รีวิวฉบับเต็ม POCO X7 Pro สมาร์ทโฟน Full Speed Ahead มาแล้วครับ รอบนี้ได้ความทรงพลังด้วยประสิทธิภาพระดับเรือธง แต่มาในราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น ! ใช้ขุมพลัง MediaTek Dimensity 8400-Ultra พร้อมด้วยสเปคระดับท็อปเพียบ ทั้งหน้าจอ CrystalRes AMOLED 6.67″ แบบ 120Hz ได้แบต 6000mAh และชาร์จไว 90W HyperCharge
สรุปสเปค POCO X7 Pro
- ขนาดรอบตัวเครื่อง : 160.75 x 75.25 x 8.29 มม.
- น้ำหนัก : 195 กรัม
- หน้าจอแสดงผล CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K+ (2712 x 1220 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 120Hz, ความไวตอบสนองการสัมผัส 480Hz, ความไวตอบสนองการสัมผัสฉับไว 2560Hz, 1920Hz PWM Dimming ความสว่างสูงสุด 3200 นิต, ความลึกของสี 12bit มีค่า Contrast Ratio 5000000:1 และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 7i
- CPU : MediaTek Dimensity 8400-Ultra Octa-core ความเร็วสูงสุด 3.25GHz
- GPU : ARM Mali-G720
- RAM : 12GB LPDDR6X
- ROM : 256/512GB UFS 4.0
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.5, รองรับกันสั่น OIS และเซ็นเซอร์ IMX882 ขนาด 1/1.95″
- เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8MP รูรับแสง f/2.2 และเซ็นเซอร์ OV20B (ขนาด 1/4″)
- กล้องหน้าความละเอียด 20MP รูรับแสง f/2.2
- ระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย Xiaomi HyperOS 2
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 (802.11ax), Bluetooth 6.0, NFC, 5G และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 6000mAh รองรับชาร์จเร็ว 90W HyperCharge
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
แกะกล่อง POCO X7 Pro
บอกเลยว่ากล่องของ POCO X7 Pro นั้นให้อุปกรณ์เสริมมาครบถ้วนแล้วครับ ซึ่งไม่จำเป็นต้องหาซื้ออะไรเพิ่มเติมแล้ว โดยทั้งหมดจะมีดังนี้
- ตัวเครื่อง POCO X7 Pro พร้อมติดฟิล์มกันรอย
- อะแดปเตอร์ 90W HyperCharge
- สาย USB-A to USB-C
- เคสซิลิโคนสีดำ
- เข็มเปิดถาดซิม
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ดีไซน์ที่เน้นประสิทธิภาพและผิวสัมผัส 2 แบบ
ดีไซน์ของ POCO X7 Pro ได้รับการออกแบบมาอย่างเป็นเอกลักษณ์และได้ความโดดเด่นมากๆ โดยที่เราได้จับอยู่นี้คือสีเหลืองที่เป็นการออกแบบผิวสัมผัส 2 แบบ หรือ 2 Tones ครับ โดยจะเป็นการใช้วัสดุหนังเป็นพื้นผิวเย็บตะเข็บและการตกแต่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสนามแข่งรถ ตัดกับโมดูลกล้องทรงแหวนเทอร์โบคู่ มีความพรีเมียมที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพขั้นสูงตั้งแต่แรกเห็นเลยทีเดียว
อย่างที่บอกไป สีเหลืองจะได้มาเป็นผิวสัมผัส 2 แบบ จะเป็นแบบเส้นตรงในส่วนของฝั่งสีเหลือง ขณะที่สีดำจะเป็นผิวสัมผัสแบบลายหนังทั่วไปครับ
นอกจากฝาหลังที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีแล้ว ตัวเครื่องก็มีความโค้งมนในมุมทั้ง 4 ด้าน ช่วยให้การจับถือหรือเล่นเกมเป็นเวลานานๆ ไม่รู้สึกบาดมือแน่นอน
มาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68
งานประกอบของ POCO X7 Pro ก็มาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68 ซึ่งสามารถป้องกันการตกน้ำได้ที่ความลึกสูงสุด 1.5 เมตร นานไม่เกิน 30 นาที ซึ่งมาตรฐานนนี้ไม่แนะนำให้ใช้งานใต้น้ำ เพราะเอาไว้ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุเท่านั้นครับ รวมถึงการใช้งานในตอนที่ฝนตกก็ยังทำให้เราได้ใช้งานต่อได้แบบไม่ต้องกังวล!
เทคโนโลยี LiquidCool 4.0 ระบายความร้อนที่ทรงพลังที่สุดของ POCO X Series
ภายในตัวเครื่องของ POCO X7 Pro มาพร้อมกับระบบระบายความร้อนเทคโนโลยี LiquidCool 4.0 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทรงพลังที่สุดของ POCO X Series ที่ผสมผสานการออกแบบทั้งฮาร์ดแวร์ และ AI เพื่อรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสมและประสิทธิภาพสูงสุดแม้ว่าจะใช้งานเป็นเวลานานแล้วก็ตาม ที่สำคัญก็ยังผสานระบบ POCO 3D IceLoop ที่นอกจากจะแยกไอน้ำและของเหลวออกจากกันแล้ว ยังมาพร้อมส่วนนูน 3 มิติสำหรับ CPU เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายความร้อนให้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยครับ
หน้าจอ CrystalRes AMOLED 120Hz ในระดับเรือธง
มาต่อกันที่หน้าจอรุ่นนี้กันบ้าง ที่ให้มาในสเปคเรือธงเลยจริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นพาเนลหน้าจอ CrystalRes AMOLED ขนาดที่กำลังพอดีๆ ที่ 6.67 นิ้ว คมชัดถึง 1.5K+ รองรับความลึกของสี 12bit พร้อมด้วยค่า Contrast Ratio 5000000:1 ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 7i ที่มีความแข็งแรงทนทานมากขึ้นกว่าเดิมครับ และที่ชอบสุดๆ เลยคือขอบจอนั้นบางเป็นพิเศษ ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดที่ไม่ใหญ่เกินไป แต่ได้พื้นที่การใช้งานหน้าจอแบบเต็มตาด้วย
ใครที่มาสายเกมเมอร์ก็ยังรองรับ Refresh Rate สูงสุดถึง 120Hz ควบคู่กับ Touch Smapling Rate (ความไวตอบสนองการสัมผัส) สูงสุด 480Hz แต่หากเปิดโหมด Game Turbo ก็จะสามารถเพิ่มความไวตอบสนองการสัมผัสฉับไวได้ถึง 2560Hz ด้วยครับ
ความสว่างสูงสุด 3200 นิต
ในการใช้งานหน้าจอกลางแจ้งของ POCO X7 Pro ก็ยังสู้แสงได้สบายๆ ซึ่งโหมดแสงแดดสามารถเพิ่มประสิทธิภาพความสว่างได้สูงสุดถึง 3200 นิตครับ
มือเปียกก็ใช้งานได้ต่อด้วยเทคโนโลยี Wet Touch
ใครที่จำเป็นต้องใช้งานในช่วงที่มือเปียก POCO X7 Pro ก็ยังรองรับการใช้เทคโนโลยี Wet Touch ที่อัปเกรดในการเพิ่มความแม่นยำในการสัมผัสในสภาวะต่างๆ ตั้งแต่คราบน้ำหรือคราบมัน
พาชมรอบเครื่อง
เราพามาดูรอบๆ เครื่องกันบ้างครับ ขอเริ่มที่ส่วนบนหน้าจอที่เป็นช่องลำโพงสำหรับการสนทนา ตามด้วยกล้องหน้า Punch Hole
ด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ 2 ซิม ตามด้วยไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB-C และลำโพงสเตอริโอตัวที่ 1
ฝั่งด้านบนจะเป็นลำโพงสเตอริโอตัวที่ 2 ตามด้วยเซ็นเซอร์ IR Blaster และไมโครโฟนตัวที่ 2
ฝั่งขวาจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ที่แอบมีใช้สีเหลืองเพื่อตัดกับสีดำได้อย่างลงตัวด้วย
ท้ายสุดที่ด้านหลังจะเป็นโมดูลกล้องหลังเป็นวงรีแนวตั้ง ประกอบด้วยกล้อง 2 เลนส์ ขณะที่ด้านข้างกล้องยังมีไฟแฟลช LED 2 ดวง และสัญลักษณ์ 50MP OIS
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
มาพร้อม Android 15 และ HyperOS 2 ใช้งานได้เสถียรมากขึ้น
ด้านของซอฟต์แวร์ของ POCO X7 Pro แกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย Xiaomi HyperOS 2 ที่มีการอัปเกรดในเรื่องของความเสถียรที่ตอนใช้งานนั้นรู้สึกได้ชัดเจนมากขึ้นครับ สัมผัสต่างๆ ติดนิ้ว
ลำโพงสเตอริโอคู่ เสียงดังสะใจ
POCO X7 Pro จัดลำโพงสเตอริโอคู่มาให้เราใช้งานกันแบบจัดเต็ม โดยมิติของเสียงนั้นดีมากๆ ไม่ว่าจะใช้งานในด้านการดูภาพยนตร์ วิดีโอ หรือเล่นเกม ก็ให้เสียงที่มีความชัดเจนมากครับ
แชทกับ Gemini จาก Google ได้เลย
บอกเลยว่าการใส่ Gemini ของ Google เข้ามานั้นช่วยเหลือในเรื่องการทำงานของเราได้ดีมากๆ เหมือนมีผู้ช่วยคนใหม่ที่เป็น AI ได้เหมือนมนุษย์มากขึ้น ภาษาที่ใช้งานก็เป็นธรรมชาติกว่าเดิมด้วย เราสามารถถามคำถามแบบต่อเนื่องได้เลย โดยที่สามารถใช้ภาษาพูดได้ตามปกติเหมือนคุยกับคนเลยครับ
ความปลอดภัยจัดมาให้ครบ
ในเรื่องความปลอดภัยของ POCO X7 Pro ก็มีตั้งแต่การใช้รหัสผ่านทั่วไป ตัวเลข และรูปแบบ ซึ่งก็ยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่ทำงานได้รวดเร็ว เสถียรและมีความปลอดภัย หรือใครจะใช้งานแบบสแกนใบหน้าก็ยังทำได้เช่นกัน
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ชิปเซ็ต Dimensity 8400-Ultra ระดับเรือธง
อย่างที่เราบอกไปคือสเปคที่ให้มาของ POCO X7 Pro จะเป็นระดับเรือธง เรื่องของหน่วยประมวลผลที่ใช้งานก็ให้พลังขั้นสูงด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8400-Ultra แบบ Octa Core ที่ใช้แกนประมวลผลหลักเป็น Cortex-A725 รุ่นแรกของโลก ทั้งยังเป็นการออกแบบคอร์แบบ All-Big-Core ที่เป็นคอร์ใหญ่ทั้งหมด ไม่มีคอร์ประหยัดพลังงานแล้วครับ ทั้งยังใช้กระบวนการผลิตที่เล็กมากเพียง 4nm จาก TSMC ทำให้ประหยัดพลังงานได้สูงขึ้น และให้พลังการทำงานนั้นสูงไม่ต่างจากชิปเรือธงของ MediaTek เลยครับ
ขยาย RAM ได้สูงสุดถึง 12GB
ความขั้นสุดของ POCO X7 Pro คือการให้ RAM มาถึง 12GB แบบ LPDDR5X ซึ่งเป็นชนิดของ RAM ที่เร็ว แรง และประหยัดพลังงานสุดๆ แล้วในตอนนี้ครับ ทั้งยังรองรับการเพิ่มส่วนขยาย RAM ได้สูงสุดถึง 12GB รวมมากสุด 24GB ช่วยให้การทำงานแบบหลายหน้าต่างหรือ Multi-Tasking ในพื้นหลังดีขึ้น โดยที่แอปต่างๆ ยังคงทำงานอยู่ได้แบบไม่ต้องมาโหลดใหม่ในตอนที่กลับมาใช้งาน
รีดพลังทั้งหมดในการเล่นเกมด้วย WildBoost Optimization 3.0
การใช้ชิปที่แรงอย่าง Dimensity 8400-Ultra แล้ว หลายคนก็คาดหวังเรื่องการเล่นเกมแน่นอน ซึ่งในรุ่นนี้ก็รองรับเทคโนโลยี WildBoost รุ่นใหม่ที่ยกระดับประสิทธิภาพ กราฟิก การเชื่อมต่อ และเสียงในเกมให้สูงที่สุด ไม่ว่าจะเป็น :
- ระบบเสียงในเกมที่ดีกว่าเดิม
- การรักษาความเสถียรของเฟรมเรทช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
- การปรับปรุงความเสถียรในการเชื่อมต่อ
- การออกแบบเสาอากาศแยก 3 เสา ทำให้การเชื่อมต่อเสถียรมากขึ้น
ผลการทดสอบบน AnTuTu 10 และ Geekbench 6
- ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.4.2 ได้มาที่ 1,646,301 คะแนน
- ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 1,560 คะแนน และ Multi-Core ที่ 6,236 คะแนน
ทดสอบการเล่นเกม
ขอทดสอบการเล่นเกมกันหน่อยครับ โดยเราได้ลองเล่นเกมกราฟิกปกติอย่าง ROV ไปจนถึงเกมกินพลังสุดๆ อย่าง Genshin Impact เลย ซึ่งแต่ละเกมจะเล่นได้ในระดับไหนบ้าง เราได้ลองไว้ให้แล้ว !
ROV
ประเดิมด้วยเกม ROV เราสามารถเปิดกราฟิกทุกอย่างสูงสุดได้แบบสบายๆ ครับ รวมถึงเปิดเงาหรือซอฟต์ไลต์ได้ด้วย โดยตลอดการเล่นเกมพบว่าเฟรมเรททำได้ลื่นๆ เฟรมนิ่ง 60-61fps ตลอดทั้งเกมจริงๆ และไม่มีจุดสะดุดอะไรเลยครับ
PUBG Mobile
สำหรับเกม PUBG Mobile ก็จะเปิดภาพระดับ Ultra HD และเฟรมเรท Ultra ได้เลยครับ แถมการเล่นจริงๆ ก็ไม่มีอาการงอแง ไม่มีสะดุด การสัมผัสหน้าจอติดนิ้วมากๆ ด้วยครับ ทั้งยังได้ประโยชน์จากลำโพงสเตอริโอคู่มาให้เราได้รับรู้ถึงตำแหน่งของศัตรูได้ด้วย
Genshin Impact
ปิดท้ายด้วยเกม Genshin Impact ที่แม้ว่าจะเป็นเกมกินสเปคแห่งยุค แต่รุ่นนี้ก็เอาอยู่ครับ โดยเราสามารถเปิดภาพสูงสุดและเฟรมเรท 60fps ได้ด้วย ในการเล่นทำได้ดีมาก ย้ำว่าไม่มีอาการกระตุก ไม่ว่าจะตอนเดิน วิ่ง บิน หรือตอนใส่สกิลที่มีเอฟเฟ็กต์ออกมาก็ตามครับ
แบตเตอรี่ 6000mAh พร้อมชาร์จไว 90W HyperCharge
POCO X7 Pro มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 6000mAh ซึ่งเป็นความจุที่สูงมากๆ ทำให้การใช้งานทั่วไป เช่น ดู YouTube หรือเล่นโซเชียล เป็นต้น พร้อมให้เราใช้ได้ตลอดวันแน่นอน และยังมีเหลือกลับมาชาร์จต่อได้ด้วย
ความสุดยอดของรุ่นนี้ก็ยังรองรับชาร์จไว 90W HyperCharge ซึ่งเราได้ลองใช้งานการชาร์จจริงๆ จาก 14% จนมาถึง 50% ใช้เวลาเพียง 18 นาทีเท่านั้น และก็เต็ม 100% ในเวลาประมาณ 55 นาทีครับ ทั้งนี้ ใครที่กังวลเรื่องความปลอดภัยก็ไม่ต้องห่วง เพราะมีชิป Surge P2 ที่พัฒนาโดวย Xiaomi พร้อมด้วยมาตรการความปลอดภัย 58 ประการ เป็นระบบการชาร์จอัจฉริยะที่ได้รับการปรับปรุงให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้มากขึ้น และก็ให้ประสิทธิภาพในการชาร์จที่สูงกว่า ทนทานต่อความเย็นได้ดีขึ้น และแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานนานขึ้น
พลังกล้องหลัง AI ถ่ายสวยขึ้น
POCO X7 Pro ให้กล้องหลังมา 2 เลนส์ และกล้องหน้าอีก 1 เลนส์ ซึ่งการถ่ายภาพมีการอัปเกรดเป็นเซ็นเซอร์ IMX882 ปริมาณแสงเข้าเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 65% พร้อมด้วยกันสั่น OIS ที่ช่วยในการถ่ายภาพมากขึ้น ขณะที่สเปคกล้อง เราขอสรุปไว้ให้อีกรอบ ดังนี้
- เลนส์หลัก 50MP, f/1.5, รองรับกันสั่น OIS และเซ็นเซอร์ IMX882
- เลนส์ Ultra-Wide 8MP, f/2.2
- กล้องหน้า 20MP, f/2.2
กล้องหลัก 50MP พร้อม AI และ Dynamic Shots
แม้ว่า POCO X7 Pro จะให้เรื่องชิปเซ็ตที่ทรงพลังและเน้นเรื่องการเล่นเกมเป็นหลัก แต่กล้องหลังก็ยังไม่ทิ้ง แถมยังจัดเต็มด้วย โดยโหมดหลักนั้นรองรับก AI อีกด้วย ทำให้การถ่ายภาพที่ได้ในทุกช็อตจะนิ่งมากๆ การเก็บแสงและเงาทำได้ยอดเยี่ยมเพราะรูรับแสงกว้างถึง f/1.5 ที่เปิดรับแสงได้มากกว่ารุ่นอื่น ที่สำคัญเรื่องของสีสันก็ให้มาแบบสดใส ไม่ดูจืด ทำให้เราแทบไม่ต้องมานั่งปรับเองทีหลังด้วย
และสิ่งใหม่ที่ใส่เข้ามาคือฟีเจอร์ Dynamic Shots เปลี่ยนภาพนิ่งเป็นภาพเคลื่อนไหวเป็นวิดีโอสั้นๆ โดย AI จะบันทึกภาพก่อนถ่ายและหลังถ่ายไว้ประมาณ 3 วินาที ซึ่งเราสามารถเลือกช็อตที่ต้องการใหม่ได้ รวมไปถึงสามารถแปลงเป็นไฟล์วิดีโอหรือ GIF ก็ได้ครับ
Portrait สวย ละลายหลังได้เนียน
การถ่ายภาพ Portrait ในรุ่นนี้ก็ยังสวยงามและเป็นธรรมชาติครับ โดยที่เราสามารถเลือกละลายหลังได้ตั้งแต่ f/1.0 – f/16 เลยทีเดียว โดยสามารถกลับมาปรับอีกรอบได้ในแอปรูปภาพด้วย รวมถึงการปรับแต่งความบิวตี้บนใบหน้าก็ทำได้สูงสุดถึง 100 ระดับตามความชอบครับ
ถ่ายมุมกว้าง เก็บภาพได้ครบ
ในรุ่นนี้ยังมีเลนส์ Ultra-Wide ที่ให้เราได้เก็บภาพกว้าง ได้ครบแน่นอนครับ เทียบเท่าเลนส์ 15mm ขณะที่เรื่องแสง เงา และสีสันก็ยังอยู่ในระดับที่ใช้งานได้ดี
เซลฟี่สวย ปรับแต่งบิวตี้ได้เนียนตา
การถ่ายเซลฟี่ในรุ่นนี้ก็นับว่าสวยงามเหมือนกับกล้องหลังเลย ด้วยการตัดขอบเนียนและปรับความบิวตี้ได้เหมือนกับการถ่ายจากกล้องหลัง ที่สำคัญความละเอียด 20MP ทำให้ได้ภาพที่คมชัดและเก็บรายละเอียดได้ดีมากๆ ด้วย
สรุปการใช้งาน POCO X7 Pro
POCO X7 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่สมกับชื่อ Full Speed Ahead มากจริงๆ ด้วยสเปคที่ให้มานั้นคุ้มค่ามากๆ มีความเร็วแรงจากการใช้ขุมพลัง MediaTek Dimensity 8400-Ultra ที่ลองใช้แล้วแทบไม่ต่างจากรุ่นเรือธงเลย ขณะที่สเปคหน้าจอก็ทำได้เต็มตาด้วยพาเนล AMOLED 120Hz สีสันสดใส ใช้งานเต็มตาด้วยขนาด 6.67 นิ้ว ทั้งนี้กล้องถ่ายรูปก็ยังใช้งานได้ดีมาก คมชัด สีสันสดใส จบหลังกล้องได้เหมือนกัน และดีไซน์ในสีเหลืองก็สวยงาม ใครที่ชอบสีที่ออกแนวเกมเมอร์หรือมีลูกเล่นในดีไซน์ฝาหลังแบบนี้ ก็ไม่ควรพลาดสีนี้ครับ
ราคา POCO X7 Pro
POCO X7 Pro สีทั้งหมด 3 สีให้เลือก ได้แก่ ดำ เขียว และเหลือง โดยมีโปรโมชัน Early Bird ตั้งแต่วันนี้ – 25 มกราคม 2568 ดังนี้
- ความจุ 12GB + 256GB จากราคา 11,990 บาท เหลือเพียง 10,990 บาท
- ความจุ 12GB + 512GB จากราคา 12,990 บาท เหลือเพียง 11,990 บาท
สามารถสั่งซื้อได้แล้วที่ mi.com และ Lazada
