Connect with us

Android News

แกะกล่องพรีวิว realme 11 Pro Series 5G พลังกล้อง 200MP. Zoom to the Next Level พร้อมดีไซน์หนัง Vegan สุดพรีเมียม

Published

on

realme 11 Pro Series 5G ใกล้ที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว มาด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ realme 11 Pro+ 5G และ realme 11 Pro 5G ซึ่งในบทความนี้เราได้มาครบ และแน่นอนว่าเราก็ได้นำมาพรีวิวเรียกน้ำย่อยให้ชมกันคร่าวๆ ก่อน ตั้งแต่ดีไซน์ ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ และสรุปสเปคหลักๆ ทั้งหมด

แกะกล่อง realme 11 Pro Series 5G

กล่องของ realme 11 Pro Series 5G ทั้ง 2 รุ่นเหมือนกันทั้งหมดในตัวกล่องสีเหลืองพร้อมชื่อรุ่นสีดำตัดกันอย่างลงตัวทั้ง realme 11 Pro+ 5G และ realme 11 Pro 5G ขึ้นอยู่กับใครซื้อรุ่นไหนครับ โดยที่สิ่งที่ให้มาในกล่องก็แทบจะเหมือนกันทั้งหมดครับ

ในชั้นแรกทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคู่มือการใช้งานเบื้องต้น เข็มเปิดถาดซิม และเคสใสที่ให้มาเหมือนกัน

มาที่ชั้นตรงกลางจะเป็นตัวเครื่องที่ติดฟิล์มกันรอยมาให้เรียบร้อย ไม่ต้องไปหาติดเพิ่มเติมแล้ว

และชั้นสุดท้ายจะเป็นอะแดปเตอร์กำลังไฟของแต่ละรุ่น โดย realme 11 Pro+ 5G เป็นรุ่นกำลังไฟ 100W ส่วน realme 11 Pro 5G จะได้เป็นหัวชาร์จ 67W ตามสเปคเลยครับ ส่วนสาย USB Type-C ก็ให้มาเหมือนกัน

ดีไซน์วัสดุหนังและหน้าจอโค้งสุดพรีเมียม

มาชมความงามของตัวเครื่อง realme 11 Pro+ 5G กันก่อนเลยครับ โดยสีที่ชูโรงตัวในตระกูลนี้จะเป็น Sunrise Beige ที่ใช้วัสดุหนังเทียมวีแกน Premium Vegan Leather Design ได้ความพรีเมียมสวยงาม ทั้งยังมีเส้นลายของการทอ 3 มิติอย่างสวยงามที่ให้เราสัมผัสและรู้สึกถึงได้เลย

โดยความสวยงามไม่ได้มีแค่นั้นเพราะยังมีเส้นลายสีเหลืองทองตรงกลางที่ได้แรงบันดาลใจมาจากท้องถนนในเมืองในยามพระอาทิตย์ขึ้นที่ทอดยาวไปไกลจนลับสายตา เรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาด้านดีไซน์ของรุ่นหลักจาก realme ที่เห็นได้ชัดเจนมากๆ

ส่วนอีกสีที่เราได้มาจะเป็นสีดำ Astral Black ในรุ่น realme 11 Pro 5G ที่เป็นการใช้วัสดุพลาสติกที่แอบมีกริตเตอร์ผสมอยู่อย่างสวยงาม ได้ความคลาสิกที่หลายคนต้องการครับ

จบการเรียกน้ำย่อยในส่วนของดีไซน์กันก่อน และพลิกกลับมาดูที่หน้าจอแสดงผลกันบ้าง ที่ก็จัดเต็มเหมือนเดิม ตั้งแต่การใช้หน้าจอแสดงผลแบบโค้ง Curved Vision Display ทั้ง 2 รุ่น มีความโค้งที่ 61 องศา ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ และแสดงสี 10-bit รองรับทั้ง Refresh Rate 120Hz, 2160Hz PWM Dimming และความสว่างสูงสุดถึง 950 นิต

พาชมรอบตัวเครื่อง

เหนือหน้าจอแสดงผลจะเป็นกล้องหน้าแบบเจาะรูตรงกลาง พร้อมกับมีลำโพงตัวที่ 2 อยู่ถัดขึ้นไปครับ

ทางด้านล่างเครื่องจะมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM 2 ช่อง ถัดไปเป็นไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวที่ 1

ขณะที่ด้านบนจะมีรู 3 ช่องเพื่อเป็นการกระจายเสียงของลำโพงตรงด้านบนหน้าจอเพิ่มเติม และถัดไปเป็นไมโครโฟนตัวที่ 2 ครับ

โดยที่ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power จะอยู่ทางฝั่งขวา

และท้ายสุดที่กล้องหลังภาพรวมจะใช้ดีไซน์เหมือนกันทั้งคู่ด้วยโมดูลกล้องหลังทรงกลม เล่นสี 2 ชั้น โดยชั้นนอกจะเป็นแถบสีดำเหมือนกัน เป็นที่อยู่ของไฟแฟลช LED 1 ดวง พร้อมสัญลักษณ์ 200MP OIS CAMERA (ใน realme 11 Pro+ 5G) หรือ 100MP OIS CAMERA (ใน realme 11 Pro 5G) ขณะที่เลนส์กล้องจะเรียงเป็นแนวนอนชิดริมซ้าย กลาง และขวา แต่ในรุ่น realme 11 Pro 5G จะมี 2 เลนส์เท่านั้น (ด้านซ้ายจะเป็นรูปเลนส์กล้องเฉยๆ ครับ)

ทั้งนี้ ในสีชั้นในจะเป็นไปตามสีของแต่ละรุ่น ถ้าเครื่องเป็นสีเบจ Sunrise Beige ก็จะได้เป็นสีเบจผสมสีทองเล็กๆ แต่ถ้าเป็นสีดำ Astral Black ก็จะเป็นแถบสีดำเงาครับ

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ

พลังกล้อง 200MP OIS SuperZoom Camera

ใครที่ใช้ realme 11 Pro+ 5G จะได้รับกล้องหลังความคมชัดสูงสุดถึง 200MP รองรับทั้งระบบกันสั่นไหว OIS และฟีเจอร์ SuperZoom ที่สามารถกดถ่ายครั้งเดียวแต่ได้หลายภาพเหมือนถ่ายหลายเทคกันเลยทีเดียครับ แต่จะใช้งานเป็นอย่างไร เดี๋ยวรอชมกันเต็มๆ ในรีวิวเนาะ โดยในรุ่นพี่ยังได้เลนส์ Ultra-Wide 8MP มุมกว้าง 112 องศา และเลนส์ Macro มาให้ใช้งานครับ

ส่วนใน realme 11 Pro 5G ก็ได้กล้องคมชัด 100MP ซึ่งการถ่ายด้วยฟีเจอร์ต่างๆ นั้นไม่ต่างกันเลย ต่างกันแค่ความละเอียดสูงสุดเท่านั้นเองครับ และอีกเลนส์ที่มีมาให้จะเป็น Portrait ให้ใช้งานกันด้วย

ชิปเซ็ตพลังแรงจาก MediaTek

ทั้ง 2 รุ่นขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 7050 ความเร็วสูงสุดที่ 2.6GHz ขนาด 6 นาโนเมตร ทั้งยังรองรับ RAM 8/12GB + ROM 256GB ซึ่งการใช้งานจัดว่าไหลลื่น เร็วแรงและพร้อมใช้งานทุกสถาการณ์ครับ

สรุปสเปค realme 11 Pro+ 5G

  • ขนาดตัวเครื่อง (สี Sunrise Beige & Oasis Green) : 161.6 x 73.9 x 8.7 มม.
  • น้ำหนัก (สี Sunrise Beige & Oasis Green) : 189 กรัม
  • ขนาดตัวเครื่อง (สี Astral Black) : 161.6 x 73.9 x 8.2 มม.
  • น้ำหนัก (สี Astral Black) : 183 กรัม
  • หน้าจอแสดงผลแบบโค้ง Curved Vision Display ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2412 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 120Hz, Touch sampling rate 360Hz, HDR10+, Contrast Ratio 5000000:1 แสดงผลสี 1.07 พันล้านสี, PWM Dimming 2160Hz, 100% DCI-P3 และความสว่างสูงสุด 950 นิต
  • หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 7050 Octa Core ความเร็ว 2.6GHz
  • GPU : Mali-G68
  • RAM : 8/12GB
  • ROM : 256GB
  • กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
    • เลนส์หลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.69 รองรับกันสั่นไหว OIS เซ็นเซอร์ Samsung HP3
    • เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 112 องศา
    • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 ซม.
  • กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45
  • ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย realme UI 4.0
  • รองรับ 5G + 5G Dual Mode
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 (802.11 a/b/g/n/ac/ax), Bluetooth 5.2, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 100W SUPERVOOC Charge

สรุปสเปค realme 11 Pro 5G

  • ขนาดตัวเครื่อง (สี Sunrise Beige & Oasis Green) : 161.6 x 73.9 x 8.7 มม.
  • น้ำหนัก (สี Sunrise Beige & Oasis Green) : 191 กรัม
  • ขนาดตัวเครื่อง (สี Astral Black) : 161.6 x 73.9 x 8.2 มม.
  • น้ำหนัก (สี Astral Black) : 185 กรัม
  • หน้าจอแสดงผลแบบโค้ง Curved Vision Display ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2412 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 120Hz, Touch sampling rate 360Hz, HDR10+, Contrast Ratio 5000000:1 แสดงผลสี 1.07 พันล้านสี, PWM Dimming 2160Hz, 100% DCI-P3 และความสว่างสูงสุด 950 นิต
  • หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 7050 Octa Core ความเร็ว 2.6GHz
  • GPU : Mali-G68
  • RAM : 8/12GB
  • ROM : 128/256GB
  • กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ ดังนี้
    • เลนส์หลักความละเอียด 100 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.75 รองรับกันสั่นไหว OIS
    • เลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45
  • ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย realme UI 4.0
  • รองรับ 5G + 5G Dual Mode
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 (802.11 a/b/g/n/ac/ax), Bluetooth 5.2, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 67W SUPERVOOC Charge

ขอบอกก่อนว่านี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ realme 11 Pro Series 5G เท่านั้น เพราะจริงๆ ยังมีอะไรให้ชมกันอีกเพียบ ทั้งฟีเจอร์ สเปค และรายละเอียดของดีไซน์ที่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นมากกว่าที่เห็นในบทความนี้แน่นอนครับ ใครที่สนใจก็เตรียมรอชมรีวิวฉบับเต็มจากเราได้เลยครับ

Apple News39 นาที ago

Gurman เผย iPhone SE 4 อาจเปิดตัวเร็วสุดในช่วงสัปดาห์หน้า !

เหมือนว่าการเปิดตัวข...

Android News8 ชั่วโมง ago

OPPO ปล่อยของ! เปิดตัวอุปกรณ์ IoT รุ่นใหม่ OPPO Pad 3 รุ่น Matte Display และ OPPO Enco Air4 สีใหม่เขียว Fresh Mint ผสานการทำงานและไลฟ์สไตล์อย่างลงตัวในราคาสุดคุ้ม

ออปโป้ ไทยแลนด์ เปิด...

Android News16 ชั่วโมง ago

Redmi Note 14 Series สมาร์ทโฟนที่ให้ความทนทานรอบด้าน

หนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ม...

Android News17 ชั่วโมง ago

เปิดตัว ASUS Zenfone 12 Ultra เรือธงรุ่นใหม่ ขุมพลัง Snapdragon 8 Elite และปรับปรุงเรื่องกันสั่น Gimbal ในราคาราว 30,900 บาท

วันนี้ ASUS เปิดตัว ...

Smart Review18 ชั่วโมง ago

รีวิว Redmi Watch 5 สมาร์ทวอทช์สุดคุ้ม ได้จอใหญ่สุด 2.07″ เต็มตา พร้อมใช้ด้านครบครันทั้งสุขภาพและการออกกำลังกาย

มาแล้ว !! รีวิว Redm...

Android News19 ชั่วโมง ago

OPPO เริ่มเปิดจอง Find N5 และ Watch X2 ในประเทศจีนแล้ว !

เมื่อวานนี้ OPPO ได้...

IT News21 ชั่วโมง ago

ดรีมมี เปิดตัวสองหุ่นยนต์อัจฉริยะ X50 Ultra และ H13 FlexReach ครบเครื่องเรื่องความสะอาด

ดรีมมี เทคโนโลยี (dr...

Android News21 ชั่วโมง ago

ระวังแอป SparkCat ! พบมัลแวร์ที่มีโค้ดการอ่านหน้าจอในแอป iOS เป็นครั้งแรก (Android ก็มี)

มีรายงานจาก Kaspersk...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก