Featured
รีวิว realme Watch 2 Pro สมาร์ทวอทช์ตัวท็อป ฟีเจอร์ครบ มี SpO2 ในราคาสบายๆ และ Buds Q2 หูฟัง True Wireless พร้อม Game Mode
ในครั้งนี้ทีมงาน iphone-droid.net จัดรีวิวอุปกรณ์ AIoT จาก realme มาให้เต็มๆ ถึง 2 อย่างกันเลยครับ ได้แก่ realme Watch 2 Pro สมาร์ทวอทช์ตัวท็อปฟีเจอร์เพียบ และ realme Buds Q2 หูฟังแบบ True Wireless ชูโรงด้วยค่า Latency ต่ำเพียง 88ms เท่านั้น โดยแต่ละอุปกรณ์จะครบเครื่องแค่ไหนมาดูกันเลยครับ
realme Watch 2 Pro
เริ่มกันที่ realme Watch 2 Pro สมาร์ทวอทช์หน้าจอใหญ่ ฟีเจอร์ทั้งด้านสุขภาพและการออกกำลังกายครบเครื่องมากๆ พร้อมดีไซน์สวยงาม ตามสโลแกน “Style Meets Sports” แถมมาในราคาที่สุดคุ้มๆ ครับ
สรุปสเปค realme Watch 2 Pro
- ขนาดตัวเครื่อง : 255.2 x 38.9 x 12.65 มม. (รวมสาย)
- น้ำหนัก : 40 กรัม (รวมสาย)
- หน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 1.75 นิ้ว (4.4 ซม.) ความละเอียด 385 x 320 พิกเซล, 287 PPI และความสว่างสูงสุด 600 นิต
- ระบบเซ็นเซอร์
- ระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดการเร่งความเร็ว 3-axis acceleration Sensor
- ระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
- ระบบวัดค่าออกซิเจนในเลือด
- ระบบการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0
- กันน้ำระดับ IP68
- แบตเตอรี่ความจุ 390 mAh
อุปกรณ์ภายในกล่อง realme Watch 2 Pro
- ตัวเรือน realme Watch 2 Pro
- แท่นชาร์จ
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ดีไซน์เรียบหรูดูคลาสสิก
realme Watch 2 Pro มาในดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ ด้วยรูปทรงสีเหลี่ยมที่มีความโค้งมนที่มุมหน้าปัด แถมมีน้ำหนักเบาสุดๆ เพียง 40 กรัมเท่านั้น จะผู้หญิงหรือผู้ชายก็ใช้งานได้สบายๆ
โดยสีที่เราได้มาเป็นสีเงิน Metallic Silver ที่ตัวกรอบและสายจะเข้ากันได้พอดิบพอดี
ทั้งนี้ ตัวสายยังสลักคำว่า “DEAR TO LEAP” ที่เป็นสโลแกนของแบรนด์ realme ที่เราคุ้นหูกันด้วยครับ
นอกจากความสวยงามแล้ว realme Watch 2 Pro ยังมีมาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่นที่ IP68 อีกด้วย ถือว่าทำให้เราพร้อมใช้งานได้ทุกสถานการณ์ เช่น ช่วงฝนตกหรือล้างมือก็ไม่ต้องถอดออก แต่ข้อควรระวังคือยังไม่ได้รองรับในการว่ายน้ำครับ
หน้าจอเรือนนี้ก็ถือว่าใหญ่และคมชัดอีกด้วย ตั้งแต่ขนาด 1.75 นิ้ว ความคมชัดที่ 385 x 320 พิกเซล แถมสีสันบนหน้าจอก็ถือว่าจัดจ้านและไม่จืดชืดแน่นอน ทั้งยังมีความโค้งมนเล็กน้อยแบบ 2.5D พร้อมเคลือบสารป้องกันรอยขีดข่วนและรอยนิ้วมือทำให้ใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องมาคอยเช็ดตลอดเวลาครับ
ที่สำคัญยังมีความสว่างที่หน้าจอสู้แสงภายนอกได้ดีมาก เห็นได้ชัดเจนแม้แสงจ้า โดยเราสามารถปรับความสว่างได้ตั้งแต่ 20%, 40%, 60%, 80% และ 100% ซึ่งค่าความสว่างสูงสุดจะอยู่ที่ 600 นิตครับ
ที่รอบตัวเรือน ฝั่งขวาจะมีปุ่มเพื่อใช้ในการเรียกหน้าจอ, ตกลง หรือย้อนกลับเมนูต่างๆ ได้
และที่ด้านหลังจะมีเซ็นเซอร์สีเขียวที่เป็นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, สีแดงเป็นการวัดค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2) และยังมีแม่เหล็ก 2 จุดเพื่อติดกับแท่นชาร์จ
วิธีเชื่อมต่อ
สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อจะต้องเป็นระบบปฏิบัติการ Android 5.0 ขึ้นไป
- ติดตั้งแอปพลิเคชั่น realme Link ผ่าน Google Play Store
- สมัครบัญชี realme Link
- กด “การเพิ่มอุปกรณ์” จากนั้นระบบจะสแกนอุปกรณ์ขึ้นมาให้เราทันทีครับ
- รอการเชื่อมต่อให้สำเร็จ ก็ใช้งานได้ทันที
หน้าปัดมีให้เลือกเพียบกว่า 100 แบบ
ใน realme Watch 2 Pro จะมีหน้าปัดหลากหลาบรูปแบบให้เราได้ใช้งานครับ โดยความพิเศษจะมี Live Watch Faces หรือหน้าปัดที่มีการเคลื่อนไหว อย่างแมวอวกาศที่เป็นมาสคอตของแบรนด์อย่าง realmeow หรือทะเลมาให้เลือก ซึ่งเลือกในตัวเรือนได้ทันที และที่ไม่บอกไม่ได้เลยคือ realme Watch 2 Pro ได้จับมือกับ Grafflex นักออกแบบชาวเกาหลีใต้ที่มีชื่อเสียง เพื่อสร้างหน้าปัดให้ออกมามีรูปแบบไม่เหมือนใคร
หรือใครอยากได้เพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปเลือกในแอป relame Link ได้เหมือนกัน
ฟีเจอร์ด้านสุขภาพ
การวัดค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2)
ฟีเจอร์นี้น่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนกำลังมองหาในสมาร์ทวอทช์กันอย่างแน่นอนครับ ซึ่ง realme Watch 2 Pro ก็มีมาให้ด้วยครับ การใช้งานก็ง่ายมากๆ เพียงแค่แตะเมนู SpO2 และอยู่นิ่งๆ ประมาณ 30 วินาที ระบบก็จะแสดงค่าเป็นเปอร์เซ็น (%) มาให้ และโดยปกติจะอยู่ที่ 95% ขึ้นไปครับ ทั้งนี้เมื่อวัดแล้วในตัวเรือน ข้อมูลก็จะถูกเก็บไว้ในแอป realme Link ด้วยเช่นกัน
วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
ส่วนการวัดอัตราการเต้นของหัวใจก็วัดได้เหมือนกันครับ โดยเราสามารถปรับให้ระบบติดตามการเต้นของหัวใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำคัญเรื่องความแม่นยำก็หายห่วงได้เลยเพราะมีเซอร์ PPG นำเข้าจาก Goodix บริษัทผู้นำด้านเซ็นเซอร์ที่มีความรวดเร็วและแม่นยำอย่างมากครับ
ทั้งนี้ยังสามารถแจ้งเตือนได้เมื่อมีความผิดปกติของอัตราการเต้นของหัวใจเต้นเร็วหรือช้าเกินไป
ตรวจวัดคุณภาพการนอน
การตรวจคุณภาพการนอนก็มีมาให้เหมือนกันครับ โดยเราต้องใส่ realme Watch 2 Pro ในขณะนอนหลับ เพื่อวัดทั้งค่าอัตราการเต้นของหัวใจ รวมถึงระยะเวลาการนอนและสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างนอน เช่น การตื่น, หลับฝัน (REM), หลับลึก เป็นต้น
ทั้งนี้เราก็สามารถดูรายละเอียดหรือเลือกช่วงเวลาต่างๆ ได้ผ่านแอป realme Link ครับ
เตือนเพื่อไม่ให้ลืมสิ่งอื่นๆ
นอกจากจะวัดสิ่งสำคัญในเรื่องสุขภาพเราได้แล้ว เรายังสามารถเปิดให้แจ้งเตือนให้เราลุกขึ้น (เลือกความถี่ได้), เตือนให้ดื่มน้ำ หรือเตือนเมื่อถึงเป้าหมายที่กำหนด เช่น เดินครบเป้าหมาย 8,000 ก้าว เป็นต้น เรียกได้ว่า realme Watch 2 Pro เหมาะมากๆ สำหรับสายรักสุขภาพ
โหมดกีฬาถึง 90 แบบ
ส่วนใครที่ชอบออกกกำลังกายสม่ำเสมอจะต้องหลงรัก realme Watch 2 Pro แน่นอนครับ เพราะมีโหมดออกกำลังกายมาถึง 90 แบบ โดยหลักๆ จะมีการวิ่ง, ปั่นจักรยาน, ปีนเขา, เดินกลางแจ้ง, เดินป่า, โยคะ, คริกเก็ต เป็นต้น โดยเราสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบในแอป realme Link
โหมดกีฬาอื่นๆ
เมื่อเราออกกำลังกายก็จะมีบอกข้อมูลต่างๆ ของแต่ละชนิดกีฬาให้ละเอียดพอสมควรเลยครับ เช่น ระยะเวลาการออกกำลังกาย, ข้อมูลเฉพาะของแต่ละชนิด (เช่น เดินกลางแจ้งจะบอกเป็นก้าวและระยะทาง) และแคลอรี่
Dual-Satellite GPS ได้ตำแหน่งที่แม่นยำ
realme Watch 2 Pro มาพร้อมเทคโนโลยี Dual-Satellite GPS ที่ให้ตำแหน่งระหว่างการออกกำกายของเราทำได้แม่นยำยิ่งขึ้นครับ ช่วยให้วัดระยะก้าวและระยะทางได้ตรงสุดๆ ซึ่งจะช่วยให้การระบุตำแหน่งคลาดเคลื่อนสูงสุดเพียง 2.5 เมตร และเวลาระบุตำแหน่งที่เร็วสุดสูงสุดที่ 2 วินาที
เชื่อมต่อ AIoT ได้ทั้งหมด
ความพิเศษใน realme Watch 2 Pro คือการที่ให้เราควบคุมอุปกรณ์ AIoT ที่เชื่อมต่อภายในแอป relame Link ได้ทันทีครับ เช่น เรามี realme Buds Q2 อยู่แล้ว ก็สามารถดูแบตเตอรี่คงเหลือได้ หรือจะเปิดฟีเจอร์สำคัญได้ด้วย อย่างเปิด/ปิดโหมดเกม หรือปรับเอฟเฟ็กต์เสียงได้ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเปิดสมาร์ทโฟนขึ้นมาให้เสียเวลา
เป็นชัตเตอร์ให้กล้องของสมาร์ทโฟนได้
เมื่อเราเชื่อมต่อ realme Watch 2 Pro กับสมาร์ทโฟนของเรา ก็สามารถใช้งานเป็นชัตเตอร์กล้องแทนได้ครับ จะไปไหนก็ตั้งกล้องเอาไว้แล้วถ่ายรูปคนเดียวก็ทำได้สบายมากๆ
แบตเตอรี่อึดใช้ได้นานสุด 14 วัน
ปกติแล้วสมาร์ทวอทช์หลายรุ่นจะต้องชาร์จกันวันต่อวัน แต่ realme Watch 2 Pro ที่มีแบตมาให้ 390mAh ทำให้เราใช้งานได้สูงสุดถึง 14 วันเมื่อใช้งานแบบไม่ได้ออกกำลังกายหรือใช้ GPS มากเกินไปครับ หรือจริงๆ ถ้าใครใช้งานหนักๆ ออกกำลังกายบ่อย อาจได้ชาร์จในเวลาประมาณ 6 – 7 วันต่อครั้ง
สรุปการใช้งาน
สำหรับ realme Watch 2 Pro ถือเป็นสมาร์ทวอทช์ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยมากๆ ครับ ด้วยความที่มีน้ำหนักเบามากๆ ไม่รู้สึกหนักข้อมือเลย แถมฟีเจอร์ที่ได้จัดว่าครบสุด โดยเฉพาะในการออกกำลังกายที่หลายคนน่าจะชอบกัน ทั้งยังมีแบตเตอรี่ที่อึดแบบของจริง ซึ่งรุ่นนี้น่าจะเป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับชาว Android เลยทีเดียว
ราคาและวันวางจำหน่าย
สำหรับ realme Watch 2 Pro สนนราคาอยู่ที่ 3,499 บาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษจำนวนจำกัดที่เป็นเจ้าของในราคาเพียง 2,999 บาทเท่านั้น โดยสามารถหาซื้อได้ในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ ผ่านทาง realme Brand Shop หรือตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
realme Buds Q2
มาต่อกันที่หูฟัง True Wireless อย่าง realme Buds Q2 กันครับ ต้องบอกเลยว่าตัวชูโรงของหูฟังรุ่นนี้คือเสียงเบสที่แน่นมากๆ ใครที่ชอบฟังเพลงต้องหลงรักแน่นอน
สรุปสเปค realme Buds Q2
- ขนาดตัวเคส : 60.35 x 44.61 x 32.54 มิลลิเมตร
- น้ำหนักตัวเคส : 39 กรัม (รวมหูฟัง)
- น้ำหนักหูฟัง (ข้างละ) : 4.1 กรัม
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0
- กันน้ำ : IPX4
- ไดรเวอร์เบส : 10 มม.
- ระยะการเชื่อมต่อ : สูงสุด 10 เมตร
- การชาร์จ (เคส) : พอร์ต Micro USB 2.0
- แบตเตอรี่ (หูฟัง) : 40mAh
- แบตเตอรี่ (เคส) : 400mAh
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- หูฟังและเคสชาร์จ realme Buds Q2
- สาย Micro USB 2.0
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้นและใบรับประกันสินค้า
ดีไซน์เคสสวยงามพกพาสะดวก
ตัวเคสของ realme Buds Q2 ถือว่ามีความเล็กและกะทัดรัดมากๆ แถมเป็นทรงกลมรีที่พกไปได้โดยไม่เปลืองพื้นที่ หรือจะใส่กระเป๋ากางเกงก็ยังได้
ตัวเคสจะมีไฟ LED เพื่อบอกสถานะระหว่างชาร์จ (สีแดงคือกำลังชาร์จ และสีเขียวคือชาร์จเต็มแล้ว)
และด้านหลังจะเป็นพอร์ตชาร์จแบบ Micro USB ครับ
ดีไซน์หูฟังแบบ Kaleidoscopes
realme Buds Q2 ได้รับการออกแบบจาก Kaleidoscopes ทำให้เราเห็นความสวยงามของคาไลโดสโคปรูปทรงตัดและดูเป็นประกายสวยงามสะท้อนแสง ทั้งยังมีความเบาเพียงข้างละ 4.1 กรัมเท่านั้น ทำให้ใส่ได้สบายหูมากๆ ครับ
ทั้งนี้ ดีไซน์ของ realme Buds Q2 จะดูเป็นคล้ายกับก้อนหินที่ realme ได้ปรับเปลี่ยนให้ความธรรมดากลายเป็นความพิเศษได้อย่างลงตัวสุดๆ ซึ่งสีของ realme Buds Q2 ที่เราได้มานี้เป็นสีน้ำเงิน Unique Blue ครับ ส่วนอีกสีที่มีให้เลือกจะเป็นสีดำ
นอกจากนี้ ตัวหูฟัง realme Buds Q2 ยังมีมาตรฐานกันน้ำ IPX4 ช่วยให้ป้องกันละอองน้ำหรือเหงื่อได้จากทุกทิศทาง (ตัวเคสไม่กันน้ำนะครับ)
สำหรับ realme Buds Q2 จะมีแผงสัมผัสอยู่ด้านนอกเพื่อใช้ในการควบคุมระดับเสียงหรือเปิดโหมดต่างๆ
ทั้งยังมีลำโพงที่อยู่ด้านในเพื่อใส่เข้ากับหูของเรา และมีไมโครโฟนมาให้ 2 ตัวที่ด้านนอกและด้านในครับ
วิธีเชื่อมต่อ
realme Buds Q2 สามารถเชื่อมต่อได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชั่น realme Link ครับ ซึ่งเมื่อเชื่อมต่อครั้งแรกแล้ว ครั้งต่อไปแค่หยิบออกจากเคสก็จะเชื่อมให้อัตโนมัติทันที (แต่สมาร์ทโฟนต้องเปิดบลูทูธไว้ด้วย) โดยในแอปจะบอกแบตเตอรี่คงเหลือทั้งตัวหูฟังแต่ละข้างและเคสให้ด้วยครับ
การควบคุม
- กด 2 ครั้งติดกัน : ตอบรับสาย / เล่น-หยุดเพลง
- กด 3 ครั้งติดกัน : ข้ามไปเพลงต่อไป
- กดยาวค้างไว้ข้างไหนก็ได้ 1 ข้าง : วางสาย-ปฏิเสธการรับสาย / เปิดใช้งาน Google Assistant หรือผู้ช่วยเสียง
- กดยาวค้างไว้ทั้ง 2 ข้าง (ประมาณ 3 วินาที) : เข้า / ออก Gaming Mode
เทคโนโลยี Dynamic Bass Boost ฟังเพลงได้กระหึ่มสะใจ
ใครที่เป็นสายฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ บอกเลยว่าสะใจแน่นอนด้วยแบสแน่นๆ จากไดรเวอร์เบส (Bass Boost Driver) ใหญ่ถึง 10 มม. ครับ และเมื่อใส่ไปแล้วเสียงภายนอกก็แทบไม่รบกวนเราเลยครับ เรียกว่าเข้าไปสู่โลกของเพลงอย่างแท้จริง
ซึ่งใครที่อยากได้เบสแบบจัดหนัก ก็สามารถปรับเอฟเฟ็กต์เสียงเป็นแบบ Bass Boost+ ได้ในแอป relame Link ครับ โดยจะมีอีก 2 เอฟเฟ็กต์ให้เลือก ได้แก่ ไดนามิก และสดใส
ปิดกั้นเสียงรอบข้างเมื่อโทร (Environmental Noise Cancellation)
realme Buds Q2 มาพร้อมกับเทคโนโลยี ENC ที่ช่วยปิดกั้นเสียงรบกวนภายนอกได้เป็นอย่างดีระหว่างการคุยโทรศัพท์ ทำให้อีกฝั่งได้ยืนเสียงเราชัดเจนขึ้นครับ ซึ่งเราลองเดินเร็วๆ และโทรไปด้วย อีกฝั่งก็ยังได้ยินเสียงเราชัดเจน แทบไม่มีเสียงลมตีเข้ามาในสายครับ
ความหน่วงต่ำในโหมดเกม (Gaming Mode)
เมื่อฟังเพลงแล้ว ในการเล่นเกมก็ยังมีโหมดเกมที่จะช่วยลดค่าความหน่วง (Latency) ให้ต่ำเพียง 88 มิลลิวินาทีเท่านั้น ทำให้ภาพและเสียงในเกมออกมาให้ตรงมากที่สุด ไม่มีเสียเปรียบแน่นอน โดยเฉพาะกับเกมแนว FPS อย่าง PUBG Moible หรือ Call of Duty: Mobile ครับ
แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้เกือบเต็มวัน
เมื่อเราชาร์จหูฟัง realme Buds Q2 จนเต็ม 100% เราสามารถใช้งานได้ประมาณ 4 – 5 ชั่วโมงต่อครั้งครับ ส่วนใครพกเคสชาร์จไปด้วยก็สามารถชาร์จและใช้งานได้สูงสุดถึง 20 ชั่วโมงไปเลย!!
ถ้าเคสแบตเตอรี่หมด ก็ให้ชาร์จด้วยสาย Micro USB ที่แถมมาให้ครับ โดยจะเต็ม 100% ในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
สรุปการใช้งาน
realme Buds Q2 นับว่าเป็นหูฟัง True Wireless อีกรุ่นที่มีความสามารถเกินราคาครับ ระบบการตัดเสียงภายนอกทำได้ดีมากระหว่างฟังเพลง แทบไม่ได้ยินเสียงภายนอก ดีไซน์ก็มีความสวยงาม น้ำหนักเบาจริงๆ ครับ และแบตเตอรี่ก็อึดมาก ชาร์จ 1 ครั้งก็ใช้งานได้ต่อกันหลายวัน เพราะต่อวันเราอาจจะฟังครั้งละ 2 -3 ชั่วโมงแล้วเก็บ จากนั้นก็หยิบออกมาใช้งานต่อได้ทันที
ราคาและวันวางจำหน่าย
realme Buds Q2 วางจำหน่ายในราคาเพียง 999 บาท โดยจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป