Featured
รีวิว realme Pad แท็บเล็ตดีไซน์บางเฉียบ พร้อมจอสุดคมชัด WUXGA+ ขนาด 10.4″ และความบันเทิงขั้นสุดด้วยลำโพง 4 ตัว Dolby Atmos
รีวิว realme Pad แท็บเล็ตรุ่นแรกจาก realme ที่จัดสเปคมาแบบอัดแน่น ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์แบบ Ultra-Slim บางเพียง 6.9 มม. ควบคู่กับหน้าจอใหญ่ 10.4 นิ้ว พร้อมเป็นหนึ่งในแท็บเล็ตที่ให้ความคุ้มค่าด้านความบันเทิงแน่นอนด้วยการรองรับลำโพงถึง 4 ตัว แบบ Dolby Atmos ใครที่มองหาแท็บเล็ตแจ่มๆ ลองมารับชมรีวิวเต็มๆ จากทีมงาน iphone-droid.net กันครับ
สรุปสเปค realme Pad
- ขนาดตัวเครื่อง : 246.1 x 155.9 x 6.9 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 440 กรัม
- หน้าจอแสดงผล LCD กว้าง 10.4 นิ้ว ความละเอียด WUXGA+ (2000 x 1200 พิกเซล) สัดส่วนพื้นที่หน้าจอ 82.5% และความสว่างสูงสุด 360 นิต (ทั่วไป)
- หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio G80 Octa Core ความเร็ว 2.0GHz
- GPU : Mali-G52
- RAM 3/4GB
- ROM 32/64GB เพิ่ม microSD ได้สูงสุด 1TB
- ระบบปฎิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย realme UI for Pad 1.0
- กล้องถ่ายรูปด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 105 องศา
- รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม (ซิม 2 เป็น Hybrid)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, พอร์ต USB Type-C และช่องเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มม.
- รองรับลำโพง 4 ตัวแบบ Dolby Atmos
- แบตเตอรี่ความจุ 7100mAh รองรับ 18W Quick Charge และรองรับ Reverse Charging
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเครื่อง realme Pad
- อะแดปเตอร์กำลังไฟ 18W
- สาย USB Type-C
- อุปกรณ์เปิดถาดซิม
ดีไซน์ Ultra Slim
แม้เป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของแบรนด์ แต่ realme Pad ทำดีไซน์ออกมาได้เรียบหรูมาก ด้วยวัสดุวัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์ มีความบางพร้อมขอบแบนทำให้มีความหนาเพียง 6.9 มม. เท่านั้น ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากและพกพาไปได้ทุกที่โดยไม่รู้สึกเกะกะ
โดยที่ฝาหลังของแท็บเล็ตรุ่นนี้ให้ความรู้สึกที่เกินราคาด้วยวัสดุผิวด้าน ติดรอยนิ้วมือได้ยาก รวมไปถึงสีเทา Real Grey ที่เพิ่มความคลาสสิกไปในตัว ซึ่งยังมีสี Real Gold ให้เลือกอีกด้วย
หน้าจอใหญ่พร้อมคมชัดระดับ WUXGA+
หน้าจอแสดงผลของ realme Pad ก็จัดมาให้รับชมได้เต็มตาด้วยขนาดใหญ่ถึง 10.4 นิ้ว มีความคมชัดระดับ WUXGA+ (2000 x 1200 พิกเซล) จะดูวิดีโอหรือเล่นเกมก็ทำได้จุใจสุดๆ
และด้วยขอบหน้าจอที่ไม่หนาจนเกินไปทำให้มีสัดส่วนพื้นที่หน้าจออยู่ที่ 82.5% ทั้งยังมีความสว่างสูงสุดอยู่ 360 นิต ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานกลางแจ้งแล้วครับ
มาลองดูที่รอบเครื่องกันครับ หากเราใช้งานเป็นตั้ง จะมีกล้องหน้าที่อยู่ด้านขวาของหน้าจอครับ
ด้านขวาตัวเครื่องจะมีทั้งปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง, ไมโครโฟน 2 ตัว และช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM 2 ช่อง โดยช่องที่ 2 จะเป็น Hybrid (ซิมที่ 2 หรือ microSD Card)
ส่วนด้านล่างหน้าจอจะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ลำโพง 2 ตัว และพอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง
ด้านบนตัวเครื่องจะมีลำโพงอีก 2 ตัว รวมเป็น 4 ตัว และปุ่ม Power
และสุดท้ายที่หลังเครื่องจะมีเพียงกล้องหลัง 1 เลนส์เท่านั้น
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฎิบัติการ
realme Pad ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่มาพร้อม realme UI for Pad 1.0 ที่เป็น UI สำหรับแท็บเล็ตของ realme โดยเฉพาะครับ ทำให้มีฟีเจอร์บางอย่างที่เน้นการใช้งานเฉพาะฝั่งแท็บเล็ตได้อย่างเหมาะสม
หน้าตา UI : realme UI for Pad 1.0
รองรับ Multi-Windows ใช้งานได้ 2 แอปพร้อมกัน
ด้วยหน้าจอที่ให้มาแบบกว้างๆ 10.4 นิ้ว ใครจะใช้งาน 2 แอปพลิเคชั่นพร้อมกันก็ทำได้สะดวกมากครับ ทั้งยังสามารถปรับสัดส่วนของแต่ละแอปได้ตามความต้องการเลยด้วย
โหมดถนอมสายตา (Eye Comfort Mode)
สำหรับการถนอมสายตาจริงๆ จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 โหมดครับ โดยโหมดนี้จะเป็นการตัดแสงสีฟ้าตามปกติ ช่วยให้ไม่เมื่อยล้าดวงตามากเกินไปเวลาใช้งานนานๆ ครับ
โหมดกลางคืน (Dark Mode)
อีกโหมดหนึ่งจะเป็นโหมดกลางคืนที่จะเปลี่ยนพื้นหลังของระบบและแอปพลิเคชั่นที่รองรับเป็นสีดำทั้งหมดครับ เหมาะสำหรับใช้งานในที่แสงน้อยหรือตอนกลางคืนไปเลย แถมยังลดความสว่างได้สูงสุดเหลือเพียง 2 นิตเท่านั้น
โหมดการอ่าน (Reading Mode)
และโหมดสุดท้ายของโหมดหน้าจอจะเป็นโหมดการอ่านที่ไว้สำหรับคนที่อ่านบทความหรือหนังสือ E-Book นานๆ ครับ โดยสีสันบนหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีขาวดำทั้งหมดเมื่อไม่ให้แสงบนหน้าจอมาทำร้ายดวงตามากจนเกินไปครับ
ระบบความปลอดภัย
สำหรับการล็อกเครื่อง นอกจากจะมีแบบรหัสผ่านตามปกติแล้ว ก็ยังมีการปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Recognition) ที่ใช้งานได้ดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะตั้งเครื่องด้านไหน จะตั้งจะนอนหรือกลับหัวกลับหางก็ยังคงตรวจจับใบหน้าได้อยู่และรวดเร็วซะด้วย
ลำโพง 4 ตัว Dolby Atmos พร้อม Hi-Res กับความบันเทิงเต็มรูปแบบ
อย่างที่บอกไปข้างต้นครับว่า realme Pad เป็นแท็บเล็ตที่เน้นเรื่องความบันเทิงแบบจัดเต็ม ซึ่งก็มีลำโพงถึง 4 ตัวแบบ Quad Speaker ทั้งยังรองรับระบบเสียง Dolby Atmos และ Hi-Res ให้เสียงที่กระหึ่มมากๆ ที่สำคัญยังมีฟีเจอร์ Adaptive Surround Sound ที่ไม่ว่าเราจะหมุนเครื่องชมด้านไหน เสียงที่ได้ก็จะตรงกับตัววิดีโอทั้งหมด
เด็กๆ ให้ใช้งานได้ด้วย Google Kids Space
ใครที่มีลูกหลานที่อยู่ในวัยที่ต้องการเรียนรู้สิ่งต่างๆ และอยากให้ชมผ่าน realme Pad ก็จะมีพื้นที่สำหรับเด็กจาก Google อย่าง Google Kids Space ที่จะมีเนื้อหาเพื่อเด็กๆ เอาไว้ให้ในเครื่องแล้วทันที โดยเด็กๆ สามารถเลือกความสนใจได้เอง เช่น วิทยาศาสตร์, สัตว์ หรืออื่นๆ ทั้งนี้ ผู้ปกครองก็ยังสามารถตั้งเวลาการใช้งานได้ตามความเหมาะสมเลยครับ
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ฮาร์ดแวร์ภายในของ realme Pad ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล MediaTek Helio G80 ขนาด 12 นาโนเมตร ซึ่งมีความแรงขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 35% ควบคู่กับการที่ GPU Mali-G52 แรงขึ้น 20% ทำให้การใช้งานหนักๆ โดยเฉพาะการเล่นเกมทำได้ไหลลื่นมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ RAM ที่ให้มา 4GB ก็เพียงพอต่อการใช้งาน 2 แอปพร้อมกันใน 1 หน้าจอแน่นอน รวมถึง ROM ที่ให้มาสูงสุด 64GB ก็สามารถเพิ่ม microSD Card ได้สูงสุดถึง 1TB ใครจะถ่ายวิดีโอหรือถ่ายภาพก็เก็บได้แบบจุกๆ ครับ
ทดสอบการเล่นเกม
ROV
ใครอยากเล่นเกม ROV แบบจอใหญ่ๆ เห็นแมพได้กว้างๆ realme Pad ก็สามารถเปิดกราฟิกได้ระดับสูงสุดทั้งหมด ยกเว้นการแสดงผลระดับสูง และเฟรมเรทที่ยังคงเป็นระดับปกติครับ โดยการเล่นภายในเกมแบบ 5 VS 5 ก็เล่นได้ไหลลื่นครับ ไม่มีอาการกระตุกใดๆ เฟรมเรทก็วิ่งประมาณ 28-30fps ตลอดเกม
Asphalt 9: Legends
ส่วนเกมกราฟิกแรงๆ อย่างเกมนี้ก็เปิดภาพระดับสูงได้ด้วย ทำให้ภาพที่แสดงผลออกมาสวยงามมากๆ ยิ่งใช้งานร่วมกับหน้าจอคมชัดสูงก็ยิ่งเห็นรายละเอียดของเกมมากขึ้นไปอีก
แบตใหญ่ 7100mAh ใช้งานได้ครบวัน!
realme Pad จัดแบตเตอรี่มาให้แบบขนากใหญ่ถึง 7100mAh ใครที่ใช้งานหรือทำงานทั่วไประหว่างวัน บอกเลยว่าอยู่ได้ครบวันแน่นอนครับ ส่วนใครที่เน้นวิดีโอก็ดูได้นานสูงสุดถึง 12 ชั่วโมงไปเลยจ้า
เมื่อให้แบตเตอรี่มาเยอะก็ต้องมีชาร์จเร็วแบบ 18W Quick Charge ครับ ซึ่งจากที่ลองชาร์จแล้วจาก 40% ถึง 100% ใช้เวลาไปประมาณ 70 นาทีครับ
นอกจากนี้รองรับ Reverse Charging เพื่อเปลี่ยนตัวเองเป็น Power Bank ชาร์จให้กับอุปกรณ์อื่นได้ด้วย
กล้องถ่ายรูป
สำหรับกล้องถ่ายรูปทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังของ realme Pad ถือว่าใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ครับ แม้ว่าอาจจะไม่ได้ใช้งานบ่อย แต่ถ้าใครไม่อยากหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อถ่ายรูปทั่วไปก็สามารถใช้แทนได้ชั่วคราวครับ
กล้องหลัง
กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 105 องศา
โดยกล้องหน้ายังมีมุมกว้าง 105 องศา ทำให้เห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวได้มากขึ้น ซึ่งเหมาะมากสำหรับการวิดีโอคอล เพราะได้กล้องระดับ HD แถมมีไมโครโฟนคู่ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนอีกด้วย (Dual Mic Noise Cancellation)
สรุปการใช้งาน รีวิว realme Pad
สำหรับแท็บเล็ตรุ่นแรกของ realme อย่าง realme Pad ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมตั้งแต่เรื่องดีไซน์ที่ดูพรีเมี่ยมเกินราคาไปมาก โดยฝาหลังเป็นแบบผิวด้านและตัวเครื่องก็ยังมีความบางเพียง 6.9 มม. เท่านั้น ส่วนใครใช้งานหนักๆ ก็ทำได้จากขุมพลังเกมมิ่งอย่าง Helio G80 ที่เล่นเกมฮิตๆ ในตอนนี้ได้ครบทั้งหมด รวมไปถึงฟีเจอร์ที่รองรับความบันเทิงแบบเต็มที่ ทั้งหน้าจอใหญ่ 10.4 นิ้ว คมชัดระดับ WUXGA+, ลำโพง 4 ตัวแบบ Dolby Atmos และแบตยักษ์ถึง 7100mAh
ราคาวางจำหน่าย
realme Pad วางจำหน่ายในประเทศไทยจะมี 3 ความจุ ดังนี้
- รุ่นความจุ 4+64GB : 8,990 บาท
- รุ่นความจุ 6+128GB (Wi-Fi) : 10,990 บาท
- รุ่นความจุ 6+128GB (Wi-Fi + LTE) : 11,990 บาท
โดย realme Pad เริ่มวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ รวมไปถึง Shopee และร้านค้าออนไลน์