ข่าวประชาสัมพันธ์
realme ปิดฉากการประชุมสุดยอดผู้นำแห่งยุค 5G ครั้งแรก พร้อมเป้าหมายส่งมอบสมาร์ทโฟน 5G สู่มือคนรุ่นใหม่ 100 ล้านคน ภายใน 3 ปี
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2564 ณ นครเซียงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน – realme แบรนด์สมาร์ทโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ได้ปิดฉากการประชุมสุดยอดผู้นำแห่งยุค 5G โดยมีพันธมิตรคนสำคัญ ผู้มีบทบาทในการขับเคลื่อนศักยภาพและคุณภาพแห่งเทคโนโลยีอย่าง GSMA, Counterpoint Research และ Qualcomm พร้อมประกาศเป้าหมายใหม่ ที่มุ่งมั่นส่งมอบสมาร์ทโฟน 5G สู่มือคนรุ่นใหม่ 100 ล้านคน ภายในระยะเวลา 3 ปี และเผยแผนกลยุทธ์สมาร์ทโฟน GT Series ใหม่ล่าสุด ที่มีถึง 2 รุ่น โดยรุ่นแรกมาพร้อมประสิทธิภาพมิติใหม่แห่ง 5G อันทรงพลัง มีแผนเปิดตัวในเดือนมิถุนายนนี้ สำหรับอีกรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยีกล้องระดับเรือธงและมีแผนเปิดตัวในเดือนกรกฎาคมนี้ นอกจากนี้ realme ได้ริเริ่มโครงการต่างๆ ที่จะส่งเสริมและผลักดันเทคโนโลยีมุ่งก้าวกระโดดดั่งแนวคิด Dare to Leap ให้ครอบคลุมและเป็นที่ยอมรับจากเสียงผู้ใช้งานทั่วโลก
หัวข้อหลักในการประชุมครั้งนี้คือ ‘Making 5G Global: Affordability for the Masses’ หรือ ปลุกปั้น 5G สู่สากลในระดับราคาที่เข้าถึงได้ทุกคน ภายในการประชุมจึงได้รวบรวมผู้นำจากอุตสาหกรรมต่างๆ สถาบันวิจัย ผู้จัดจำหน่ายและผู้ผลิตอุปกรณ์รายใหญ่ มาร่วมถกประเด็น แบ่งปันและแสดงความคิดเห็นข้อมูลเชิงลึกเกี่ยว 5G ของแต่ละภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อมโยงกันระหว่าง 5G และคนรุ่นใหม่ หรือ 5G จะมีบทบาทในชีวิตประจำวันอย่างไรในอนาคต
ในการประชุมสุดยอดผู้นำแห่งยุค 5G นั้น realme ได้ตอกย้ำในความมุ่งมั่นการเป็น ‘แบรนด์สมาร์ทโฟน 5G ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้’ และได้เผยคำมั่นที่จะพัฒนา 5G สู่ตลาดโลกและถึงมือผู้ใช้งานทั่วโลกมากขึ้น เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา realme ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ 5G ทั้งหมด 14 รายการ ใน 21 ตลาดทั่วโลก คิดเป็น 40% จากผลิตภัณฑ์ทั้งหมด และภายในปี 2022 ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์ให้มากกว่า 20 รายการ เพิ่มอัตราส่วนเป็น 70% ใน 50 ตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ realme ได้วางแผนที่จะเป็นผู้นำอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน 5G ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G ที่มีเรทราคาประมาณ 100 ดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงก้าวสำคัญสำหรับวงการสมาร์ทโฟน รวมไปถึงขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกที่กำลังจะเกิดใหม่อีกด้วย
คุณ Madhav Sheth, VP and CEO of India and Europe realme กล่าวว่า “การเริ่มต้นสมาร์ทโฟน 5G รุ่นแรกของเรา นั่นคือ realme X50 เราได้สำรวจแนวคิดการออกแบบใหม่และนวัตกรรมทางเทคนิคเพื่อให้ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน 5G ที่มีดีไซน์ที่บางและเต็มไปด้วยประสิทธิภาพการทำงานอันทรงพลังมากขึ้น เราเชื่อว่าในยุค 5G การนำเทคโนโลยีใหม่นี้เป็นภารกิจที่สำคัญสำหรับ realme เราจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้ 5G เป็นที่นิยม โดยจะรับฟังความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ผลักดันนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และช่วยสร้างระบบนิเวศ5Gในวงกว้างร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมของเรา”
คุณ Johnny Chen, Brand Director realme กล่าวว่า “realme เชื่อว่า 5G เป็นเทคโนโลยีสำหรับคนรุ่นใหม่ ชาวดิจิทัลกำลังมองหาวิธีเชื่อมต่อและแสดงออกถึงตัวตนที่อยู่เหนือโลกแห่งความเป็นจริง ในฐานะแบรนด์ที่มีความตั้งใจตอบโจทย์ทุกความต้องการให้กับกลุ่มรุ่นใหม่ realme พยายามตั้งใจรับฟังสิ่งที่พวกเขาคาดหวังจากเทคโนโลยี 5G และทำให้พวกเขามีส่วนร่วมมากขึ้นในกระบวนการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ 5G ที่ดีขึ้น เราหวังว่าพวกเขาจะเป็นผู้บุกเบิกการนำ 5G ไปใช้งาน และช่วยนำผู้คนจำนวนมากขึ้นสู่ยุค 5G ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถให้กับเยาวชน
ในปี 2564 realme วางแผนที่จะสร้างร้านค้าป๊อปอัป 5G มากกว่า 10 แห่งทั่วโลก เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้สร้างพื้นที่พิเศษที่พวกเขาสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์ 5G ผ่านการเล่นเกมส์บนคลาวด์, AR ที่คมชัดเป็นพิเศษ, การถ่ายทอดสด และแอปพลิเคชั่น 5G ยอดนิยมอื่นๆ”
คุณ Kalvin Bahia, Principal Economist, GSMA Intelligence กล่าวว่า “เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กว่า 60 ประเทศทั่วโลกได้เปิดตัว 5G โดย 12 ประเทศเป็นตลาดเกิดใหม่และส่วนใหญ่อยู่ในเอเชีย ในขณะที่การเติบโตของความครอบคลุม 5G กำลังเป็นที่น่าพอใจ แต่จากการสำรวจโดย GSMA แสดงให้เห็นว่าอุปสรรคอื่น ๆ ยังคงมีอยู่สำหรับการยอมรับเทคโนโลยีใหม่อย่างแพร่หลายในหมู่ผู้บริโภค เช่น ความสามารถในการเผยแพร่ของอุปกรณ์ การขาดความรู้และทักษะด้านดิจิทัล และค่าใช้จ่ายของข้อมูลสมาร์ทโฟน แต่อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนไปใช้ 5G เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ทั่วโลก และคาดว่า 5G จะทำให้เศรษฐกิจโลกมีมูลค่าถึง 6 แสนล้านเหรียญสหรัฐในทศวรรษหน้า”
คุณ Peter Richardson, VP and Research Director, Counterpoint Research เห็นด้วยว่าการเติบโตของ 5G นั้นน่าประทับใจและการลดราคาอย่างรวดเร็วของสมาร์ทโฟนเป็นหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนหลัก นอกจากนี้ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า “เมื่อปลายปีที่แล้ว เราเห็นผลิตภัณฑ์ 5G ที่มีการแข่งขันสูงในจีน โดยมาในราคาที่เอื้อมถึงได้ โดย realme เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความกล้ามากที่สุดด้วยการขาย V3 5G ที่ราคาประมาณ 145 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4,528 บาท และ realme กำลังช่วยเผยแพร่เทคโนโลยีในประเทศอื่นๆ ด้วยชุดผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจพร้อมคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมในราคาที่จับต้องได้”
คุณ Rajen Vagadia, VP and President, Qualcomm India & SAARC กล่าวว่า “การอัปเกรดเป็นชิปเซ็ต 5G ช่วยผลักดันประสิทธิภาพการประมวลผลของแพลตฟอร์มให้อยู่ในระดับที่โดดเด่น ทำให้เราปรับปรุงการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนที่เราเห็นในส่วนประกอบและฮาร์ดแวร์ของสมาร์ทโฟนในปัจจุบันได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญไม่แพ้กัน เรากำลังส่งมอบ 5G ให้กับทุกระดับ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถเข้าถึงกลุ่มตลาดที่พัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ได้เหมือนกัน”
เพื่อส่งเสริมและสนับสนุกแนวคิดการส่งมอบสมาร์ทโฟน 5G ทั่วโลก realme อยู่ในระหว่างการดำเนินการขยายฝ่าย R&D จำนวน 7 แห่งทั่วโลกภายในปี 2021 สำหรับสำรวจเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ 5G จากทั่วทุกมุมโลก ในปัจจุบัน 90% ของศูนย์ R&D ได้มีการรองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ 5G ซึ่งในอีก 2 ปีข้างหน้า realme จะลงทุน 300 ล้านดอลล่าร์ ในทั่วโลก ในการวิจัยและพัมฯเทคโนโลยี 5G และผลิตภัณฑ์ 5G อย่างแพร่หลายให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วโลก