มาแล้ว !! รีวิว realme GT 7 Pro สมาร์ตโฟน “The Dark Horse of AI” ประสิทธิภาพทรงพลังพร้อมความฉลาดของ AI ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 8 Elite ที่รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่ให้ผู้ใช้งานในประเทศไทยได้สัมผัสกันครับ ขณะที่สเปคก็จัดเต็มด้วยหน้าจอ RealWorld Eco² แบบ AMOLED แบบ 120Hz สู้แสงได้สบายด้วยความสว่างสูงสุดถึง 6000 นิต พร้อมด้วยกล้องหลัง 3 เลนส์ 50MP และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6500mAh ชาร์จเร็ว 120W SUPERVOOC
สรุปสเปค realme GT 7 Pro
- ขนาดตัวเครื่อง : 162.45 × 76.89 × 8.55 มม.
- น้ำหนัก : 222.8 กรัม
- หน้าจอแสดงผล RealWorld Eco² แบบ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2780 x 1264 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 120Hz, Sampling Rate 240Hz, Contrast Ratio 5000000:1 รองรับ HDR 10+, Dolby Vision, 120% DCI-P3 ความสว่างสูงสุด 6000 นิต และแสดงผล 1.07 พันล้านสี
- หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Elite Octa-core ความเร็ว 4.32GHz
- GPU : Adreno 830
- RAM : 12GB
- ROM : 512GB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ดังนี้
- เลนส์หลัก 50MP รูรับแสง f/1.8 เซ็นเซอร์ Sony IMX906, 1/1.56″ รองรับกันสั่น OIS
- เลนส์ Ultra-Wide 8MP รูรับแสง f/2.2 เซ็นเซอร์ Sony IMX355
- เลนส์ Telephoto 3x (73mm) 50MP รูรับแสง f/2.65 เซ็นเซอร์ Sony IMX882, 1/1.95″ รองรับกันสั่น OIS
- กล้องหน้า 16MP รูรับแสง f/2.45
- ระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย realme UI 6.0
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, NFC 360 องศา และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ Titan ความจุ 6500mAh ชาร์จเร็ว 120W SUPERVOOC
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
อุปกรณ์ในกล่องให้มาครบ
ตัวกล่องของ realme GT 7 Pro มาแบบสีดำเข้มทั้งตัวกล่อง โดยมีชื่อรุ่น GT 7 Pro และโลโก้ของ realme อยู่หน้ากล่อง โดยที่มุมขวาบนมีสัญลักษณ์ “Ai” ที่บอกว่ารุ่นนี้มาพร้อม AI ให้ใช้งานกันด้วย
อุปกรณ์ในกล่องก็ให้มาครบ ไม่ต้องหาซื้ออะไรเพิ่มเติม ตั้งแต่ตัวเครื่องที่ติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้ว ตามด้วยเคสสีดำแบบซิลิโคน เข็มเปิดถาดซิม และคู่มือการใช้งานเบื้องต้น
อะแดปเตอร์ก็ให้มาแบบ 120W SUPERVOOC พร้อมด้วยสาย USB-C to USB-A
ดีไซน์พื้นผิวดาวอังคาร บ่งบอกถึงดีไซน์แห่งอนาคต
realme GT 7 Pro ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยจะมีสีเดียวคือสีส้ม (Mars Orange) ที่เป็นสีหลักของรุ่นนี้ ได้ความสวยงาม พรีเมียม และดูแตกต่างจากสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นๆ ตัวสีส้มจะออกมาเป็นส้มๆ แดงๆ เสมือนผิวของดาวอังคารอย่างแท้จริง
ซึ่งสีสันในรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากพื้นผิวของดาวอังคารที่บ่งบอกถึงอนาคต เป็นการยกย่องให้กับการสำรวจดาวอังคารในระยะยาวของมนุษยชาติ โดยที่พื้นผิวของฝาหลังจะเป็นผิวด้าน ลดการเกิดคราบรอยนิ้วมือได้
มาตรฐานกันน้ำ-กันฝุ่นขั้นสุดแบบ IP68/69
งานประกอบในรุ่นนี้ได้รับการอัปเกรดขึ้นมาแบบขั้นสุดบนสมาร์ตโฟน ซึ่งเป็นมาตรฐานกันน้ำ-กันฝุ่นแบบ IP69 และ IP68 สามารถป้องกันแรงดันน้ำสูงได้ ทั้งยังสามารถตกน้ำได้ลึกสูงสุดถึง 2 เมตร นานสุด 30 นาที ซึ่งตรงนี้เองที่ทำให้ realme GT 7 Pro สามารถถ่ายภาพใต้น้ำได้แบบสบายใจหายห่วงเลยครับ
ระบบระบายความร้อนทรงพลัง ขนาดใหญ่ถึง 11480mm²
ด้วยความที่เป็นเรือธง ตอนเล่นเกมหรือการใช้งานแบบหนักๆ จะต้องเจอความร้อนแบบเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วครับ ดังนั้น realme จึงใส่ระบบระบายความร้อนแบบ Iceberg Vapor Chamber ขนาดใหญ่ถึง 11,480 ตารางมิลลิเมตร ซึ่งเป็น VC คู่ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มสมาร์ตโฟนเดียวกันด้วย
และที่สังเกตได้อีกอย่างในงานประกอบของ realme GT 7 Pro คือ แม้จะให้แบตเตอรี่มาใหญ่ถึง 6500mAh ควบคู่กับการใส่ Iceberg Vapor Chamber ขนาดใหญ่มาให้แล้ว แต่ตัวเครื่องบางเพียง 8.55 มม. เท่านั้น
หน้าจอสวย RealWorld Eco² สว่างที่สุดในโลก 6500 นิต
realme GT 7 Pro ได้พลิกโฉมเทคโนโลยีบนหน้าจอแสดงผลบนสมาร์ตโฟนขึ้นมาอีกครั้งด้วยการใช้เป็นหน้าจอพลังงานต่ำที่สุดในอุตสาหกรรมอย่าง 8T LTPO + RealWorld Eco² OLED Plus ซึ่งเป็นจอระดับสูงที่พัฒนาร่วมกับ Samsung โดยหน้าจอให้มาใหญ่เต็มตา 6.78 นิ้ว คมชัด FHD+ (2780 x 1264 พิกเซล) รองรับ Contrast Ratio 5000000:1 ควบคู่กับ HDR 10+, Dolby Vision แสดงผลสีได้มากถึง 1.07 พันล้านสี และยังเป็นจอแสดงผลที่มีสีสันที่สุดในอุตสาหกรรม คือ 120% DCI-P3 อีกด้วย
หากใครที่ได้ลองสัมผัสการใช้งานหน้าจอก็จะเห็นว่าตรงขอบจอจะมีความโค้งเล็กน้อย ซึ่งตรงนี้จะเป็น Micro-Curved ที่ช่วยให้ขอบจอนั้นดูบางลงมากขึ้น ทำให้แสดงผลได้มากกว่าเดิมครับ
ตัวชูโรงของหน้าจอใน realme GT 7 Pro คือความสว่างสูงสุดถึง 6000 นิต สามารถสู้แสงแดดแรงๆ ได้สบายมาก ไม่ต้องใช้มือคอยบังแสงสะท้อนอีกต่อไป
ที่สำคัญความไหลลื่นในการเล่นเกมก็ยังจัดเต็มด้วย Refresh Rate สูงสุด 120Hz และรองรับ Sampling Rate 240Hz ทำให้การสัมผัสตอบสนองได้รวดเร็ว เรียลไทม์ ซึ่งจะเป็นข้อดีในการเล่นเกมที่ต้องใช้ความเร็วในการกดมากๆ ครับ
รองรับการสแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic รวดเร็วและเสถียร
ในรุ่นนี้ได้ฝังเซ็นเซอร์ระบบสแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic ไว้ใต้หน้าจอ ซึ่งทำให้เราสามารถสแกนได้เร็วและปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังมีพื้นที่ในการสแกนใหญ่ขึ้น ที่สำคัญยังใช้งานในตอนที่หน้าจอหรือมือเปียกน้ำได้ด้วย ต่างจากแบบออปติคอลที่สแกนแทบไม่ติดตอนจอหรือมือเปียกน้ำ โดยการทำงานของ Ultrasonic จะเป็นการส่งคลื่นมาบนหน้าจอจนโดนนิ้วมือของเราและสะท้อนกลับไปยังระบบเพื่อยืนยันตัวตนของเจ้าของเครื่องได้แม่นยำ
พาชมรอบเครื่อง
พามาดูรอบเครื่องกันต่อครับ โดยส่วนบนหน้าจอให้มาเป็นกล้องหน้า Punch Hole ตรงกลาง 16MP พร้อมลำโพงคู่ที่อยู่ด้านบน
ฝั่งขวาตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และเป็นปุ่ม Power
ด้านล่างจะเป็นช่องใส่ซิมแบบ NanoSIM 2 ช่องแบบพลิกหน้า-หลัง ตามด้วยไมโครโฟนตัวที่ 1 พร้อมพอร์ต USB-C และลำโพงสเตอริโอคู่อีกตัวครับ
ด้านบนจะได้ไมโครโฟนตัวที่ 2 เพื่อตัดเสียงรบกวนมาให้ และมีเซ็นเซอร์ IR Blaster เพื่อใช้ในการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
ท้ายสุดที่ด้านหลังจะเป็นโมดูลกล้องหลังทรงสี่เหลี่ยมที่มีฐานยื่นลาดลงไปกับตัวเครื่อง มีสัญลักษณ์ “HYPERIMAGE+” ขณะที่ในโมดูลกล้องจะมี 3 เลนส์ จัดเรียงเป็นสามเหลี่ยม และมีไฟแฟลช LED แบบ 2 ดวงมาให้ครับ
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการล่าสุด realme UI 6.0 เสริมพลังด้วย AI จัดเต็ม
realme GT 7 Pro แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุด คือ Android 15 ครอบทับด้วย realme UI 6.0 เป็นเครื่องแรกของ realme ที่ได้ใช้เวอร์ชันนี้ด้วย ได้รับการปรับปรุงใหม่มาเป็นอย่างดีโดยเฉพาะในเรื่องการจัดการพลังงาน ความเสถียร และฟีเจอร์ด้าน AI ที่ถูกเสริมเข้ามาให้ใช้งานมากมายเลยทีเดียว จะมีอะไรบ้างมาชมกันเลยครับ
ม้ามืดแห่ง AI ในอุตสาหกรรมพร้อมใช้งานหลายฟีเจอร์
มาพร้อม AI Sketch to Image วาดเพื่อเปลี่ยนเป็นรูปวาดสวยงามได้ทันที
ใน realme GT 7 Pro มาพร้อมกับฟีเจอร์ AI ที่หลายคนน่าจะชอบอย่างแน่นอนคือ AI Sketch to Image ที่ให้เราวาดภาพร่างเพื่อแปลงเป็นภาพวาดได้อย่างสวยงาม ซึ่งให้เราได้วาดภาพร่างทั่วไป หรือจะเสริมแต่งจากภาพถ่ายก็ได้ทั้งหมดเลยครับ โดยการใช้งานก็สามารถทำได้หลายแบบ ดังนี้
- เปิดจากแถบด้านข้าง : การใช้งานแบบแรกก็สามารถเข้าถึงได้จากแถบด้านข้างหน้าจอได้ทันที จากนั้นก็วาดโครงร่าง และกด Generate ก็เป็นอันเรียบร้อย ซึ่งภาพที่ถูก Generate เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้ออกมาเป็นแบบไหน โดยจะมี 6 แบบ ได้แก่ การ์ตูน 3 มิติ, การ์ตูน, ภาพร่าง, สมจริง, สีน้ำ และโลกอนาคต
ตัวอย่างที่ 1
ตัวอย่างที่ 2
- ถ่ายภาพรูปวาดเพื่อแปลง : นอกจากจะวาดบนหน้าจอได้แล้ว จริงๆ เราสามารถวาดจากกระดาษแล้วถ่ายจากกระดาษที่วาดก็ได้เช่นกัน
- วาดจากภาพถ่ายจากกล้อง : ในแบบนี้จะเป็นการเติมองค์ประกอบที่เราต้องการลงไปในภาพถ่ายของเราในแกลเลอรี่ครับ
ปรับภาพในเกมขั้นสูงด้วย AI Gaming Super Resolution และ AI Gaming Super Frame
อีก AI ที่เข้ามาใช้งานในรุ่นนี้คือการปรับภาพกราฟิกในเกมขั้นสูง ซึ่งเปลี่ยนจากภาพแบบ HD ธรรมดาๆ เป็นความละเอียดสูงสุดถึง 1.5K ได้เลยด้วยเทคโนโลยี AI Gaming Super Resolution พร้อมรองรับเฟรมเรท 120fps จากเดิมที่เกมอาจจะรองรับเพียง 60fps เท่านั้นด้วย AI Gaming Super Frame
โดยเกมที่รองรับการปรับภาพด้วย AI Gaming Super Resolution คมชัด 1.5K มีดังนี้
- Genshin Impact
- Honkai: Star Rail
เกมที่รองรับเฟรมเรท 120fps ด้วย AI Gaming Super Frame มีดังนี้ (บางเกมรออัปเดตให้รองรับ)
- Free Fire MAX
- PUBG Mobile
- Genshin Impact
- Honkai: Star Rail
- HOK (Honor of Kings)
ปรับภาพที่เบลอให้คมชัดขึ้นด้วย AI Motion Deblur
ในฟีเจอร์นี้จะเป็นการปรับความเบลอที่มีการเคลื่อนไหวเร็วออกจากภาพเพื่อให้เราได้ภาพที่คมชัดมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเราสามารถปรับภาพด้วย AI Motion Deblur ผ่านแอพอัลบั้มได้เลยครับ
ลบคนได้ง่ายด้วย AI Eraser
ใน realme GT 7 Pro ยังมาพร้อมกับ AI Eraser ที่สามารถลบคน/วัตถุได้ง่ายมากๆ โดย AI สามารถตรวจับคนได้ว่าใครในภาพที่ควรลบออกไป ไม่ได้เป็นการลบคนทั้งหมดครับ ซึ่งตัว AI ยังลบและแต่งเติมภาพให้มีความเนียนอยู่ ไม่ได้ลบออกไปเฉยๆ ครับ
ส่งไฟล์ไป iPhone ได้ง่ายและรวดเร็วด้วย O+ Connect
ด้วยแอพพลิเคชั่น O+ Connect เป็นการจบปัญหาการส่งไฟล์หรือภาพถ่ายระหว่าง iPhone และสมาร์ตโฟน realme GT 7 Pro ได้เลยครับ ซึ่ง iPhone จำเป็นต้องโหลดแอพนี้เพื่อใช้งาน (โหลดได้ผ่าน App Store) ส่วนการส่งไฟล์จาก realme GT 7 Pro เป็นการใช้ realme Share ที่มีอยู่ในเครื่องอยู่แล้ว จากนั้นระหว่างทั้ง 2 เครื่องจะสามารถรับหรือส่งไฟล์หากันได้อย่างรวดเร็วมากๆ ครับ
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ขุมพลังทรงพลังขั้นสุด Snapdragon 8 Elite ประสบการณ์การเล่นเกมแบบใหม่
realme GT 7 Pro เป็นรุ่นแรกในประเทศไทยที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Snapdragon 8 Elite ซึ่งเป็นชิปใหม่ของ Qualcomm ที่ใช้แกน Oryon ความเร็สูงสุด 4.32GHz Prime-core x2 + 3.52GHz Performance-core x6 ซึ่งทั้ง 8 คอร์เป็น Big Cores ด้วย ทั้งนี้ก็ยังมีการประหยัดพลังงานด้วยการผลิตขนาดเล็กเพียง 3nm เท่านั้น ซึ่งพลังของ Snapdragon 8 Elite ได้ปรับปรุง Single Core ถึง 45% และ Multi Core ถึง 45% เมื่อเทียบกับ Snapdragon 8 Gen 3 โดย GeekBench ขณะที่ฝั่ง AnTuTu ก็แตะได้สูงสุดถึงหลัก 3 ล้านแต้มด้วย
ผลการทดสอบคะแนนด้วยโปรแกรมต่างๆ
- ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.3.6 ได้มาที่ 2,837,161 คะแนน
- ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 3,009 คะแนน และ Multi-Core ที่ 9,300 คะแนน
- ทดสอบ GPU ด้วย 3D Mark Wild Life Extreme : 5,454 คะแนน
ทดสอบการเล่นเกมแบบจัดเต็ม
ด้วยขุมพลังรุ่นใหม่และเร็วแรงขั้นสุดอย่าง Snapdragon 8 Elite เราก็ทำการทดสอบการเล่นเกมให้แบบจัดเต็ม ถึง 4 เกมหลักๆ ได้แก่ ROV, PUBG Mobile, Genshin Impact และ Asphalt Legends Unite โดยเราจะพาไปดูการตั้งค่ากราฟิกและความไหลลื่นของแต่ละเกมกันครับ
PUBG Mobile
ขอเปิดกันด้วย PUBG Mobile ที่เป็นเกมที่รองรับ 120fps ที่สามารถปรับเพิ่มได้ใน Game Engine ด้วยครับ โดยถ้าใครอยากจะปรับขึ้นมาเป็น 120fps ต้องตั้งค่าภาพเป็น HDR HD เพื่อให้ปรับเฟรมเรทระดับ “สูงสุด” ได้ครับ
เมื่อเราได้ลองเล่นแล้ว ความเสถียรและความไหลลื่นในการเคลื่อนไหวทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ ภาพไหลลื่น ไม่เจออาการเบลอเวลาหมุนไปมา ขณะที่เฟรมไทม์ที่ตัวชิปจะสร้างภาพขึ้นมาแต่ละเฟรมเรทก็นิ่งมากเช่นกัน ทำให้ภาพมีความคมชัดและสวยงามมากๆ ด้วยครับ
ROV
มาต่อที่เกมมหาชนอีกเกมอย่าง ROV ที่ตัวเกมสามารถปรับทุกอย่างเป็นสูงสุดได้ทั้งหมดทุกอย่าง โดยเกมนี้รอการอัปเดตให้รองรับเฟรมเรทที่ 120fps ในอนาคตแน่นอน ขณะที่การเล่นในตอนนี้จะสุดที่ 60fps อย่างไรก็ตาม เราสามารถเปิด Hyper Response Engine ที่ช่วยลดความหน่วงและเพิ่มการตอบสนองในการกดปุ่มต่างๆ เข้าไปให้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจากที่เราเล่นก็ทำได้ยอดเยี่ยม ไม่มีที่ติ เฟรมเรทก็นิ่งมากๆ และการกดสกิลก็ตอบสนองได้ไวมากครับ
Genshin Impact
มากันที่เกม Genshin Impact ที่เป็นหนึ่งในเกมที่กินสเปคมากที่สุดบนสมาร์ตโฟนแล้วครับ ในเกมนี้เราสามารถเปิดกราฟิกได้สูงสุดทั้งหมด จริงๆ ในตัวเกมจะปรับเฟรมเรทได้สูงสุดที่ 60fps แต่เราสามารถเปิด “เฟรมพลัส” เพื่อเพิ่มให้เป็น 120fps ได้เลย โดยที่การเล่นภายในเกมไม่มีปัญหาอะไรเลย สัมผัสได้ไหลลื่น ตอบสนองไว รวมถึงการเคลื่อนที่ของตัวละครก็ทำได้ยอดเยี่ยม ภาพไม่เบลอ และยังมีความคมชัดสูงด้วยครับ
Asphalt Legends Unite
ปิดท้ายกันด้วยเกมแข่งรถ Asphalt Legends Unite เราสามารถเปิดทุกอย่างได้สูงสุดเหมือนกันคู่กับเฟรมเรท 60fps ภาพกราฟิกในเกมทั้งแสงและเงาคมชัดสูงมากๆ
แบตเตอรี่ Titan ความจุใหญ่สุดของ realme 6500mAh
realme GT 7 Pro จัดแบตเตอรี่ Titan มาให้ถึง 6500mAh ซึ่งเป็นความจุของแบตที่ให้มาเยอะที่สุดของสมาร์ตโฟน realme รวมถึงเป็นแบตเตอรี่ Silicon Anode ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และนอกจากความจุที่ให้มาเยอะแล้ว เทคโนโลยีนี้จะไม่ทำให้ขนาดแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นไปจากรุ่นอื่นอีกด้วย ที่สำคัญยังมีความทนทานมากๆ ตั้งแต่การทนความเย็นจัดที่สูงสุด -30°C หรือการันตีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานมากกว่าหรือเท่ากับ 80% พร้อมสุขภาพแบตเตอรี่หลังจากใช้งานยาวนาน 4 ปี
ด้วยแบตที่ให้มาเยอะมากๆ ก็ทำให้เราใช้งานได้เต็มวันหากใช้งานทั่วไป หรือจะเป็นการเล่นเกมก็ทำได้นานเกินครึ่งวันด้วย เช่น การสแตนด์บาย 510 ชม., Freefire สูงสุด 10 ชม., Youtube นานสุด 20 ชม. และฟังเพลงบน Spotify นานสูงสุดถึง 76 ชม. เป็นต้น ส่งผลให้ realme GT 7 Pro ถูกจัดอันดับ 1 ในเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่
realme GT 7 Pro ไม่ได้มีดีแต่เรื่องแบตเตอรี่ที่มีความทนทานและใช้งานได้นานเท่านั้น แต่เทคโนโลยีการชาร์จเร็วก็รองรับถึง 120W SUPERVOOC ชาร์จเพียง 13 นาที ชาร์จได้ 50% และเพียง 37 นาที ชาร์จได้เต็ม 100%
กล้อง AI Ultra-Clear Snap Camera พร้อมฟีเจอร์ระดับท็อป และถ่ายใต้น้ำได้
มาถึงส่วนของกล้อง realme GT 7 Pro กันแล้วครับ รอบนี้ realme จัดเต็มมากๆ ในเรื่องฟีเจอร์การถ่ายภาพขั้นสูงสุด ด้วยเซ็นเซอร์ระดับเรือธง มีโหมดต่างๆ ให้ถ่ายภาพได้อย่างสนุกมากขึ้น และสามารถถ่ายภาพใต้น้ำได้เป็นครั้งแรกด้วย ส่วนสเปคกล้องหลังและกล้องหน้า เราขอสรุปไว้ให้ตามนี้ครับ
- เลนส์หลัก 50MP, f/1.8, IMX906 รองรับกันสั่น OIS
- เลนส์ Ultra-Wide 8MP, f/2.2, IMX355
- เลนส์ Telephoto 3x (73mm) 50MP, f/2.65, IMX882 รองรับกันสั่น OIS
- กล้องหน้า 16MP, f/2.45
กล้องหลัง Hyperimage+ ถ่ายคมชัดทุกระยะ และ Live Photo เลือกช็อตที่ปังได้
บอกเลยว่า realme GT 7 Pro ให้กล้องหลังมาแบบจัดเต็ม ถ่ายภาพได้สนุกมากๆ ด้วยเซ็นเซอร์กล้องจาก Sony มีการอัปเกรดเรื่องภาพที่ได้ความคมชัดที่สูงขึ้นด้วยเทคโนโลยี Hyperimage+ ที่พัฒนาจาก realme เองโดยเฉพาะ ตัวภาพมีมิติมากขึ้น สีสันมีเฉดที่จัดจ้าน HDR ก็ทำได้เก่งขึ้นกว่าเดิม และชัตเตอร์ตอนสนองได้ไวมากๆ ทำให้เราไม่พลาดช็อตที่อยู่ตรงหน้าเลยครับ
ที่ชอบอีกอย่างในการใช้เลนส์หลักคือมาพร้อมกับฟีเจอร์ Live Photo ที่ตัวระบบกล้องจะจับภาพที่เกิดขึ้นก่อนเรากดชัดเตอร์ประมาณ 1.5 วินาทีเอาไว้ เมื่อเรากดถ่ายภาพแล้ว เราจะสามารถเลือกช็อตที่เกิดขึ้นในช่วงระยะ 1.5 วินาทีได้อีกครั้งเพื่อให้ได้ภาพที่ต้องการมากที่สุดครับ
เลนส์ Telephoto 3x พร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่สุด
ในเลนส์ Tele 3x ที่ใส่มาในรุ่นนี้ ถ่ายภาพระยะไกลได้คมชัดและโดดเด่นไม่ต่างจากเลนส์หลักเลย โดยระยะถ่ายมีตั้งแต่ 3x (73mm) หรือ 6x (144mm) ขึ้นไป แต่ละระยะได้ภาพในมุมมองที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์ตรงหน้า ซึ่งการใช้งานในระยะซูม 6x ไปจนถึงราวๆ 20x ยังได้ภาพที่ค่อนข้างคมชัด ขณะที่ระยะชัดลึกก็ทำได้แม่น โฟกัสวัตถุได้ยอดเยี่ยมมากๆ ทำให้เราสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการถ่ายได้เร็วมากขึ้นกว่าเดิมและสนุกมากขึ้น
Tele Macro เจาะวัตถุให้เห็นมากขึ้นในระยะที่สายตามองไม่เห็น
ในเลนส์ Telephoto ก็มาพร้อมการถ่ายภาพในระยะ 3x ขึ้นไปที่จะมีการตรวจจับ Macro เพื่อให้ถ่ายภาพในระยะใกล้ๆ ได้ด้วย ทำให้เราเห็นวัตถุเล็กๆ ที่สายตาเรามองไม่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม เรียกว่าเราสามารถใช้เลนส์ Tele ได้ทั้งระยะไกลสุดและใกล้สุดได้เลย
ซูมไกลสุด 120x พร้อมปรับความคมชัดด้วย AI Zoom Ultra Clarity
ในเลนส์ Telephoto ที่ใส่เข้ามาในรุ่นนี้ก็รองรับการซูมได้สูงสุดถึง 120x โดยในการซูมระยะไกลๆ ก็มาพร้อมเทคโนโลยี AI Zoom Ultra Clarity ที่มีการปรับภาพให้มีความคมชัดสูงเป็นพิเศษ ซึ่งเราได้ลองเทียบภาพการปิดและเปิด AI Zoom มาให้ชมกันด้วย จะเห็นว่าตรงขอบวัตถุเมื่อเปิด AI Zoom จะชัดเจนมากขึ้น ต่างจากที่ปิดโหมดนี้ที่จะเห็นว่าเส้นขอบนั้นค่อนข้างเบลอครับ
AI Ultra-Clear Snap Camera ถ่ายภาพเคลื่อนไหวให้หยุดนิ่งได้ง่าย
ใน realme GT 7 Pro จะมาพร้อมกับโหมด AI Snap เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมในการถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหวที่เร็วกว่าปกติ เช่น รถยนต์ สัตว์เลี้ยง นก เครื่องบิน หรือจักรยาน เป็นต้น ทำให้ภาพที่เคลื่อนไหวเร็วๆ ถูกหยุดนิ่งแบบไม่ไหวติง !!
โหมดการถ่ายภาพใต้น้ำโหมดแรกในอุตสาหกรรม
ความพิเศษที่ไม่เหมือนใครใน realme GT 7 Pro คือโหมดถ่ายภาพใต้น้ำครั้งแรกในอุตสาหกรรม บอกก่อนว่าจุดนี้เป็นการใช้ประโยชน์จากมาตรฐานกันน้ำ-กันฝุ่น IP68/69 ที่งานประกอบแน่นหนามากขึ้นกว่าเดิมครับ โหมดใต้น้ำเราสามารถเลือกกดได้ทั้งแบบชัตเตอร์ในหน้าจอ ซึ่ง realme GT 7 Pro เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่มีฟังก์ชั่นกดถ่ายรูปบนหน้าจอได้เมื่ออยู่ใต้น้ำด้วย หรืออีกทางเลือกจะเป็นการใช้ปุ่มชัตเตอร์ตรงปุ่มเพิ่มเสียงก็ได้เช่นกันครับ เรียกว่าเราสามารถเปลี่ยนสมาร์ตโฟนเป็นเสมือนกล้อง Action ได้เลยทีเดียว แต่จำกัดการใช้งานความลึกสูงสุดที่ 0-2 เมตร และนานสุด 30 นาที
Ultra-Wide ถ่ายมุมกว้าง 112 องศา
มาดูเลนส์มุมกว้างกันต่อครับ รอบนี้ realme GT 7 Pro ถ่ายภาพได้กว้าง 112 องศา เป็นระยะที่มุมกว้างพอเหมาะมากจริงๆ เก็บองค์ประกอบที่ต้องการได้ครบและไม่ได้ทำให้ขอบภาพโค้งจนเสียรายละเอียด ทั้งนี้ โทนสีแทบไม่ต่างจากเลนส์หลักเลนส์ แม้ความละเอียดจะน้อยกว่าก็ตาม ขณะที่การถ่ายในที่แสงน้อยก็ทำได้ดีเลยทีเดียวเพราะให้รูรับแสงมากว้างที่ f/2.2 ครับ
มาพร้อม Street Photography ถ่ายภาพท้องถนนหลากหลายสไตล์ตามแบบฉบับของ realme
ในโหมดการถ่ายภาพแบบ Street Photography หรือท้องถนนเป็นตัวชูโรงของฟีเจอร์กล้องใน realme อยู่แล้ว ยิ่งได้กล้องจาก realme GT 7 Pro เข้ามาเสริมไปอีกก็ยิ่งช่วยให้เราได้ภาพที่มีมิติมากขึ้น เก็บแสงและเงาได้ชัดด้วยครับ
Portrait ถ่ายสวย คมทุกระยะ และเก็บรายละเอียดได้ยอดเยี่ยม
โหมด Portrait น่าจะเป็นหนึ่งในโหมดที่น่าจะได้ใช้งานกันบ่อยมากๆ ครับ ใน realme GT 7 Pro ให้เราถ่ายภาพบุคคลได้สวยงาม เป็นธรรมชาติมากๆ สามารถปรับความบิวตี้บนใบหน้าได้ตั้งแต่ 0-100 ระดับเลยทีเดียว ขณะที่เรื่องการละลายฉากหลังทำได้เนียนและแม่นยำมากๆ โดยเฉพาะบริเวณเส้นผมที่คงรายละเอียดไว้ครบ และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือสามารถเก็บภาพได้ตั้งแต่ระยะ 1x, 2x และ 3x เลยครับ
เซลฟี่คมชัด 16MP สวยงามเป็นธรรมชาติ
สำหรับสายเซลฟี่ถูกใจแน่นอน โดยความละเอียดอยู่ที่ 16MP ให้รายละเอียดใบหน้าที่คมชัด จับโฟกัสได้ดี ถ่ายย้อนแสงได้ไม่ต้องกลัวหน้ามืด รวมไปถึงการปรับแต่งบิวตี้ของใบหน้าก็ทำได้เนียนตา เป็นธรรมชาติด้วย
สรุปการใช้งาน realme GT 7 Pro
หากจะนิยาม realme GT 7 Pro ในประโยคเดียวจากที่ได้สัมผัสและใช้งานจริง คือ “ประสิทธิภาพที่จัดเต็มและกล้องที่ทรงพลัง” ปกติแล้ว realme GT Series จะเน้นในเรื่องประสิทธิภาพและชิปเซ็ตเรือธงที่ใช้ในการเล่นเกมเป็นหลัก แต่ไม่ใช่กับใน realme GT 7 Pro เลย เพราะนอกจากจะใช้ชิป Snapdragon 8 Elite แล้ว กล้องหลังยังปรับปรุงให้ดีขึ้นแบบชัดเจนมากๆ ใช้เซ็นเซอร์เรือธง ภาพออกมาคมกริบ เนียนตา การตรวจจับฉากแม่นยำมาก โดยเฉพาะการถ่ายภาพบุคคลที่อัปเกรดขึ้นอย่างชัดเจนครับ
จุดเด่นที่สำคัญที่ยอดเยี่ยมมากๆ คือหน้าจอ RealWorld Eco² แบบ LTPO AMOLED 120Hz สว่างสูงสุดในโลกถึง 6000 นิต ให้แบตมาถึง 6500mAh ชาร์จเร็ว 120W SUPERVOOC รวมไปถึงดีไซน์ในสี Mars Orange ที่ออกแบบมาได้แตกต่างและโดดเด่นมากๆ ครับ
ราคาและวันวางจำหน่าย realme GT 7 Pro
realme GT 7 Pro จะมีวางจำหน่ายในความจุเดียว คือ 12+512GB ที่ราคา 29,999 บาท
โปรโมชั่นพิเศษ วันนี้ – 25 พ.ย. 67 เท่านั้น เป็นเจ้าของได้ EXCLUSIVE เฉพาะช่องทาง Shopee
คลิก : https://bit.ly/4eDcQgZ รับฟรี! คูปองส่วนลด* สูงสุด 2,000.- (จำนวนจำกัด) และ realme Buds Air6 (มูลค่า 1,999.-)
