Android News
Speed To Victory! เปิดตัว “realme 13 Series” ที่ทุกคนรอคอย
อัพเกรดชิปเซ็ตตัวแรง ขึ้นแท่น Gaming Dominator แห่งปี! ในราคาเริ่มต้นเพียง 8,999 บาท
เกมมิ่งสมาร์ตโฟนตัวแรงแห่งปี! วันนี้ realme (เรียลมี) แบรนด์สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก เปิดตัว “realme 13 Series 5G” สมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดจากตระกูล Number Series ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมขึ้นแท่น “ผู้นำด้านเกมมิ่งสมาร์ตโฟน (Gaming Dominator)” ด้วยการอัปเกรดประสิทธิภาพขั้นสุดระดับ “อัลตร้า” ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ULTRA POWER ด้วยซีพียูตัวท็อปของเซกเมนต์ – ULTRA FAST ระบบชาร์จเร็วทันใจ – ULTRA COOL ระบบระบายความร้อนใหม่ล่าสุด เมื่อผสานการทำงานจะมอบประสบการณ์สมาร์ตโฟนอันยอดเยี่ยม ทั้งการใช้งานแนวไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันและการเล่นเกมออนไลน์อันหนักหน่วง ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วแรง ลื่นไหลขั้นสุด และปราศจากปัญหาความร้อนกวนใจ การันตีด้วยสโลแกน Speed to Victory ที่พร้อมให้คุณเป็นผู้ชนะในทุกเกมการแข่งขันโดย “realme 13 Series 5G” นำเสนอ 2 รุ่น ทั้ง “realme 13+ 5G” และ “realme 13 5G”
realme 13 Series 5G ถือเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญในการกำหนดนิยามกลุ่มผลิตภัณฑ์ Number Series ใหม่ภายใต้สโลแกน “Next-gen Power” โดยพัฒนาให้ realme 13 Series 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่ทรงพลังพร้อมคุณสมบัติขั้นสูงและประสิทธิภาพที่เหนือกว่าคู่แข่งทุกรายในเซกเมนต์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเรียลมีในการนำเสนอประสบการณ์การใช้งานอันยอดเยี่ยมและเหนือล้ำเกินความคาดหวังของผู้ใช้งานรุ่นใหม่ทั่วโลก
realme 13+ 5G แชมป์เกมมิ่งโฟนคนใหม่แห่งวงการ
Dimensity 7300 Energy ชิปเซ็ตตัวแรงสุดแห่งเซกเมนต์
realme 13+ 5G เป็นสมาร์ตโฟนกลุ่มแรก ๆ ที่ใช้หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 7300 Energy 5G ซึ่งมอบประสิทธิภาพเหนือชั้นด้วยคะแนน AnTuTu อันน่าประทับใจกว่า 750,000 ผลิตบนสถาปัตยกรรมระดับ 4 นาโนเมตร ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานได้ถึง 30% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน จึงใช้พลังงานต่ำแต่ยังสามารถมอบประสบการณ์การเล่นเกมในอัตราเฟรมสูงได้อย่างเสถียรและราบรื่น มาพร้อมเทคโนโลยี DRE (Dynamic RAM Expansion) ของเรียลมีที่ทันสมัยที่สุดในอุตสาหกรรม ทำให้เพิ่ม RAM สูงสุด 12GB + 14GB ที่ 26GB มอบความเร็วในการเปิดและเรียกการทำงานของแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็ว
ยกระดับการเล่นเกมด้วยโหมด GT Mode มอบเฟรมเรทเสถียร 90fps นาน 7 ชั่วโมง
GT Mode ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์เกมมิ่งที่ราบรื่น ตอบโจทย์การแข่งขัน eSports ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยในปัจจุบัน GT Mode ใน realme 13+ 5G รองรับ 6 เกมหลัก ได้แก่ PUBG MOBILE, BGMI, Free Fire, MLBB, HOK(120FPS) ถือเป็นมือถือเครื่องแรกในเซกเมนต์ที่มีความสามารถนี้ โดย GT Mode สามารถคงอัตราเฟรมที่ 90fps ได้นานสูงสุด 7 ชั่วโมง(สำหรับเกม MLBB และ FreeFire) นอกจากนี้ ยังทำงานร่วมกับฟีเจอร์ GT Gaming ให้คุณสามารถปรับความถี่ CPU และ GPU ที่เหมาะสมได้ตลอดเวลา และยังมี Game Filters ที่ช่วยเพิ่มคอนทราสต์ ความอิ่มตัวของสี ความคมชัด และมอบเอฟเฟ็กต์ภาพที่สวยงาม ทำให้ง่ายต่อการมองเห็นศัตรูในระหว่างการเล่นเกม และยังมีโหมดอื่น ๆ ให้เลือกใช้งานตามลักษณะเกมได้อย่างไร้ขีดจำกัด
การระบายความร้อนแบบใหม่ด้วย Stainless Steel Vapor Cooling System และระบบชาร์จ 80W ที่เร็วที่สุดในเซกเมนต์
realme 13+ 5G มาพร้อมกับ Stainless Steel Vapor Cooling System มีพื้นที่ระบายความร้อนมากถึง 6,050 ตารางมิลลิเมตร ซึ่งใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์และใหญ่กว่ารุ่นก่อนถึง 37% โดยใช้เทคโนโลยีและวัสดุระบายความร้อนแบบเดียวกับรุ่นแฟล็กชิปอย่าง GT6 เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน eSports อย่างมาก นอกจากนี้ ยังมาพร้อมคุณสมบัติการชาร์จไว 80W Ultra Charge อันน่าประทับใจ เมื่อชาร์จ 5 นาทีจะทำให้คุณเล่นเกมได้เต็มชั่วโมง มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ตอบโจทย์เกมเมอร์ตัวจริงที่ไม่ต้องการชาร์จมือถือบ่อย
จอแสดงผล OLED 120Hz พร้อมการออกแบบ Victory Speed Design
realme 13+5G มาพร้อมจอแสดงผล OLED E-sport 120Hz ที่ไม่เพียงมอบคุณภาพการแสดงผลที่สดใส แต่ยังไวต่อการทัชสกรีนด้วย Touch Sampling Rate แบบเทอร์โบชาร์จ 1200Hz มอบมุมมองกว้างด้วยพาแนลแบบ Pro-XDR และลำโพงคู่สเตอริโอ เพิ่มประสบการณ์การรับชมของคุณให้ดื่มด่ำล้ำลึกยิ่งขึ้น
ตัวเครื่องใช้การออกแบบ Victory Speed Design โดยได้รับแรงบันดาลใจจากคีย์เวิร์ด “Victory” และ “Speed” จากเกมแข่งรถ โดยนำแนวคิดนี้มาเชื่อมโยงกับประสิทธิภาพเร็วแรงเข้าด้วยกัน และยังคงรักษางานออกแบบตัวเครื่องที่บางเฉียบด้วยความหนาเพียง 7.69 มม. น้ำหนักเพียง 185 กรัม นอกจากนี้ ยังมีความทนทานเป็นพิเศษ ด้วยระดับการป้องกันน้ำและฝุ่นที่ IP65 พร้อมการเสริมโครงสร้างทั้ง 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ กรอบอะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป โครงโลหะแบบชิ้นเดียว กระจกนิรภัย และการเคลือบผิวให้ทนทานต่อการสึกหรอและการกัดกร่อนสูง
เซนเซอร์กล้องตัวท็อป Sony LYT-600 OIS ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล
ด้วยเซนเซอร์กล้อง Sony LYT-600 OIS ความละเอียด 50MP พร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.95” พร้อมรูรับแสงกว้าง f/1.8 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS และรองรับวิดีโอ 4K ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกช็อตที่ถ่ายด้วย realme 13+5G จะสวยงาม สดใส สมจริง และด้วยคุณสมบัติ Light Fusion Engine ยังช่วยคุณภาพของไฟล์ภาพ ไม่ว่าจะเป็นฉากกลางคืนหรือภาพถ่าย HDR ก็ให้คุณภาพไฟล์ดีเยี่ยมอย่างน่าประทับใจ
ฟีเจอร์ AI สุดล้ำ
realme 13+5G นำเสนอฟีเจอร์ AI มากมายที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น อาทิ ฟีเจอร์ AI Clear Voice ซึ่งใช้เทคโนโลยีการจดจำเสียงด้วย AI ขั้นสูง ช่วยแยกแยะและขยายเสียงของมนุษย์ในระหว่างการคุยสาย จึงมั่นใจได้ว่าคุณจะได้ยินเสียงของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง และยับมีคุณสมบัติ AI ต่าง ๆ อีกมากมายที่จะทำให้ realme 13+5G ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม
realme 13 5G ที่สุดของสเปกมือถือระดับ Upper Mid-range
สร้างมาตรฐานใหม่ด้านประสิทธิภาพด้วยชิปเซ็ต Dimensity 6300 5G
realme 13 5G ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 6300 5G ซึ่งมีคะแนนมาตรฐาน AnTuTu สูงถึง 460,000 ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน ขับเคลื่อนด้วยแกนประมวลผล A76 อันทรงพลังซึ่งมีค่าโอเวอร์คล็อกสูงสุด 2.4GHz ซึ่งสูงกว่ามือถือคู่แข่งถึง 10% จึงมั่นใจได้ถึงการตอบสนองที่ฉับไวและการทำงานแบบมัลติทัสก์ได้อย่างง่ายดายราบรื่น
พร้อมชนทุกเกมด้วยฟีเจอร์เกมมิ่งขั้นสูงเหมือนรุ่นพี่
เช่นเดียวกับรุ่น realme 13+5G โดย realme 13 5G ยังมาพร้อม GT Mode เพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่เหนือกว่าด้วยการรักษาเฟรมเรตแบบนิ่ง ๆ ที่ 60fps ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การปรับแต่งพลังงาน การเปิดเกมได้อย่างรวดเร็ว ตัวแทร็กสัญญาณWi-Fi และฟิลเตอร์ต่าง ๆ พร้อมจอแสดงผลแบบ Eye Comfort 120Hz ความละเอียด FHD+ ที่ให้ภาพที่ราบรื่น ลดการเกิดภาพเบลอจากการเคลื่อนไหว และคุณภาพทัชสกรีนที่ตอบสนองไวเป็นพิเศษ มาพร้อมลำโพงสเตอริโอคู่ที่มีเวทีเสียงกว้าง ช่วยให้เกมเมอร์สามารถระบุตำแหน่งศัตรูในเกมอย่าง PUBG และ Call of Duty ได้อย่างแม่นยำ
ในส่วนของระบบระบายความร้อนยังใช้ Stainless Steel Vapor Cooling System เช่นเดียวกับ realme 13+5G โดยมีพื้นที่ระบายความร้อนที่ใหญ่ที่สุดในระดับราคาเดียวกันที่ 2,249 ตารางมิลลิเมตร จับคู่กับเทคโนโลยีการกระจายความร้อนแบบหมุนเวียนสองทิศทาง จึงถ่ายเทความร้อนออกจากซีพียูและส่วนประกอบสำคัญอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วกว่า
ชาร์จเร็ว SUPERVOOC 45W พร้อมแบตเตอรี่ 5000mAh
realme 13 5G มีแบตเตอรี่สุดอึดขนาด 5,000mAh และระบบการชาร์จเร็ว 45W จึงใช้งานได้นานขึ้น ชาร์จได้เร็วขึ้น พร้อมตอบโจทย์การเล่นเกมที่เข้มข้นได้ตลอดวัน โดยเมื่อชาร์จไฟเต็มจะสามารถเล่นเกม Free Fire ต่อเนื่องได้นานถึง 7 ชั่วโมง มอบพลังงานที่เหนือขีดจำกัดอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ realme 13 5G ยังมีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นที่ IP64 สามารถใช้งานได้ในทุกสภาวะ ภายใต้การออกแบบตัวเครื่องที่สวยงาม Victory Speed Design มอบภาพลักษณ์แห่งชัยชนะในทุกมุมมอง
ถูกใจสายถ่ายภาพด้วยกล้อง 50MP OIS
ด้วยความละเอียดกล้อง 50MP OIS ทำให้ผู้ใช้งานสามารถจับภาพช่วงเวลาประทับใจต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ ด้วยคุณภาพระดับภาพยนตร์ โดยเป็นมือถือรุ่นแรก ๆ ในกลุ่มที่สามารถบันทึกวิดีโอระดับ 2K พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (OIS) จับภาพวิดีโอคมชัดอย่างน่าทึ่งเทียบชั้นได้กับกล้องมืออาชีพในส่วนของการถ่ายภาพนิ่งยังเหมาะกับการถ่ายภาพทุกแนวเพราะมาพร้อมกับ OIS ระดับเรือธง ช่วยลดความเบลอจากการถือกล้อง ชดเชยความคมชัดเมื่อมือสั่นและให้ภาพที่มีความเสถียรอย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าใช้ในการบันทึกช็อตเด็ดหรือการทำ vlog ก็ตาม
ราคาและการจำหน่าย
realme 13+ 5G นำเสนอสเปกความจุ 512/12GB ในราคา 13,999 บาท และ 256/12GB ในราคา 11,999 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Victory Gold และ Dark Purple สามารถเป็นเจ้าของได้ผ่านช่องทาง
o ช่องทางโอเปอเรเตอร์ True และ Dtac ในรุ่นความจุ 256/12GB ราคาเริ่มต้นเพียง 6,699 บาท และรุ่นความจุ 512/12GB ราคาเริ่มต้นเพียง 8,499 บาท และช่องทาง AIS รุ่นความจุ 256/12GB ราคาเริ่มต้นเพียง 7,799 บาท และรุ่นความจุ 512/12GB ราคาเริ่มต้นเพียง 8,499 บาท รับฟรี realme Buds T01, realme Giftbox และประกันจอแตก 1 ปี รวมมูลค่า 10,497 บาท
o ช่องทางตัวแทนจำหน่าย Banana, BKK, Kingkong, IT City, CSC, TG, Jaymart, Maxlink, Stamp และ Advice รับฟรี realme Buds T01, realme Giftbox และประกันจอแตก 1 ปี รวมมูลค่า 10,497 บาท
o ช่องทางอีคอมเมิร์ซ Shopee, Lazada และ Tiktok Shop รับฟรีคูปองส่วนลด 1,000 บาท, realme Buds T01, realme Gift Box พร้อมประกันจอแตก 1 ปี และ PUBG VIP Item Code Card (พิเศษ! ในช่วงพรีออเดอร์สำหรับความจุ 12+512GB Exclusive เฉพาะ Shopee เท่านั้น)
โดยสามารถพรีออเดอร์ได้ทุกช่องทางตั้งเเต่วันที่ 17 – 24 ตุลาคมและจำหน่ายวันแรกวันที่ 25 ตุลาคมเป็นต้นไป
realme 13 5G นำเสนอสเปกความจุ 256/12GB ในราคา 8,999 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Speed Green และ Dark Purple สามารถเป็นเจ้าของได้ผ่านช่องทาง
o ช่องทางโอเปอเรเตอร์ True และ Dtac ในราคาเริ่มต้นเพียง 5,499 บาท และ AIS ในราคาเริ่มต้นเพียง 6,049 บาท พร้อมรับฟรี realme Giftbox และประกันจอแตก 1 ปี รวมมูลค่า 7,898 บาทในทุกช่องทาง
o ช่องทางตัวแทนจำหน่าย Banana, BKK, Kingkong, IT City, CSC, TG, Jaymart, Maxlink, Stamp และ Advice พร้อมรับฟรี realme Giftbox และประกันจอแตก 1 ปี รวมมูลค่า 7,898 บาทในทุกช่องทาง
o ช่องทางอีคอมเมิร์ซ Shopee, Lazada และ Tiktok Shop รับฟรีคูปองส่วนลด 1,000 บาท, realme Buds T01, realme Gift Box พร้อมประกันจอแตก 1 ปี และ PUBG VIP Item Code Card
โดยสามารถพรีออเดอร์ได้ทุกช่องทางตั้งเเต่วันที่ 17 – 24 ตุลาคมและจำหน่ายวันแรกวันที่ 25 ตุลาคมเป็นต้นไป