Smart Review
รีวิว Pokémon GO Plus สายรัดข้อมือสำหรับจับโปเกมอนของเหล่าเทรนเนอร์
Pokémon GO Plus เป็นสายรัดข้อมือที่จะช่วยให้การจับโปเกมอนทำได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องมองหน้าจอสมาร์ทโฟนตลอดเวลา ด้วยระบบแจ้งเตือนการสั่นและมีไฟ LED เพื่อแจ้งเตือนการเกิดโปเกมอนและจุด PokéStop ใกล้ ๆ ตัวเรา
สรุปข้อมูล Pokémon GO Plus |
- รองรับทำงานร่วมกับ iPhone 5, 5c, 5s, SE, 6, 6 Plus, 6s, 6s Plus, 7, 7 Plus และต้องรันระบบปฏิบัติการ iOS 8 – 10 (ไม่รองรับ iPod Touch 5th และตั้งแต่ iPhone 4s ลงไป)
- รองรับการทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟน Android 4.4 KitKat – 6.0 Marshmallow ที่มีแรมตั้งแต่ 2GB ขึ้นไป
- ใช้การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 4.0 ขึ้นไป (LE)
- ราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 34.99 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,200 บาท)
วัสดุ ดีไซน์ และเตรียมใช้งาน Pokémon GO Plus |
Pokémon GO Plus มาในกล่องกระดาษแข็ง เป็นอุปกรณ์ที่จัดอยู่ในหมวดหมู่สำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป และจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการโดยบริษัท Nintendo ซึ่งมีอุปกรณ์ภายในกล่อง ได้แก่
- ตัว Pokémon GO Plus (PMC-001)ที่ห่อหุ้มด้วยซองกันกระแทก
- สายรัดข้อมือ (PMC-002) ที่ปรับความยาวได้ระหว่าง 4 – 7 เซนติเมตร
- คู่มือสำหรับเริ่มต้นการใช้งาน
ตัว Pokémon GO Plus มีขนาดจากด้านหนึ่งมาจนถึงปลายแหลมของอีกด้านประมาณ 4.6 เซนติเมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเหรียญ 10 เล็กน้อย น้ำหนักรวมก้อนแบตเตอรี่ประมาณ 13 กรัม ซึ่งเบามาก ๆ และมีชิ้นพลาสติกยื่นออกมาด้านนอกที่ด้านในกั้นก้อนแบตเตอรี่เอาไว้ หากต้องการใช้งานก็ให้ดึงพลาสติกชิ้นนี้ออก
ด้านบนของตัว Pokémon GO Plus จะเป็นสีขาวกับกับสีแดง ซึ่งเป็นสีของ Poké Ball นั่นเอง และด้านหลังจะเป็นคลิปหนีบ สำหรับใครที่ไม่ต้องการใส่ข้อมือก็สามารถหนีบติดกับส่วนอื่นได้
ตัวสายรัดข้อมือจะมาพร้อมตัวฐานพลาสติกสำหรับยึดติดกับตัว Pokémon GO Plus โดยสามารถปรับความยาวของสายรัดได้ตามขนาดข้อมือของแต่ละคน
การประกอบตัว Pokémon GO Plus เข้ากับสายรัดข้อมือ ต้องแกะฝาหลังที่เป็นคลิปหนีบออกก่อนโดยการไขน๊อตที่ยึดตัวฝาหลังออก
ภายในตัว Pokémon GO Plus จะมีก้อนแบตเตอรี่แบบเดียวกับถ่านนาฬิกาชนิด Lithium CR2032 หรือที่เรียกกันว่าถ่านกระดุมขนาด 3V หาซื้อได้ตามร้านทั่วไป
เมื่อแกะฝาหลังที่เป็นคลิปหนีบออกแล้ว สามารถนำมาประกบกับฝาหลังที่มากับสายรัดข้อมือแล้วไขน็อตให้แน่น ก็สามารถสวมใส่บนข้อมือได้แล้ว
ฟังก์ชั่นการใช้งาน |
การจะใช้งานฟังก์ชั่นต่าง ๆ ได้ ต้องทำการเชื่อมต่อ Pokémon GO Plus เข้ากับตัวเกม Pokémon GO บนสมาร์ทโฟนให้เรียบร้อยก่อน ดังนี้
สำหรับ iOS
- เปิด Bluetooth บนสมาร์ทโฟน
- เข้าไปที่เมนู Settings ในเกม Pokémon GO >> ไปที่เมนู Pokémon GO Plus
- จากนั้นให้กดปุ่มบนตัว Pokémon GO Plus เพื่อให้สมาร์ทโฟนมองเห็นตัว Pokémon GO Plus
- บนหน้าจอสมาร์ทโฟนให้แตะที่ชื่อ Pokémon GO Plus เพื่อเชื่อมต่อการใช้งานได้ทันที
เมื่อเชื่อมต่อกันได้แล้ว จะมีไอคอน Pokémon GO Plus แสดงอยู่บริเวณมุมซ้ายบนของหน้าจอเกม Pokémon GO
สำหรับ Android
- เข้าไปที่เมนูการตั้ง (Settings) ของตัวเครื่อง (ไม่ใช่การตั้งค่าในเกม)
- ไปเปิดการใช้งาน Bluetooth และค้นหาอุปกรณ์ใกล้เคียง และให้กดปุ่ม 1 ครั้งที่ตัว Pokémon GO Plus เพื่อให้สมาร์ทโฟนมองเห็น
- จะเห็นชื่อ Pokémon GO Plus บนหน้าจอสมาร์ทโฟน ให้แตะเพื่อต่อได้เลย
4. จากนั้นเข้าไปในเมนู Settings ของเกม Pokémon GO >> แล้วไปที่เมนู Pokémon GO Plus
5. กดปุ่มบนตัว Pokémon GO Plus อีก 1 ครั้งเพื่อให้ตัวเกมมองเห็น
6. กดที่ชื่อ Pokémon GO Plus เพื่อทำการเชื่อมต่อและใช้งานได้ทันที
เมื่อเชื่อมต่อกันได้แล้ว จะมีไอคอน Pokémon GO Plus แสดงอยู่บริเวณมุมซ้ายบนของหน้าจอเกม Pokémon GO
เริ่มใช้จับโปเกมอน และหมุน PokéStop
หลังจากทุกอย่างเชื่อมต่อกันเรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมใช้งานฟังก์ชั่นต่าง ๆ เริ่มจากการแจ้งเตือนเมื่อมีโปเกมอนเกิดใกล้ ๆ ตัวเรา เจ้าตัว Pokémon GO Plus ก็จะสั่นพร้อมไฟกระพริบ
- ไฟสีเขียว หมายถึง มีตัวโปเกมอนที่เคยจับได้แล้วอยู่ใกล้ ๆ
- ไฟสีเหลือง หมายถึง มีตัวโปเกมอนที่ยังไม่เคยจับได้อยู่ใกล้ ๆ
สามารถกดปุ่มบนตัว Pokémon GO Plus เพื่อจับได้เลย โดยผลการจับโปเกมอนจะมีไฟแจ้งเตือนเช่นดียวกัน
- ไฟสีขาว หมายถึง ตัวโปเกมอนเข้าไปอยู่ใน Poké Ball แล้ว…รอลุ้นผลการจับ
- ไฟหลากสี หมายถึง จับโปเกมอนได้สำเร็จ
- ไฟสีแดง หมายถึง จับโปเกมอนไม่ได้หรือโปเกมอนหนี
ในการใช้ Pokémon GO Plus เพื่อจับโปเกมอน หากมองดูบนหน้าจอสมาร์ทโฟนจะเห็นไอคอน Pokémon GO Plus ส่องแสงคล้ายเรดาร์ไปยังตัวโปเกมอนเป้าหมาย
หาก Pokémon GO Plus กะพริบไฟสีฟ้า หมายถึง อยู่ใกล้จุด PokéStop ให้กดเพื่อรับไอเท็มได้เลย ไม่ต้องหมุนบนหน้าจอสมาร์ทโฟน ในขณะเดียวกันบนหน้าจอสมาร์ทโฟนก็จะมีเรดาร์จากไอคอน Pokémon GO Plus ส่องไปยังจุด PokéStop เป้าหมายด้วย
จากการใช้งาน แม้เราจะออกจากหน้าจอเกมบนสมาร์ทโฟน แต่หากยังมีการเชื่อมต่อกับ Pokémon GO Plus อยู่ ก็สามารถรับการแจ้งเตือนและจับโปเกมอนได้ปกติ รวมถึงยังมีการนับระยะทางสำหรับฟักไข่และสะสม Candy ของตัวโปเกมอน Buddy ด้วย เพราะตัวเกมไม่ได้ปิดการทำงาน โดยยังคงทำงานอยู่เบื้องหลังนั่นเอง
ดูประวัติการจับโปเกมอนและหมุนรับไอเท็มจาก PokéStop ได้ในเมนู Journal
อีกหนึ่งการแจ้งเตือนคือ มีไฟสีแดงและสั่นหลายครั้ง หมายถึง เดินห่างออกจากตัวโปเกมอน, เดินห่างออกจาก PokéStop, กระเป๋าใกล้เต็ม หรือไม่มี PokéBall เหลือแล้ว
สำหรับใครที่ชอบการเล่นแบบเห็นภาพอาจไม่ชอบ Pokémon GO Plus เนื่องจากเราไม่สามารถเลือก Poké Ball เกรดที่ดีกว่าตัวธรรมดาได้ สามารถใช้ได้เพียง Poké Ball ลูกแดงธรรมดาเท่านั้น หากหมดก็จะไม่สามารถกดจับจาก Pokémon GO Plus ได้ แม้จะมีบอลเกรดที่ดีกว่าทั้ง Great Ball และ Ultra Ball อยู่ก็ตาม
การใช้ Pokémon GO Plus ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าโปเกมอนที่กำลังจับนั้นคือตัวอะไร ก็อาจพลาดตัวดี ๆ ได้ จนกว่าจะเปิดดูบนสมาร์ทโฟน แต่เจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ก็ถือว่าเพิ่มความสะดวกในการเล่นได้ไม่น้อย ไม่ต้องคอยมองสมาร์ทโฟนตลอดเวลา
การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเครื่องเดิม เมื่อหลุดการเชื่อมต่อ
เมื่อหลุดการเชื่อมต่อ สังเกตได้จากไอคอน Pokémon GO Plus ในหน้าจอแผนที่ของเกมจะเปลี่ยนเป็นสีจาง ๆ เราสามารถแตะที่ไอคอนจากตรงนี้ พร้อมกับกดปุ่มบนตัว Pokémon GO Plus เพื่อเชื่อมต่ออีกครั้งได้ทันที
การหลุดการเชื่อมต่อเกิดจากการไม่ใช้งาน Pokémon GO Plus เป็นเวลานาน หรือเกิดจาการเข้าไปจับโปเกมอนในเกมด้วยตัวเอง ระบบจะตัดการเชื่อมต่อกับ Pokémon GO Plus ทันที (อย่าคิดว่าจะจับบนสมาร์ทโฟนพร้อมกับ Pokémon GO Plus ได้นะ ฮา ๆ)
สำหรับการหมุนรับไอเท็ม PokéStop บนสมาร์ทโฟนสามารถทำได้ โดยตัว Pokémon GO Plus จะยังคงเชื่อมต่ออยู่ ไม่ถูกตัดการเชื่อมต่อ
การรีเซ็ต Pokémon GO Plus เพื่อนำไปใช้กับเครื่องอื่น
- เช็คสถานะการเชื่อมต่อโดยกดปุ่ม 1 ครั้งที่ตัว Pokémon GO Plus หากขึ้นไฟสีฟ้า หมายความว่ามีการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนอยู่
- กดปุ่มบนตัว Pokémon GO Plus ค้างไว้ 5 วินาที จะมีไฟสีฟ้าสว่างขึ้นมา ให้ปล่อยนิ้วออก
- จากนั้นให้กดปุ่มบนตัว Pokémon GO Plus ค้างไว้อีก 5 วินาที ไฟสีสว่างจะดับลงพร้อมกับสั่นเตือน เพื่อเป็นการรีเซ็ตการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เดิม
- สามารถนำ Pokémon GO Plus ไปเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเครื่องได้เลย
จากการทดสอบ หากไม่มีการรีเซ็ตตัว Pokémon GO Plus ก่อน จะไม่สามารถนำไปเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเครื่องได้ เนื่องจากตัว Pokémon GO Plus ยังจำสมาร์ทโฟนเครื่องเดิมอยู่
สรุปรีวิว Pokémon GO Plus |
- Pokémon GO Plus ช่วยลดการมองหน้าจอสมาร์ทโฟนได้อย่างมาก ช่วยประหยัดแบตเตอรี่บนสมาร์ทโฟน และกดจับโปเกมอนได้ทันที แม้จะไม่รู้เลยว่าตัวที่กำลังจับนั้นคือตัวอะไร ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจับโปเมกอนแบบไม่สนใจว่าเป็นตัวดีหรือไม่ดี เพื่อเพิ่มเลเวลผู้เล่น
- ตัว Pokémon GO Plus มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ไม่เพียงเพื่อการเล่นเกม แต่สามารถใส่ข้อมือเท่ ๆ บ่งบอกถึงการเป็นแฟนพันธ์แท้ของเกมนี้ได้ และแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน หาซื้อก้อนใหม่ตามร้านทั่วไปเพื่อเปลี่ยนเองได้ง่าย
- ราคาของตัว Pokémon GO Plus ถือว่าไม่แพงมากสำหรับแฟน ๆ เกมนี้ แต่อาจหาซื้อยากในช่วงแรกเนื่องจากความต้องการมีมาก
- การแกะเปิดฝาหลังค่อนข้างลำบาก เนื่องจากต้องไขน๊อต หากจะเปลี่ยนไปมาระหว่างคลิปหนีบกับสายรัดรัด ต้องพกไขควงติดตัวไปด้วย
- ระบบจะเลือกใช้ได้เพียง Poké Ball ลูกแดงธรรมดาเท่านั้น หากหมดก็จะไม่สามารถกดจับจาก Pokémon GO Plus ได้ แม้จะมีบอลเกรดที่ดีกว่าทั้ง Great Ball และ Ultra Ball อยู่ก็ตาม
- ไม่สามารถเลือก Great Ball, Ultra ball หรือปั่นบอลเพื่อรับโบนัส รวมถึงไม่สามารถกดป้อน Razz Berry เพื่อจับตัว CP สูง ๆ หรือตัวหายากได้ แต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจับตัวอะไรอยู่ถ้าไม่มองสมาร์ทโฟน
- เมื่อจับโปเกมอนหลุด ไม่สามารถกดจับซ้ำได้ เนื่องจากต้องรอการแจ้งเตือนเท่านั้นจึงจะกดจับได้ ดังนั้นก็ต้องเปิดเกมบนสมาร์ทโฟนเพื่อจับใหม่ด้วยตัวเอง
เพื่อน ๆ สามารถร่วมแสดงความเห็นหรือพูดคุยกับทีมงานได้ที่แฟนเพจ www.fb.com/iPhoneDroid.net ครับ