รีวิว realme C65 สมาร์ตโฟนน้องเล็กจาก realme ที่รอบนี้มาพร้อมตำแหน่ง Essential Plus ของ C Series ที่สื่อถึงคุณภาพและความสนุกสนาน ทั้งดีไซน์ที่บางเฉียบเพียง 7.64 มม., ประสิทธิภาพทรงพลังด้วยชิป Helio G85, ระบบชาร์จไว 45W Fast Charge, Dynamic RAM สูงสุด 16GB, ฟีเจอร์ Air Gestures หรือจะเป็นการรับประกันความทนทานนาน 48 เดือนจาก TÜV SÜD ทำให้รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในราคาเบา ๆ ที่เราว่าไม่ควรมองข้ามจริง ๆ ครับ
และหลังจากลองใช้งานจริงมากกว่า 1 สัปดาห์ การใช้งานจริงจะถูกใจเราแค่ไหน วันนี้เรา รีวิว realme C65 ให้ชมแบบเต็ม ๆ ติดตามได้เลยครับ!
สรุปสเปค realme C65
- ขนาดตัวเครื่อง : 165.7 x 76.1 x 7.64 มม.
- น้ำหนัก : 185 กรัม
- หน้าจอ : LCD ขนาด 6.67″
- ความละเอียด : HD+ (1604×720 พิกเซล), ความสว่างสูงสุด 650nits
- Refresh rate : 90Hz, Touch Sampling rate 180Hz
- ชิปเซ็ต : MediaTek Helio G85 Octa-Core 2.0GHz (12nm)
- RAM : 8GB (LPDDR4X)
- Storage : 256GB (รองรับ microSD สูงสุด 2TB)
- แบตเตอรี่ : 5000mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 45W Fast Charge
- กล้องหน้า : 8MP f/2.05
- กล้องหลัง : 50MP กล้องหลัก f/1.8 + Flicker
- ระบบปฏิบัติการ : Android 14 (realme UI 5.0)
- สีสัน : Starlight Purple, Starlight Black
ดีไซน์บางเฉียบ 7.64 มม.
เริ่มกันที่เรื่องดีไซน์เหมือนทุกทีครับ realme C65 นั้นโดดเด่นอย่างชัดเจนด้วยตัวเครื่องที่บางเฉียบ ด้วยความบางเพียง 7.64 มม. เหนือกว่าคู่แข่งอย่างมากในแง่ของความสบายและการยึดเกาะที่ง่ายดาย เพราะด้วยกรอบเครื่องทรงเหลี่ยม แม้ตัวเลขจะบางจนน่าเหลือเชื่อ แต่ก็ยังช่วยให้เราจับถือใช้งานได้แบบพอดิบพอดี ไม่รู้สึกว่าบางเกินจนจับถือยากเลยครับ
แต่ความบางระดับนี้ยังไม่น่าทึ่งเท่ากับว่าตัวเครื่องนั้นให้แบตเตอรี่มามากถึง 5000mAh ด้วยเทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเรียงส่วนประกอบภายในอย่างครอบคลุม ทำให้แม้แบตฯจะใหญ่ระดับเรือธง แต่ก็จัดสรรให้อยู่ในเครื่องที่บางได้อย่างลงตัวเลย
ซึ่งความบางเพียง 7.64 มม.นี้เป็นความบางที่บางกว่าความหนาเฉลี่ยของสมาร์ตโฟนในช่วงราคาเดียวกันถึง 7% เลยทีเดียว ไม่แปลกเลยที่ realme C65 ชูจุดเด่นเรื่องความบางมาเป็นเรื่องแรกแบบนี้ครับ!
ฝาหลังดีไซน์แรงบันดาลใจจากแสงดาวที่ส่องประกาย
แต่ความบางไม่ใช่จุดเด่นเดียวของเรื่อง Design Plus จาก realme C65 เพราะรุ่นนี้มาพร้อมฝาหลังที่โดดเด่นได้แรงบันดาลใจจากแสงดาวที่ส่องประกาย ด้วยเทคนิคการออกแบบพื้นผิวแบบคู่ ที่ใช้ต้นทุนในการพัฒนาพื้นผิวด้วยการถ่ายภาพด้วยแสงสูงกว่าพื้นผิวเดี่ยวถึง 3 เท่า จึงทำให้ได้เอฟเฟกต์ซ้อนทับที่ถูกปรับแต่งและแก้ไขมากกว่า 10,000 ครั้ง เพื่อให้ได้เอฟเฟกต์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด และได้เอฟเฟกต์ดวงดาวส่องประกายอย่างสมจริง
อย่างในสี Starlight Purple ที่เราได้มารีวิวจะเห็นว่ามีลวดลายแสงดาวพาดผ่านอยู่ทั่วฝาหลังบนสีม่วงแบบพาสเทลที่ให้ความเงางามทุกครั้งเวลากระทบกับแสงครับ มอบมิติและความสดใหม่ทุกครั้งเมื่อมองเห็น สวยแบบมองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อเลยล่ะ
ดีไซน์กล้องระดับเรือธง
ยัง…ยังไม่หมดแค่ฝาหลัง เพราะโมดูลกล้องของ realme C65 ยัง Design Plus ได้อีกด้วยการออกแบบเลนส์กล้องระดับเรือธง ด้วยการวงแหวนกล้อง 3 วงเรียงกันลงมาในแนวตั้ง อยู่บนฐานกล้องที่ผสมผสานการวางสีและองค์ประกอบที่สมมาตรเข้าด้วยกัน นำเสนอความสวยงามที่ประณีตอย่างแท้จริง
หน้าจอถนอมสายตา สว่างสูงสุด 625nits
มาดูที่หน้าจอกันบ้าง realme C65 จะมาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 6.67″ แบบ Punch Hole ความละเอียด HD+ (1604×720 พิกเซล) เอามาดูคอนเทนต์ทั่ว ๆ ไปใช้ได้เลยครับ รองรับความสว่างสูงสุด 625nits ยังมองเห็นได้แม้อยู่กลางแสงแดด หรือถ้าอยู่ในที่มืดมาก ๆ ก็สามารถลดความสว่างได้เหลือแค่ 1nits เท่านั้นด้วย
แถมสายที่ชอบดูคอนเทนต์เป็นเวลานาน หน้าจอของ realme C65 ยังเป็นมิตรต่อสายตา เพราะได้รับการรับรองจาก TÜV Low Blue Light ซึ่งรับประกันการตัดแสงสีฟ้าได้เป็นอย่างดี ปกป้องสุขภาพของดวงตาได้ตลอดเวลาอีกด้วย
จอลื่นไหล 90Hz พร้อม ฟีเจอร์ Rainwater Smart Touch
ในเรื่องการตอบสนองก็ได้ Refresh rate 90Hz มาเลย ช่วยให้เราเลื่อนหน้าจอไป-มา เบราว์เว็บไซต์ ไถฟีดบนโซเชี่ยลมีเดียได้ดี ไม่ติดขัด ช่วยให้การเคลื่อนไหวต่าง ๆ ดูราบรื่นขึ้นครับ
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Rainwater Smart Touch ที่เป็นการผสมผสานอัลกอริธึมกันน้ำและความสามารถในการประมวลผลของ IC แบบสัมผัส ทำให้หน้าจอยังคงสามารถใช้งานได้ตามปกติ แม้จะถูกหยดน้ำหรือเมื่อมือเปียกก็ตาม ดูเหมือนเป็นฟีเจอร์ที่ไม่สำคัญ แต่ถ้าจังหวะต้องใช้จริงแล้วนิ้วเปียกแล้วยังกดติดจะรู้สึกดีมาก ๆ นะบอกเลย
ตำแหน่งปุ่มกดมาตรฐานใช้งานได้ดี
รอบ ๆ ตัวเครื่องก็วางตำแหน่งไว้คล้ายกับรุ่นก่อน ๆ ของ realme C Series ครับ มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงและปุ่ม Power อยู่ที่ฝั่งขวาของตัวเครื่อง ตำแหน่งกดได้ง่ายที่ปุ่ม Power จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือให้ใช้งานด้วย ซึ่งรอบนี้ realme ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่บนปุ่มนี้เรียกว่า Dynamic Button ด้วย ส่วนจะใช้งานยังไงขออุบไว้เฉลยในหัวข้อฟีเจอร์การใช้งานละกันเนาะ
ส่วนด้านซ้ายมือจะมีช่องใส่ซิม ตัวถาดซิมเป็นแบบ Triple-Slot เลย หมายความว่าเราสามารถใส่ 2 ซิมพร้อมกับ microSD ได้แบบที่ไม่ต้องสละช่องใดช่องหนึ่งครับ
ด้านล่างของตัวเครื่องก็จะมีช่องหูฟัง 3.5 มม., ไมโครโฟนสนทนา, พอร์ตการเชื่อมต่อ USB-C และลำโพงหลักตัวเครื่องครับ
ลำโพง Ultra-linear พร้อม UltraBoom 200%
ไหน ๆ ก็พูดถึงลำโพงแล้ว ขอแวะมานำเสนอพลังเสียงของ realme C65 หน่อยละกันเนาะ รุ่นนี้มาพร้อมลำโพง Ultra-linear ที่มีฟีเจอร์ UltraBoom ช่วยเร่งเสียงให้ดังขึ้นเป็น 200% และประสิทธิภาพความถี่ต่ำที่แข็งแกร่งขึ้น ทำให้การเล่นเพลงและการรับชมวิดีโอน่าดื่มด่ำยิ่งขึ้นนั่นเองครับ
กันน้ำ IP54 ป้องกันให้มั่นใจ
realme C65 มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำระดับ IP54 ที่ป้องกันของเหลวระดับกระเด็นและป้องกันจากละอองฝุ่น ช่วยให้รับมือกับช่วงเวลาที่ไม่คาดคิดของชีวิตได้อย่างมั่นใจ แถมตัวหน้าจอยังมีฟีเจอร์ Rainwater Smart Touch อย่างที่บอกไปด้วย ไม่ต้องห่วงเรื่องการใช้งานต่อเนื่องเลย
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ realme C65 ก็ถือว่าพิถีพิถันอยู่ไม่น้อยเลย ทั้งดีไซน์ฝาหลังแสงประกายสวย ๆ พร้อมความบางเฉียบแค่ 7.64 มม. ยังมีเรื่องหน้าจอลื่น ๆ 90Hz พร้อมความสามารถและความทนทานที่มั่นใจได้หายห่วงอีกด้วย เรียกว่านอกจากภายนอกจะสวยและภายในยังแข็งแกร่งอีกต่างหากครับ!
ประสิทธิภาพอันลื่นไหลจากสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น
สำหรับสเปคภายใน realme C65 จะมาพร้อมชิปเซ็ต MediaTek Helio G85 แบบ Octa-Core ความเร็วสูงสุด 2.0GHz ช่วยประมวลผลการทำงานทั่วไปได้อย่างราบรื่น มอบประสบการณ์ที่ลื่นไหลเพียงพอต่อการใช้งานทั่ว ๆ ไปแล้วล่ะครับ
นอกจากนี้ realme C65 ยังมาพร้อม Dynamic RAM สูงสุด 16GB ด้วยเทคโนโลยีการขยายหน่วยความจำขั้นสูงของ realme ทำให้สามารถแปลง ROM ขนาด 8GB ให้เป็นหน่วยความจำเสมือนได้ เพิ่มความสามารถของแอปพลิเคชันเบื้องหลังให้คงความ active และมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นใกล้เคียงกับ RAM ขนาด 16GB แบบ native เลยล่ะ
โหมด AI Boost ประเมินความเร่งด่วนของงานผ่าน AI อย่างชาญฉลาด
ยุคนี้แล้ว ฮาร์ดแวร์อย่างเดียวคงไม่พอ realme C65 เลยเพิ่มโหมด AI Boost เข้ามาช่วยจัดสรรทรัพยากรและประสิทธิภาพการเปิดแอพลิเคชั่นตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อให้การสนับสนุนที่เพียงพอสำหรับแอพลิเคชัน/เกมส่วนหน้า ด้วย AI Boost ทำให้สามารถเปิดแอพลิเคชั่นได้เร็วขึ้น 5% และความราบรื่นในการเลื่อนแอพลิเคชั่น TOP10 ดีขึ้น 5% ในสถานการณ์การเล่นเกม Latency สามารถลดลง 5% และความเสถียรของอัตราเฟรมสามารถปรับปรุงได้ถึง 10% เลยด้วย
การรับรองคุณภาพยาวนาน 48 เดือนจาก TÜV SÜD
ด้วยประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์อันทรงพลังและการเพิ่มประสิทธิภาพซอฟต์แวร์ที่ครอบคลุม ทำให้ realme C65 ได้รับการรับรอง TÜV SÜD Fluency เป็นเวลา 48 เดือน ซึ่งรับประกันความราบรื่นที่ยั่งยืนตลอดการใช้งาน 4 ปี เปลี่ยนภาพจำว่า สมาร์ตโฟนระดับมักอืดเมื่อใช้งานไปนาน ๆ ได้เลย เพราะเขาการันตีให้ตั้ง 48 เดือนแล้วแหนะ
แล้วคะแนนทดสอบเป็นยังไงบ้าง ?
สำหรับผลทดสอบของ realme C65 ก็ถือว่าไม่ธรรมดาในกลุ่มสมาร์ตโฟนเริ่มต้น ได้คะแนนจาก AnTuTu Benchmark v10 ไปที่ 279571 คะแนน
ส่วนคะแนนของแอป Geekbench 6 ก็จะได้ Single-Core ที่ 432 คะแนนและ Multi-Core ที่ 1380 คะแนนครับ
เล่นเกมได้ ขุมพลังรหัส G
ส่วนเรื่องการเล่นเกม ชิปเซ็ตที่ realme C65 ใช้ก็ถือว่าถูกออกแบบมาสำหรับเล่นเกมอยู่แล้วกับชิป Helio G85 ซึ่งเกมที่เราจะใช้ทดสอบรอบนี้ก็เป็น 2 เกมใหญ่ Asphalt 9 และ PUBG Mobile ครับและผลออกมาดังนี้เลย
เล่น Asphalt 9 บน realme C65
เริ่มที่เกมแข่งรถภาพสวยอย่าง Asphalt 9 ตัวเกมให้เราปรับตั้งค่าได้สูงสุดเลยทั้งเฟรมเรต 60fps และคุณภาพกราฟิกแบบ High Quality แต่เท่าที่เราลองเล่นจริงก็พบว่ามีจังหวะเฟรมดรอปบ้างในบางจังหวะ แต่ถ้าปรับกราฟิกไว้ที่ Default จะเล่นได้อย่างราบรื่นกว่ามาก ระดับ 45fps – 60fps ได้เลยล่ะครับ
เล่น PUBG Mobile บน realme C65
ส่วนเกมยิงอย่าง PUBG Mobile เราสามารถปรับระดับกราฟิกและเฟรมเรตได้สูงสุดที่ HDR+High ถือว่าเพียงพอต่อการเล่นแล้วล่ะครับ ซึ่งที่เราวัดได้ตัวเกมก็เล่นได้ลื่น ๆ ในเฟรมเรต 30fps เลยครับ ภาพกราฟิกก็สวยพอ เล่นได้อย่างลื่นไหลบนหน้าจอใหญ่จัดเต็มดีครับ
แบตเตอรี่ 5000mAh ทนทานมาก
เรื่องแบตเตอรี่ realme C65 ให้แบตเตอรี่มาเยอะถึง 5000mAh บนขนาดตัวเครื่องบางเฉียบ 7.64 มม.อย่างที่บอก ซึ่งแบตเตอรี่ระดับนี้ก็เทียบเท่าพวกเรือธงแล้ว ในการใช้งานจริงกว่าสัปดาห์ของเราพบว่าใช้งานได้อย่างจุใจโดยไม่ต้องกังวลเลยล่ะครับ
ชาร์จไว 45W Fast Charge นะ
ส่วนเรื่องชาร์จ realme C65 ยังมาพร้อมระบบชาร์จไว 45W Fast Charge ที่ชาร์จได้ถึง 50% ได้ในเวลาเพียง 30 นาที หรือชาร์จแค่ 30 วินาทีก็สามารถคุยโทรศัพท์ได้นาน 43 นาทีเลย และปลอดภัย ก็มีการป้องกันความปลอดภัยด้วย Smart Charging + การป้องกันความปลอดภัย 38 รายการ ทำให้ C65 กลายเป็นสมาร์ตโฟนที่ชาร์จไวที่ปลอดภัยที่สุดในระดับเดียวกัน!
ในเรื่องประสิทธิภาพการใช้งานก็ถือว่า realme C65 สอบผ่านสบาย ๆ ครับ เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นเริ่มต้นที่ได้มาครบทั้งชิปแรง, ความจุเยอะ, แบตเตอรี่ทนทาน รวมถึงระบบชาร์จไวที่ถึงใจ หรือซอฟต์แวร์ที่แฝง AI มาช่วยบูสต์ให้ลื่นไหลและราบรื่นทุกการใช้งานเลย
realme UI 5.0 กับประสบการณ์อัจฉริยะหลากหลาย
แม้ realme C65 จะเป็นรุ่นเริ่มต้น แต่ในเรื่องซอฟต์แวร์ก็ได้ realme UI 5.0 ที่ครอบทับบน Android 14 มาไม่ต่างจากรุ่นพี่ ๆ เลย ได้ความลื่นไหลและสามารถใหม่ ๆ เข้ามาเพียบ อาทิ
Air Gestures
ฟีเจอร์ที่ให้เราใช้มือโบกเพื่อสั่งงานแอปได้ ช่วยให้เพลิดเพลินกับความสนุกของเทคโนโลยีได้มากขึ้น ด้วยกล้องหน้าและเซ็นเซอร์หลายตัวที่ทำงานร่วมกัน พร้อมด้วยอัลกอริธึม AI ที่ใช้โมเดลขนาดใหญ่ ทำให้สามารถจดจำท่าทางได้อย่างแม่นยำ ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามือเปรอะจากการทำกิจกรรม หรือรับประทานอาหารอยู่ ก็สามารถรับสายหรือแม้แต่ดู วิดีโอสั้น ๆ ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องกังวลว่ามือถือเราจะสกปรก
Dynamic Button
ฟีเจอร์นี้จะให้เราได้ใช้ปุ่ม Power สั่งงานอื่น ๆ ได้มากกว่าแค่เปิด-ปิดเครื่อง เพราะปุ่มนี้เราสามารถใช้เป็นปุ่มฟังก์ชั่นในการสั่งงานอื่น ๆ พร้อมกันได้ อาทิ เราแตะ 2 ครั้ง (แค่แตะยังไม่ต้องกด) ที่ปุ่ม Power เพื่อสลับโหมดเสียงเป็นโหมดสั่น หรือกดลงไป 2 ครั้งเพื่อเปิดกล้อง เป็นต้น ช่วยให้เราสั่งงานได้หลากหลายขึ้นโดยที่ไม่ต้องเพิ่มปุ่มมาใหม่เลยด้วย
การสแกน QR Code อัจฉริยะ
ฟีเจอร์นี้น่าสนใจอยู่นะ เพราะตัวเครื่องจะคอยตรวจจับ QR Code อยู่ตลอดเวลา เวลาที่เราหันกล้องไปเจอ QR Code แม้ยังไม่ได้เปิดแอปกล้อง ระบบจะรู้ทันทีว่านั่นคือ QR และมีข้อความขึ้นมาว่าให้เราแตะที่ฝาหลัง 2 ครั้งเพื่อเข้าสู่โหมดสแกน QR Code ได้ทันที ช่วยให้การสแกนนั้นง่ายขึ้นมากจริง ๆ
ในเรื่องประสบการณ์อัจฉริยะจากซอฟต์แวร์ของ realme C65 ถือว่าทำได้ดีเหมือนกัน เพราะนอกจากความลื่นไหลที่สัมผัสได้ทันทีหลังเปิดเครื่อง ก็ยังมีลูกเล่นที่ใช้ AI มาเสริมการทำงานให้ดียิ่งขึ้น แม้จะดูเว่อวังไปนิด แต่ถ้าใช้งานจริงจนคล่อง จะช่วยให้เราสะดวกขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยจริง ๆ ครับ
กล้อง AI 50MP ตัวเดียวก็เพียงพอ
มาปิดท้ายกับที่เรื่องกล้อง realme C65 นั้นให้กล้องหลังมา 2 ตัวแต่เอาจริง ๆ ก็คือใช้งานได้แค่ตัวเดียวเลยคือกล้องหลัก AI ความละเอียด 50MP มีค่ารูรับแสงที่ f/1.8 ใช้งานเพียงพอในหลาย ๆ สถานการณ์ รวมถึงโหมดการใช้งานก็ให้มาครบไม่แพ้รุ่นพี่ อาทิ Portrait mode, Street mode, Pro หรือ Tilt-Shift ที่ถูกนำเสนอบนรุ่นนี้ครับ
ในการใช้งานทั่วไปก็จะมี AI คอยปรับแต่งภาพให้หลังถ่ายเหมือนเดิม ถ่ายอาหารก็จะดูน่ากิน ถ่ายวิวที่มีท้องฟ้าก็จะสดเคลียร์ หรืออยากปรับแต่งเพิ่มเติมก็มีฟิลเตอร์ให้เลือกเปิดขณะใช้งานได้เลยด้วย นอกจากนี้ด้วยความที่ตัวกล้องหลักมีความละเอียดมากถึง 50MP เราก็ยังพอที่จะซูมแบบ Digital ในระดับ 2x หรือ 5x แบบที่ยังเก็บรายละเอียดไว้ได้อยู่ด้วย ตัว UI กล้องก็มีทางลัดให้กดซูมแบบง่าย ๆ ได้เช่นกัน
ส่วนลายน้ำของ realme C65 ก็จะให้มาแบบ Frame Watermark พร้อม Color Palette แบบเดียวกับที่เราเห็นบน realme 12 Series กันเลย ช่วยให้ภาพที่ออกมาดูสวยและมีเรื่องราวจากโทนสีที่เราตั้งใจเก็บมาด้วยแหละ
ซึ่งคุณภาพจากโหมด Photo ปกติก็ถือว่าทำได้ดีสมราคาครับ อย่างที่บอกว่าหลังถ่ายจะได้ AI คอยปรับภาพเพิ่มเติม และ AI ของ realme ก็ทำงานได้ดีเลย ปรับสีสันของภาพรวมถึงความคมชัดให้อยู่ในระดับน่าพอใจ สามารถใช้งานต่อได้ทันที โดยไม่ต้องไปเสียเวลาแต่งเพิ่ม ถ่ายอาหารดูน่ากิน ถ่ายวิวก็ได้สีสดกำลังดี Dynamic Range กลาง ๆ แต่ก็ดึงในส่วนของสว่างและมืดให้ใช้งานได้ครับ
Portrait ลูกเล่นเยอะไม่ต่างจากรุ่นพี่
ส่วนโหมด Portrait ก็ตามสไตล์กล้องของ realme ครับมีระดับความเบลอให้เลือกปรับตามตัวเลขค่า f/stop มีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้ หรือระดับความเนียนของใบหน้าให้เลือกปรับได้ตามใจเช่นกัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็ถือว่าทำได้ดีครับ ใบหน้าสวยใส ละลายหลังได้เนียนตา แต่จะมีเรื่องการตัดขอบที่อาจจะยังไม่เก่งมากนักในฉากที่รกหน่อย หรือบางที่ก็ตัดดีเกินจนเหลือแค่คนรอบ ๆ หายไปหมดแม้จะอยู่ในระยะเดียวกันก็ตาม
Street mode ของดีจาก realme
Street mode อีกโหมดที่เป็นไฮไลท์ติดตัวสมาร์ตโฟน realme ไปแล้ว บนรุ่นเล็กอย่าง realme C65 ก็มีมาให้ใช้เช่นกัน UI กล้องจะมีให้เราเลือกระยะตามกล้องจริงคือ 26มม./52มม./130มม.(1x/2x/5x) พร้อมฟิลเตอร์สีสวย ๆ ที่ให้เราได้ Snap ภาพได้อย่างถูกใจ ผลลัพธ์ก็ออกมาสวยตามสไตล์ครับ โทนมีความสตรีทด้วยฟิลเตอร์ต่าง ๆ แต่ใช้งานจริงแนะนำว่าอยู่ระยะ 1x – 2x ก็พอ ถ้าเลยไป 5x อาจจะภาพเริ่มแตกมัวแล้วเนาะ อย่างว่าไม่ได้มีกล้องซูมมาให้
Tilf-Shift ถ่ายมุมมองใหม่ เน้นเฉพาะจุดกว่าที่เคย
และโหมด Tift-Shift ที่เพิ่มเข้ามาให้เราเลือกถ่ายภาพมุมมองใหม่ โดยการเน้นเฉพาะจุดมากกว่าเดิมด้วยเอฟเฟกต์เบลอขอบของภาพ แลชูจุดที่เราโฟกัสให้เด่นกว่าที่เคย ตรงนี้ก็ช่วยให้เราสร้างสรรค์ภาพถ่ายในมุมมองใหม่ ๆ ได้ดีครับ ถ่ายสนุกและไม่ยุ่งยากในการใช้งาน
กล้อง 8MP เซลฟี่หน้าเนียน ถูกใจสาว ๆ แน่นอน
realme C65 ได้กล้องหน้ามาที่ 8MP f/2.05 เซลฟี่ได้สวยเนียนตามฉบับของ realme มี AI Portrait Retouching ให้เลือกปรับหลายอย่าง จะหน้าใส, ตาโต, คางเรียว เลือกได้อย่างละเอียด และผลลัพธ์ที่ได้ก็สวยเนียนมากจริง ๆ ครับ สาว ๆ ไม่ผิดหวังแน่นอน
วิดีโอสูงสุด 1080p/30fps
ส่วนวิดีโอ realme C65 ไม่ได้เป็นจุดขายเท่าไหร่ ได้ความละเอียดสูงสุดที่ 1080p/30fps ทั้งหน้าและหลังครับ มีฟีเจอร์ AI Beauty มาให้เลือกเปิดในโหมดวิดีโอด้วย แต่ความละเอียดจะถูกปรับลงเหลือ 720/30fps แทนครับ
ราคาและโปรโมชั่น realme C65
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เรามาสรุปราคาและโปรโมชั่นของ realme C65 กันเลยดีกว่า โดยรุ่นที่วางจำหน่ายในไทยจะมีให้เลือก 2 สีคือ Starlight Purple (สีที่รีวิว) และ Starlight Black และความจุเดียวเลยคือ 8GB+256GB เปิดราคา 6,499 บาท
เริ่มวางจำหน่าย 24 พฤษภาคมนี้ รับฟรี realme Gift Box มูลค่า 890 บาท และพิเศษเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจกับโอเปอเรเตอร์เริ่มต้นเพียง 3,799 บาทเท่านั้นครับ
หูฟังไร้สายน้องใหม่ realme Buds T110
นอกจาก realme C65 แล้ว realme ยังมี realme Buds T110 หูฟังไร้สายรุ่นใหม่มาด้วย ที่มาพร้อมดีไซน์ Two-Tone สุดฮิต อย่างสีที่เราได้มาเป็นสีดำ Punk Black ที่ตัวเคสเป็นสีดำและจะมีเอฟเฟกต์สีเหลืองด้านในเมื่อเปิดขึ้นมาจะได้ความสดใสและมีชีวิตชีวา
realme Buds T110 รองรับระบบ Google Fast Pair ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน Android ได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่เปิดเคสชาร์จและนำไปใกล้สมาร์ตโฟนก็จะมี Pop-Up ให้กดเชื่อมต่อได้ทันที อีกทั้งยังตั้งค่าเพิ่มเติมได้ผ่านแอป realme Link อีกด้วย
ส่วนเรื่องเสียงก็ไม่ธรรมดาเพราะมี ไดนามิกเบสไดรเวอร์ขนาด 10 มม., รองรับคุณภาพเสียง AAC, ความหน่วงต่ำแค่ 88ms อีกทั้งยังมีระบบ AI ENC Noise Cancellation ช่วยตัดเสียงรบกวนขณะโทรได้อีกด้วย
ก็ถือเป็นอุปกรณ์เสริมอีกตัวที่น่าใช้งานคู่กับ realme C65 อยู่ไม่น้อยเลยล่ะครับ สำหรับ realme Buds T110 เปิดราคามาที่ 899 บาท มีโปรโมชั่นพิเศษเมื่อซื้อคู่กับสมาร์ตโฟนทุกรุ่นเหลือเพียง 799 บาทเท่านั้น (เฉพาะวันนี้ – 31 พฤษภาคม 67 เท่านั้น)
สรุปแล้ว “นี่คือสมาร์ตโฟนดีไซน์เยี่ยมสุดบางเฉียบ ในราคาสบายกระเป๋า”
สรุปแล้ว realme C65 ก็ถือเป็นสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นที่จัดเต็มในเรื่องดีไซน์เหนือใคร ทั้งเรื่องความบางเฉียบเพียง 7.64 มม. อีกทั้งยังมีฝาหลังลวดลายแสงดาวประกายอีก เป็นดีไซน์ที่เหนือระดับเกินราคาไปมากจริง ๆ แต่แค่ดีไซน์ยังไม่พอเพราะทั้งสเปคภายใน Dynamic RAM 16GB ลื่นไหล มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh พร้อมระบบชาร์จไว 45W และที่ขาดไม่ได้ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาใน realme UI 5.0 ทั้ง Dynamic Button หรือ Air Gestures เป็นต้น รวม ๆ แล้วนี่ก็เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นเล็กใหม่จาก realme ที่มีดีครบทั้งดีไซน์ สเปค และฟีเจอร์การใช้งานจริง ๆ ครับ!
