Featured
รีวิว realme GT 5G สมาร์ทโฟนเรือธงเร็วแรงเต็มสปีดด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 888 จอ 120Hz และชาร์จไว 65W SuperDart ในราคาที่คุ้มที่สุด
realme GT 5G เปิดตัวทางการเรียบร้อยในประเทศไทย มาพร้อมสโลแกน “เรือธงเร็วแรงเต็มสปีด” ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 888 5G ระบบระบายความร้อนแบบใหม่ Stainless Steel 3D หน้าจอ Super AMOLED 120Hz และยังมีระบบชาร์จไว 65W SuperDart อีกด้วย ทั้งหมดนี้เปิดตัวในราคาเพียง 19,990 บาทเท่านั้น
วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net จะมารีวิวให้ชมกันหน่อยว่ารุ่นจัดเต็มและคุ้มค่าแค่ไหนครับ ติดตามกันเลยครับ
สรุปสเปค realme GT 5G
- ขนาดตัวเครื่อง : 158.5 x 73.3 x 8.4 มม.
- น้ำหนัก : 186 กรัม
- หน้าจอ : Super AMOLED ขนาด 6.43″ ความละเอียด FHD+ refresh rate120Hz
- CPU : Snapdragon 888 (5nm) Octa-core 2.84GHz
- GPU : Adreno 660
- RAM : 8GB (LPDDR5)
- ROM : 128GB (UFS 3.1)
- แบตเตอรี่ : 4500mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 65W SuperDart
- กล้องหน้า : 16MP f/2.5
- กล้องหลัก : 3 ตัว
- กล้องหลัก 64MP f/1.8
- กล้อง Ultra Wide Angle 8MP f/2.3
- กล้อง macro 2MP f/2.4
- ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย realme UI 2.0
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/6, Bluetooth 5.2 และพอร์ต USB Type-C
ดีไซน์แรงบันดาลใจจากความเร็ว
เริ่มต้นที่ดีไซน์กันก่อนเลย realme GT 5G มาพร้อมดีไซน์สุดเท่ สีที่เราได้มาเป็นสี Racing Yellow ได้แรงบันดาลใจมาจากความเร็ว ใช้สีเหลืองตัดกับสีดำให้ความมองแว้บแรกก็ให้ความรู้สึกถึงความงามเร็วแรงเลยจริง ๆ และเป็นดีไซน์ที่สวยเด่นต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไปอย่างมากเลยทีเดียว
ดีไซน์แบบนี้ realme เรียกว่า Dual-tone Leather ใช้วัสดุฝาหลัง 2 แบบผสานกัน ประกอบด้วยหนัง Vegetal เจเนอเรชั่นใหม่ที่ให้สัมผัสที่ละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น ร่วมกับกระจกผิวสีดำที่พาดผ่านลงมาจากตัวเลนส์กล้องลงมาถึงด้านล่างตัวเครื่อง การจับถือว่าทำได้ดีมากด้วยผิวสัมผัสแบบหนังที่มีความนุ่มนวลแต่ก็มีความมันวาวของกระจกที่ชวนให้รู้สึกว่าหรูหราไปในตัว
ที่แถบสีดำถ้ามองเผิน ๆ อาจเห็นเป็นสีเรียบ ๆ แต่ถ้ามีการสะท้อนกับแสงเราจะเห็นการสะท้อนเป็นสีน้ำเงินขึ้นมารวมถึงในเส้นนั้นจะมีลวดลาย Racing Pattern ลูกศรหลาย ๆ ชั้นลงมาด้วย เพิ่มรายละเอียดของตัวเครื่องที่บอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากความเร็วจริง ๆ ครับ
ขนาดตัวเครื่องของ realme GT 5G มีความบางเฉียบและน้ำหนักที่กำลังดีเลย บางเพียง 8.4 มม. และเบา 186 กรัมเท่านั้น ถือว่าเป็นเรือธงที่มีขนาดกะทัดรัดอย่างมากในการใช้งานทั่วไปหรือจะเล่นเกมก็ไม่หนักจนเกินไปครับ
หน้าจอก็เร็วและลื่นไหล
พลิกกลับมาดูที่หน้าจอกันบ้าง realme GT 5G ได้หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.43″ ความละเอียด FHD+ มาด้วย เป็นขนาดที่กำลังดีสำหรับการใช้งานทั่วไปเลย และแน่นอนว่าเน้นความเร็วแบบนี้การตอบสนองก็ได้ refresh rate สูง 120Hz พร้อม Touch Sampling rate สูงสุด 360Hz เลยด้วย จะใช้งานทั่วไปเลื่อนหน้าจอหรือไถฟีดโซเชี่ยลต่าง ๆ ก็บอกเลยว่าเร็วติดนิ้วไปหมดครับ
ส่วนเรื่องการแสดงผลก็ได้คุณภาพจอ Super AMOLED พร้อมความละเอียดระดับ FHD+ ช่วยได้เยอะ สีสันที่แสดงออกมาคือสวยคม เหมาะสำหรับใช้งานดูหนังหรือวิดีโอความละเอียดสูงอย่างมาก แถมอัตราส่วนก็กว้างระดับ 20:9 ดูหนังได้เต็มที่ขอบดำเหลือนิดเดียวเท่านั้น
ส่วนดีไซน์จอแบบ Punch-Hole Display ก็วางตำแหน่งไว้ได้ดีที่มุมซ้ายบนของหน้าจอเวลาใช้งานทั่วไปหรือดูคอนเทนต์ก็ไม่ได้บดบังสายตาในการใช้งานเลย มองเผิน ๆ ก็เหมือนได้หน้าจอเต็ม ๆ มาเลยล่ะ
มีระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอพร้อมสแกนใบหน้า
และแน่นอนว่าด้วยชนิดจอที่เป็น Super AMOLED realme GT 5G จึงมีระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอมาให้ด้วย ความเร็วในการสแกนลายนิ้วมือก็ทำได้เร็วมากแตะปุ๊บก็สแกนเข้าเครื่องปั๊บ รวมถึงระบบสแกนใบหน้าก็มีมาให้ใช้งานด้วยรวดเร็วไม่แพ้กัน แต่มีจุดสังเกตนิดหน่อยตรงการสแกนใบหน้าที่ถึงแม้เราจะใส่หน้ากากอนามัยอยู่ก็ยังสแกนได้อยู่
บอดี้สวยเข้ากันในทุกมิติ
ที่ด้านหน้าและหลังของตัวเครื่องเราจะเห็นอยู่แล้วว่าดีไซน์โดดเด่น เช่นเดียวกับขอบเครื่องครับรุ่นนี้ก็ใช้บอดี้ผิวมันวาวสีเงินตัดเข้ากับตัวเครื่องเหมือนกัน ให้ความลงตัวเพิ่มขึ้นอีกมิติ ตำแหน่งการวางปุ่มกดก็วางได้ดีตามสไตล์ realme ครับปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงวางไว้ที่มุมซ้ายมือของตัวเครื่องแยกเป็น 2 ปุ่ม
ส่วนปุ่ม Power ก็จะอยู่ที่มุมขวามือของเครื่องมีการเพิ่มลวดลายสีเหลืองเข้าไปเป็นเอกลักษณ์ของ realme ด้วย
ด้านบนของตัวเครื่องจะมีการตัดมุมให้เหลี่ยมต่างจากขอบด้านข้างนิดหน่อย ให้ดีไซน์ที่ดุดันขึ้นอีกหน่อย
ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องจะมีความโค้งนิดหน่อย วางตำแหน่งของพอร์ตไว้อย่างครบถ้วน มีช่องหูฟัง 3.5 มม. อยู่ด้วย พอร์ตการเชื่อมต่อหลักเป็น USB type-C ไมโครโฟนและลำโพงหลักของตัวเครื่องครับ
ตัวลำโพงหลักของ realme GT 5G นั้นจะใช้งานร่วมกับลำโพงสนทนาด้านบนเป็นลำโพงคู่ Stereo ได้ด้วยทำให้เวลาเราใช้งานดูหนังหรือฟังเพลงนั้นได้เสียงที่มีมิติมากยิ่งขึ้น และเสียงที่ได้จากรุ่นนี้ต้องบอกเลยว่ามีมิติอย่างมากและคุณภาพสูงสมกับเป็นเรือธงเลยล่ะ
สรุปแล้วในเรื่องดีไซน์ของ realme GT 5G ก็ถือว่าเป็นเรือธงที่ออกแบบมาได้สวยโดดเด่นไม่แพ้รุ่นไหน ๆ เลยจริง ๆ ยิ่งสี Racing Yellow ที่เป็นสีไฮไลท์มีความลงตัวของวัสดุ การใช้งานและความรู้สึกในการสัมผัสที่สมกับเป็นเรือธง ขนาดและน้ำหนักที่ทำได้ดีในอันดับต้น ๆ ของเรือธงในปีนี้เลย
สเปคสุดจัดด้วย Snapdragon 888 ครั้งแรกของ realme
มาต่อเรื่องสเปคกันบ้าง realme GT 5G มาพร้อมชิปเซ็ตระดับเรือธงอย่าง Snapdragon 888 5G ครั้งแรกของ realme แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะความจุก็ให้มาแบบเต็มสูบทั้งแรมแบบ LPDDR5 รอมแบบ UFS 3.1 ทุกอย่างอยู่ในระดับสูงสุดของสมาร์ทโฟนเรือธงในปีนี้แล้วก็ว่าได้ครับ
GT mode ปลดล็อคทุกความแรงในมือคุณ
แต่ฮาร์ดแวร์ที่ว่าแรงอย่างเดียวคงไม่พอเพราะ realme GT 5G เขามีซอฟต์แวร์ที่เข้ามาช่วยปลดล็อคประสิทธิภาพแบบขั้นสุดของตัวเครื่องให้เราใช้งานเล่นเกมได้อย่างจุใจกว่าเดิม แต่ต้องบอกว่าโหมดนี้จะดึงพลังงานทุกอย่างออกมาใช้เลยจะใช้แบตเตอรี่มากกว่าในโหมดปกติอีกหน่อยและความร้อนก็จะเพิ่มขึ้นนิดหน่อยด้วยเพื่อแลกมากับประสิทธิภาพขั้นสุดระดับนี้เนอะ
คะแนนเร็วแรงในทุกแอป
ไหน ๆ ก็เข้าเรื่องความแรงแล้วเราขอมาทดสอบคะแนนจากแอป Benchmark ให้เห็นประสิทธิภาพคร่าว ๆ กันสักหน่อย โดย realme GT 5G นั้นได้คะแนนจากแอป AnTuTu Benchmark ไปสูงถึง 813796 คะแนน
ในขณะที่แอป GeekBench 5 ก็ออกมาสูงไม่แพ้กันคะแนน Single-Core ได้ไป 1143 คะแนน ส่วน Multi-Core ได้ไป 3481 คะแนนครับ
เล่นเกมกันเลยดีกว่า
เร็วแรงขนาดนี้แล้วขอเราทดสอบการเล่นเกมให้สมกับประสิทธิภาพหน่อยสิ สำหรับเกมที่เราจะใช้ทดสอบ realme GT 5G ในรอบนี้จะมี 4 เกมดังนี้ Asphalt 9, Call of Duty, Unruly Heroes และ Genshin Impact ครับ โดยในการทดสอบนี้เราเปิด GT mode ไว้ด้วยเลยเพื่อให้ได้ความแรงที่สูงสุด ซึ่งจริง ๆ แล้ว GT mode ก็เหมือนการเปิด Competition mode ใน Game Space นั่นเองครับ
เล่น Asphalt 9 บน realme GT 5G
เริ่มที่เกมแข่งรถให้สมกับรุ่นรถแข่งกันสักหน่อย realme GT 5G สามารถปรับภาพกราฟิกได้ที่ระดับสูงสุด (High Quality) ร่วมกับ 60fps ได้อย่างลื่นไหล ตัวเกมสามารถแสดงกราฟิกได้อย่างสวยงามมาก ๆ เอฟเฟกต์ต่าง ๆ มาเต็ม หน้าจอ Super AMOLED ที่ใหญ่กำลังดี 6.43″ ก็ช่วยให้เล่นเกมแนวนี้ได้แบบฟิน ๆ กันเลย
เล่น Call of Duty บน realme GT 5G
ต่อมาเป็นเกมยิงอย่าง Call of Duty Mobile แน่นอนว่าสเปค Snapdragon 888 5G เราสามารถปรับระดับกราฟิกและเฟรมเรตได้ที่สูงสุดเช่นกัน เราปรับกราฟิกไปที่ Very High ร่วมกับเฟรมเรตระดับ Max เมื่อเล่นจริง ๆ แล้วก็บอกเลยว่าถูกใจมาก ๆ ตัวเกมรันได้อย่างลื่นไหล หน้าจอที่รองรับ Touch Sampling สูงสุด 360Hz ช่วยให้การตอบสนองเวลาเล่นเกมนั้นดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการแตะยิง เลื่อนหน้าจอเพื่อหมุนมุมกล้องทันนิ้วแบบสุด ๆ
เล่น Unruly Heroes บน realme GT 5G
อีกเกมที่เราอยากลงคือเกมพรีเมี่ยมอย่าง Unruly Heroes ที่มีภาพกราฟิกสวยงาม อนิเมชั่นลื่นไหล ตัวเกมสามารถปรับกราฟิกได้สูงสุดที่ High Performance และคณภาพ Highest ตัวเกมเล่นได้อย่างลื่นไหล ใช้พื้นที่ของหน้าจอได้อย่างเต็มที่รูกล้องหน้าบนหน้าจอไม่บดบังเนื้อหาหรือปุ่มเวลาเล่นเกมเลย ถือว่าเล่นได้ฟิน ๆ อีกเกมครับ
เล่น Genshin Impact บน realme GT 5G
ปิดท้ายที่เกมกราฟิกเยี่ยมที่สุดอย่าง Genshin Impact เช่นเดียวกับทุกเกมครับ realme GT 5G ปรับกราฟิกได้สูงสุดทั้งหมด เราเปิดไปที่สูงสุดในทุกหมวดและเปิด 60fps ด้วย ตัวเกมเล่นได้อย่างดีเลย เฟรมเรตในเกมนิ่งมาก ๆ อยู่ระดับ 55 – 60fps แบบไม่มีตก แม้จะใส่เอฟเฟกต์หรือเวทย์แบบหนัก ๆ ก็ตาม เกม Open World แบบนี้ได้ลำโพงคู่ Stereo มาด้วยก็ช่วยเพิ่มความกว้างในการเล่นเกมได้อีกเยอะระบบเสียงตอบโจทย์ไม่น้อยเหมือนกันครับรุ่นนี้
ระบบระบายความร้อนแบบ Stainless Steel 3D
อีกเรื่องที่ realme GT 5G ทำได้ดีมากก็คือการระบายความร้อนครับ รุ่นนี้ใช้ระบบระบายความร้อนแบบใหม่ที่เรียกว่า Stainless Steel 3D โดยใช้ทองแดงนำความร้อนได้ดีเยี่ยมและหุ้มด้วยเปลือกสแตนเลสเพื่อเพิ่มความแข็งแรง และทาง realme เคลมว่าสามารถระบายความร้อนได้มากกว่าเดิมถึง 50% ลดอุณหภูมิของ CPU ได้สูงสุด 15º กันเลย
และเท่าที่เราลองเล่นเกมกราฟิกจัดเต็มอย่าง Genshin Impact ต่อเนื่องเป็นเวลา 15 นาที พบว่าอุณหภูมิของตัวเครื่องนั้นไม่ร้อนจริง ๆ ก่อนเล่นวัดแล้วอยู่ที่ราว ๆ 38º หลังเล่นและวัดอีกทีจะอยู่ที่ราว ๆ 45º เท่านั้น ถือว่าไม่ร้อนอย่างที่คิดถ้าเทียบกับเกมกราฟิกจัดเต็มอย่าง Genshin Impact อะเนอะ แถมวัสดุของฝาหลังยังเป็นหนัง Vegan ก็ช่วยให้เราถือเล่นได้อย่างสบายไม่ร้อนขึ้นมา แค่อุ่น ๆ เท่านั้นเอง
ใช้ realme UI 2.0 บน Android 11
ในเรื่องซอฟต์แวร์ realme GT 5G ใช้ realme UI 2.0 ที่ครอบทับอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 ในเรื่องของหน้าตา UI มีความเรียบง่ายและน่าใช้งาน ไอคอนมีสีสันดึงดูดน่าใช้งาน
ส่วนการปรับแต่ง realme UI 2.0 ก็มีทางเลือกในการปรับแต่งมากมายทั้ง Themes, Wallpapers, AOD, รูปแบบไอคอน, รูปแบบอนิเมชั่นสแกนลายนิ้วมือ, โทนสีของระบบ, ฟอนต์, รูปแบบของ Toggle เรียกว่ามีให้เลือกปรับแบบครบถ้วนเปลี่ยนได้ตามสไตล์เราเลยครับ
มีหน้า Dark mode ให้เลือกใช้ด้วยสำหรับการใช้งานที่ถนอมสายตามากขึ้น Dark mode ของ realme UI 2.0 มีให้เลือกปรับแบบอัตโนมัติตามช่วงเวลาหรือเราจะเลือกกำหนดเวลาเปิด-ปิดก็ได้เช่นกันครับ
เหนือสิ่งอื่นใดด้วยความที่ realme GT 5G เป็นเรือธงของ realme ก็จะมีอัปเดตที่ต่อเนื่อง รวมถึงตอนนี้ก็มีโครงการ Android 12 Beta ให้ทดลองกันก่อนด้วยครับ
กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด 64MP
ต่อมากับเรื่องกล้อง realme GT 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวมีสเปคของแต่ละกล้องดังนี้ครับ
- 64MP กล้องหลัก f/1.8
- 8MP กล้อง Ultra Wide Angle f/2.3 มุมกว้าง 119º
- 2MP กล้อง macro f/2.4
ตามสเปคกล้องอาจจะไม่ได้หวือหวาเท่าไหร่แต่ถ้ามองว่ารุ่นนี้เน้นประสิทธิภาพในเรื่องการเล่นเกมและสเปคเป็นหลักได้มาเท่านี้ก็ถือว่าไม่ธรรมดาครับ ได้กล้องหลักความละเอียดสูงถึง 64MP มีกล้อง Ultra Wide Angle ที่ช่วยเพิ่มมุมมองในการถ่ายภาพและมีกล้อง macro ไว้ถ่ายภาพวัตถุใกล้ ๆ เพิ่มอีกหน่อย
สำหรับซอฟต์แวร์ realme GT 5G ก็มีโหมด AI Scene Enhancement ที่คอยช่วยจัดการภาพถ่ายให้สวยงามมากขึ้น อย่างเช่นเราถ่ายภาพท้องฟ้าสีของฟ้าก็จะสวยสดขึ้น ถ่ายอาหารความอิ่มของสีก็จะสะดุดตากว่าเดิม หรือถ่ายคนที่จะได้ความสวยเนียนเป็นต้นครับ
กล้องหลักไฟล์แจ่ม ใช้งานได้ทันทีไม่ต้องแต่งเพิ่ม
คุณภาพโดยรวมจากกล้องหลักของ realme GT 5G ถือว่าทำได้ดีเลยครับ ตัวกล้องหลักคุณภาพสูงใช้ได้บวกกับระบบ AI Scene Enhancement ที่คอยจัดการภาพได้อย่างดูดี เราแทบไม่ต้องปรับแต่งไฟล์ภาพเพิ่มเติมเลย ใช้งานได้ทันทีแบบจบหลังกล้อง ระบบ Auto HDR ที่มีมาให้ก็ฉลาดมาก ฉลาดพอที่เก็บภาพย้อนแสงออกมาได้สวยโดยที่เราไม่ต้องปรับอะไรให้ยุ่งยาก
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลักของ realme GT 5G
ในการใช้งานทั่วไปตัวกล้องหลักของ realme GT 5G จะถูกปรับความละเอียดของภาพเหลือ 16MP เพื่อการใช้งานที่คล่องตัวเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปและไฟล์ไม่ใหญ่เกินไป แต่ถ้าใครที่อยากได้ไฟล์ความละเอียดเต็มระดับ 64MP ทาง realme ก็มีโหมด 64M มาให้เลือกใช้งานด้วย ตรงนี้เราจะได้ไฟล์ภาพขนาดเต็มความละเอียดเลย เหมาะการนำมาใช้ครอปภาพเพิ่มเติมได้ครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด 64M ของ realme GT 5G
กล้อง Ultra Wide Angle มุมกว้าง 119º
มาดูไฟล์ภาพจากกล้อง Ultra Wide Angle กันบ้าง รุ่นนี้ได้มุมกว้างถึง 119º เหมาะกับการถ่ายภาพวิวหรือมุมมองที่กว้าง ๆ อย่างยิ่ง หรือจะใช้ถ่ายภาพคนในแนวตั้งให้ดูขายาวหรือตัวสูงก็ได้เช่นกัน คุณภาพของกล้อง 8MP นี้ทำได้ดีใช้ได้ มุมกว้างดีเลย รายละเอียดของภาพก็เก็บได้ครบ ความบิดเบี้ยวของภาพมีอยู่นิดหน่อยแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร บวกกับ AI Scene ที่เก่งอยู่แล้ว ภาพที่ได้ก็คือดีเลย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Ultra Wide Angle ของ realme GT 5G
กล้อง macro ถ่ายของใกล้ ๆ ได้
และกล้องตัวสุดท้ายกับ macro ที่ให้ความละเอียดมาเพียง 2MP ก็พอจะใช้งานถ่ายภาพวัตถุใกล้ ๆ ได้อยู่ระยะ 4 – 5 ซม. คุณภาพก็กลาง ๆ ครับ ความละเอียดในสภาพแสงปกติคมพอใช้ได้ แต่ถ้าแสงน้อยหน่อยก็ไม่ไหวเหมือนกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง macro ของ realme GT 5G
ซูมได้อยู่ด้วยกล้องหลัง 64MP
สำหรับใครที่ชอบการซูม แม้ realme GT 5G จะไม่มีกล้อง Tele มาให้ด้วย แต่เราก็ยังสามารถใช้กล้องหลักที่ความละเอียดสูงถึง 64MP นี้มาซูมแบบไฮบริดได้อยู่ คุณภาพในระยะซูม 2x – 4x ถือว่าใช้งานได้เลย มีความคมชัดด้วยการปรับแต่งจาก AI ขึ้นอีกหน่อย พอจะใช้งานซูมในระยะสั้น ๆ ได้แบบไม่เสียรายละเอียดมากนัก แต่ถ้าจะซูมไปไกลถึงระดับ 5x – 10x ก็อาจจะไม่ไหวครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายซูมจาก realme GT 5G
Portrait เก่งมี Filter ให้เลือกปรับ
ส่วนโหมด Portrait หรือภาพบุคคล realme GT 5G ก็เก่งด้วยการปรับภาพใบหน้าให้เนียนรวมถึงการละลายฉากหลังที่เก่งกาจด้วย บน realme GT 5G จะมีฟิลเตอร์มาให้เลือกปรับนอกจากโทนสีแบบเดิม ๆ แล้วยังมีลูกเล่นพิเศษ 3 แบบที่ช่วยเปลี่ยนพื้นหลังให้น่าสนใจมากขึ้นกับ Dynamic Bokeh (ทำภาพพื้นหลังเป็นภาพเคลื่อนไหวเร็ว ๆ ), Neon Portrait (เพิ่ม Bokeh และสีสันให้จัดขึ้น) และ AI Color Portrait (ดูดสีฉากหลังให้เป็นขาว-ดำ) ด้วย
ซึ่งภาพที่ได้ก็ถือว่าทำได้ดีเลย ใบหน้าของแบบเนียนขึ้น การละลายฉากหลังสวยงามแบบมีมิติ และลูกเล่น Filter ที่เพิ่มเข้ามาก็ช่วยให้เราได้ภาพที่สวยแบบจบหลังกล้องได้เลย ไม่ต้องมาปรับแต่งเพิ่ม พวกลูกเล่น AI Color Portrait, Neon Portrait หรือ Dynamic Bokeh ก็สร้างสรรค์ภาพให้สนุกกว่าเดิม โดยรวมโหมด Portrait ลงตัวทุกอย่าง แต่ติดที่ระยะของภาพที่ใช้ได้แค่ 1x มิติของภาพเลยอาจจะกว้างไปหน่อยในการถ่ายภาพครึ่งตัวเนาะ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Portrait ของ realme GT 5G
โหมดกลางคืนยังสุดยอด
ต่อด้วยภาพถ่ายกลางคืน realme GT 5G มีโหมด Nighscape มาให้ใช้งานด้วย ซึ่งคุณภาพยังโดดเด่นเหมือนเดิม มีฟิลเตอร์มาให้เลือกมากถึง 5 แบบทั้ง Modern Gold, Cyberpunk, Flamingo, Astral และ Dazzle ช่วยเปลี่ยนภาพถ่ายกลางคืนให้สวยเท่กว่าที่เคย การเก็บภาพก็ทำได้เร็วมาก
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Nightscape ของ realme GT 5G
Modern Gold Cyberpunk
Flamingo Astral
กล้องหน้า 16MP เซลฟี่สวย
กล้องหน้าของ realme GT 5G ให้ความละเอียดมาที่ 16MP ดูจากความละเอียดอาจไม่เยอะเท่าไหร่ แต่คุณภาพถือว่าใช้ได้เลย เพราะมีฟีเจอร์ช่วยเสริมให้ภาพสวยเนียนตั้งแต่ AI Beautification ไปจนถึง Auto HDR เรียกว่าถึงแม้เราจะถ่ายภาพย้อนแสงเราก็จะได้ภาพที่สวยคมทั้งใบหน้าและฉากหลังเลยล่ะครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ realme GT 5G
วิดีโอก็แจ่มลูกเล่นเพียบ
ส่วนเรื่องวิดีโอ realme GT 5G ก็ไม่ธรรมดาถ่ายแบบปกติได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K 60fps ในกล้องหลัง พร้อมกันนี้ยังมีลูกเล่นอื่น ๆ มาช่วยเพิ่มความสะดวกในการถ่ายวิดีโออื่น ๆ เช่น AI Highlight Video, Ultra Night Video, Ultra Steady หรือกระทั่ง Dual-view Video ก็มีให้เลือกใช้ด้วยเช่นกัน
แบตเตอรี่ 4500mAh เพียงพอต่อการใช้งาน
เข้าสู่เรื่องแบตเตอรี่ realme GT 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4500mAh ใช้งานทั่วไปก็ถือว่าทำได้ดีครับ ใช้ได้ตลอดทั้งวัน แต่หากมีการเล่นเกมหนักหน่อยหรือว่าถ่ายรูปแบบจัดเต็ม อันนี้ก็คงต้องพกพาวเวอร์แบงค์ไว้สำรองสักหน่อย อาจจะมีหมดได้บ้างครับ
ชาร์จไว 65W SuperDart
แต่ถ้าในเรื่องชาร์จไม่ต้องห่วงเลย เพราะ realme GT 5G นั้นมาพร้อมระบบชาร์จไว 65W SuperDart ที่ชาร์จได้ไวมาก ๆ ตรงนี้ realme เคลมเลยว่าสามารถชาร์จจาก 0 – 100% ได้ในเวลาเพียง 35 นาทีเท่านั้น
และเท่าที่เราลองใช้งานแบบจัดเต็มและลองชาร์จขึ้นมาจริง ๆ ก็ใช้เวลาใกล้เคียงกันจริง ๆ ครับ เราลองชาร์จจาก 5% – 100% ในเวลา 32 นาทีก็เต็มแล้วครับ ตรงตามที่เคลมไว้จริง ๆ ครับ แม้แบตเตอรี่จะไม่อึดเท่าที่ควรถ้าใช้งานหนัก ๆ แต่ได้ชาร์จไวขนาดนี้มาทนแทนก็ถือว่าสบายใจได้เลยครับ
สรุปแล้ว “นี่คือเรือธงที่เร็วแรงในราคาที่คุ้มค่าที่สุด”
สรุปเลยละกันครับ สำหรับ realme GT 5G นั้นถือว่าเป็นเรือธงตัวแรงที่คุ้มค่าเอามาก ๆ ทุกอย่างตอบโจทย์แบบที่เรือธงปี 2021 ควรทำได้ ไม่ว่าจะเป็นสเปคที่สุดจริง ๆ ทั้งชิปเซ็ต Snapdragon 888 5G แรมรอมความเร็วสูงที่ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่ติดขัด มีหน้าจอ Super AMOLED สีสวยสด 120Hz ลื่นไหล ระบบชาร์จไว 65W SuperDart ที่เร็วทดแทนแบตเตอรี่ที่อยู่ระดับกลาง ๆ ได้จนลืมไปเลย ดีไซน์ของสี Racing Yellow ก็สวยสมกับชื่อ GT ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่งและความเร็ว ทั้งหมดนี้ลงตัวมาก ๆ ในเรือธงรุ่นที่ชื่อ realme GT 5G นี้ครับ ส่วนจุดสังเกตที่เราเจอจริง ๆ ก็คงเป็นเรื่องฟีเจอร์เล็ก ๆ ที่ยังขาดจากเรือธงรุ่นนี้ อาทิ ความสามารถกันน้ำที่ไม่มีมาตรฐานรองรับ ไม่มีระบบชาร์จไร้สายมาให้ นอกนั้นก็แทบไม่มีอะไรจะติแล้วล่ะครับ ใครที่มองหาเรือธงดีไซน์เด่นสเปคครบแบบนี้อยู่ จัดเลยไม่ต้องคิดมาก !
ราคาและโปรโมชั่น realme GT 5G
สำหรับ realme GT 5G เปิดตัวที่ประเทศไทยมา 2 สีคือสีน้ำเงิน Dashing Blue และ สีเหลือง Racing Yellow วางจำหน่ายความจุเดียว 8GB + 128GB มีราคาดังนี้
realme GT 5G ราคา 19,990 บาท
เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายนนี้ และพิเศษราคาเมื่อผูกโปรกับโอเปอเรเตอร์ AIS, dtac, True เริ่มต้น 11,990 บาทครับ
จุดเด่น
- สเปคเร็วแรง Snapdragon 888 5G ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
- หน้าจอ Super AMOLED 120Hz ลื่นไหล
- ดีไซน์สวยเด่น สี Racing Yellow ผิวสัมผัสดีมาก
- ระบบระบายความร้อนใหม่ Stainless Steel 3D ลดความร้อนได้ดี
- รองรับชาร์จไว 65W SuperDart Charge
- กล้องหลัง 3 ตัว 64MP คุณภาพใช้ได้
จุดสังเกต
- ไม่กันน้ำ
- ไม่รองรับชาร์จไร้สาย