ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก สเปคที่ใช้งานได้ไหลลื่น วันนี้เรามาพร้อมกับ realme C53 สมาร์ทโฟนที่ให้ดีไซน์ระดับแชมเปี้ยน สวยงามเกินราคา และสเปคสุดคุ้ม วันนี้พรีวิวจัดมาให้ครบทั้ง 2 สี และยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจให้ติดตามกันเยอะอีกด้วย
แกะกล่อง realme C53
ตัวกล่องของ realme C53 มาตามสไตล์ของ realme ด้วยเอกลักษณ์ที่เป็นสีเหลืองทั้งกล่อง พร้อมชื่อรุ่น C53 สีดำที่ระบุตรงกลางอย่างชัดเจน
เมื่อเลื่อนเปิดออกมาจะเจอกับกล่องอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้แก่ เข็มเปิดถาดซิม เคสใสสีดำ และคู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ถัดไปจะเป็นตัวเครื่อง realme C53 ที่ยังไม่ได้ติดฟิล์มกันรอยมาให้ครับ
และชั้นล่าสุดจะเป็นอะแดปเตอร์ 33W SUPERVOOC พร้อมกับสาย USB Type-C
ดีไซน์ระดับแชมเปี้ยน
มาเปิดกันด้วยดีไซน์ของ realme C53 ที่ realme ยังคงใช้ดีไซน์ในระดับแชมเปี้ยนเหมือนเดิม ซึ่งเราจัดมาให้ครบถ้วนทั้ง 2 สีที่เป็นตัวเลือกทั้งหมดของรุ่นนี้ครับ
มาลองดูสีทอง Champion Gold จะให้ลักษณะแบบผิวมันแต่ติดรอยนิ้วมือได้ยากพอสมควร มีการเล่นเฉดสีที่มีความแตกต่างมากๆ เป็นเส้นของลวดลายแสงอาทิตย์ ยิ่งเวลาสะท้อนกับแสงอาทิตย์จะดูประกายเจิดจรัสมากๆ
อีกสีจะเป็นสีดำ Mighty Black มีความต่างกับสีทอง Champion Gold คือการที่ใช้เป็นวัสดุฝาหลังผิวด้าน และแอบมีการเล่นกริตเตอร์คล้ายดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ส่องให้เห็นอย่างชัดเจนครับ
และที่ชอบอีกอย่างคือโมดูกล้องที่ทำให้ดูทันสมัย เป็นผิวมันเงาทั้ง 2 สีเพื่อให้ดูตัดกับฝาหลังให้มีมิติมากกว่าเดิม
จอใหญ่ 6.74″ ไหลลื่นระดับ 90Hz
แม้ว่าจะมอง realme C53 เป็นรุ่นเล็ก แต่หน้าจอก็ไม่ธรรมดาด้วยหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่ 6.74 นิ้ว ใช้พาเนลแบบ IPS LCD สีสันมีความสดใสพอตัวเลยครับ โดยความละเอียดจะเป็นแบบ HD+ และใช้งานไหลลื่นที่ Refresh Rate 90Hz แบบปรับได้ตามเนื้อหาบนหน้าจอเพื่อการประหยัดพลังงานครับ
มาต่อกันที่รอบๆ เครื่องกันบ้างครับว่าอะไรอยู่ตำแหน่งไหนกันบ้าง เริ่มด้วยที่ด้านบนหน้าจอจะเป็นกล้องหน้าที่ใช้ดีไซน์แบบหยดน้ำ และมีลำโพงสำหรับกาสรสนทนาที่ซ่อนอยู่ในขอบด้านบนครับ
ทางฝั่งซ้ายตัวเครื่องจะมีช่องใส่ซิมการ์ด NanoSIM แบบ 2 ช่อง + MicroSD Card แยกมาให้อีก 1 ช่อง รวมทั้งหมดเป็น 3 ช่องใส่งานแบบครบๆ
ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงจะอนู่ทางด้านขวาตัวเครื่อง และยังมีปุ่ม Power ที่ฝังระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาไว้ตรงจุดนี้ด้วยครับ
ทางด้านล่างจะยังคงมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.มาให้ ตามด้วยไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก
ท้ายสุดที่ด้านหลังจะมีโมดูลกล้องที่จัดเป็นแบบสามเหลี่ยม โดยด้านบนและล่างจะเป็นเลนส์หลักและเลนส์เสริม โดยมีไฟแฟลช LED อยู่ที่มุมขวาครับ
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
Mini Capsule แสดงข้อมูลได้อย่างมีสไตล์
ฟีเจอร์ Mini Capsule เป็นสิ่งที่เข้ามาในสมาร์ทโฟนrealme โดยเฉพาะซึ่งจะมีการแสดงผลข้อมูลที่สำคัญขึ้นมาในแถบด้านบน เช่น การชาร์จแบตเตอรี่ แบตฯ เหลือน้อย หรือการชาร์จเต็มแล้ว เป็นต้น ทำให้แถบการแจ้งเตือนไม่รกหน้าจอส่วนบนเวลาใช้งาน
จัด Dynamic RAM เพิ่มได้อีก 6GB
RAM พื้นฐานของ realme C53 จะให้มาอยู่ที่ 6GB ซึ่งยังรองรับเทคโนโลยีการเพิ่ม Dynamic RAM สูงสุด 6GB ทำให้มี RAM รวม 12GB ทำให้ใช้งานพื้นหลังหรือการเปิดแอพฯ ต่างได้มากขึ้นกว่าเดิมครับ
กล้องระดับ 50MP ถ่ายคมชัดพร้อมใช้ทุกฟีเจอร์
กล้องหลังของ realme C53 จัดกล้องหลังคมชัดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล ที่แม้ว่าจะมีเลนส์หลักๆ 1 เลนส์ แต่ยังรองรับทั้ง HDR, Portrait และ Night Mode แต่จะถ่ายสวยขนาดไหน เดี๋ยวรีวิวเต็มๆ มีมาให้ชมกันแน่นอนครับ
สรุปสเปค realme C53
- ขนาดตัวเครื่อง : 167.3 x 76.7 x 7.49 มม.
- น้ำหนัก : 182 กรัม
- หน้าจอแสดงผลหลัก IPS LCD ขนาด 6.74 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล), 260PPI รองรับ Refresh Rate 90Hz และความสว่างสูงสุด 560 นิต
- หน่วยประมวลผล : UNISOC T612 Octa Core ความเร็ว 1.82GHz
- RAM : 6GB LPDDR4X
- ROM : 128GB รองรับ MicroSD สูงสุด 2TB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- เลนส์เสริมความละเอียด 0.08 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.0
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย realme UI T Edition
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4/5GHz, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., Bluetooth 5.0 และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC
ขอบอกก่อนว่านี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ realme C53 เท่านั้น เพราะในรุ่นนี้ยังไม่มีอะไรให้เล่นและใช้งานกันอีกมากมายแม้ว่าจะเป็นรุ่นราคาประหยัดครับ ใครที่เริ่มสนใจแล้ว ก็อดใจรอรีวิวฉบับเต็มกันอีกไม่นานแน่นอนครับ