Android News
แกะกล่องพรีวิว realme C63 สมาร์ตโฟนฝาหลังหนังวีแกนสุดงาม พร้อมชาร์จไว 45W!
realme C63 น้องใหม่อีกรุ่นจาก realme C-Series เตรียมเปิดตัวทางการในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ รอบนี้ยังคงมาพร้อมจุดเด่นเรื่องความคุ้มค่า ดีไซน์ที่เหนือชั้น และระบบชาร์จไวที่ไวกว่าสมาร์ตโฟนในกลุ่มเดียวกันอีกเช่นเคย และใกล้เปิดตัวแบบนี้ ทีมงาน iphone-droid.net ที่มีเครื่องอยู่ในมือแบบนี้ก็ไม่พลาดแกะกล่องพรีวิวให้ชมกันเหมือนเคย เครื่องจริงจะสวยแค่ไหนและสเปคคร่าว ๆ น่าสนใจแค่ไหน ติดตามได้จากรีวิวนี้เลยครับ!
แกะกล่อง realme C63
ก่อนอื่นเรามาดูแพ็กเกจและเช็กอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องกันก่อนเลยดีกว่าเนาะ ที่ตัวกล่องของ realme C63 จะใช้สีเหลืองที่เป็นสีของแบรนด์และมีชื่อรุ่นเด่น ๆ อยู่ตรงกลางเหมือนเดิมครับ
ที่ด้านหลังกล่องจะมีไฮไลท์ของรุ่นนี้ 4 อย่าง ประกอบด้วย
- ชาร์จไว 45W พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh
- ตัวเครื่องดีไซน์สุดบาง 7.74 มม.
- หน้าจอ Eye Comfort 90Hz
- ชิปเซ็ตทรงพลังแบบ Octa-Core
กล่องจะเป็นแบบ 2 ชั้น เลื่อนกล่องออกมาเราจะเจอกับกล่องสีเหลืองพร้อมสโลแกนใหม่ของแบรนด์ realme “Make it real” ที่ระบุไว้ชัดเจน ภายในกล่องนี้จะมีเข็มจิ้มถาดซิม, เอกสารคู่มือ และเคสซิลิโคนใสครับ
ถัดลงไปก็จะเจอกับตัวเครื่องที่อยู่ในซองเหมือนเดิม เดี๋ยวไว้เรามาดูกันชัด ๆ อีกทีว่าดีไซน์เด่นที่ว่านั้นจะสวยแค่ไหน แต่แอบบอกก่อนเลยว่ารุ่นที่เราได้มานั้นเป็นสี Leather Blue ที่มีฝาหลังด้วยนะ
อุปกรณ์เสริมอีกชุดที่อยู่ล่างสุดจะมีสายชาร์จแบบ USB-C to USB-A และอะแดปเตอร์ชาร์จไว 45W Fast Charge ครับ
เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ในกล่องของ realme C63 ก็จะมีทั้งหมด 6 อย่างประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง realme C63
- เคสซิลิโคน
- สายชาร์จ USB-C to USB-A
- อะแดปเตอร์ 45W Fast Charge
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เอกสารคู่มือ
ดีไซน์ realme C63
เอาล่ะ! มาชมตัวเครื่องจริง ๆ ของ realme C63 ตามที่สัญญากันไว้ครับ สีที่เราได้มาเป็นสี Leather Blue หรือสีน้ำเงิน ซึ่งจะมีฝาหลังวัสดุหนังวีแกนที่ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมเกินราคาเอามาก ๆ เพราะส่วนใหญ่เรามักจะเห็นฝาหลังแบบนี้บนรุ่นใหญ่ที่ราคาหมื่นอัพ แต่นี่ C-Series ราคาประหยัดก็ให้มาแบบนี้ ยอมใจ realme จริง ๆ
ซึ่งสีน้ำเงินบนหนังวีแกนนี้ก็ยังเป็นโทนที่ให้ความจริงจังและทางการดีไม่น้อยเลยล่ะครับ และพอสีเข้มแบบนี้มาอยู่รวมกับองค์ประกอบอื่น ๆ อย่างฐานโมดูลกล้องและกรอบเครื่องที่เป็นสีฟ้าอโนไดซ์กลมกลืนกับสีหนังธรรมดาช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับฝาหลังมากขึ้นไปอีก ว่าไหมล่ะครับ
นอกจากเรื่องความสวยงามแล้ว การที่ realme เลือกใช้วัสดุแบบหนังวีแกนก็ช่วยให้การจับถือนั้นดีเยี่ยม เพราะเพิ่มการยึดเกาะเวลาถือไว้บนมือ ไม่ลื่นหลุดมือได้ง่าย เรียกว่าสวยทั้งตอนมองและยังดีงามเมื่อยามสัมผัสอีกต่างหาก
ความบางก็เป็นอีกส่วนที่ realme C63 ทำได้ยอดเยี่ยมครับ เพราะรุ่นนี้บางเพียง 7.74 มม. ซึ่งถ้าเทียบกับคู่แข่งกลุ่มเดียวกันแล้ว C63 จะบางกว่าความหนาเฉลี่ยถึง 5% เลยล่ะครับ
พลิกกลับมาดูที่ด้านหน้ากันบ้าง realme C63 นั้นมาพร้อมหน้าจอรอยบากทรงหยดน้ำ ขนาด 6.74″ แบบ 90Hz ถือว่าใหญ่เต็มตาเลยล่ะ ตัวรอยบากด้านบนถ้าพูดตรง ๆ อาจจะไม่ได้ทันสมัยเหมือนจอเจาะรู แต่ด้วยขนาดจอที่ใหญ่ ในการใช้งานจริง ก็ไม่ได้กวนใจอะไรครับ
ในเรื่องการแสดงผลก็ทำได้ดีด้วยความละเอียดระดับ HD+ ดูวิดีโอหรืออ่านตัวหนังสือกำลังพอเหมาะ แต่ไม่ถึงขั้นคมเป๊ะ มีตัวหนังสือหยาบไปบ้าง ถ้าเพ่งกันจริง ๆ แต่จุดเด่นของรุ่นนี้จริง ๆ คือเรื่องความสว่างหน้าจอที่เร่งได้สูงสุด 560nits และถ้าหรี่สุดก็เหลือแค่ 1nits ได้เลยด้วย แถมรุ่นนี้ยังมีเซ็นเซอร์วัดแสงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตรงนี้ realme เลยให้ชื่อเรียกว่า Eye Comfort Display เลยครับ ถนอมสายตาได้ดีมาก
รอบ ๆ ตัวเครื่องก็วางตำแหน่งไว้คล้ายกับรุ่นก่อน ๆ ของ realme C Series ครับ มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงและปุ่ม Power อยู่ที่ฝั่งขวาของตัวเครื่อง ตำแหน่งกดได้ง่ายที่ปุ่ม Power จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือให้ใช้งานด้วย
ด้านล่างของตัวเครื่องก็จะมีช่องหูฟัง 3.5 มม., ไมโครโฟนสนทนา, พอร์ตการเชื่อมต่อ USB-C และลำโพงหลักตัวเครื่องครับ
ส่วนช่องใส่ซิมจะอยู่ที่ฝั่งซ้ายของตัวเครื่อง ตัวถาดซิมเป็นแบบ Triple-Slot เลย หมายความว่าเราสามารถใส่ 2 ซิมพร้อมกับ microSD ได้แบบที่ไม่ต้องสละช่องใดช่องหนึ่งครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ realme C63 ก็ให้มาแบบพรีเมี่ยมมาก ๆ ทั้งรูปลักษณ์ที่มองแว้บแรกก็แอบคิดว่าเป็นรุ่นราคาหมื่นอัพแน่นอน กับความรู้สึกเวลาสัมผัสก็ยังได้ความหรูหราแบบนั้นอยู่จริง ๆ สีสันที่เลือกใช้ก็ให้ความจริงจังมากขึ้น แต่ก็ยังเป็นโทนที่เหมาะได้กับทุกวัยเหมือนเดิม ต้องขอชม realme เลยที่ทำมือถือราคาหลักพันได้สวยขนาดนี้ครับ
สเปค realme C63
สำหรับสเปค realme C63 จะได้ชิปเซ็ต UNISOC T612 สำหรับการเล่นเกมที่ทรงพลังในกลุ่มราคาเบา ๆ แบบนี้ ทำงานร่วมกับฟีเจอร์ AI Boost ที่จะมาจัดการของเครื่องอย่างชาญฉลาด
ส่วนความจุ realme C63 ก็ได้ RAM มา 8GB ที่สามารถทำ Dynamic RAM ได้อีก 8GB รวมเป็น 16GB ทำให้ตัวเครื่องนั้นทำงานได้อย่างราบรื่น และความจุภายในก็ให้มา 128GB เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแล้ว หรือถ้าไม่พอจริง ๆ รุ่นนี้ยังสามารถเพิ่ม MicroSD ได้สูงสุดอีกนะ
แบตเตอรี่ก็จัดเต็มมาเลยด้วยความจุ 5000mAh พร้อมระบบชาร์จไวสูงถึง 45W Fast Charge ที่รวดเร็วและปลอดภัย แค่ 30 นาทีก็ชาร์จแบตฯใหญ่ ๆ ระดับ 5000mAh ได้ 50% แล้วครับ หรือถ้ารีบ ๆ ติดสายต้องใช้งานต่อ realme C63 ก็เคลมว่าชาร์จแค่ 1 นาที ก็สามารถคุยโทรศัพท์ต่อได้อีก 1 ชม.กันเลยครับ!
ซอฟต์แวร์ realme C63
ในเรื่องซอฟต์แวร์ก็ได้ realme C63 ได้ realme UI ที่ครอบทับบน Android 14 มาเลย ได้ความสามารถใหม่ ๆ เข้ามาเพียบ ทั้ง Mini Capsule 2.0, Air Gestures โบกมือเพื่อสั่งการต่าง ๆ, Dynamic Button สั่งงานที่ปุ่ม Power ได้หลากหลาย เป็นต้น
กล้อง realme C63
ปิดท้ายที่เรื่องกล้อง realme C63 นั้นได้กล้องหลัก AI ความละเอียด 50MP f/1.8 ที่ช่วยให้เก็บภาพคมชัด มีลูกเล่นในการถ่ายภาพอย่าง Portrait หรือ Night มาเพิ่มความน่าสนใจในการถ่ายภาพอีกด้วย
ส่วนกล้องหน้าก็ให้มา 8MP มีพลังประมวลผลของ AI และโหมด Beauty มาให้ใช้งานเหมือนกับรุ่นก่อน ๆ ครับผม
สรุปสเปค realme C63
- หน้าจอ : LCD ขนาด 6.74″
- ความละเอียด : HD+ (1600×720 พิกเซล), ความสว่างสูงสุด 560nits
- Refresh rate : 90Hz, Touch Sampling rate 180Hz
- ชิปเซ็ต : UNISOC T612 Octa-Core 1.8GHz (12nm)
- RAM : 8GB (LPDDR4X)
- Storage : 128GB/256GB (รองรับ microSD สูงสุด 2TB)
- แบตเตอรี่ : 5000mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 45W Fast Charge
- กล้องหน้า : 8MP f/2.0
- กล้องหลัง : 50MP กล้องหลัก f/1.8
- ระบบปฏิบัติการ : Android 14 (realme UI 5.0)
- สีสัน : Leather Blue, Jade Green
ทั้งหมดนี้ก็เป็นพรีวิวแกะกล่องของ realme C63 เพื่อให้ได้เห็นหน้าค่าตาของน้องใหม่สุดพรีเมี่ยมกันซะก่อน ส่วนของจริง การใช้งานไหวแค่ไหน ใช้เล่นเกมเป็นยังไง ผลทดสอบได้กี่แต้ม หรือกล้องถ่ายออกมาสวยไหม อันนี้เราขอติดไว้ตอบตอนรีวิวฉบับเต็มอีกทีละกันเนาะ สำหรับวันนี้ลาไปก่อน ไว้พบกันบทความหน้าครับ
มีมือถือเครื่องใหม่แล้ว อย่าลืมนำมือถือเครื่องเก่ามาทิ้งให้ถูกที่เพื่อโลกที่ดีกว่าไปด้วยกันนะครับ
AIS ชวนทุกคนมาฝากทิ้ง E-Waste หรือมือถือเก่า ที่ AIS Shop และจุดรับทิ้งกว่า 2,500 จุดทั่วประเทศ เช็กจุดรับทิ้งได้ที่ https://sustainability.ais.co.th/th/sustainability-projects/ais-ewaste/collection-channels