Connect with us

Featured

รีวิว realme 5 Pro สมาร์ทโฟน 4 กล้อง สเปคดีที่สุดในระดับราคานี้ มาพร้อม Snapdragon 712 AIE และแบตอึดชาร์จไว VOOC 3.0

Published

on

เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ realme 5 Pro สมาร์ทโฟนสเปคแรงในราคาแสนคุ้ม ด้วยขุมพลัง Snapdragon 712 AIE, ให้ RAM มาถึง 8GB, มี VOOC Flash Charge ถึง 20W และกล้องหลังอัจฉริยะถึง 4 เลนส์

สรุปสเปค realme 5 Pro

  • ขนาดตัวเครื่อง : 157 x 74.2 x 8.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 184 กรัม
  • หน้าจอแสดงผลแบบ IPS กว้าง 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9
  • หน่วยประมวลผล : Snapdragon 712 AIE Octa Core ความเร็ว 2.3 GHz
  • GPU : Adreno 616
  • RAM 4 GB หรือ 8 GB
  • ROM 128 GB รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD สูงสุด 256GB
  • ระบบปฎิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.0
  • กล้องถ่ายรูปหลัง 4 เลนส์ แบ่งเป็น
    • เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX 586 รูรับแสง f/1.8
    • เลนส์ wide-angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
    • เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
    • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 เซ็นเซอร์ Sony IMX 471
  • รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh รองรับ VOOC Flash Charge 20W

 

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

ตัวกล่องของ realme 5 Pro มาในกล่องสีขาวสะอาด เมื่อเปิดเข้ามาก็จะเจอกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่

  • ตัวเครื่อง realme 5 Pro (ติดฟิล์มใสมาให้เรียบร้อย)
  • อะแดปเตอร์ VOOC Flash Charge
  • สาย USB Type-C
  • อุปกรณ์เปิดถาดซิม
  • เคสใสสำหรับตัวเครื่อง
  • คู่มือการใช้งาน
  • ใบรับประกันสินค้า

 

บริเวณฝาหลังของ realme 5 Pro ก็ยังทำออกมาได้สวยสมบูรณ์แบบ เล่นสีตัวเครื่องกับแสงสะท้อนได้เป็นอย่างดี โดยเราจะเห็นเป็นลวดลายคริสตัลที่ใช้ชื่อเรียกดีไซน์ว่า “Holographic Diamond” ได้อย่างชัดเจน ยิ่งเมื่อลองสัมผัสและดูในทิศทางต่างๆ ก็จะเป็นการไล่เฉดสีฟ้าและม่วงได้อย่างลงตัวในสี Sparkling Blue ที่ใช้ในการรีวิวครั้งนี้

 

ที่ด้านหน้าจอใช้การดีไซน์ทรงหยดน้ำที่สวยงามควบคู่กับการฝังกล้องหน้าลงไป มีการลดขอบดำที่ด้านล่างจอแสดงผลเล็กน้อย ทำให้ได้ขนาดหน้าจอที่กว้างเป็น 6.3 นิ้ว มีความละเอียดระดับ FullHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) พร้อมอัตราส่วน 19.5:9 มีพื้นที่การใช้งานมากถึง 90.6% เลยทีเดียว ใครจะเล่นเกมหรือชมวิดีโอก็ทำได้เต็มตาแน่นอน

 

ทั้งนี้ เรื่องความคงทนก็ยังสบายหายห่วงไปได้เพราะบริเวณหน้าจอครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3+ แถมให้ขอบที่โค้งแบบ 2.5D รองรับกับฝ่ามือขณะใช้งานได้เป็นอย่างดี

 

บริเวณเหนือหน้าจอที่เป็นรอยบากแบบหยดน้ำสำหรับฝังกล้องหน้าและมีการฝังเซ็นเซอร์วัดแสงต่างๆ เข้าไปอีกด้วย และเมื่อถัดขึ้นไปดูด้านบนเล็กน้อยจะมีลำโพงขนาดเล็กอยู่ด้วย

 

ฝังซ้ายของตัวเครื่องไล่ลงมาจะมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด (NanoSIM 2 ช่อง + MicroSD 1 ช่อง รวม 3 ช่อง) และปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง

 

ส่วนฝั่งขวามีปุ่ม Power สำหรับปิด/เปิดเครื่อง หรือปิด/เปิดหน้าจอเพื่อล็อคเครื่อง

 

ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะมีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนอยู่ด้วย

 

ที่ด้านล่างจะมีตั้งแต่ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., ไมโครโฟนตัวหลัก, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก

ที่ด้านหลังมีกล้องมาให้ 4 เลนส์จัดเรียงเป็นแนวตั้งมุมซ้ายบน มีความละเอียดอยู่ที่ 48 + 8 (Wide-angle) + 2 (Macro) + 2 (Depth) ล้านพิกเซล และมีตัวอักษร “48MP” จะได้ไม่จำสลับกับ realme 5 โดยยังมีระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ถัดไป

 

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ระบบปฎิบัติการ
realme 5 Pro แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ที่ครอบทับด้วย UI เวอร์ชันล่าสุดของแบรนด์กับ ColorOS 6.0 ที่ทำให้ไอคอนของแต่ละแอปฯ ดูสบายตามากขึ้น พร้อมกับมีพื้นที่ในการใช้งานเพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

หน้าตา UI : ColorOS 6.0
สำหรับ realme 5 Pro ที่มาพร้อม ColorOS 6.0 ก็ให้ความสวยงามตามสีตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี เน้นไอคอนรูปแบบกลมๆ ให้ความรู้สึกสบายตาเวลาให้งาน โดยเราสามารถเพิ่มวิดเจ็ต หรือปรับผังหน้าจอหลักให้เป็นแบบอื่นได้ เพียงแต่กดค้างที่พื้นว่างบนหน้าจอหลัก ก็จะขึ้นการตั้งค่ามาให้ทันที

 

 

สำหรับเรื่องการใช้งานไม่ต่างจากรุ่นอื่นๆ คือ ปัดลงเพื่อดูการแจ้งเตือนหรือการตั้งค่าด่วน และปัดขึ้นเพื่อดูแอปพลิเคชั่นทั้งหมด

 

 

ใครที่อยากเปลี่ยนธีม ก็สามารถเข้าไปเลือกได้ในร้านค้าขายธีมที่มีให้เลือกเพียบ ตั้งแต่แนว PUBG Mobile, แนวศิลปิน หรือแนวที่เน้นสีสันก็มีให้เลือกเป็นร้อยๆ แบบกันเลย

 

 

พื้นที่คงเหลือหลังแกะกล่อง
หลังจากเปิดเครื่องแล้วทำการอัปเดทแอปพลิเคชั่นต่างๆ แล้ว ด้วยหน่วยความจำภายในที่ให้มาถึง 128GB ก็เหลือให้เราใช้งานต่างๆ ได้ถึงประมาณ 114GB เลยทีเดียว

 

ระบบความปลอดภัย
ด้านระบบความปลอดภัยก็ให้มาครบครัน ทั้งระบบสแกนใบหน้า (Face Unlock) ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วมากๆ เพียงแค่กดปลดล็อค ระบบก็สแกนหน้าได้ทันที แถมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย ส่วนระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็ทำงานได้รวดเร็วเพียงแค่แตะเซ็นเซอร์ในเวลาไม่ถึง 1 วินาที โดยสามารถจดจำได้มากสุด 5 ลายนิ้วมือเลยทีเดียว

 

เคลียร์พื้นที่ขยะได้ง่ายๆ ด้วยตัวจัดการโทรศัพท์
เมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ จนคิดว่าไฟล์ขยะจะเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หรือ RAM ถูกกินพื้นที่ในการใช้งานไปเยอะ เราสามารถเคลียร์ทั้งหมดได้ในแอปฯ ตัวจัดการโทรศัพท์ แล้วทำการเพิ่มความเร็วได้เพียงแค่คลิกเดียวเท่านั้น

 

 

ปุ่มนำทางเลื่อนได้
เพิ่มความสะดวกในการใช้งานเข้าไปอีกสำหรับ realme 5 Pro ที่สามารถปรับเปลี่ยนปุ่มนำทางได้ตามที่เราถนัด ตั้งแต่การลากนิ้วขึ้นจากทั้ง 2 ด้าน คือ สามารถปัดซ้าย/ขวาจากข้างหน้าจอ เพื่อย้อนกลับ, ปัดขึ้นเพื่อไปหน้าโฮม และปัดขึ้นแล้วค้างไว้เพื่อดูแอปล่าสุด หรือใครอยากใช้แบบปกติแต่เพิ่มพื้นที่หน้าจอเล็กน้อยก็ทำได้ด้วยการลากนิ้วขึ้นแทนการกดปุ่มเสมือนก็ยังได้เช่นกัน

 

 

ลูกบอลช่วยเหลือ
นอกจากจะมีปุ่มนำทางหลายแบบแล้ว ก็ยังมีลูกบอลช่วยเหลือเพื่อใช้งานสำหรับคนที่ไม่ชอบปุ่มนำทางแบบเดิม โดยลูกบอลช่วยเหลือนี้จะทำงานคล้ายกับปุ่มนำทาง เช่น แตะ 1 ครั้งเพื่อย้อนกลับ, แตะ 2 ครั้งเพื่อดูแอปล่าสุด และแตะค้างเพื่อไปหน้าโฮม ทั้งนี้การแต่ละครั้งก็ปรับเปลี่ยนการทำงานได้ตามใจชอบ

 

 

แถบด้านข้างอัจฉริยะ
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ก็สะดวกไม่แพ้ 2 ตัวบน คือ ‘แถบด้านข้างอัจฉริยะ’ ที่จะเป็นแถบบริเวณขอบตัวเครื่องให้เราเข้าถึงแอปฯ ที่เราใช้งานบ่อยได้ทันที โดยไม่ต้องมาเปิดหาให้เสียเวลา ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนแอปฯ ภายในแถบนั้นได้

 

 

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

ขุมพลังแรงเล่นเกมอะไรก็ลื่น!
realme 5 Pro มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 712 AIE แบบ 8 แกน (Octa-core) ใช้สถาปัตยกรรมขนาด 10 นาโนเมตร ช่วยให้การทำงานทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ, ไหลลื่น และประหยัดพลังงานอย่างมาก โดยมี Clock Speed สูงสุดที่ 2.3GHz ซึ่งมีความใกล้เคียงของ Hexagon 685 DSP ของสมาร์ทโฟนระดับตัวท็อปเลย ส่วนการ์ดจอ (GPU) ก็ใช้ Adreno 616 ช่วยให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 35% เมื่อเทียบกับตัว Snapdragon 710 AIE ควบคู่กับการประหยัดพลังงานมากกว่า Adreno 660 อีกต่างหาก

สำหรับผลการทดสอบทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมตั้งแต่หน่วยประมวลผล, การ์ดจอ และหน่วยความจำด้วยโปรแกรม AnTuTu Benchmark ทาง realme 5 Pro ทำคะได้ไปได้ที่ 179,298 คะแนน

 

 

ผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 4 ทำคะแนนฝั่ง Single-Core ไปที่ 1,133 และคะแนน Multi-Core ที่ 4,586

 

ทดสอบการเล่นเกม
ทดสอบการเล่นเกม 3 เกมดังในไทยทั้ง PUBG Mobile, ROV และ Asphalt 9: Legends โดยมีผลทดสอบดังนี้

  • PUBG Mobile

เริ่มที่เกม PUBG Mobile (ไม่ใช่เวอร์ชัน Lite) โดยเราปรับกราฟิกระดับ HD (สูงกว่านี้ต้องรออัปเดท) และเฟรมเรทระดับสูงสุด ซึ่งเล่นได้ไม่กระตุก และไม่มีปัญหาใดๆ


 

  • ROV

สำหรับ ROV สามารถเปิดการกราฟิกและเฟรมเรทระดับสูงสุดได้ทั้งหมด (ระดับสูงมากต้องรออัปเดทในเร็วๆ นี้) โดยทดสอบจากการเล่นแบบ 5 VS 5 ก็สามารถเล่นได้ลื่นๆ ไม่มีกระตุกหรือหน่วงแต่อย่างใด ซึ่งเฟรมเรทจะคงที่ตั้งแต่เริ่มเกมถึงจบเกมที่ประมาณ 58-60fps ถือว่าเล่นแล้วเป็น MVP ได้ไม่ยาก



 

  • Asphalt 9: Legends

สำหรับเกมแข่งรถกราฟิกสวยๆ อย่าง Asphalt 9: Legends เราสามารถปรับกราฟิกระดับสูงสุดได้ โดยเมื่อเริ่มเล่นไม่พบอาการกระตุกกรือการหน่วงของเฟรมเรทเลยสักครั้ง ซึ่งยังได้ภาพที่คมชัดและสวยงามตามกราฟิกในเกมอีกด้วย


 

realme 5 Pro ยังมีฟีเจอร์ Game Space ที่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมให้ไหลลื่นด้วยการลดการทำงานแอปฯ เบื้องหลัง, ช่วยป้องกันการแจ้งเตือน และสามารถปรับโหมดให้เหมาะกับแต่ละเกมได้ทั้งโหมดแข่งขัน, โหมดสมดุล และโหมดใช้พลังงานต่ำ

 

นอกจากนี้ ฟีเจอร์ Game Assistant หรือผู้ช่วยสำหรับเกม ยังเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ให้เราไปตั้งค่าเมื่อเข้าไปในเกมได้ด้วยทั้งเปิด-ปิดโหมดห้ามรบกวน หรือพิมพ์ข้อความก็ยังได้ ซึ่งเพียงแค่ปัดซ้ายหรือขวา (ขึ้นอยู่กับหน้าจอฝังหยดน้ำ) ก็เรียกใช้งานได้ทันที

 

แบตอึดฯ ชาร์จไวด้วย VOOC Flash Charge 3.0
เมื่อเสียพลังงานในการเล่นเกมไปเยอะก็ต้องกลับมาชาร์จกันด้วยเทคโนโลยี VOOC Flash Charge 3.0 ที่มีความปลอดภัยในการจัดการความร้อน พร้อมกับช่วยให้ชาร์จได้เร็วขึ้นแม้ว่าเราจะกำลังเล่นเกมอยู่ก็ตาม ซึ่งเราทดสอบชาร์จเมื่อแบตเตอรี่น้อยๆ ก็สามารถชาร์จให้เต็มในราวชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น

ทั้งนี้ เรื่องของแบตเตอรี่ที่แม้จะให้ความจุมาถึง 4,000 mAh แล้ว แต่เราก็ยังสามารถเปิดฟีเจอร์ “การป้องกันการใช้พลังงานอัจฉริยะได้” หรือ Smart Power Saver เพื่อช่วยให้การจัดการพลังงานของแอปพลิเคชั่นเบื้องหลังไม่มารบกวนมากเกินไป และยังช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นถึง 10% เลยทีเดียว

 

กล้องถ่ายรูป

ด้านกล้องถ่ายรูป realme 5 Pro ก็จัดเต็มมากๆ ด้วยการให้กล้องหลังมาถึง 4 เลนส์ โดยเรียงจากบนลงล่างจะมีดังนี้

  • เลนส์ Super wide-angle 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX 586 รูรับแสง f/1.8
  • เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

โดยแต่ละเลนส์จะมีความสามารถอย่างไรมาดูกันเลย

  • AI Scene Recognition จดจำซีนได้แม่นยำ

เริ่มกันด้วยฟีเจอร์หลักที่เรามักจะใช้เป็นอันดับแรกๆ อย่างการจดจำซีน (AI Scene Recognition) ที่สามารถแบ่งแยกหมวดหมู่ได้แม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นคน, พืช, สัตว์ หรืออาหาร เป็นต้น ซึ่งการถ่ายแต่ละฉากจะเปลี่ยนแปลงเฉดสีให้เหมาะสมกับวัตถุที่เรากำลังโฟกัส

 

  • Ultra Wide ถ่ายกว้างจบได้ทุกมุม

มาถึงอีกเลนส์ที่สมาร์ทโฟนรุ่นไม่มีถือว่าผิด กับเลนส์ Super wide-angle ที่ทำมุมกว้างได้สูงสุดถึง 119 องศากันเลย จะถ่ายวิวท้องฟ้าหรือบรรยากาศต่างๆ ก็เก็บได้ครบ แถมสีสันก็ยังสดใสแทบไม่ต่างจากเลนส์หลักเลย

 

เมื่อลองดูกับการถ่ายด้วยเลนส์ปกติ และเลนส์ Ultra Wide จะเห็นว่าเราสามารถเก็บภาพบรรยากาศได้ทั้งหมด ไม่มีส่วนไหนขาด หรือหายไปเมื่อเทียบกับเลนส์ปกติ

 

  • เพิ่มสีให้สดขึ้นด้วย Choma Boost

สำหรับโหมด Choma Boost คือการเพิ่มความสดของสีที่อยู่ในภาพทั้งหมด ทั้งยังเพื่มความคมชัดได้อีกด้วย ซึ่งโหมดนี้จะใช้การปรับแต่งที่ได้ AI มาช่วย ทำให้ดูสมจริงกว่าโหมด Vivid ในสมาร์ทโฟนทั่วไป

 

  • ถ่าย Portrait ได้สวย เบลอหลังได้เนียนตา

เมื่อมีเลนส์ Portrait เพิ่มเข้ามา การใช้งานเมื่อถ่ายบุคคลก็ทำได้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น มีการตรวจจับใบหน้าที่รวดเร็ว โดยเมื่อเริ่มถ่ายการเบลอฉากหลังก็ทำได้เนียนตามาก มีการตัดขอบบริเวณลำตัวและเส้นผมได้แม่นยำ ซึ่งตรงนี้ต้องขอบคุณอีกเลนส์อย่างเลนส์ Depth ที่สามารถตรวจจับระยะของคนและพื้นหลังได้เป็นอย่างดี

 

  • ความละเอียดสูงพิเศษ 48MP

แม้ว่าจะมีเลนส์ความละเอียด 48 ล้านพิกเซลอยู่ แต่เมื่อถ่ายออกมา เราได้ภาพขนาด 12 ล้านพิกเซลออกมา ซึ่งจริงๆ นั้นเป็นความสามารถในการถ่ายหลายๆ ช็อตมารวมเป็นภาพเดียวเพื่อความคมชัดที่มากขึ้น แต่หากใครอยากได้ภาพขนาดใหญ่ในความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้ได้ภาพถ่ายที่มีความละเอียดสูง และเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ดีเหมือนเดิม

 

  • Ultra Clear Nightscape ถ่ายกลางคืนให้สว่างคมชัด

realme 5 Pro ยังมีฟีเจอร์ Ultra Clear Nightscape ช่วยให้ถ่ายภาพในสถาวะแสงน้อยหรือตอนกลางคืนออกมาได้สวยงาม ซึ่งขอบอกว่าทำออกมาได้ดีมากๆ เก็บรายละเอียดได้เยี่ยม, ลด Noise ได้ดี และยังมีเซ็นเซอร์ CMOS ที่กว้างถึง 1/2.0 นิ้ว ทำให้เมื่อกดถ่ายไป ระบบจะคำนวณและรวมภาพต่างๆ ได้เร็วขึ้น รอประมาณ 2-3 วินาทีก็คำนวณเสร็จ ไม่ต้องถือแช่นานต่อไปแล้ว


 

  • ถ่ายได้ใกล้สุดด้วย Ultra Macro

เพิ่มมาอีกเลนส์อย่าง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่สามารถโฟกัสวัตถุได้ในระยะใกล้มากๆ สูงสุด 4 เซนติเมตรเลยทีเดียว ซึ่งภาพใบไม้ที่เราถ่ายมาก็มีความคมชัด เห็นรายละเอียดของสีและเนื้อผ้าต่างๆ ได้ชัดเจน


 

  • กล้องหน้าสวย ทำหน้าชัดหลังเบลอก็ได้

สำหรับกล้อองหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลนั้น จะทำงานร่วมกับ AI ในการวิเคราะห์ใบหน้าของบุคคลว่าเป็นเพศไหนและอายุประมาณเท่าไหร่ซึ่งสามารถจดจำที่มากถึง 296 จุด เพื่อที่จะปรับฟีเจอร์ AI Beauty ให้เหมาะสมในแต่ละบุคคล ทั้งนี้ หากใครอยากปรับเพิ่มก็ทำได้ด้วยตัวเองเช่นกัน ทั้งแบบตาโต, หน้าเรียว หรือจมูกเล็กลง เป็นต้น

 

นอกจากนี้ กล้องหน้ายังสามารถปรับหน้าชัดหลังเบลอได้เหมือนกับกล้องหลังอีกด้วย ซึ่งการตัดขอบต่างๆ ก็ยังทำออกมาได้ไม่แพ้กันเลยทีเดียว

สรุปจุดเด่น

  • ดีไซน์ถือเป็นเอกลักษณ์ของ realme 5 Pro ด้วยลวดลายคริสตัลที่ให้ความหรูหรา
  • หน้าจอแสดงผลใหญ่และคมชัดด้วยขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+
  • realme 5 Pro ใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon 712 AIE ที่เป็นหนึ่งในตัวท็อปของระดับกลาง ใช้งานได้ไหลลื่น เล่นเกมก็สบาย
  • มีกล้องหลังถึง 4 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 พร้อมด้วยเลนส์ Super wide-angle ถ่ายมุมแคบๆ ก็เก็บได้ครบ
  • กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ถ่ายหน้าสวยแบบไม่ต้องปรับ เพราะมี AI Beauty
  • มีความจุแบตเตอรี่ถึง 4,000 mAh แถมรองรับ VOOC Flash Charge 3.0
  • ใช้พอร์ต USB Type-C

จุดสังเกตเพิ่มเติม

  • ไม่มีหูฟังภายในกล่อง

realme 5 Pro รุ่นแรม 4 GB ความจุ 128 GB ราคา 7,999 บาท และรุ่นแรม 8 GB ความจุ 128 GB ราคา 8,999 บาท เริ่มพรีออเดอร์แล้ววันนี้ตั้งแต่วันที่ 3 – 13 กันยายน 2562 รับฟรีทันที VIP Card และหูฟัง โดยเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 14 กันยายนนี้เป็นต้นไป

IT News15 ชั่วโมง ago

ทรู คอร์ปอเรชั่น นำดาต้าปีใหม่วิเคราะห์เทรนด์จัดเต็มสัญญาณ 5G ให้ลูกค้า “ยิ้มทั่วไทย” ฉลองเคานต์ดาวน์ส่งความสุขสู่ปีมะเส็ง

ทรู คอร์ปอเรชั่นเพิ่...

IT News15 ชั่วโมง ago

เปิดตัวแคมเปญ ‘VERTU Yacht Sailing Experience’ สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เมื่อเป็นเจ้าของสมาร์ตโฟน VERTU และนาฬิกาอัจฉริยะ VERTU METAWATCH พร้อมกัน

‘VERTU’ (เวอร์ทู) ลั...

Best Smartphone 12000 for 2025 Best Smartphone 12000 for 2025
Buying Guides2 วัน ago

10 มือถือราคาไม่เกิน 12,000 บาท ตัวจบ ครบทุกฟีเจอร์ ใช้ยาว ปี 2025

กำลังมองหามือถือใหม่...

Android News2 วัน ago

OPPO จับมือ Maison Kitsuné สร้างสรรค์ประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ กับ OPPO Find X8 Series

OPPO แบรนด์สมาร์ตโฟน...

IT News2 วัน ago

สรุปข่าวรอบสัปดาห์ระหว่างวันที่ 14 – 20 ธ.ค. 67

ข่าวเด่นช่วงระหว่างว...

IT News2 วัน ago

สรุป 6 จุดเด่นที่ทำให้คุณต้องเลือก HUAWEI MatePad 12 X นวัตกรรมแท็บเล็ตใช้งานได้ดั่งกับพีซี ที่มาพร้อมโปรเด็ดลดสูงสุดถึง 2,000 บาท กับ Shopee

HUAWEI MatePad 12 X ...

ข่าวประชาสัมพันธ์2 วัน ago

กรี๊ดสนั่น! ทรู เสิร์ฟความฟินขั้นสุดส่งท้ายปี ดึง “โฟร์ท ณัฐวรรธน์” สาดรอยยิ้ม และความสุขมาแจกแบบจัดเต็ม ในงาน “Truedtac5G ยิ้มทั่วไทย ยิ้มทั่วโซเชียล กับโฟ้ดๆ”

ทรู ขอส่งต่อพลังบวกแ...

IT News2 วัน ago

AIS ยึดหัวหาดทะเลอ่าวไทยครอบคลุม ลึก สูง กว้าง ไกล ยืนหนึ่งตัวจริงภาตตะวันออก

AIS ปักหมุดผู้น...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก