Featured
รีวิว realme 6 Pro สมาร์ทโฟนกล้อง 6 เลนส์ จอเหนือขั้น ใช้งานลื่นๆ แบบ 90Hz พร้อมขุมพลัง Snapdragon 720G รุ่นแรกของไทย
realme 6 Pro ถือเป็นสมาร์ทโฟนสเปคแรงในราคาสุดคุ้มอีกรุ่นครับ โดยจะชูโรงที่ “6 เลนส์ จอเหนือขั้น” ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหน้าคู่ที่มีเลนส์ Ultra-Wide มาให้ด้วย แถมหน้าจอแสดงผลยังรองรับ Refresh Rate 90Hz ที่หายากมากๆ ในราคาระดับเดียวกัน ส่วนสเปคอื่นๆ จะคุ้มค่ามากแค่ไหนตามมาดูกันเลย!
สรุปสเปค realme 6 Pro
- ขนาดตัวเครื่อง : 163.8 x 75.8 x 8.9 มม.
- น้ำหนัก : 202 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Ultra Smooth Display กว้าง 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 รองรับ Refresh Rate 90Hz มีพื้นที่การแสดงผล 90.6% และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
- หน่วยประมวลผล Snapdragon 720G Octa Core ความเร็ว 2.3GHz
- GPU : Adreno 618
- RAM 8GB LPDDR4x
- ROM 128 GB สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 256GB
- ระบบปฎิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย realme UI 1.0
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 เซ็นเซอร์ Samsung GW1
- เลนส์ Ultra Wide-Angle 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.3
- เลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5
- เลนส์ Macro ระยะโฟกัส 4 ซม. ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้า 2 เลนส์แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
- เลนส์ Ultra Wide-Angle 105 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4G+5GHz, Bluetooth 5.1 และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 4300 mAh รองรับ VOOC Flash Charge 4.0 กำลังไฟ 30W
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
มาเริ่มแกะกล่องกันครับ โดยตัวกล่องก็มาในสีสันที่เป็นสัญลักษณ์ของ realme อย่างสีเหลือง พร้อมกับชื่อรุ่นที่หน้ากล่อง และเมื่อเปิดดูข้างในก็จะเจอกับอุปกรณ์ที่ให้มาครบครับ ได้แก่
- ตัวเครื่อง realme 6 Pro พร้อมติดฟิล์มกันรอย
- อะแดปเตอร์ 30W
- สาย USB Type-C
- เคสใส
- อุปกรณ์เปิดถาดซิม
- คู่มือการใช้งานและใบรับประกันสินค้า
ดีไซน์สวยงามดุจสายฟ้า
สำหรับสมาร์ทโฟน realme เมื่อต้องพูดถึงเป็นอย่างแรกก็คงไม่พ้นดีไซน์ที่ทำออกมาได้งดงามทั้งหมด โดย realme 6 Pro รุ่นนี้จะเป็นการเล่นลวดลายคล้ายกับสายฟ้าผ่าจากบนลงล่าง โดยสีที่เราได้มานี้คือสีแดง Lightning Red ที่ให้ความร้อนแรงไปเบาเลยทีเดียวครับ ส่วนอีกสีจะเป็นสีฟ้า Lightning Blue ที่ให้ความรู้สึกถึงท้องฟ้าที่มีสายฟ้าผ่าลงมา
นอกจากดีไซน์และเฉดสีด้านหลังจะสวยงามแล้ว realme 6 Pro ยังทำตัวเครื่องออกมาให้จับถือสะดวก ถือง่าย มีความโค้งมนเล็กน้อยที่ด้านหลังเพื่อความสบายในเวลาในคุยโทรศัพท์
ที่สำคัญ realme 6 Pro ยังออกแบบให้ปกป้องตัวเครื่องจากละอองน้ำที่มีการป้องกันถึง 3 ชั้น ได้แก่ กาวกันน้ำ, ซิลิโคนเจลกันน้ำ และกรอบกันน้ำ ซึ่งในส่วนนี้เอาไว้ใช้ในการที่เกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเท่านั้นนะครับ ไม่ใช่เอาไปเล่นในน้ำกันล่ะ
หน้าจอแสดงผลของ realme 6 Pro มาในแบบแปลกตาพอสมควรเพราะมีการเจาะรูกล้องในหน้าจอถึง 2 เลนส์ที่มุมซ้ายบน ทำให้มีความกว้างมากขึ้นอยู่ที่ 6.6 นิ้ว ความคมชัดระดับ FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 และมีพื้นที่การแสดงผลถึง 90.6% ใครที่ชอบเล่นเกม, โซเชียล หรือดูวิดีโอต่างๆ ต้องชอบแน่นอนเพราะได้เห็นอะไรที่แบบเต็มตามากๆ
เท่านั้นไม่พอรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ OSIE Vision Effect ที่เป็นการรับชมภาพและวีดีโอได้คมชัดยิ่งขึ้น และสีสันก็จัดเต็มกว่าเดิมด้วย
ไม่ใช่แค่ความสวยงามที่ออกมาจากหน้าจอเท่านั้นครับ realme 6 Pro ยังมาพร้อม Refresh Rate 90Hz ที่น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเดียวในระดับราคาเดียวกันที่ให้มาแบบนี้ด้วย ซึ่ง 90Hz ทำให้การสัมผัสนั้นดูไหลลื่นมากขึ้น รวมไปถึงการเล่นเกมต่างๆ ที่จะดูสมูธแบบลงตัวมากจริงๆ ครับ
มาดูรอบเครื่องกันครับ ที่เหนือหน้าจอแสดงผลอย่างที่เราบอกไปจะมีกล้องหน้าที่ฝังในหน้าจอซึ่งเป็นเลนส์หลักและเลนส์ Ultra-Wide มาให้ และถัดไปตรงกลางจะมีลำโพงสำหรับสนทนาอยู่
ด้านซ้ายตัวเครื่องจะมีช่องสหรับใส่ซิมการ์ดแบบ 3 Slot ครับ ใส่ได้ทั้งซิม 2 ช่อง และ microSD อีก 1 ช่องเต็มๆ
ส่วนด้านขวามีปุ่ม Power ที่ไม่ได้ยื่นออกมากับตัวเครื่องเหมือนปุ่มปกติเพราะใช้เป็นการสแกนลายนิ้วมือได้ด้วยเหมือนกันนะ
ด้านล่างจะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., ไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก
ส่วนด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน
และสุดท้ายที่ด้านหลังจะมีกล้องหลัง 4 เลนส์ที่จัดเรียงเป็นแนวตั้ง พร้อมไฟแฟลช LED ครับ
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฎิบัติการ
realme 6 Pro แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่ครอบทับด้วย UI รุ่นใหม่ของแบรนด์อย่าง realme UI 1.0 โดยมีการเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องสีสันที่มีความจัดเจนยิ่งขึ้น, แอนิเมชั่นเคลื่อนไหวดูไหลลื่น รวมไปถึงไอคอน และภาพพื้นหลังที่เปลี่ยนไปด้วยเหมือนกันครับ
นอกจากนี้ realme UI ยังช่วยลดการทำงานพื้นหลังของระบบทำให้ระยะเวลาการเปิดแอปพลิอเคชั่นต่างๆ ลงลด 25% แถมความลื่นไหลเพิ่มขึ้นอีก 20%
วอลเปเปอร์มีให้เลือกเพียบ
ในรุ่นนี้ก็มีวอลเปอร์ให้เลือกอย่างหลากหลายมากกว่า 10 แบบครับ ใครที่ชอบเปลี่ยนให้มีสีสันตรงตามตัวเครื่องให้ดูเข้ากันก็ทำได้ครับ ยิ่งเพิ่มสีสันให้ดูไม่น่าเบื่อเลย
โหมดการดูแลรักษาดวงตา
realme 6 Pro ยังมาพร้อมฟีเจอร์ถนอมสายตาที่เพิ่มอุณหภูมิหรือโทนสีของหน้าจอในการลดลดแสงสีฟ้าครับ ทำให้ใช้งานในที่แสงน้อยหรือในที่มืดได้ไม่ล้าและไม่เสียสุขภาพดวงตามากเกินไปด้วย
นอกจากนี้ โหมดของสีสันยังมีให้ปรับสีหน้าจอได้ 2 โหมด ได้แก่ Vivid mode (เจิดจ้า) และ Gentle mode (อ่อนโยน) เพื่อความสบายตา แล้วแต่ใครจะชอบแบบไหนครับ
Dark Mode ก็มีให้ครอบคลุมกับแอปที่รองรับ
ใน Dark Mode ของ realme UI ถือว่าทำมารองรับกับเกือบทุกแอปพลิเคชั่นครับ ไม่จำเป็นต้องไปเปิดโหมดมืดในแอปอีกรอบให้ยุ่งยาก เรียกว่าตอบโจทย์ผู้ใช้งานจริงๆ
ตกแต่งไอคอนในสไตล์ของตัวเอง
realme UI ให้เราได้ใช้งานกันแบบเต็มที่ครับ โดยสามารถปรับแต่งหรือแก้ไขความสวยงามของไอคอนแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้ ซึ่งจะมีตัวเลือกมาให้เพียบทั้งการกำหนดความมน, พื้นหน้า และไอคอนได้เพิ่มด้วย รวมถึงลักษณ์ต่างๆ ที่จะให้ไอคอนเป็นแบบไหน
ระบบความปลอดภัยก็มีให้ครบ
realme 6 Pro มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่ครบครันครับทั้งการสแกนลายนิ้วมือและการสแกนใบหน้า โดยการสแกนลายนิ้วมือสามารถทำได้แบบสะดวกๆ ที่ข้างตัวเครื่องหรือตรงปุ่ม Power นั่นเองครับ ซึ่งการใช้งานจริงๆ ถือว่าสะดวกพอสมควร ใครถือเครื่องมือซ้ายจะสแกนนิ้วชี้และกลางไว้ หรือใครที่ถือมือขวาก็สแกนจากนิ้วโป้งได้เลย
ส่วนการสแกนใบหน้าก็ถือว่าทำได้อย่างรวดเร็วและเสถียรครับ สามารถจดจำใบหน้าได้แม่นยำเลยแหละ
เล่นเยอะก็หยุดพักบ้างด้วย Focus Mode
Focus Mode เป็นโหมดที่อยู่ในเป็นโหมดที่มาใหม่ใน realme UI ช่วยให้เราได้ผ่อนคลายจากการใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลานานๆ มีการเปิดเพลงเบาๆ สบายๆ รวมถึงการปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ผ่านโหมดห้ามรบกวนตามเวลาที่เรากำหนดไว้
แคปหน้าจอง่ายๆ แค่ 3 นิ้ว
ปกติแล้วการบันทึกภาพหน้าจอหรือแคปหน้าจอมักจะต้องกดปุ่ม 2 ปุ่มเพื่อใช้งาน แต่ใน realme 6 Pro บน realme UI ใช้แค่ 3 นิ้วลากลงบนหน้าจอระบบก็จะแคปให้ทันที หรือถ้าอยากได้ภาพแคปแบบยาวๆ ก็แค่ให้ลากลงมาแล้วค้างไว้ แล้วก็เลื่อนหน้าจอเองได้เลย
ฟังเสียงกระหึ่มผ่านระบบเสียง Dolby Atmos
realme 6 Pro ยังรองรับรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ที่ให้ความสมจริงและให้อรรถรสในการฟังเสียงต่างๆ มากขึ้นชัดเจน รวมถึงคุณภาพเสียง Hi-Res ที่เพิ่มความหนักแน่นเข้าไปอีก แต่ต้องใช้งานผ่านหูฟังนะ
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
realme 6 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในไทยที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 720G Octa-Core ที่มีขนาดเพียง 8 นาโนเมตรเท่านั้น ที่นอกจากจะได้ความแรงของ CPU มากขึ้นถึง 60% แล้ว (เทียบกับรุ่นก่อน) ยังช่วยเรื่องการประหยัดพลังงานจากการใช้งานด้วยเช่นกันครับ ทั้งนี้ หน่วยประมวลผลกราฟิกหรือ GPU ยังใช้ Adreno 618 ทำให้การประมวลผลด้านกราฟิกดีขึ้นถึง 75%
สำหรับผลการทดสอบทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมตั้งแต่หน่วยประมวลผล, การ์ดจอ และหน่วยความจำด้วยโปรแกรม AnTuTu Benchmark ทำไปได้ 281,930 คะแนน
ส่วนผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ทำคะแนนฝั่ง Single-Core ไปที่ 567 และคะแนน Multi-Core ที่ 1,681
ก่อนจะไปทดสอบการเล่นเกมเราต้องบอกก่อนว่า realme 6 Pro ยังมีหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon Elite Gaming ที่ช่วยให้เกมแสดงผลแบบ HDR เพิ่มความความชัดลึกของรายละเอียดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพวกเงาหรือความสว่าง เป็นต้น จะเป็นยังไงมาดูกันครับ
รวมไปถึงฟีเจอร์ Game Space ที่รวบรวมเกมทั้งหมดในเครื่องไว้ในที่เดียว พร้อมฟังก์ชันในการปิดกั้นการแจ้งเตือนไม่ให้มารบกวนขณะเล่นด้วย และ Game Assistant ที่ปัดจากมุมซ้ายหรือขวาเพื่อเปิดแท็บนี้ ทำให้เราตรวจสอบแบตเตอรี่, สัญญาณเครือข่าย, เปิดแชท หรืออัดหน้าจอได้
ทดสอบการเล่นเกม
ROV
สำหรับ ROV ก็แน่นอนว่าเราสามารถเล่นได้ด้วยบการปรับภาพทุกอย่างได้ในระดับสูงสุดทั้งหมดครับ เมื่อทดสอบเล่นในโหมด 5 VS 5 เฟรมเรทก็จะคงที่อยู่ในระดับ 58-60fps ตลอดทั้งเกมไม่มีสะดุดเลยด้วย
Call Of Duty: Mobile
ต่อมากับเกม Call Of Duty: Mobile ก็ปรับภาพได้ระดับสูงสุด (Very High) ที่ทั้งกราฟิกและเฟรมเรท ซึ่งก็เล่นได้ไหลลื่นในโหลด Battle Royale 100 คน ไม่มีสะดุดแน่นอน และยังได้ภาพที่สวยคมชัดอีกด้วยนะ (เครื่องแรงขนาดนี้ ได้ที่ 1 ก็ขออวดหน่อย)
Asphalt 9: Legends
เกมแข่งรถกราฟิกเทพ realme 6 Pro สามารถปรับการตั้งค่าในระดับสูงได้ด้วย แถมเราทดสอบเล่นไปหลายรอบ แต่ละรอบก็เล่นได้แบบไม่มีปัญหาอะไรครับ
แบตเตอรี่ชาร์จไว ปลอดภัยถึง 5 ชั้น
realme 6 Pro มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4300mAh ซึ่งการใช้งานปกติทั่วไปก็ถือว่าอยู่รอดตลอดทั้งวันครับ แต่ใครที่กลัวแบตเตอรี่จะหมดระหว่างวันก็หมดห่วงเพราะมีเทคโนโลยี VOOC Flash Charge กำลังไฟถึง 30W ทำให้ชาร์จได้รวดเร็วมากๆ จากที่ทดสอบจากแบตประมาณ 12% สามารถชาร์จเต็มถึง 100% ในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ ใครที่ชอบเล่นเกมแต่กลัวแบตหมดก็สามารถชาร์จไปเล่นไปได้ด้วย เพราะในตัวของอะแดปเตอร์ไปจนถึงแบตเตอรี่เครื่องมีการรองรับความปลอดภัยในเรื่องกระแสไฟเกินและความร้อนอยู่ถึง 5 ชั้น
กล้องถ่ายรูป
เรื่องของกล้องถ่ายรูปและวิดีโอของ realme 6 Pro เรียกว่าจัดมาให้แบบเต็มๆ ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังครับ โดยเฉพาะกับกล้องหน้าที่มีเลนส์ Ultra-Wide มาให้ด้วย ซึ่งถือว่ามีความพิเศษมากๆ โดยทั้ง 6 เลนส์จะมีความละเอียดเท่าไหร่บ้างและฟีเจอร์เด็ดๆ อะไร มาดูกันเลย
กล้องหลัง
- เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 เซ็นเซอร์ Samsung GW1
- เลนส์ Ultra Wide-Angle 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.3
- เลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5
- เลนส์ Macro ระยะโฟกัส 4 ซม. ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
กล้องหน้า
- เลนส์หลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
- เลนส์ Ultra Wide-Angle 105 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
ฟีเจอร์ต่างๆ
AI จดจำฉากสุดอัจฉริยะ
สำหรับฟีเจอร์นี้ถือเป็นฟีเจอร์พื้นฐานที่ทุกรุ่นควรมีครับ ซึ่ง realme 6 Pro ก็ไม่พลาดแน่นอนด้วยการใช้ AI จดจำฉากและวัตถุต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ เพื่อปรับภาพ แสง และสีสันให้เหมาะสมกับแต่ละวัตถุที่เราโฟกัส เช่น อาหาร, ท้องฟ้า, แมว, สุนัข หรือพืช เป็นต้น
รายละเอียดเล็กๆ ก็เห็นครบด้วยความละเอียด 64 ล้านพิกเซล
realme 6 Pro มาพร้อมกับเลนส์หลักที่ให้ความละเอียดสูงสุดมาถึง 64 ล้านพิกเซล ทำให้เราได้ไฟล์ภาพขนาดยักษ์ขนาด 9280 x 6944 พิกเซล ที่สามารถนำไปใช้งานต่อได้หรือจะนำมาครอบให้เห็นส่วนเล็กส่วนน้อยในภาพแบบชัดๆ ก็ได้เช่นกัน
Hybrid Zoom ซูมสูงสุดถึง 20 เท่า
ในรุ่นนี้ใครที่ชอบการซูมหรือต้องการเห็นอะไรที่อยู่ไกลๆ ก็สามารถทำได้เช่นกันที่ Hybrid Zoom สูงสุดถึง 20 เท่าเลยทีเดียว ซึ่งภาพที่ได้ออกมาก็ถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้ครับ ไม่ได้ชัดเป๊ะเหมือนตอนถ่ายปกติอยู่แล้ว แต่ถือว่าช่วยให้เราถ่ายภาพในระยะใกล้ๆ กับสิ่งที่อยู่ไกลตัวเราได้ดีเลยทีเดียว
โหมด Portrait เบลอหลังได้เนียนๆ
เรียกว่าโหมดนี้เป็นสิ่งที่ realme ทำได้เป็นอย่างดีกับการถ่ายภาพ Portrait เบลอฉากกลังได้แบบธรรมชาติ โดย realme 6 Pro ก็ทำได้ยอดเยี่ยมครับ สามารถโฟกัสวัตถุที่อยู่ฉากหน้าได้ไว ทำให้การเบลอหลังนั้นออกมาเนียนตาและดูธรรมชาติ ที่สำคัญเมื่อถ่ายโหมดนี้เราจะได้ความเป็นบิวตี้ออกมาให้เองโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องไปแต่งเพิ่มเลยก็ได้ แถมใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลย
กล้องหลัง
กล้องหน้า
ทั้งนี้ในโหมด Portrait ยังมีฟิลเตอร์ให้เราเลือกอีกถึง 5 แบบด้วยกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ทำให้ได้เล่นลูกเล่นที่มีสีสันแปลกตามากกว่าเดิมครับ
Macro ถ่ายระยะใกล้สุดถึง 4 เซนติเมตร
ด้านบนมีถ่ายซูมไกลๆ ไปแล้ว เรามาถ่ายอะไรใกล้ๆ กันดีกว่าครับ โดย realme 6 Pro มีเลนส์ Macro มาให้ทำให้เราถ่ายวัตถุต่างๆ ได้ใกล้สุดถึง 4 เซนติเมตรในระยะการโฟกัสได้นะ ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ก็ยังดูคมชัดอยู่ครับ และเรื่องโฟกัสในเลนส์นี้ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ไวพอสมควรเลยทีเดียวเชียว
Chroma Boost เพิ่มสีสันแบบจัดเต็ม
ใครที่เคยใช้ realme มาก่อนต้องเคยเล่นฟีเจอร์นี้แน่นอน โดย Chroma Boost จะเป็นการเพิ่มสีสันและความสว่างให้กับภาพทั้งภาพที่เราถ่ายอยู่ ซึ่งไม่ใช่เพิ่มมาแบบมั่วๆ แต่เป็นการจัดแสงและสีให้เหมาะสมและมีความคมชัดมากขึ้นเช่นกัน
ปิด Chroma Boost / เปิด Chroma Boost
ปิด Chroma Boost / เปิด Chroma Boost
ถ่ายมุมกว้างเก็บครบด้วย Ultra-Wide
สำหรับเลนส์ Ultra-Wide Angle ของ realme 6 Pro สามารถถ่ายได้มุมถึง 119 องศา ทำให้เราสามารถเก็บองค์ประกอบที่ขาดหายไปจากเลนส์หลักได้ครบเลยทีเดียว ซึ่งเรื่องสีสันและความคมชัดก็ไม่แพ้เลนส์หลักเลยด้วย
เลนส์ปกติ / เลนส์ Ultra-Wide
เลนส์ปกติ / เลนส์ Ultra-Wide
เลนส์ Ultra-Wide ยังถ่ายคนได้สวยงามเช่นกันครับ ทำให้ขาดูยาวและดูสง่ามากๆ ด้วย แถมยังเห็นบรรยากาศแบบครบๆ
กลางคืนก็สว่างกว่าเดิมด้วย Super NightScape 3.0
ใครที่ชอบเดินสายถ่ายงานตอนกลางคืนจะต้องชอบฟีเจอร์นี้แน่ๆ ครับ เพราะรุ่นนี้ได้อัปเกรดให้ถ่ายโหมดกลางคืนได้สว่างขึ้นและคมชัดกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดเจนมากๆ เมื่อลองเทียบกับการปิดโหมดกลางคืนและใช้โหมดกลางคืนก็จะเห็นถึงความแตกต่างเลย
เปิด Super NightScape 3.0 / ปิด Super NightScape 3.0
เปิด Super NightScape 3.0 / ปิด Super NightScape 3.0
กล้องหน้าถ่ายสวยด้วย AI Beauty
หนึ่งในความพิเศษของกล้องใน realme 6 Pro ก็คือกล้องหน้าครับ โดยเลนส์หลักก็สามารถถ่ายได้คมชัดอยู่แล้ว แถมมี AI Beauty มาให้เพิ่มความสวยงามขึ้นไปอย่างธรรมชาติ ไม่ได้ดูแต่งมากจนเกินงาม
กล้องหน้าก็มีเลนส์ Ultra-Wide
และความพิเศษที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเลนส์ Ultra-Wide ในกล้องหน้าที่ 1 เลนส์ที่ให้ความกว้างมาถึง 105 องศา โดยเราเชื่อว่าใครที่ไปเที่ยวก็อยากเก็บใบหน้าของเราพร้อมกับวิวทิวทัศน์ได้ครบ และเลนส์ก็เข้ามาตอบโจทย์เรื่องนี้ได้แบบตรงใจเลยด้วย
เลนส์ Ultra-Wide / เลนส์หลัก
สรุปจุดเด่น
- realme 6 Pro ให้มาทั้งหมด 6 กล้อง เป็น 4 กล้องหลัง และ 2 กล้องหน้าที่มีเลนส์ Ultra-Wide มาให้ด้วย ถือว่าถ่ายได้สวยงามและเก็บวิวได้ครบ
- หน้าจอแสดงผลคมชัดระดับ Full HD กว้างถึง 6.6 นิ้ว และมี Refresh Rate 90Hz ใช้งานได้แบบลื่นๆ
- หน่วยประมวลผลรุ่นกลางที่เล่นเกมได้ไม่มีสะดุดอย่าง Snapdragon 720G ที่เข้ามาเป็นรุ่นแรกในไทย
- ให้ RAM มาถึง 8GB และ ROM 128GB ทำให้ใช้งานได้ไหลลื่นและเก็บรูปภาพหรือโหลดแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้แบบไม่ต้องกลัวเต็ม
- แบตเตอรี่อึด 4300 mAh และรองรับ VOOC Flash Charge 4.0 กำลังไฟ 30W ชาร์จเต็ม 100% เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ไม่มีหูฟังมาให้ในกล่อง
realme 6 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สี Lightning Blue และ Lightning Red วางจำหน่ายในราคา 10,999 บาท โดยเริ่ม Pre-Order ตั้งแต่วันนี้ ถึง 20 มีนาคม 2563 และจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 มีนาคม 2563