Featured
รีวิว realme Note 60 สมาร์ทโฟนทนทานรอบด้านด้วยดีไซน์ ArmorShell Protection พร้อมจอใหญ่ 6.74″ 90Hz พร้อมกล้องคมชัดสูง 32MP
รีวิว realme Note 60 สมาร์ทโฟน “ทนทานรอบด้าน” ให้ตัวเครื่องมาแข็งแกร่งแบบ ArmorShell Protection พร้อมด้วยมาตรฐานกันน้ำ-ฝุ่นแบบ IP64 ได้หน้าจอใหญ่ 6.74 นิ้ว ไหลลื่นด้วย Refresh Rate 90Hz ทั้งยังได้กล้องหลังคมชัดสูงที่ 32MP ควบคู่กับ AI มีชิปเซ็ตดีที่สุดในระดับเดียวกัน และแบตเตอรี่อึด 5000mAh
สรุปสเปค realme Note 60
- ขนาดตัวเครื่อง : 167.26 x 76.67 x 7.84 มม.
- น้ำหนัก : 187 กรัม
- หน้าจอแสดงผล IPS LCD ขนาด 6.74 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 90Hz, 180Hz Sampling rate และความสว่างสูงสุด 560 นิต
- หน่วยประมวลผล : Unisoc Tiger T612 Octa-core ความเร็ว 1.8GHz
- GPU : Mali-G57
- RAM : 4GB
- ROM : 64/128GB รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุด 2TB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ดังนี้
- เลนส์หลัก 32MP รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Depth 2MP
- กล้องหน้า 5MP รูรับแสง f/2.2
- ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย realme UI
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4GHz / 5GHz, Bluetooth 5.0, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
แกะกล่อง realme Note 60
ตัวกล่องของ realme Note 60 มาในกล่องสีเหลืองตามสีของแบรนด์ชัดเจน คาดด้วยชื่อรุ่น Note 60 สีดำตัดกันตรงกลาง
เปิดออกมาจะเจอกับของเสริมต่างๆ ในกล่องเล็ก ตั้งแต่เคสใส เข็มเปิดถาดซิม และคู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ชั้นตรงกลางจะเป็นตัวเครื่อง realme Note 60 พร้อมติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้วครับ
และชั้นล่างสุดจะมีหัวชาร์จแบบ 10W และสาย USB Type-C มาให้ครับ
ดีไซน์สวย แข็งแกร่งแบบ ArmorShell Protection
จุดเด่นของ realme Note 60 คือตัวเครื่องที่มาพร้อมความแข็งแกร่งเกินราคาพร้อมความคุ้มค่าในระดับเริ่มต้นให้กับผู้ใช้ทุกคน ซึ่ง realme ได้ออกแบบรุ่นนี้ด้วยคุณสมบัติใหม่ในชื่อ “ArmorShell Protection” ที่เป็นโครงสร้างความแข็งแรงสูงที่รวมมาตรการการปรับแต่งทั้งหมด 8 อย่างเพื่อเพิ่มความทนทานของตัวเครื่องเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการการงอ การตก และการขีดข่วน ทั้งยังเป็นมาตรฐานใหม่ที่ realme จะใช้งานในซีรีส์ C และซีรีส์ Note ทั้งหมดในอนาคตด้วยครับ
สิ่งที่ทำให้ตัวเครื่องเสริมความแกร่งได้ขนาดนี้เป็นเพราะโครงสร้างของอะลูมิเนียมหล่อที่แข็งแกร่งที่ฝาครอบด้านบนของเมนบอร์ดของรุ่นนี้ที่ใช้วัสดุอะลูมิเนียมหล่อที่มีความแข็งแรงสูงกว่ามาตรฐานในระดับเดียวกันถึง 20% ทั้งยังมีการเพิ่มเสริมการยึดที่แข็งแกร่งจำนวน 4 จุดทั้งสองข้างและตรงกลาง ช่วยให้ทนทานต่อการงอจากโครงสร้างทั่วไปถึง 123%
ขอพูดถึงเรื่อง ArmorShell Protection กันต่ออีกนิดครับ เพราะนอกจากส่วนประกอบภายในแล้ว realme Note 60 ยังได้กระจกที่เสริมความแข็งแรงสูง ทนทานต่อการตกตกและการขีดข่วนได้ดีมากขึ้นและสามารถผ่านการทดสอบการตกจากความสูง 1.5 เมตรลงบนพื้นผิวหินอ่อนได้แบบหายห่วงเลย รวมถึงได้กรอบป้องกันหน้าจอในการถูกกระแทก มีเคลือบฟิล์มป้องกันทนต่อรอยขีดข่วนมากขึ้นจากสารเคลือบเรซินโพลีเมอร์สูง และยังมีกาวเคลือบ 3 ส่วนประกอบที่สำคัญ คือ ได้แก่ SOC, DDR, และ EMMC เพื่อช่วยเพิ่มความเสถียรของการเชื่อมต่ออย่างมากเลยครับ
ที่สำคัญ realme Note 60 ยังเป็นรุ่นแรกในช่วงราคาเดียวกันที่ผ่านการรับรองความน่าเชื่อถือสูงจาก TÜV Rheinland High Reliability Certificate ซึ่งมอบประสบการณ์ทที่มีคุณภาพและรับประกันความเชื่อถือได้ในทุกสถานการณ์ เป็นการการันตีมาตรฐานคุณภาพสูงสุด ทำให้เราใช้งานได้อย่างสบายใจเพราะถูกสร้างมาให้ทนทานต่อการใช้งานหนัก ตั้งแต่การทดสอบในการใช้งานในชีวิตประจำวันไปจนถึงสถานการณ์ขั้นสูงด้วยครับ
นอกจากความแข็งแกร่งแล้ว ก็ยังมีความสวยงามแบบคมเข้มด้วยสีดำ Marble Black ที่มีลวดลายสวยงามเป็นเส้นโค้งที่ตัดกับฝาหลังของตัวเครื่อง โดยใช้ลักษณะจะเป็นแบบ Pearl Chain หลายล้านจุดที่ให้ความรู้สึกเบา คล่องตัว และยังแสดงความละเอียดสูงในทุกรายละเอียด
ทั้งนี้ตัวเครื่องก็บางเพียง 7.84 มม. ที่มีความบางมากๆ เสริมด้วยผิววัสดุแบบด้านที่ช่วยให้เกิดร้อยนิ้วมือได้น้อยมากๆ ทำให้การจับถือถนัดมือเลยทีเดียวครับ
มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP64
ในรุ่นนี้ไม่ใช่แค่แข็งแกร่งที่ตัวเครื่องเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ-ฝุ่น IP64 ที่ช่วยป้องกันฝุ่นได้ดีและป้องกันละอองน้ำได้ด้วย ทำให้เราพร้อมใช้ในหลายสถานการณ์เลย
หน้าจอขนาดใหญ่ 6.74″ และไหลลื่นแบบ 90Hz
พามาดูตรงหน้าจอแสดงผลกันบ้างครับ ในรุ่นนี้ใช้พาเนลแบบ IPS LCD ขนาดใหญ่ถึง 6.74 นิ้ว ใช้งานได้เต็มตา พร้อมความคมชัดระดับ HD+ ด้วยครับ ทั้งนี้ ก็ยังรองรับการใช้งานต่อได้แม้หน้าจอเปียกน้ำด้วยเทคโนโลยี Rainwater Smart Touch ที่สามารถแยกแยะระหว่างหยดน้ำและปลายนิ้วของมือได้อย่างฉลาก
ด้านความไหลลื่นก็ยังให้มาสูงสุดที่ Refresh Rate 90Hz โดยจะไม่สามารถปรับให้เป็น 90Hz ตลอดเวลาได้ แต่จะเป็น 90Hz อัตโนมัติที่ขึ้นอยู่กับการใช้งานแต่ละแอพพลิเคชั่น ซึ่งตรงนี้จะช่วยให้ประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดีครับ
ความสว่างของหน้าจอก็อยู่ที่สูงสุด 560 นิต ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้งานได้ในที่กลางแจ้งครับ
พาชมรอบเครื่อง
มาดูกันต่อที่รอบๆ เครื่องกันบ้างครับ ที่เหนือหน้าจอให้มาเป็นแบบหยดน้ำ ที่มีกล้องหน้า 5MP ฝังอยู่ พร้อมด้วยลำโพงสำหรับการสนทนาที่ขอบ
ฝั่งซ้ายจะเป็นช่องแบบ Triple Slots ที่ใส่ได้ถึง 2 ซิม และ MicroSD Card อีก 1 ช่องเลยครับ
ฝั่งขวาจะให้ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงมา พร้อมด้วยปุ่ม Power ที่สามารถสแกนลายนิ้วมือได้
ฝั่งด้านล่างเครื่องจะเป็นช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. ตามด้วยไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB-C และลำโพงตัวหลัก
และท้ายสุดที่ด้านหลังจะเป็นกล้องหลังคู่ พร้อมด้วยไฟแฟลช LED 1 ดวงครับ
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย realme UI
แม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็กราคาประหยัด แต่ก็แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย realme UI ด้วยครับ โดยมีฟีเจอร์ทั่วไปเข้ามาให้ใช้งานเพิ่มความสะดวกพอสมควร รวมถึงความไหลลื่นที่ค่อนข้างเสถียรครับ
สแกนลายนิ้วมือได้สะดวกที่ข้างเครื่อง!
สำหรับระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะอยู่ที่ตรงปุ่ม Power ข้างตัวเครื่อง ซึ่งสามารถใช้งานได้สะดวกพอสมควรเลยครับ เวลาหยิบเครื่องขึ้น นิ้วโป้งที่มือขวาก็จะไปตรงกับตรงเซ็นเซอร์พอดีเลย
มาพร้อม Mini Capsule 2.0 แสดงรายละเอียดได้มากขึ้น
Mini Capsule 2.0 จะเป็นการแสดงข้อมูลที่ขยายเป็นแถบออกมาจากกล้องหน้า Punch Hole ตรงกลาง ซึ่งในเวอร์ชันนี้เราสามารถกดตรงแถบเล็กเพื่อขยายการแสดงรายละเอียดข้อมูลต่างๆ ได้ด้วยครับ
AI Boost Engine เพิ่มประสิทธิภาชิปเซ็ตเพื่อใช้งานได้ลื่นขึ้น !
ในฟีเจอร์นี้จะเป็นการให้ realme Note 60 ได้เพิ่มประสิทธิภาพของชิปเซ็ตได้สูงขึ้นกว่าเดิม ควบคู่ไปกับการลดความหน่วงระหว่างการเล่นเกมด้วย โดยที่เราสามารถเข้าไปตั้งค่าเพื่อเพิ่ม Clock ของ CPU ได้สูงสุดของชิป Unisoc Tiger T612 ที่ 1.8GHz รวมถึงเพิ่มความเร็วของ RAM เพื่อประมวลผลและรีดประสิทธิภาพต่างๆ ระหว่างการเล่นเกมให้ไหลลื่นที่สุด
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ขับเคลื่อนด้วยชิป Unisoc T612 ดีที่สุดในราคาเดียวกัน !
realme Note 60 ได้ใช้ชิป Unisoc Tiger T612 Octa-core ที่มีความเร็ว Clock สูงสุดที่ 1.8GHz โดยเป็นชิปที่มีขนาด 12nm ซึ่งชิปตัวนี้เป็นชิปเซ็ตที่ทรงพลังที่สุดในราคาระดับเดียวกันเลยทีเดียวครับ โดยจากที่ลองใช้งานแล้วก็ทำได้เสถียร การตอบสนองต่างๆ ทำได้ดีมากจากการใช้งานทั่วไปครับ ทั้งยังการันตีการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ไหลลื่นถึง 48 เดือน รวมถึงการเล่นเกมก็ได้ GPU Mali-G57 ที่ประมวลผลเกมระดับเริ่มต้นได้ดีมากๆ ครับ
รองรับ Dynamic RAM ขยาย RAM ได้มากขึ้น !
ในรุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยี Dynamic RAM ที่สามารถขยาย RAM ได้เพิ่มขึ้นจากปกติครับ โดยรุ่นที่เราได้มาเป็นรุ่น RAM 6GB ที่สามารถเพิ่มได้สูงสุด 12GB แต่หากเป็นรุ่นขายจริงจะอยู่ที่ RAM 4GB แต่ก็เพิ่ม Dynamic RAM ได้สูงสุดถึง 8GB เลยทีเดียวครับ
ผลการทดสอบคะแนนด้วย AnTuTu v10 และ Geekbench 6
- ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.2.9 ได้มาที่ 261,186 คะแนน
- ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 434 คะแนน และ Multi-Core ที่ 1,457 คะแนน
ทดสอบการเล่นเกม
การเล่นเกมด้วย realme Note 60 เราได้ทดสอบกับเกม ROV เป็นหลัก โดยการตั้งค่ากราฟิกเราตั้งค่าตามค่าเริ่มต้นเลย เป็นการแสดงผลระดับสูง, ภาพ HD สูงมาก และเฟรมเรทสูงด้วยครับ ซึ่งเราเล่นแล้วเฟรมเรทในเกมทำได้เสถียรและนิ่งมากตั้งแต่ต้นเดมเลย รวมถึง Refresh Rate หน้าจอก็ขยับขึ้นมาเป็น 90Hz แบบรู้สึกได้เลยเพราะการสัมผัสตอบสนองไวขึ้นและเรียลไทม์มากขึ้นด้วยครับ ใครที่เล่นเกมนี้เป็นหลักก็หายห่วงได้เลยครับ
แบตเตอรี่สุดอึด 5000mAh ใช้งานนานสุดถึง 1.8 วัน
ตัวแบตเตอรี่ที่ให้มาในรุ่นนี้มีขนาดใหญ่ถึง 5000mAh ซึ่งต่อการชาร์จ 1 ครั้ง สามารถอยู่ได้นานสูงสุดถึง 1.8 วัน หรือ เกือบ 2 วันเต็มเลยครับ ทั้งนี้ realme Note 60 ก็ยังมีสุขภาพแบตมากกว่า 80% แม้การชาร์จครบ 1,000 ไซเคิลไปแล้ว
กล้องหลังถ่ายสวยด้วยกล้อง 32MP
realme Note 60 มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ คมชัดสูงสุด 32MP นับว่าเป็นกล้องที่ดีที่สุดในเรทราคาเดียวเลยก็ว่าได้ครับ เพราะมีทั้ง AI ตรวจจับและระบุฉากได้แม่น และมี HDR ให้ถ่ายภาพได้หลายสถานการณ์มากขึ้นด้วย ซึ่งฟีเจอร์หลักๆ จะมีอะไรบ้าง เรามาชมไปพร้อมกันครับ
ถ่ายได้ฉลาดด้วย AI และ Auto HDR ไม่กลัวแม้ย้อนแสง
realme Note 60 ให้เราได้ใช้งานกล้องหลังแบบสุดคุ้มที่นับว่าเป็นกล้องที่ดีสุดในเรทราคาเท่าๆ กันเลยครับ เพราะได้ทั้ง AI ตรวจจับฉากต่างๆ ได้แม่นยำ แล้วมีการปรับสีสันให้เหมาะสมกับแต่ละฉากด้วย รวมถึงการมี Auto HDR ที่จับการย้อนแสงได้ด้วย ซึ่งมักจะไม่ค่อยได้เห็นในสมาร์ทโฟนราคานี้ครับ
Portrait ถ่ายสวยพร้อมปรับบิวตี้ได้ธรรมชาติ
สำหรับ realme Note 60 ก็มาพร้อมกับโหมดบุคคลหรือการถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่สามารถถ่ายได้แบบละลายหลังได้ค่อนข้างคมและแม่นยำเลย การตัดขอบรอบตัวถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมสำหรับสมาร์ทโฟนเรทราคานี้ครับ รองรับ HDR ที่ถ่ายย้อนแสงได้ ที่สำคัญยังรองรับการปรับแต่งใบหน้า เพิ่มความขาว ความสดใส และอื่นๆ ได้ครบเลยในโหมดนี้
โหมดกลางคืนยังถ่ายได้สวย เพิ่มความสว่างได้ดี !
แม้จะเป็นรุ่นราคาหลักพันต้นๆ แต่ก็ยังมาพร้อมโหมดกลางคืนที่ได้ความสว่างขึ้นมาชัดเจนในที่แสงน้อย เพิ่มรายละเอียดของวัตถุที่อยู่ในที่มืดได้ดี ทั้งยังใช้เวลาในการประมวลผลไม่นานด้วยครับ
เซลฟี่สวย ปรับบิวตี้และย้อนแสงได้ !
การถ่ายเซลฟี่ในกล้องหน้ายังทำได้ดีเลยทีเดียวครับ รองรับการใช้งานเหมือนกับการถ่ายพอร์ตเทรตในกล้องหลังเลย ไม่ว่าจะเป็น Auto HDR การปรับแต่งความสวยงามบนใบหน้า และการละลายฉากหลังครับ
สรุปการใช้งาน realme Note 60
realme Note 60 ชูจุดเด่นในเรื่องความแข็งแกร่งของตัวเครื่องได้เป็นอย่างดีมากๆ ด้วยดีไซน์แข็งแกร่งแบบ ArmorShell Protection ที่ให้ทนทานรอบด้านเลยครับ ทั้งการงอ การตก และการกันน้ำก็สามารถใช้งานต่อได้โดยไม่ต้องกังวลเลยครับ ทั้งยังได้ดีไซน์ที่มีความบางเพียง 7.84 มม. พร้อมลวดลาย Pearl Chain ที่สวยสะดุดตามาก ทั้งนี้ สเปคต่างๆ ก็จัดเต็มคุ้มเกินราคา ตั้งแต่หน้าจอใหญ่ 6.74 นิ้ว ไหลลื่น 90Hz ใช้ชิปจาก Unisoc ที่ถือว่าดีที่สุดในเซกเมนต์ ให้แบตเตอรี่อึด 5000mAh และกล้องหลังคมชัดสูงสุดถึง 32MP โดยทั้งหมดนี้ให้เรามาในราคาสุดคุ้มมากจริงๆ
ราคาและวันวางจำหน่าย realme Note 60
realme Note 60 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Voyage Blue และสีดำ Marble Black โดยสนนราคาอยู่ที่ 3,499 บาท (4GB+64GB) และ 3,999 บาท (6GB+128GB) โดยจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 กันยายน 2567 เป็นต้นไป ผ่าน realme Brand Shop, ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์