Featured
รีวิว realme C75 สมาร์ตโฟน ‘กันน้ำกันกระแทกไร้กังวล’ จอไหลลื่น 90Hz, ขุมพลัง Helio G92 Max พร้อมกล้อง 50MP และชาร์จเร็ว 45W SUPERVOOC
มาตามสัญญาสำหรับรีวิวฉบับเต็มของ realme C75 สมาร์ตโฟนดีไซน์สวย พร้อมแสดงผลบนหน้าจอขนาดใหญ่ 6.72″ ใช้งานไหลลื่นแบบ 90Hz ได้ขุมพลังเกมมิ่ง MediaTek Helio G92 Max แบตใหญ่ 6000mAh ชาร์จเร็ว 45W SUPERVOOC และได้กล้องคมชัดสูง 50MP
สรุปสเปค realme C75
- ขนาดตัวเครื่อง : 165.69 x 76.22 x 7.99 มม.
- น้ำหนัก : 196 กรัม
- หน้าจอแสดงผล IPS LCD ขนาด 6.72 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 90Hz และความสว่างสูงสุด 690 นิต
- หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio G92 Max Octa-core ความเร็ว 2.0GHz
- GPU : Mali-G52 MC2
- RAM : 8GB LPDDR4X
- ROM : 256GB eMMC5.1 รองรับการเพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 2TB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ดังนี้
- เลนส์หลัก 50MP รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Depth 2MP รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้า 8MP รูรับแสง f/2.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย realme UI 5.0
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5, Bluetooth 5 และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 6000mAh ชาร์จเร็ว 45W SUPERVOOC
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
อุปกรณ์ในกล่องให้มาครบ !
กล่องของ realme C75 จัดอุปกรณ์เสริมมาให้ครบแบบที่ไม่ต้องหาซื้อของเพิ่มเติมแล้วครับ เริ่มตั้งแต่กล่องที่ใส่เคสใสแบบซิลิโคนมาให้แล้ว พร้อมด้วยเข็มสำหรับเปิดถาดซิม และคู่มือการใช้งานเบื้องต้นครับ ชั้นถัดมาจะเป็นตัวเครื่องของ realme C75 ที่มีการติดฟิล์มกันรอยมาให้เรียบร้อย และท้ายสุดจะเป็นหัวชาร์จ 45W SUPERVOOC และสาย USB-C to USB-A มาให้ครับ
ดีไซน์สีทองสวยงาม พรีเมียม บางเบา และทนทานด้วยมาตรฐาน IP69
realme C75 ชูโรงเรื่องดีไซน์ที่จัดเต็มมากๆ ตั้งแต่ดีไซน์ที่แอบมีความมินิมอลด้วยสีทอง (Lightning Gold) ที่โดดเด่นขั้นสุดเมื่อแสงส่องสว่างเข้ามาที่ตัวเครื่อง ซึ่งเราจะเห็นว่าฝาหลังมีกลิตเตอร์เสมือนเม็ดทรายเพิ่มมิติความสวยในรุ่นนี้ด้วย ขณะที่ตรงฐานกล้องก็มีการตัดด้วยสีทองๆ เงินๆ ตัดกับสีฝาหลังได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว
โดยผิววัสดุตัวเครื่องจะเป็นแบบผิวด้านและมีความมันป้องกันการลื่นตกจากมือ ใครที่ไม่ชอบผิวด้านแต่มีความลื่น realme C75 ได้แก้ปัญหานี้แล้วนะ
ขนาดตัวเครื่องก็บางมากอยู่ที่ 7.99 มม. เทานั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 6000mAh ถือว่างานประกอบรุ่นนี้ทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ ครับ
และในเรื่องความทนทานก็ยังมีโครงสร้างแบบ Tough ArmorShell Glass ที่มีความทนต่อการตกกระทบรอบด้าน มีการใช้วัสดุอลูมิเนียมและโฟมเข้ามาเพื่อซับแรงกระแตกรอบด้าน !
ที่สำคัญยังมาพร้อมกับมาตรฐานทนน้ำ-ทนฝุ่น IP69 ที่สามารถตกน้ำได้นานสุดถึง 30 นาที ในความลึก 2 เมตรครับ เรียกว่าเป็น realme C Series และเป็นสมาร์ตโฟนตัวประหยัดเพียงรุ่นเดียวในตอนนี้ที่ทนทานทนฝุ่นได้สูงสุดอีกด้วย
หน้าจอสวยจัดเต็มไหลลื่น 90Hz
ในเรื่องของหน้าจอแสดงผลมีการอัปเกรดด้วยการใช้พาเนลแบบ IPS LCD มาให้เลยครับ รวมถึงมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ให้ใช้งานเต็มตาที่ 6.72 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ และยังสู้แสงด้วยความสว่างสูงสุด 690 นิต
และในรุ่นนี้ยังมาพร้อม Refresh Rate สูงสุด 90Hz ได้ความไหลลื่นในการใช้งานมากขึ้น ซึ่งรู้สึกได้ชัดเจนในการเล่นโซเชียลมีเดียและการเล่นเกม
พาชมรอบเครื่องกันต่อ !
มาดูตัวเครื่องกันต่อครับ บริเวณเหนือหน้าจอได้มาเป็นกล้องหน้า Punch Hole ความละเอียด 8MP และลำโพงสำหรับการสนทนาด้านบน
ฝั่งขวาเครื่องได้มาเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และถัดลงมาจะเป็นปุ่ม Power ที่มีการฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเข้าไปให้ใช้งานได้อย่างสะดวกมากขึ้นครับ
ส่วนทางซ้ายจะเป็นช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่รองรับ 2 ซิม และอีก 1 MicroSD Card รวมเป็น 3 ช่อง ให้ใช้งานกันแบบครบๆ
ด้านล่างจะมีไมโครโฟนตัวหลัก ตามด้วยพอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลักครับ
ท้ายสุดที่ด้านหลังจะมีกล้องหลัง 2 เลนส์ โดยที่วงที่ 3 ล่าวสุดจะเป็นการปิดไว้เพื่อดีไซน์ที่ลงตัวมากขึ้นครับ โดยที่มุมขวาบนในฐานกล้องจะเป็นไฟแฟลช LED 2 ดวง และยังให้ไมโครโฟนตัวที่ 2 ไว้ที่ด้านล่างแฟลชอีกด้วย !
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
มาพร้อม realme UI 5 บน Android 14 พร้อมใช้งานไหลลื่นและฟีเจอร์ที่เพรียบพร้อม
realme C75 แกะกล่องมาพร้อมระบบปฎิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย realme UI 5.0 ที่แม้ว่าจะยังไม่ได้เป็นรุ่นล่าสุด แต่ฟีเจอร์ต่างๆ ก็ค่อนข้างลงตัวและมีให้ลองกันเพียบเลย ตามข้อมูลด้านล่างนี้เลย !
Mini Capsule 3.0 แสดงข้อมูลได้ที่แถบบน ไม่รกหน้าจอ
ด้วย realme UI 5.0 ก็ยังมี Mini Capsule 3.0 มาให้ โดยจะเป็นแถบแอนิเมชันที่ขยายเป็นแคปซูลออกมาจากกล้องหน้า Punch Hole ช่วยให้การแจ้งเตือนต่างๆ ไม่รกหน้าจอจนเกินไปครับ จากปกติที่ต้องเป็นแถบ Pop Up เด้งขึ้นมาในส่วนบนที่ใหญ่พอสมควรครับ ซึ่ง Mini Capsule 3.0 จะรองรับการใช้งานบางอย่าง เช่น สถานะการชาร์จ เตือนแบตเตอรี่เหลือน้อย ปริมาณการใช้อินเตอร์เน็ต จำนวนก้าวและระยะทางที่เดิน เป็นต้น
ลำโพง Ultra Boom เร่งเสียงได้สูงสุด 400%
ใครที่ชอบลำโพงที่กระหึ่มสะใจ ในรุ่นนี้ก็มาพร้อมฟีเจอร์ UltraBoom Speaker ที่สามารถเปิดให้ลำโพงดังได้สูงสุดถึง 400% จากปกติที่มักอยู่ที่ 200% เท่านั้น !!
รองรับสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง
สำหรับการใช้งานเรื่องความปลอดภัยในรุ่นนี้จะเป็นการสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านข้าง ช่วยให้มีความสะดวกในการปลดล็อคหน้าจอมากขึ้นครับ
ส่งไฟล์ข้ามแอพได้ง่ายขึ้นด้วย AI Smart Loop
realme C75 มาพร้อมกับฟีเจอร์ AI Smart Loop ที่เป็นการลดขั้นตอนการส่งไฟล์ระหว่างแอพพลิเคชั่นได้แบบหมดจดจริงๆ ครับ เพียงแค่เรากดค้างที่รูปภาพ วิดีโอ หรือไฟล์ต่างๆ ที่ต้องการส่งข้ามแอพ จากนั้นลากไปที่ขอบหน้าจอ ก็จะมีการแสดงแอพต่างๆ เพื่อให้เราวางไฟล์ลงไปครับ ซึ่ง 5 แอพที่แสดงมาในกลุ่มแรก เราสามารถเลือกเองได้ในการตั้งค่าเลย ให้ไปที่การตั้งค่า > การช่วยเหลือพิเศษและความสะดวก > AI Smart Loop
จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่เลื่อนไปที่ขอบแล้วแสดงแอพแค่ที่เห็นในหน้าแรกเท่านั้น แต่เราสามารถหมุนลูปเพื่อเลือกแอพได้ด้วย !
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
มาพร้อมชิปเซ็ตเกมมิ่งรุ่นใหม่จาก MediaTek
realme C75 ใช้ขุมพลังตัวกลางรุ่นใหม่จาก MediaTek อย่าง Helio G92 Max จัดมาแบบ 8 คอร์ ดยมีแกนประมวลผลหลักเป็น Cortex-A75 ความเร็วสูงสุด 2.0GHz ส่วนคอร์ประหยัดพลังงานใช้เป็น Cortex-A55 ความเร็ว 1.8GHz ครับ โดยชิปตัวนี้เป็นชิปเกมิม่งตัวประหยัดที่ช่วยให้เล่นเกมทั่วไปได้ไหลลื่นแน่นอน รวมถึงการจัดการความร้อนก็ทำได้ค่อนข้างดีด้วยครับ
เพิ่ม Visual RAM ได้อีกถึง 16GB !!
สำหรับ realme C75 มาพร้อม RAM จริงที่ 8GB ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอต่อการทำงานทั่วไปแน่นอนแล้วครับ อย่างไรก็ตาม ใครที่ไม่จุใจก็สามารถเพิ่ม RAM เสมือนได้สูงสุดอีกถึง 16GB รวมของเดิมก็เป็น 24GB ไปเลยครับ !
ผลการทดสอบคะแนนด้วยโปรแกรมต่างๆ
- ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.3.6 ได้มาที่ 279,959 คะแนน
- ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 382 คะแนน และ Multi-Core ที่ 1,288 คะแนน
ทดสอบการเล่นเกมกันบ้าง !
ROV
มาทดสอบเล่นเกม ROV กันครับ เราสามารถเปิดภาพ HD ได้สูงสุด และการแสดงผลที่ “สูง” และเปิดเฟรมเรทได้สูงสุดเช่นกันครับ ซึ่งเราได้เล่นแล้วเฟรมเรททำได้นิ่งมากๆ วิ่งอยู่ระหว่าง 58-60fps ทั้งเกม ไม่มีดรอปหรือร่วงแบบชัดเจนเลย และเรื่องของความร้อนก็จัดการได้เป็นอย่างดีครับ
PUBG Mobile
PUBG Mobile เปิดได้ที่กราฟิกในระดับ HD และเฟรมเรทสูงครับ โดยการเล่นก็ถือว่าเพียงพอแล้วในรุ่นราคาประหยัด การสัมผัสทำได้ดี ตอบสนองได้ไว การเคลื่อนที่ในตอนที่หมุนจอทำได้ดีมาก และแน่นอนว่าไม่มีอาการกระตุกเลย
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6000mAh พร้อมชาร์จเร็ว 45W SUPERVOOC
realme C75 จัดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6000mAh ทำให้การใช้งานทั่วไปอยู่ได้ตลอดวันแล้วแน่นอน ชาร์จครั้งเดียวอยู่ได้ทั้งวัน
รุ่นนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 45W SUPERVOOC ที่ชาร์จได้จาก 0% – 50% ในเวลาประมาณ 30 นาที และเต็ม 100% ในเวลารวมๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาทีครับ
พลังกล้อง 50MP ถ่ายสวย จบได้ในคลิกเดียว
มาถึงเรื่องกล้องกันต่อครับ ขอบอกเลยว่า realme C75 ถ่ายภาพได้สวยเกินราคาไปมากจริงๆ ด้วยกล้องหลังเลนส์ที่ให้มาถึง 50MP ซึ่งถ่ายชัดได้ 2 ระยะแบบไม่เสียรายละเอียด สีสันมีความสดใส และเป็นการถ่ายภาพที่สามารถจบได้หลังกล้อง ไม่ต้องแต่งเติมอะไรเลยครับ
เลนส์หลัก 50MP ถ่ายชัด 2 ระยะ พร้อมสีสันสดใส
การถ่ายภาพด้วยเลนส์หลัก จะได้ใช้ประโยชน์จากเลนส์ 50MP มาเต็มๆ ครับ ซึ่งจะมีการรวมพิกเซลที่ช่วยให้แสงและเงาชัดเจนมากขึ้น ภาพสว่าง และเฉดสีของภาพมีความสดใส ไม่ดูจืดๆ ครับ ทำให้เราไม่จำเป็นต้องมานั่งปรับสีใหม่อีกครั้งหลังกล้องอีกแล้ว ที่สำคัญเราสามารถถ่ายได้ 2 ระยะ คือ 1x (27mm) และ 2x (54mm)
เพิ่มความพิเศษด้วยการถ่าย Street Photography
นอกจากภาพปกติแล้ว realme C75 ยังมาพร้อมกับ Street Photography ที่เป็นเหมือนฟิลเตอร์แบบต่างๆ เพื่อให้ได้อารมณ์ของภาพที่ต่างออกไปในแต่ละรูปแบบ เช่น ท้องถนน ขาวดำแบบพิเศษ ป็อปยุค 90 ภาพยนตร์ และอื่นๆ อีกเพียบครับ
Portrait ถ่ายสวยเนียน ปรับบิวตี้ได้ 100 ระดับ !
realme ยังคงมีจุดเด่นในการถ่ายภาพบุคคล หรือ Portrait ครับ ซึ่งถ่ายได้เป็นธรรมชาติ สกินโทนหรือสีผิวไม่ได้ถูกปรับเยอะเกินไป แถมยังปรับแต่งความบิวตี้บนใบหน้าได้ตั้งแต่ 0-100 ระดับ ตามความชอบเลยครับ ทั้งนี้ การตัดขอบเพื่อละลายฉากหลังก็ถือว่าเนียนในระดับที่ใช้งานได้ดีเลย
ถูกใจสายเซลฟี่ ปรับเนียนเป็นธรรมชาติ
นอกจากจะถ่าย Portrait ได้ชัดแล้ว สายเซลฟี่ก็น่าจะถูกใจด้วยเหมือนกัน เพราะมีความคมชัด การละลายหลังก็ค่อนข้างเนียนเลยทีเดียวครับ และใบหน้าสามารถปรับบิวตี้ได้แบบอัตโนมัติ หรือจะปรับเองก็ได้ค่อนข้างละเอียดเลย ไม่ว่าจะเป็นแก้ม ขนาดดวงตา จมูก คาง หรือศีรษะ เป็นต้นอ
สรุปการใช้งาน realme C75
realme C75 จัดว่าเป็น realme C Series ที่คุ้มค่าคุ้มราคาอีกรุ่น !! ด้วยสเปคที่จัดเต็ม ตั้งแต่การได้หน้าจอขนาดใหญ่ 6.72 นิ้ว แถมได้ Refresh Rate 90Hz ใช้งานได้ไหลลื่นมาก ขณะที่ชิปภายในขับเคลื่อนด้วย MediaTek Helio G92 Max เล่นเกมได้ลื่นและจัดสรรพลังงานได้ยอดเยี่ยมมาก และที่ขาดไม่ได้คือกล้องหลัง 50MP ที่ทำได้ดีเกินคาด จบหลังกล้องได้เลยทีเดียวครับ
ราคาและวันวางจำหน่าย realme C75
realme C75 มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีทอง (Lightning Gold) และสีดำ (Storm Black) วางจำหน่าย 2 ความจุ ดังนี้
- 8+128GB ราคา 5,999 บาท
- 8+256GB ราคา 6,999 บาท
จำหน่ายวันแรก 6 ธันวาคม ผ่านช่องทาง AIS, True, Dtac , ตัวแทนจำหน่ายและ realme Brand shop ทั่วประเทศสำหรับช่องทางออนไลน์ สามารถซื้อได้ที่ช่องทาง Shopee, Lazada และ Tiktok Shop