รีวิว realme 11 5G และ realme 11x 5G สองรุ่นเด่นใหม่จาก realme ที่มาพร้อมสโลแกน Double Star Double Leap ชูความเจิดจรัสในเรื่องดีไซน์ Glory Halo, สเปคใหม่ Dimensity 6100+, ความจุที่เพิ่มสูงสุด 2 เท่า, ระบบชาร์จไวระดับ SUPERVOOC และกล้องหลังที่ก้าวกระโดดกว่าที่เคย เรียกว่าเป็นสองรุ่นเด่นที่ไม่ควรพลาดเลยจริง ๆ การใช้งานจริงจะชวนประทับใจแค่ไหน ติดตามได้จากรีวิว realme 11 5G และ realme 11x 5G นี้พร้อม ๆ กันเลยครับ!
สรุปสเปค realme 11 5G
- ขนาดตัวเครื่อง : 165.7 x 76 x 8.05 มม.
- น้ำหนัก : 190 กรัม
- หน้าจอ : IPS ขนาด 6.72″
- ความละเอียด : FHD+
- Refresh rate : 120Hz, Touch Sampling rate 240Hz
- CPU : MediaTek Dimensity 6100+ Octa-Core 2.2GHz (6nm)
- RAM : 8GB (+ 8GB Dynamic RAM)
- Storage : 256GB
- microSD : รองรับสูงสุด 2TB
- แบตเตอรี่ : 5000mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 67W SUPERVOOC
- กล้องหน้า : 16MP f/2.45
- กล้องหลัก : 2 ตัว
- กล้องหลัก 108MP f/1.75
- กล้อง Portrait 2MP f/2.4
- ระบบปฏิบัติการ : Android 13 (realme UI 4.0)
- สีสัน : Glory Gold, Glory Black
สรุปสเปค realme 11x 5G
- ขนาดตัวเครื่อง : 165.7 x 76 x 7.89 มม.
- น้ำหนัก : 190 กรัม
- หน้าจอ : IPS ขนาด 6.72″
- ความละเอียด : FHD+
- Refresh rate : 120Hz, Touch Sampling rate 180Hz
- CPU : MediaTek Dimensity 6100+ Octa-Core 2.2GHz (6nm)
- RAM : 8GB (+ 8GB Dynamic RAM)
- Storage : 128GB
- microSD : รองรับสูงสุด 2TB
- แบตเตอรี่ : 5000mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 33W SUPERVOOC
- กล้องหน้า : 8MP f/2.05
- กล้องหลัก : 2 ตัว
- กล้องหลัก 64MP f/1.79
- กล้อง Portrait 2MP f/2.4
- ระบบปฏิบัติการ : Android 13 (realme UI 4.0)
- สีสัน : Purple Dawn, Midnight Black
ดีไซน์ Glory Halo ยกระดับสู่กลุ่มพรีเมี่ยม
realme 11 5G และ realme 11x 5G ทั้งคู่จะใช้ดีไซน์สวยพรีเมี่ยมเหมือนกันที่ realme ตั้งชื่อการออกแบบนี้ว่า Glory Halo มอบโดดเด่นที่โมดูลกล้องได้อย่างชัดเจน พร้อมกับลวดลายระยิบระยับภายในที่จะปรากฎขึ้นมาตอนกระทบกับแสงได้อย่างลงตัว
แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะที่ฝาหลังของ realme 11 5G และ realme 11x 5G ยังมีเอฟเฟกต์แสงรูปตัว S ที่พิเศษสุด ๆ ให้ความรู้สึกระดับพรีเมียมและให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมเมื่ออยู่ในมือ เห็นครั้งแรกก็รู้สึกถึงความพิถีพิถันอย่างมากบนทั้ง 2 รุ่นนี้เลยล่ะครับ
ดีไซน์ของกรอบเลนส์กล้องก็มีการเพิ่มลวดลายวงแหวนคล้ายนาฬิกาหรูที่ชวนฝัน พอรวมกับองค์ประกอบอื่น ๆ ทั้งลวดลายที่ระยิบระยับหรือเอฟเฟกต์ตัว S นี่ยิ่งอลังการเข้าไปใหญ่ ชมอีกสักทีว่านี่คือดีไซน์ที่เราคงไม่ได้เห็นกันบ่อย ๆ นัก ถ้าไม่ใช่แบรนด์ที่เก่งเรื่องการออกแบบเหมือน realme จริง ๆ ครับ
หน้าจอ 120Hz Dynamic Ultra Smooth Display เพื่อประสบการณ์ที่ราบรื่น
พลิกมาดูที่ด้านหน้ากันบ้าง realme 11 5G และ realme 11x 5G ก็ยังได้หน้าจอมาเหมือนกัน คือจอ IPS LCD แบบเจาะรู ขนาด 6.72″ ใช้พื้นที่ไปได้มากถึง 91.40% และทั้งคู่มีความสว่างสูงสุด 550 nits ใช้งานกลางแจ้งก็ถือว่าทำได้ดีพอประมาณครับ
ในเรื่องการตอบสนอง realme 11 5G และ realme 11x 5G รองรับ Refresh rate 120Hz แบบ Dynamic Ultra Smooth Display ก็คือตัวหน้าจอสามารถปรับ Refresh rate ขึ้น-ลงได้ตามการใช้งาน อาทิ
- หน้า UI ระบบ = 120Hz
- เลื่อนหน้าจอดูข้อมูล = 90Hz
- อ่านหนังสือ = 60Hz
- ดูวิดีโอ = 48Hz/50Hz
- อยู่นิ่ง ๆ = 45Hz
ส่วนเรื่องความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) แสดงผลได้อย่างสวยงามและคมชัดบนขนาดหน้าจอระดับ 6.72″ แถมยังมีอัตราส่วนแบบ 20:9 ที่เหมาะกับการดูหนังหรือซีรีส์ที่มีอัตราส่วนกว้าง ๆ อีกด้วยครับ
ความแตกต่างของ realme 11 5G และ realme 11x 5G
มองภายนอก realme 11 5G กับ realme 11x 5G อาจจะคล้ายกันมาก แต่ก็มีจุดที่แตกต่างกันอยู่ครับ เรื่องแรกคือสีไฮไลท์ที่ทั้งคู่ให้มาแตกต่างกันชัดเจน
อย่าง realme 11 5G จะได้สีทอง Glory Gold ที่ให้ความรู้สึกหรูหราดั่งทองพร้อมการไล่เฉดสีจากส้มไปทองอ่อน ๆ แถมได้ Glitter ที่วิบวับไปทั่วฝาหลัง
และตัวกรอบเครื่องของ realme 11 5G ก็ยังเป็นแบบมันวาวพอได้สีทองเข้ามาเสริมอีกหน่อยเลยดูสวยหรูแบบเลยเถิดกันไปอีก แต่ในการใช้งานจริงถ้าเราไม่ใส่เคสก็อาจจะต้องคอยระวังกันนิด เพราะกรอบเครื่องแบบนี้เก็บคราบรอยนิ้วมือพอตัวทีเดียวล่ะ
ส่วน realme 11x 5G จะได้สีไฮไลท์เป็น Purple Dawn ที่ได้แรงบันดาลใจจากสีม่วงของท้องฟ้ายามรุ่งอรุณที่ผสมผสานระหว่างสีม่วงอ่อนไล่ไปจนถึงฟ้าได้แบบมีมิติ พอรวมกับรูปทรง S และ Glitter เข้าไปอีกก็ได้ความอ่อนโยนแต่ทรงพลังไปอีกแบบ
กรอบเครื่องของ realme 11x 5G จะหรูน้อยกว่า realme 11 5G นิดหน่อย เพราะใช้เป็นผิวด้านมาตรฐาน แต่ถ้ามองในมุมความสบายใจเวลาถือใช้งานแบบไม่ใส่เคสก็แอบสะดวกเพราะไม่ต้องคอยทำความสะอาดบ่อย ๆ เนาะ
ด้วยวัสดุที่แตกต่างออกไปจึงทำให้ความบางของทั้งคู่แตกต่างกันเล็กน้อย อย่าง realme 11 5G จะหนา 8.05 มม. ในขณะที่ realme 11x 5G จะบางแค่ 7.89 มม. แต่ที่เราลองถือใช้งานเทียบกับก็ต้องบอกว่า ทั้งคู่มอบประสบการณ์การใช้งานจับถือที่ยอดเยี่ยมทีเดียวครับ
ตำแหน่งปุ่มกดก็เหมือนกัน
รอบ ๆ ตัวเครื่องของ realme 11 5G และ realme 11x 5G ก็วางไว้ในตำแหน่งเดียวกันทั้งหมด มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงและปุ่ม Power อยู่ที่มุมขวาของตัวเครื่อง ซึ่งปุ่มนี้จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือให้เราแตะสแกนปลดล็อคได้อย่างสะดวกด้วย
อย่างพอร์ตการเชื่อมต่อก็เป็น USB-C วางไว้ด้านล่างตัวเครื่อง พร้อมกับไมโครโฟนกับลำโพงหลักของตัวเครื่องอยู่ซ้าย-ขวา และที่ขาดไม่ได้คือช่องหูฟัง 3.5 มม. ส่วนด้านบนจะมีไมโครโฟนอีกตัวสำหรับตัดเสียงรบกวน แน่นอนว่ามีเหมือนกันทั้งคู่ครับ
ช่องใส่ซิมของทั้งคู่จะอยู่ที่ฝั่งซ้ายมือของตัวเครื่อง ได้ถาดซิมมาแบบ Triple Slot เหมือนกัน สะดวกต่อการใช้งานมาก เพราะเราสามารถใส่ได้ทั้ง 2 ซิม ร่วมกับ microSD เพื่อเพิ่มความจุได้ด้วยเนาะ ซึ่งรุ่นนี้เพิ่มได้สูงสุด 2TB ไปเลย
โดยรวมทั้ง realme 11 5G และ realme 11x 5G ก็ออกแบบมาได้สวยหรูทั้งคู่ ต่างกันที่สีไฮไลท์ที่มาคนละโทน ความกรอบเครื่องเหลี่ยมเหมือนกัน กล้องหลังวงกลมโดดเด่น เอฟเฟกต์รูปตัว S ที่เวลากระทบกับแสง หรือจะเป็นหน้าจอ Punch Hole ขนาด 6.72″ ทั้งหมดนี้มอบประสบการณ์การถือใช้งานที่น่าสนใจเหมือนกัน
กล้องความละเอียดสูงกับประสบการณ์การถ่ายภาพที่โดดเด่น
มาต่อกันที่อีกเรื่องไฮไลท์ของ realme 11 5G และ realme 11x 5G นั่นก็คือเรื่อง “กล้อง” ทั้งคู่ได้กล้องหลังมา 2 ตัวและกล้องหน้า 1 ตัวเหมือนกัน แต่สเปคที่ให้มาจะแตกต่างกันนิดหน่อย เพื่อแบ่งกลุ่มไว้ชัดเจนดังนี้
สเปคกล้อง realme 11 5G 3x in-sensor Zoom
- กล้องหลัก 108MP 3x in-sensor Zoom Camera f/1.75
- กล้อง Portrait 2MP f/2.4
- กล้องหน้า 16MP f/2.45
สเปคกล้อง realme 11x 5G Street Photography
- กล้องหลัก 64MP Street Photography Camera f/1.79
- กล้อง Portrait 2MP f/2.4
- กล้องหน้า 8MP f/2.05
อย่างที่เห็นทั้งคู่ได้กล้องหลังความละเอียดสูงคู่กับกล้อง Portrait เหมือนกัน แต่เซ็นเซอร์กล้องหลักจะต่างกันนิดหน่อย จึงจะแตกต่างกันในเรื่องของการซูมแบบ in-sensor (ไม่ศูนย์เสียรายละเอียด) ที่ realme 11 5G ใช้กล้องหลัก 108MP ซูมได้ไกลกว่าเป็น 3x ในขณะที่ realme 11x 5G ใช้กล้องหลัก 64MP จะซูมได้ที่ 2x ครับ
กล้องหลักถ่ายสวย AI ทำงานยอดเยี่ยม
แต่แน่นอนว่าในการใช้งานจริงถ้าเราเลือกถ่ายในระยะ 1x ทั้งคู่ก็มอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะได้ซอฟต์แวร์ที่มี AI คอยประมวลผลซีนของภาพเหมือนกันรวมถึงระบบ HDR ด้วย คุณภาพของกล้องหลักก็ทำได้ดีทั้งคู่ครับ แต่ในเรื่องโทนสีของภาพทั้งคู่จะมี Character ที่แตกต่างกันออกไป บน realme 11 5G จะจัดจ้านโทนร้อนกว่าและละลายฉากหลังได้มีมิติกว่า แต่บน realme 11x 5G ก็จะสมจริงโทนเย็นกว่าเล็กน้อย ถ้าเราเทียบกันแบบภาพต่อภาพ
ระยะซูมที่ต่างกันมอบ Perspective ไม่เหมือนกัน
อย่างที่บอกว่า realme 11 5G กับ realme 11x 5G ใช้เซ็นเซอร์กันคนละตัว แน่นอนว่าการใช้งานฟีเจอร์ซูมผลลัพธ์ก็จะแตกต่างกันนิดหน่อย ฝั่ง realme 11 5G ที่มีกล้อง 108MP 3x in-sensor Zoom จะช่วยให้เราเข้าใกล้วัตถุได้มากกว่า มี Perspective ของภาพที่แม่นยำมากขึ้น แต่เอาจริง ๆ 2x ที่ใช้ได้ของ realme 11x 5G ก็ยังเป็นระยะที่พอใช้งานได้อยู่เหมือนกัน ถ้าอยากได้ใกล้เข้าไปอีกก็อาจจะต้องเดินเข้าไปอีกนิดแทนล่ะเนาะ
1x 
3x 
5x 
10x 
20x
Street Photography ของดีประจำมือถือ realme
ในโหมดปกติเราก็ได้เห็นความยอดเยี่ยมของพลัง AI ที่ประมวลผลภาพให้สวยงามถูกใจกันไปแล้ว แต่ยังมีอีกโหมดที่เราชื่นชอบมาก และคิดว่านี่คือของดีที่อยู่คู่สมาร์ทโฟน realme เลยจริง ๆ กับโหมด Street ที่จะมีฟิลเตอร์และระยะให้เราเลือกใช้เหมือนกล้องฟิล์ม ช่วยให้การถ่ายภาพ Street นั้นสนุกยิ่งขึ้น และรอบนี้ realme 11 5G กับ realme 11x 5G ก็ได้ฟิลเตอร์ใหม่ 3 แบบเข้ามาแต่งเติมอารมณ์ของภาพให้ดีขึ้นไปอีกประกอบด้วย
- Tranquil: ฟิลเตอร์ขาว-ดำเสริมส่วนท่ีมืดของภาพให้มีรายละเอียดที่สมบูรณ์และคอนทราสต์เพียงพอ
- Cinematic: เน้นบุคลิกภาพผ่านคอนทราสต์และคอนทราสต์ที่ชัดเจนระหว่างแสงและความมืด
- Crisp: สร้างบรรยากาศโดยการเพิ่มโทนสีน้ำเงิน โทนเย็นในบริเวณไฮไลท์ของภาพ
รวมกันแล้วฟิลเตอร์ก็มีให้เลือกใช้มากกว่า 21 แบบ ช่วยสร้างสรรค์ผลงานภาพ Street ได้อย่างดีเลยจริง ๆ ครับ แถมตัวฟิลเตอร์ก็ดึงสีสันและอารมณ์ร่วมในภาพได้มากกว่าโหมดปกติ แถมตัวฮาร์ดแวร์ของ realme 11 5G และ realme 11x 5G ก็ยังตอบรับการโหมดนี้เพราะสามารถซูมเข้าใกล้ได้มากกว่าแค่ 1x เสริมการ Snap ภาพแนว Street ได้เป็นอย่างดีอีกต่างหาก รับรองว่าถ้าได้ลองแล้วจะติดใจจริง ๆ ครับโหมดนี้
Portrait เอฟเฟกต์เพียบ ละลายหลังเก่ง
ส่วนโหมด Portrait หรือการถ่ายคน realme 11 5G และ realme 11x 5G ก็ยังยอดเยี่ยมเพราะมีลูกเล่นการปรับระดับความเบลอได้ตามค่า f/stop เหมือนกล้องใหญ่ อีกทั้งยังมีฟิลเตอร์ที่เข้ามาเสริมโทนสีและอารมณ์ของภาพได้ยอดเยี่ยมเช่นเคย มี Bokeh Flare Portrait (เฉพาะบน realme 11 5G) ที่ช่วยเพิ่มดวงโบเก้สวย ๆ ละลายหลังเนียน ๆ ได้ด้วย
โดยรวมภาพที่ได้จากทั้ง 2 เครื่องจะมีโทนที่แตกต่างกันชัดเจนคล้ายกับในโหมด Auto ปกติครับ คือ realme 11 5G จะจูนมาในโทนอมชมพู ในขณะที่ของ realme 11x 5G จะอมเหลืองกว่านิดหน่อย ผลลัพธ์เรียกว่าน่าพอใจทั้งคู่ แต่ก็แอบมีจุดน่าเสียดายอยู่นิดหน่อยคือทั้ง ๆ ที่ตัวกล้องรองรับ in-sensor Zoom แล้ว แต่ในโหมด Portrait นี้เรากลับถ่ายได้ได้แค่ระยะ 1x เท่านั้น ถ้าได้ 2x หรือ 3x มาด้วยน่าจะแจ่มกว่านี้เนาะ
กล้องหน้า 16MP vs 8MP แต่เซลฟี่สวยทั้งคู่นะ
ปิดท้ายที่กล้องหน้า สองรุ่นนี้ได้สเปคกล้องหน้ามาแตกต่างกันนิดหน่อยโดย realme 11 5G ได้ 16MP ส่วน realme 11x 5G ได้มา 8MP แต่ในเรื่องการประมวลผลไม่ต้องห่วงครับ เพราะทั้งคู่มี AI และ AutoHDR มาเหมือนกัน ช่วยปรับภาพให้หน้าเนียนใสสมกับเป็นแบรนด์ realme จริง ๆ
โดยรวมในเรื่องกล้องก็ต้องยอมรับว่า realme 11 5G และ realme 11x 5G นั้นทำได้ยอดเยี่ยมสมกับเป็น realme Number Series เพราะทั้งฮาร์ดแวร์ที่อัปเกรดมาจัดเต็ม บวกกับซอฟต์แวร์และ AI ที่เก่งกาจ จึงทำให้ผลลัพธ์การถ่ายภาพนั้นออกมาเฉิดฉายได้แบบที่ถูกใจเราจริง ๆ ไม่ว่าจะหยิบรุ่นไหนขึ้นมา Snap ก็บอกเลยว่านี่แหละคือคุณค่าที่คู่ควรครับ!
ชิปเซ็ตใหม่กับ 5G ที่เหนือชั้น
มาต่อในเรื่องสเปค realme 11 5G และ realme 11x 5G ได้ชิปเซ็ตตัวเดียวกันมาเลยคือ Dimensity 6100+ 5G ชิปตัวนี้ผลิตด้วยกระบวนการ 6nm ให้ประสิทธิภาพที่เร็วแรงกว่า ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิม
ในเรื่องการเชื่อมต่อก็หายห่วง เพราะรองรับ 5G โหมด Dual SA ช่วยให้เราใช้งาน 5G ซิมสองซิมพร้อมกันได้ ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 3.27Gbps และมี Smart 5G ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 30% เพื่อประสิทธิภาพที่ยาวนานขึ้น มี 5G Low Power Smart Hotspot ช่วยให้สามารถแชร์การเชื่อมต่อ 5G ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมด ด้วยการปรับการใช้พลังงานของฮอตสปอตแบบไดนามิกตามสถานการณ์การใช้งานแบบเรียลไทม์ ทำให้ใช้พลังงานลดลง 32% เมื่อเทียบกับเครือข่าย 2.4GHz
Dynamic RAM สูงสุด 16GB
realme 11 5G และ realme 11x 5G ได้ RAM มา 8GB เท่ากันและยังสามารถจำลองเพิ่มได้สูงสุดอีก 8GB รวมเป็น Dynamic RAM 16GB เลยทีเดียว ทีนี้เวลาเราจะใช้งานสลับแอปไป-มาก็ไม่ต้องกังวลแล้วว่าจะช้าหรือไม่ต่อเนื่องเนาะ
ความจุต่างกัน แต่เพิ่ม microSD ได้เหมือนกัน
ความจุภายในของทั้งคู่จะได้มาแตกต่างกันนิดหน่อยคือ realme 11 5G ได้มา 256GB ในขณะที่ realme 11x 5G ได้มา 128GB เอาจริง ๆ ความจุระดับนี้ก็เพียงพอต่อการเก็บแอป, ไฟล์, รูปภาพ หรือเพลงได้อยู่ แต่ถ้ายังไม่พอทั้งคู่ก็มีช่องใส่ microSD ในถาดซิมให้เพิ่มได้สูงสุดถึง 2TB เลยด้วย ทีนี้ก็คงไม่ต้องห่วงเม็มเต็มแล้วมั้ง
ประสิทธิภาพเป็นไงบ้างชิปตัวนี้!?
เพื่อให้เห็นภาพความแรงของชิปเซ็ต Dimensity 6100+ และหน่วยความจำแบบคร่าว ๆ เราลองทดสอบผ่านแอป AnTuTu Benchmark และ GeekBench 6 คะแนนออกไม่ธรรมดาเลยครับ โดย AnTuTu Benchmark จะออกมาดังนี้
- realme 11 5G = 436357 คะแนน
- realme 11x 5G = 420171 คะแนน
ส่วน GeekBench 6 ที่มีการปรับการทดสอบใหม่ทำให้เข้าถึงการใช้งานจริงมากขึ้น realme 11 5G และ realme 11x 5G ก็ได้ผลออกมาดังนี้ครับ
- realme 11 5G = Single-Core 729 คะแนน | Multi-Core 1929 คะแนน
- realme 11x 5G = Single-Core 733 คะแนน | Multi-Core 1934 คะแนน
เล่นเกมหน่อยดีกว่า
ไหน ๆ ก็ทดสอบประสิทธิภาพกันให้เห็นคะแนนแล้ว ต่อไปคงต้องลองเล่นเกมจริงจังดูสักหน่อย โดยเกมที่เราใช้ทดสอบในรอบนี้คือ Asphalt 9, PUBG และ Metal Slug Awakening ครับ ซึ่งผลก็ออกมาดังนี้เลย
เล่น Asphat 9 บน realme 11 5G และ realme 11x 5G
เริ่มที่เกมแข่งรถภาพสวยอย่าง Asphalt 9 ด้วยสเปคที่ให้มาเหมือนกัน การตั้งค่าของทั้งคู่จึงได้เท่ากันหมดคือ ปรับระดับกราฟิกได้ที่ High Quality เหมือนกัน ทำให้เราได้ภาพที่สวยงามที่สุดจากเกมนี้แล้ว ตัวเกมทำได้ลื่นไหลในระดับ 30fps เท่าที่เราลองเล่นมายังไม่เจออาการกระตุกให้เห็นเลย ถือว่าเล่นได้อย่างราบรื่นบนหน้าจอสวย ๆ ล่ะครับ
เล่น PUBG บน realme 11 5G และ realme 11x 5G
ส่วน PUBG ทั้งคู่สามารถเลือกกราฟิกได้ที่ HD ร่วมกับเฟรมเรตแบบ High ซึ่งก็เพียงพอต่อการเล่นได้อย่างลื่นไหลและสนุกแล้วล่ะครับ เท่าที่ทดสอบก็จะได้ความลื่นไหลที่ 30fps ทั้งคู่ ไม่เจออาการกระตุกหนัก ๆ การควบคุมก็ทำได้ดีและแม่นยำ แตะยิงได้ตรงใจ ไม่ช้าจนเสียอารมณ์
เล่น Metal Slug Awakening บน realme 11 5G และ realme 11x 5G
และปิดท้ายกับเกมใหม่อย่าง Metal Slug Awakening ตัวเกมก็ตั้งเริ่มต้นมาที่ High เลย ซึ่งเราก็ว่าสูงพอแล้วครับ เฟรมเรตในเกมก็ลื่นไหล แถมภาพระดับ High ก็คือสวยงามเลย เป็นอีกเกมที่ปรับจูนมาให้เข้ากับชิปเซ็ตได้เป็นอย่างดีครับ
แบตเตอรี่ 5000mAh ใช้งานได้จุใจ
realme 11 5G และ realme 11x 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ใช้งานได้นานจุใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อย ๆ เหมาะสำหรับการใช้งานที่หนัก ทาง realme เคลมว่า ฟังเพลงได้นานกว่า 35 ชั่วโมง, โทรศัพท์ได้กว่า 34 ชั่วโมง, นำทาง 16 ชั่วโมง หรือดูวิดีโอได้กว่า 15 ชั่วโมงเลยด้วย
ชาร์จไวระดับ SUPERVOOC
ส่วนเรื่องระบบชาร์จ realme 11 5G และ realme 11x 5G จะได้ระบบชาร์จ SUPERVOOC มาแต่ความเร็วแตกต่างกันนิดหน่อยดังนี้
- realme 11 5G ชาร์จไว 67W SUPERVOOC (ชาร์จ 1 – 50% ใน 17 นาที)
- realme 11x 5G ชาร์จไว 33W SUPERVOOC (ชาร์จ 1 -50% ใน 29 นาที)
เรียกว่าเร็วกันมาก ๆ เราแทบไม่ต้องรอนานเลยหากใช้งานแบบเต็มที่แล้วแบตฯใกล้หมดจริง ๆ นอกจากนี้ในเรื่องความปลอดภัยก็หายห่วงเพราะเทคโนโลยี SUPERVOOC ของทั้งคู่นั้นมีการป้องกัน 38 ระดับ เพิ่มมาตรการความปลอดภัย 38 ประการ เพื่อรับประกันความปลอดภัยในการชาร์จพลังงานสูง ตั้งแต่เครื่องชาร์จ สายดาต้า อินเทอร์เฟซการชาร์จโทรศัพท์ วงจรการชาร์จ ไปจนถึงแบตเตอรี่เลยด้วยครับ
โดยรวมในเรื่องประสิทธิภาพของ realme 11 5G และ realme 11x 5G ก็ทำได้ดีทั้งคู่ อย่างที่เห็นไปชิปเซ็ตตัวเดียวกัน Dimensity 6100+ มี Dynamic RAM 16GB เหมือนกัน แบตเตอรี่ 5000mAh สะใจ เรียกว่าใช้งานแล้วประทับใจทั้งคู่ แต่จะมีจุดที่ต่างกันและ realme 11 5G จะได้เปรียบกว่าคือความจุภายในที่มากกว่า 2 เท่าและระบบชาร์จไวที่เร็วกว่านั่นเองครับ
ซอฟต์แวร์ตัวล่าสุด realme UI 4.0
สำหรับซอฟต์แวร์ realme 11 5G และ realme 11x 5G ได้ realme UI 4.0 บนพื้นฐาน Android 13 มาเหมือนกัน มอบความลื่นไหลและการปรับแต่งได้หลากหลายเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น Widget แบบใหม่ Enlarge Folder ขยายโฟลเดอร์รวมแอปให้ใหญ่และเลือกใช้งานได้ง่ายขึ้นเป็นต้น
ราคาและโปรโมชั่น realme 11 5G | realme 11x 5G
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เรามาสรุปราคาและโปรโมชั่นของ realme 11 5G และ realme 11x 5G กันเลยดีกว่า ทั้ง 2 รุ่นจะมีให้เลือกรุ่นละความจุ และมีให้เลือกรุ่นละ 2 สีดังนี้ครับ
- realme 11 5G (8GB + 256GB) มีให้เลือก 2 สี Glory Gold, Glory Black ราคา 8,999 บาท
- realme 11x 5G (8GB + 128GB) มีให้เลือก 2 สี Purple Dawn, Midnight Black ราคา 6,999 บาท
realme 11 5G และ realme 11x 5G จะเริ่มเปิด Pre-Order ตั้งแต่วันที่ 21 – 28 ก.ย. 66 วางจำหน่ายในวันที่ ก.ย.นี้ มีโปรโมชั่นรับของแถม
- Phone case Gift Box มูลค่า 999 บาท
- 14″ Crossbody Bag มูลค่า 1,999 บาท
- สิทธิ์แลกซื้อ realme Buds T300 ในราคา 999 บาท
น้องใหม่ realme Buds T300
นอกจาก realme 11 5G และ realme 11x 5G แล้ว realme ยังส่ง realme Buds T300 หูฟังไร้สายรุ่นใหม่มาด้วย ซึ่งเราก็ได้ลองใช้งานคร่าว ๆ บอกเลยว่ามีทีเด็ดไม่น้อยเลยเพราะรุ่นนี้มาพร้อม Dynamic Bass Driver ขนาด 12.4 มม.มอบเสียงแน่น หรือระบบตัดเสียงรบกวน ANC ที่ลดเสียงรบกวนได้ถึง 30dB
โดย realme Buds T300 เปิดราคามาน่ารักเพียง 1,199 บาทเท่านั้น วางจำหน่ายพร้อม realme 11 5G และ realme 11x 5G เลยครับ
สรุปแล้ว “นี่คือ 2 ดาวเด่นดีไซน์พรีเมี่ยม ครบเครื่องในราคาจับต้องได้”
สรุปแล้ว realme 11 5G และ realme 11x 5G ก็ถือเป็นสองรุ่นดาวเด่นใหม่ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดตามสโลแกน Double Star. Double Leap จริง ๆ เพราะด้วยดีไซน์ใหม่ Glory Halo สวยพรีเมี่ยมดุจดวงดาว ส่วนฟีเจอร์ก็อัปเกรดขึ้นมาถึง 2 เท่าเมื่อเทียบสมาร์ทโฟนในกลุ่มเดียวกัน ทั้งชิปเซ็ต Dimensity 6100+ 5G, ความจุเยอะสูงสุด 256GB, ระบบชาร์จไว SUPERVOOC สูงสุด 67W และยังมีกล้องหลังคุณภาพสูงที่เหนือกว่าคู่แข่ง เรียกว่าเป็นอีกครั้งที่ realme สร้างมาตรฐานใหม่ให้สมาร์ทโฟนราคาระดับกลางได้อย่างน่าสนใจ ใครที่กำลังมองหารุ่นราคาหมื่นต้น ๆ แล้วได้ทุกฟีเจอร์ ดีไซน์ไม่เหมือนใคร เราว่า realme 11 5G และ realme 11x 5G เป็นอีกตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามจริง ๆ ครับ
