฉลิมฉลอง...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก