Featured
รีวิว realme C55 แชมป์เปี้ยนใหม่ จัดเต็มด้วยกล้อง AI 64MP | ความจุเยอะ 256GB | ดีไซน์พรีเมี่ยมสายฝนโปรยปราย ในราคาเริ่มต้น 5,999 บาท!
รีวิว realme C55 สมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดจาก C Series ที่รอบนี้อัปเกรดครั้งแรกในซีรีส์ด้วย 4 จุดเด่นใหม่ที่ชูขึ้นมาทั้ง กล้อง 64MP ตัวเดียวในเซกเมนต์, หน่วยความจำขนาดใหญ่ 256GB, ชาร์จไว 33W และดีไซน์สายฝนโปรยปรายอันโดดเด่นและด้วย 4 จุดเด่นที่ว่านี้ realme จึงใช้สโลแกนเท่ ๆ ว่า “A Champion of The Segment” ตามกลยุทธ์ใหม่ที่ดีที่สุด เหนือที่สุดในเซกเมนต์เดียวกัน! สำหรับการใช้งานจริง realme C55 จะตอบโจทย์สมกับสโลแกนแค่ไหน ติดตามได้จากรีวิวนี้เลยครับ
สรุปสเปค realme C55
- ขนาดตัวเครื่อง : 165.65 x 75.98 x 7.89 มม.
- น้ำหนัก : 189.5 กรัม
- หน้าจอ : IPS ขนาด 6.72″ ความละเอียด FHD+
- Refresh rate : 90Hz, Touch Sampling rate 180Hz
- CPU : MediaTek Helio G88 Octa-Core 2.0GHz (12nm)
- RAM : 6GB/8GB
- ROM : 128GB/256GB
- microSD : รองรับสูงสุด 1TB
- แบตเตอรี่ : 5000mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 33W SUPERVOOC
- กล้องหน้า : AI 8MP f/2.0
- กล้องหลัก : 2 ตัว
- กล้องหลัก 64MP f/1.8
- กล้อง B&W 2MP f/2.4
- ระบบปฏิบัติการ : Android 13 (realme UI 4.0)
- สีสัน : Sunshower, Rainy Night
“Champion เรื่องกล้อง” ด้วยกล้อง AI 64MP
เริ่มต้นด้วยเรื่องกล้องกันก่อนเลยดีกว่า realme C55 นั้นเป็นหนึ่งเดียวในเซกเมนต์ที่มาพร้อมกล้องหลัก 64MP และไม่ใช่ความละเอียดที่สูงกว่าเพราะในแง่ของเซ็นเซอร์กล้อง realme C55 ยังเป็นรุ่นแรกในซีรีส์ที่มีขนาดพิกเซลใหญ่ระดับเรือธง 0.7 ไมครอน และขนาดเซ็นเซอร์ 1/2″ เป็นเซ็นเซอร์ตัวเดียวกับ realme GT Master Edition เลยทีเดียว
เมื่อเทียบกับ realme C35 รุ่นก่อน realme C55 มีขนาดเซ็นเซอร์เพิ่มขึ้นถึง 54% ปรับปรุงความคมชัดและความละเอียดเพิ่มขึ้นถึง 53.8% สมแล้วที่ยกให้เป็น Champion เรื่องกล้องจริง ๆ ครับ
พลังของกล้อง AI 64MP พร้อม Chroma Boost เพิ่มสีสันให้ภาพถ่ายจัดจ้านยิ่งขึ้น
ในเรื่องการถ่ายภาพทั่วไป realme C55 มาพร้อมกับระบบ AI Scene ที่ช่วยจัดการปรับโทนสีของฉากเพิ่มเติม มี Auto HDR ที่ช่วยปรับภาพในฉากย้อนแสงได้สวยงามและก็ยังมีฟีเจอร์ Chroma Boost ที่เพิ่มสีสันให้จัดจ้านยิ่งขึ้นไปอีก ใครที่ชอบภาพที่สีสวยพร้อมใช้งานน่าจะถูกใจแน่นอนครับ คุณภาพที่ได้ก็ต้องบอกว่าสวยถูกใจ พลังของกล้อง AI 64MP นี่ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ ครับ
Street Photography ถ่ายภาพสตรีทสนุกยิ่งขึ้น ครั้งแรกของ C Series
นอกจากฮาร์ดแวร์ชั้นยอดแล้ว realme C55 ยังได้นวัตกรรมโหมดถ่ายภาพแบบใหม่เข้ามาช่วยให้เราถ่ายภาพได้สนุกยิ่งขึ้น โหมดแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Street Photography ที่ปกติแล้วเราจะเห็นอยู่บน GT Series ซะมากกว่า รอบนี้เป็นครั้งแรกของ C Series ที่มีให้เลือกใช้งานด้วย ในโหมดนี้เราจะสามารถเลือกระยะของภาพได้ 3 แบบคือ 24 มม./50 มม./120 มม. พร้อมกันนี้ยังมีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้หลากหลาย อาทิ 90s Pop, Street, B&W Plus เพิ่มความหลากหลายในการถ่ายภาพยิ่งขึ้นจริง ๆ ใครที่ชอบภาพแนว Snap จะถูกใจโหมดนี้แน่นอนครับ
Night mode กลางคืนสุดเก่ง อัลกอธิทึมเดียวกับเรือธง
อีกหนึ่งโหมดที่ realme C55 เก่งขึ้นมากก็คือ Night mode เพราะได้ซอฟต์แวร์การถ่ายภาพแบบ Prolight ซึ่งเป็นอัลกอริธึมกลางคืนที่สำคัญแบบเดียวกับที่ใช้ใน realme GT 2 Pro รุ่นท็อปเลยด้วย ทำให้เราสามารถเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมได้มากย่ิงข้ึน ได้ผลลัพธ์ภาพถ่ายกลางคืนที่สวยกำลังดีปรับปรุงความละเอียดได้อย่างมีประสิทธิภาพและปรับความสามารถในการลดไฮไลต์ได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง
Portrait mode ลูกเล่นครบไม่ต่างจากรุ่นใหญ่
ส่วนโหมด Portrait บน realme C55 ก็ยังยกฟีเจอร์เด่นมาจากรุ่นใหญ่เหมือนกัน ทั้ง Bokeh Flare Portrait ที่ช่วยเพิ่มการละลายฉากหลังรวมถึงดวงไฟ Bokeh ได้สวยงามยิ่งขึ้น ใครที่ชอบสายละลายหลังสวย ๆ ต้องไม่พลาดฟิลเตอร์นี้เลย หรือจะเป็นสายโดดเด่นดึงแบบให้เด่นด้วยสีสันและฉากหลังขาว-ดำ ก็มี AI Color Portrait ที่จะดูดสีฉากหลังและให้นางแบบเด่นขึ้นมาอย่างชัดเจนอีกด้วย
กล้องหน้า AI 8MP ฟีเจอร์ครบ Selfie HDR, AI Beauty
ปิดท้ายที่กล้องหน้า realme C55 มาพร้อมกล้องหน้า AI 8MP ความละเอียดเพียงพอสำหรับการเซลฟี่สวย ๆ แถมยังมีฟีเจอร์ AI Beauty เสริมใบหน้าเนียนให้เลือกปรับ, Selfie HDR ที่ช่วยดึงรายละเอียดมาให้ครบแม้เราเซลฟี่แบบย้อนแสง หรือจะเป็นโหมด Portrait ละลายฉากหลังเนียนก็มีให้เลือกครบหมดครับ
โดยรวมแล้วในเรื่องกล้องก็สมกับที่คุยว่าเป็น Champion เรื่องกล้องในเซกเมนต์เดียวกันจริง ๆ ครับ เพราะทั้งฮาร์ดแวร์คุณภาพที่ยกระดับให้ภาพถ่ายนั้นสวยงาม คมชัดยิ่งขึ้น และก็ยังมีฟีเจอร์กับซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ ที่ยกมาจาก GT Series ให้เราใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพของกล้องระดับแชมป์อีกต่างหาก ผลลัพธ์ที่ได้ก็ตรงใจ ไม่แปลกเลยที่จะคุยเรื่องกล้องไว้ขนาดนี้ เพราะรุ่นนี้ถ่ายภาพได้ดีจริง!
Champion หน่วยความจำขนาดใหญ่ 256GB
มาต่อกันที่อีกเรื่องที่ให้มาระดับแชมป์กับหน่วยความจำ realme C55 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกใน C Series ที่มาพร้อมหน่วยความจำ 8GB+256GB ด้วยความจุระดับนี้ช่วยให้เราสามารถเพลิดเพลินไปกับการเก็บภาพได้มากถึง 50,000+ รูปภาพหรือ 50,000+ บทเพลง หรือซีรีส์ภาพยนตร์มากกว่า 860 ตอน หรือดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นได้มากกว่า 860 แอปกันเลยทีเดียว
แต่ถ้า 256GB ในเครื่องยังไม่เพียงพอ realme C55 ก็ยังมีทางเลือกให้เราเพิ่ม microSD เพิ่มเติมได้อีก 1TB ทีนี้จะเก็บรูปเพิ่มอีกเป็น 100,000++ หรือเพลงมากแค่ไหน ก็ตามสบายเลยครับ!
Dynamic RAM สูงสุดถึง 16GB
ในส่วนของ RAM บน realme C55 ก็ให้มามากถึง 8GB แล้ว เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปสบาย ๆ แต่ถ้าต้องการใช้งานหนัก ๆ สลับแอปหลาย ๆ แอป รุ่นนี้ก็ยังมีเทคโนโลยี DRE ขยาย RAM เพิ่มได้อีก 8GB ทำให้รวมแล้วเราสามารถมี Dynamic RAM สูงสุดถึง 16GB กันเลย
ดีไซน์จากสายฝนที่โปรยปราย
มาชมดีไซน์ตัวเครื่องกันแบบเต็ม ๆ ต่อดีกว่าเพราะ realme C55 ก็มาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นเอามาก ๆ เช่นกัน ด้วยฝาหลังที่ได้รับแรงบันดาลใจและองค์ประกอบจากธรรมชาติ อย่างสี Sunshower ที่เราได้มารีวิวนั้น จะเป็นโทนสีทองที่มีการไล่เฉดสีอย่างแพรวพราว พร้อมลวดลายแสงกว่า 500,000 เส้นที่ก่อตัวเป็นเส้นแนวตั้งคล้ายกับสายฝน ให้ความรู้สึกที่พรีเมี่ยมเอามาก ๆ
นอกจากนี้ผิวสัมผัสของฝาหลังก็ยังเป็นแบบผิวด้านที่มอบสัมผัสอย่างดี ไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือเลย ช่วยให้เราหยิบถือได้อย่างสบายใจแม้ไม่ได้ใส่เคส ก็ยังรู้สึกถึงความพรีเมี่ยมที่ได้จากฝาหลังตลอดเวลา
ดีไซน์บางเฉียบที่สุดในเซกเมนต์ ด้วยความบางเพียง 7.89 มม.
realmeให้ความสาคัญกับตัวเครื่องที่บางเฉียบมาโดยตลอด บน realme C55 นั้นก็มาพร้อมความบางเพียง 7.89 มม. โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบกรอบเหลี่ยม ซึ่งเป็นดีไซน์สมัยนิยมที่มักจะเลือกใช้กัน ช่วยให้การจับถือนั้นสะดวกสบายและกระชับมือยิ่งขึ้นไปอีกครับ
จอแสดงผลใหญ่ ด้วยหน้าจอคุณภาพสูง 90Hz FHD+
พลิกกลับมาดูที่ด้านหน้ากันบ้าง realme C55 มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 6.72″ เต็มตาด้วยการใช้พื้นที่มากถึง 91.4% แถมยังเป็นดีไซน์แบบ Punch Hole Display คือมีรูกล้องหน้าด้านบน ไม่มีรอยบากขนาดใหญ่มากวนใจอีกด้วย
ความละเอียดที่ให้มาก็เป็นระดับ FHD+ ช่วยมอบความคมชัดและรายละเอียดได้เป็นอย่างดี เอามาดูคอนเทนต์หรือคลิปวิดีโอต่าง ๆ ก็ทำได้ยอดเยี่ยมในกลุ่มราคานี้ครับ
ในเรื่องการตอบสนอง realme C55 ก็ได้ Refresh rate สูงมาถึง 90Hz มอบประสบการณ์ความลื่นไหลแบบติดนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในรูปแบบไหน
รอบ ๆ ตัวเครื่องออกแบบมาได้ดี
วกกลับมาดูรอบเครื่องอีกครั้ง realme C55 จะวางตำแหน่งปุ่มกดไว้ที่ฝั่งขวามือของตัวเครื่องทั้งหมด มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงและปุ่ม Power ที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านในด้วย เราสามารถแตะสแกนได้อย่างสะดวกแถมรวดเร็วไม่น้อยครับ
ด้านบน-ล่างของตัวเครื่องจะมีการตัดเหลี่ยมเหมือนกัน ที่ด้านบนจะเป็นแบบเรียบ ๆ ไม่พอร์ตหรือรูใด ๆ ส่วนด้านล่างจะมีช่องหูฟัง 3.5 มม., ไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C และลำโพงหลักของตัวเครื่องครับผม
สำหรับลำโพงของ realme C55 ก็จะมาพร้อมลำโพงแบบ UltraBoom ที่เพิ่มความดังขึ้น 200% ช่วยเติมเต็มอรรถรสของคุณได้กลมกล่อมยิ่งกว่าเดิม
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ realme C55 ก็ถือว่าจัดมาในทรงพรีเมี่ยมสุด ๆ ทั้งฝาหลังดีไซน์สายฝนโปรยปราย บอดี้กรอบเหลี่ยมที่บางเฉียบแค่ 7.89 มม. อีกทั้งยังมีหน้าจอขนาดใหญ่ 6.72″ แสดงผลได้เต็มตาไม่น้อยอีก
ซอฟต์แวร์ realme UI 4.0 บน Android 13
สำหรับซอฟต์แวร์ realme C55 ใช้ realme UI 4.0 ที่ครอบทับบน Android 13 ตัวล่าสุด มอบความลื่นไหลได้เป็นอย่างดี รวมถึงรูปแบบการปรับแต่งที่หลากหลายตามสไตล์ของแบรนด์นี้ครับ
ครั้งแรกกับ realme “Mini Capsule”
แต่ทีเด็ดรอบนี้ไม่เหมือนครั้งไหน ๆ เพราะ realme สร้างความประหลาดใจให้กับ realme C55 ด้วยฟีเจอร์ Mini Capsule รูปแบบการแสดงผลใหม่ที่จะปรับให้เข้ากับจอแสดงผลอย่างชาญฉลาดเวลาเราชาร์จแบตฯและการแจ้งเตือนบางอย่าง
ซึ่งตอนนี้ฟีเจอร์นี้จะใช้ได้กับ 3 ฟังก์ชั่นหลัก ๆ ดังนี้ครับ
- 1. สถานะแบตเตอรี่ แบตเตอรี่เต็ม 100% – แสงไดนามิกจะเป็นสีเขียว, ขณะชาร์จแบต – แสงไดนามิกจะเป็นสีน้าเงิน, แบตเตอรี่ต่ำ – ไฟไดนามิกเป็นสีแดงเมื่อแบตเตอรรี่เหลือเพียง 5%
- 2. การใช้ข้อมูล ไฟไดนามิกจะเป็นสีส้มเมื่อเราใช้ข้อมูลถึง 90% ของขีดจากัดการใช้ข้อมูลรายวัน (สามารถใช้ค่าจำกัดข้อมูลตามการใช้งานและใช้ฟังก์ชันแจ้งเตือนข้อมูลหลังจากตั้งค่าเท่านั้น)
- 3. จำนวนก้าว ในเวลาที่กาหนด (ช่วง 21:00 น.) ของทุกวัน บริเวณไดนามิกจะแสดงการแจ้งเตือน จำนวนก้าวและระยะทางที่เดินในวันนั้น ๆ
ตั้งค่าฟีเจอร์นี้เพิ่มเติมได้ที่ Settings > realme Lab > Mini Capsule > Battery status, Data usage, Steps stats
สเปค MediaTek Helio G88
เข้าเรื่องประสิทธิภาพ realme C55 มาพร้อมชิปเซ็ตเกมมิ่ง MediaTek Helio G88 ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิต 12nm แบบ Octa-core ความเร็ว 2.0GHz และ GPU Mali-G52 มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปจนถึงการเล่นเกมระดับกลางได้สบาย ๆ ครับชิปตัวนี้
เพื่อให้เห็นประสิทธิภาพคร่าว ๆ เราเลยลองทดสอบผ่านแอป AnTuTu Benchmark เอาคะแนนมาฝากสักหน่อย realme C55 พร้อมชิป MediaTek Helio G88 ได้คะแนนไปสูงถึง 258934 คะแนนเลยทีเดียวครับ
ส่วนฝั่ง Geekbench 6 ก็ได้ Single-Core ไปที่ 421 คะแนนและ Multi-Core ที่ 1413 คะแนนครับ
ลองเล่นเกมกันหน่อยดีกว่า
ต่อมาก็เป็นคิวการลงสนามจริงด้วยการเล่นเกมกันสักหน่อย เกมที่เราจะใช้ทดสอบ realme C55 จะมี 2 เกมฮิตอย่าง Asphalt 9 และ PUBG Mobile ครับ
เล่น Asphalt 9 บน realme C55
เริ่มที่ Asphalt 9 กันก่อน บน realme C55 เราสามารถปรับระดับกราฟิกไปได้ที่ High Quality ภาพกราฟิกก็สวยงามใช้ได้ ยิ่งได้หน้าจอใหญ่เต็มตาของรุ่นนี้ก็ยิ่งถูกใจเข้าไปใหญ่ครับ ตัวเกมเล่นได้อย่างลื่นไหลดีเลยด้วย
เล่น PUBG บน realme C55
ต่อมาเป็น PUBG เราสามารถเลือกระดับกราฟิกได้สูงสุด HD คู่กับเฟรมเรต High เพียงพอต่อการเล่นได้สนุกสะใจแล้วครับ ตัวเฟรมเรตก็ทำได้นิ่งมาก ๆ เล่นได้แบบไม่เสียอารมณ์ การควบคุมก็ตอบสนองได้ไวบนหน้าจอขนาดใหญ่ครับ
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh
realme C55 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh เทียบกับสเปคที่ให้มาแล้วต้องบอกเลยว่าใช้งานได้ยาวนานมาก เล่นได้แบบเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลจริง ๆ ครับ ใช้คุยโทรศัพท์ได้นานถึง 27.8 ชั่วโมงหรือถ้าไม่ได้ใช้งานมากมายอะไร realme ยังเคลมว่าสามารถสแตนด์บายได้นานถึง 27 วันกันเลย
ชาร์จไว 33W SUPERVOOC
ส่วนเรื่องชาร์จไม่ต้องเป็นห่วง realme C55 มาพร้อมระบบชาร์จไว 33W SUPERVOOC ที่ชาร์จแบตฯขึ้นมา 50% ได้ในเวลาแค่ 29 นาที หรือถ้าชาร์จจาก 0% จนเต็มเลยก็ใช้เวลาแค่ 63 นาทีเท่านั้น ถ้าเทียบกับ C35 รุ่นก่อนที่มีชาร์จไวแค่ 18W ก็ถือว่าเร็วขึ้นถึง 100% เลยล่ะครับ!
ในเรื่องความปลอดภัยระบบชาร์จไว 33W SUPERVOOC ของ realme C55 ก็ยังมี Charge protection ระบบป้องกันอัจฉริยะ 5 แกน ได้แก่
- การป้องกันการชาร์จเกิน
- การป้องกันแรงดันไฟเกิน
- การป้องกันกระแสไฟเกิน
- การป้องกันอุณหภูมิเกิน
- การป้องกันในกรณีเกิดปัญาหาการชาร์จที่รุนแรง
มั่นใจได้ว่าชาร์จเร็วขนาดนี้ก็ยังปลอดภัยแน่นอนครับ
ราคา realme C55
สรุปราคากันสักหน่อย realme C55 จะมีให้เลือก 2 ความจุคือ 6GB + 128GB และ 8GB + 256GB กับ 2 สีคือสีทอง Sunshower และสีดำ Rainy Night มีราคาดังนี้
- รุ่น 6GB + 128GB ราคา 5,999 บาท
- รุ่น 8GB + 256GB ราคา 7,299 บาท
มีโปรโมชั่นสำหรับผู้ที่สั่งซื้อวันที่ 31 มี.ค. – 30 เม.ย. 66 รับฟรี! realme Gift Box มูลค่า 1,199 บาท ผ่าน realme Brand Shop, ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
และราคาพิเศษเมื่อสั่งซื้อผ่านโอเปอเรเตอร์ AIS, TRUE, DTAC เริ่มต้นเพียง 2,299 บาท (เฉพาะรุ่น 6+128GB)
สรุปแล้ว “นี่คือสมาร์ทโฟนแชมเปี้ยนส์ที่ให้มาครบที่สุดในเซกเมนต์”
สรุปแล้ว realme C55 ก็ถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนน้องใหม่จาก C Series ที่ออกมาตอบโจทย์ใครที่ต้องการความคุ้มค่าในแบบที่ยกระดับมาครบจบ 4 จุดเด่นหลักที่เน้นมาก็ช่วยให้เราได้ใช้งานจริงแบบน่าประทับใจ ทั้ง กล้องระดับแชมป์เปี้ยนส์ AI 64MP, หน่วยความจำขนาดใหญ่ 256GB, ชาร์จไว 33W และดีไซน์สายฝนโปรยปรายอันโดดเด่น นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นใหม่อย่าง Mini Capsule มาเสริมความน่าสนใจขึ้นอีกหน่อยด้วย ใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนคุ้ม ๆ ในงบนี้อยู่ เราว่ารุ่นนี้ก็สมกับความเป็น The Champion แล้วจริง ๆ ไม่ผิดหวังครับ!