Smart Review
รีวิว realme X3 SuperZoom สมาร์ทโฟนพลังซูม พลังแรง ขุมพลังเรือธง S855+, 120Hz Ultra Smooth Display และกล้อง 4 เลนส์ ซูม 60 เท่า
รีวิว realme X3 SuperZoom สมาร์ทโฟนขุมพลังเรือธง Qualcomm Snapdragon 855+ ประจำปลายปี 2019 แต่ยังคงความแรงขั้นสุดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมชูโรงด้วยกล้องหลัง SuperZoom สูงสุด 60 เท่า และกล้องหน้าคู่มีเลนส์ Ultra-Wide
สรุปสเปค realme X3 SuperZoom
- ขนาดตัวเครื่อง : 163.8 × 75.8 × 8.9 มม.
- น้ำหนัก : 202 กรัม
- หน้าจอแสดงผล IPS LCD ขนาด 6.57 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) พร้อม 120Hz Ultra Smooth Display, พื้นที่หน้าจอแสดงผล 90.5% และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
- หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 855+ Octa Core ความเร็ว 2.96 GHz
- GPU : Adreno 640
- RAM : 12GB
- ROM : 256GB (UFS 3.0)
- กล้องถ่ายรูปหลัง 4 เลนส์ แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL GW1
- เลนส์ Ultra Wide Angle มุมกว้าง 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.3
- เลนส์ Periscope ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.4, รองรับ OIS, Optical Zoom ได้ 5 เท่า และ Digital Zoomสูงสุด 60 เท่า
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 เซนติเมตร
- กล้องหน้า 2 เลนส์ Dual In-display Selfie แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5 เซ็นเซอร์ Sony IMX616
- เลนส์ Ultra Wide Angle มุมกว้าง 105 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย realme UI 1.0
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 4200mAh รองรับ 30W Dart Charge
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
ตัวกล่องของ realme X3 SuperZoom มาพร้อมกับสีเหลืองตามสีประจำแบรนด์ realme เช่นเดิมครับ โดยมีชื่อรุ่น X3 SuperZoom ที่หน้ากล่องชัดเจน พร้อมสเปคที่สำคัญบางส่วนในด้านหลัง
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเครื่อง realme X3 SuperZoom พร้อมติดฟิล์มกันรอย
- อะแดปเตอร์ 30W Super Dart Charge
- สาย USB Type-C
- เคสใส
- อุปกรณ์เปิดถาดซิม
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ดีไซน์ของ realme X3 SuperZoom ในสีขาว Arctic White ที่เราได้มารีวิวมีการเล่นเฉดสีอย่างงาม ได้รับแรงบันดาลใจจากหิมะและน้ำแข็งที่ปกคลุมทั่วพื้นดิน เล่นแสงและเงาที่มุมเครื่องด้านหลังสวยงามครับ โดยเฉดสีนั้นมีความเป็นสีรุ้งเล็กน้อยเมื่อสะท้อนกับแสงอาทิตย์ ส่วนอีกสีที่มีให้เลือกจะเป็น Glacier Blue ครับ
นอกจากสีสันจะสวยงามตามสไตล์ของ realme แล้ว เรื่องการจับถือก็สะดวกแล้วสบายกับมือมากๆ มีความโค้งมนตามอุ้งมือ ไม่เจ็บเวลาถือนานๆ ครับ ที่สำคัญเวลาใช้งานตัวเครื่องด้านหลังก็ไม่มีรอยนิ้วมือติดง่ายๆ ด้วย ทั้งนี้ ตัวเครื่องของ realme X3 SuperZoom ยังออกแบบมาให้ป้องกันละอองน้ำได้อีกด้วย ไม่ต้องกังวลหากโดนน้ำครับ
realme X3 SuperZoom ยังมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลสวยขั้นสุด มีความคมชัดด้วยพาเนล IPS LCD ขนาดใหญ่ถึง 6.57 นิ้ว คมชัดระดับ FullHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 และปรับความสว่างได้สูงสุด 480nits
สิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยในเรื่องหน้าจอคือ Ultra Smooth Display รองรับ Refresh Rate 120Hz ที่เป็นความไหลลื่นขั้นสุดในการใช้งาน และภาพต่างๆ ก็ไม่เบลอระหว่างการเลื่อนไปมาด้วย
รอบเครื่องของ realme X3 SuperZoom เริ่มที่เหนือหน้าจอแสดงผลครับ จะมีกล้องหน้า Dual In-Display Selfie ที่ฝังในหน้าจอมุมซ้าย พร้อมกับลำโพงสำหรับสนทนาอยู่ตรงกลาง
ด้านซ้ายจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ขณะที่ด้านขวามีปุ่ม Power ที่ใช้งานสแกนลายนิ้วมือได้ด้วย
ทางด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง ถัดไปเป็นไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก
ด้านบนตัวเครื่องมีเพียงไมโครโฟนตัวที่ 2
และสุดท้ายที่ด้านหลังเครื่องจะมีกล้องหลัง 4 เลนส์ จัดเรียงเป็นแนวตั้งที่มุมซ้ายบน โดยถัดไปทางขวาเล็กน้อยจะมีไฟแฟลช LED อยู่
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
realme X3 SuperZoom มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดจาก Google อย่าง Android 10 พร้อมครอบทับด้วย UI ของตัวเอง realme UI 1.0 ซึ่งจะมีฟีเจอร์ที่เป็นของตัวเองอย่าง realme Share ที่แชร์ไฟล์ต่างๆ ระหว่างสมาร์ทโฟน realme ด้วยกันให้เร็วกว่าปกติ และการปรับเปลี่ยนไอคอน UI ครับ จะเป็นอย่างเรามาดูกันทีละฟีเจอร์เลย
หน้าตา UI : realme UI
วอลเปเปอร์มีให้เลือกเพียบ
ใน realme X3 SuperZoom ก็มีวอลเปเปอร์ให้เลือกเพียบครับ ทั้งแบบนิ่งและเคลื่อนไหว (Live Wallpaper) ซึ่งแค่ภาพนิ่งก็มีเกือบ 40 แบบแล้วครับ ส่วนแบบภาพเคลื่อนไหวก็มีทั้งหมด 13 แบบ ใครชอบเฉดไหนก็เลือกได้ถูกใจแน่นอน
โหมดถนอมสายตาตัดแสงสีฟ้าได้มีประสิทธิภาพ
ในโหมดนี้แน่นอนว่าเป็นการตัดแสงสีฟ้าให้น้อยลงระหว่างการใช้งานในที่แสงน้อยครับ โดยเราสามารถปรับโทนเพื่อเพิ่มแสงสีเหลืองให้เยอะขึ้นได้ และเรายังตั้งค่ากำหนดเวลาให้โหมดนี้เปิดเองได้อัตโนมัติด้วย
โหมดกลางคืนก็มี ใช้งานได้สบายตา
ไม่ใช่แค่โหมดตัดแสงสีฟ้าครับ แต่ก็มีโหมดกลางคืนมาให้ใช้งานด้วย โดยเป็นการปรับโทนสีพื้นหลังให้เป็นสีดำทั้งหมด ซึ่งทุกแอปพลิเคชั่นที่รองรับจะเปลี่ยนเป็นโหมดนี้เช่นกัน
realme Share แชร์ไฟล์ได้ไวในพริบตา
สำหรับ realme Share นั้นเป็นการส่งไฟล์ระหว่างสมาร์ทโฟน realme ด้วยกันครับ แต่มีความพิเศษตรงที่ความเร็วในการส่งนั่นเอง จากที่ทดสอบไฟล์วิดีโอขนาดประมาณ 300MB ส่งได้ในเวลาเพียงประมาณ 5 วินาทีเท่านั้นเอง
ระบบความปลอดภัยขั้นสูง
realme X3 SuperZoom ก็มีระบบความปลอดภัยทั้งการสแกนลายนิ้วมือและสแกนใบหน้า โดยการสแกนลายนิ้วมือทำได้ที่ปุ่ม Power ข้างตัวเครื่อง ซึ่งก็ถือว่ามีความสะดวกเลยทีเดียวเมื่อหยิบหรือถือ แล้วนิ้วของเราก็ไปตรงกับปุ่มสแกนพอดี
นอกจากนี้ ก็ยังมีการสแกนใบหน้าที่ทำได้รวดเร็วและเสถียรครับ
ใช้งาน 2 บัญชีด้วยโคลนแอป
ผู้ใช้งานคนไหนที่อยากแยก Line ส่วนตัวกับ Line ที่ใช้ทำงานโดยเฉพาะก็สามารถทำได้ผ่านฟีเจอร์โคลนแอปครับ โดยเป็นการเพิ่มแอปแชทขึ้นมาอีก 1 แอป แยกการทำงานกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งจริงๆ ก็ยังใช้งานร่วมกับ Messenger, Facebook หรือ IG ได้ด้วย
ตกแต่งไอคอนในสไตล์ของตัวเอง
ใน realme UI เราสามารถตั้งลักษณะของไอคอนได้ด้วยตัวเอง ทั้งการปรับรูปร่างหรือขนาดได้ตามใจชอบเลย
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
สำหรับ realme X3 SuperZoom ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 855+ Octa-core ที่ยังคงมีความแรงอยู่แน่นอนด้วยความเร็ว Clock ที่ 2.96GHz พร้อมขนาดเล็กเพียง 7 นาโนเมตร ทำให้ประหยัดพลังงาน และใช้งานได้ไหลลื่นทุกการสัมผัสครับ ที่สำคัญยังให้ RAM มาถึง 12GB พร้อม ROM 256GB ชนิด UFS 3.0 เพิ่มประสิทธิภาพของอัลกอริทึมด้วย Turbo Write ทำให้จะโหลดหรือเข้าแอป ก็รวดเร็วอย่างมาก
สำหรับผลการทดสอบทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมตั้งแต่หน่วยประมวลผล, การ์ดจอ และหน่วยความจำด้วยโปรแกรม AnTuTu Benchmark ทำคะแนนได้ไปได้ที่ 465,233
ส่วนผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ทำคะแนนฝั่ง Single-Core ไปที่ 769 และคะแนน Multi-Core ที่ 2,399
ฟีเจอร์การเล่นเกม
realme X3 SuperZoom มาพร้อมกับฟีเจอร์ Game Space เป็นการรวบรวมเกมทั้งหมดที่โหลดไว้ในที่เดียวกัน โดยสามารถปรับเป็นโหมดแข่งขันเพื่อเพิ่มความแรงระหว่างเล่นเกมได้ นอกจากนี้ รุ่นนี้ก็มาพร้อมกับเทคโนโลยี HyperBoost 2.0 ช่วยทั้งเรื่อง FrameBoost ปรับเฟรมเรทให้คงที่ตลอดเกม และ TouchBoost เสริมประสิทธิภาพการสัมผัสให้ไหลลื่นไปตามนิ้วมากยิ่งขึ้นและดีเลย์น้อยลง
ทดสอบการเล่นเกม
เราทดสอบ 4 เกม ด้วยกันในครั้งนี้ ได้แก่ ROV, Call of duty: Mobile, PUBG Mobile และ Asphalt 9 : Legends
ROV
เกมฮิตอย่าง ROV เราปรับเฟรมเรทเป็นระดับสูง พร้อมภาพกราฟิกระดับ สูงสุดทั้งหมดครับ โดยเล่นในโหมด 5 VS 5 ก็ทำออกมาได้ดี เฟรมเรทวิ่งคงที่ 60-61fps ตลอดทั้งเกม
Call of duty: Mobile
ส่วน Call of duty: Mobile ลองเปิดกราฟิก Very High พร้อมเฟรมเรท Max เล่นในโหมด Frontline ต้องบอกว่าการสัมผัสหน้าจอในช่วงที่เดินหรือวิ่ง ภาพที่ได้ออกมาดูไหลลื่นไปหมดครับ และไม่มีอาการกระตุกด้วย
PUBG Mobile
ส่วนเกมแนวเดียวกันอย่าง PUBG Mobile เราเปิดภาพ HDR HD และเฟรมเรทสูงสุด ก็เล่นได้ลื่นๆ ไม่ต่างจาก Call of duty: Mobile ครับ
Asphalt 9 :Legends
และสุดท้ายกับ Asphalt 9 :Legends ก็เล่นได้ไม่มีปัญหาใดๆ แถมการแสดงผลยังรองรับ Refresh Rate สูงอีกด้วย ทำให้ระหว่างการเล่น ภาพการชนและใช้ Nitro ดูสบายตามากๆ
แบตอึดพร้อมชาร์จไวด้วย 30W Super Dart Charge
realme X3 SuperZoom ก็มีแบตเตอรี่ความจุ 4200mAh ซึ่งจากที่ทดสอบการใช้งานด้วยการเปิดหน้าจอ 120Hz แล้วเล่นเกมสลับกับใช้งานทั่วไป แบตเตอรี่ถือว่าอยู่ได้อึดๆ เกือบตลอดวันครับ แต่ก็ต้องมีการชาร์จระหว่างวันด้วย อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้ก็ไม่ปล่อยให้เรารอนานเพราะมีเทคโนโลยี 30W Dart Charge เราชาร์จจากแบตเตอรี่เหลือ 20% จนเต็ม 100% ใช้เวลา 1 ชั่วโมงพอดีครับ ที่สำคัญยังมีการป้องกันความปลอดภัยถึง 5 ชั้น และรับรองความปลอดภัยในการชาร์จตั้งแต่หัวชาร์จ สายชาร์จ และตัวสมาร์ทโฟนด้วย
กล้องถ่ายรูป
realme X3 SuperZoom จัดหนักและจัดเต็มในเรื่องกล้องอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลังหรือกล้องหน้า ก็ครบทุกฟีเจอร์ โดยเฉพาะเรื่องพลังซูมที่จัดให้แบบเต็มๆ 60 เท่า
กล้องถ่ายรูปหลัง 4 เลนส์ แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL GW1
- เลนส์ Ultra Wide Angle มุมกว้าง 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.3
- เลนส์ Periscope ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.4, รองรับ OIS, Optical Zoom ได้ 5 เท่า และ Digital Zoomสูงสุด 60 เท่า
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 เซนติเมตร
กล้องหน้า 2 เลนส์ Dual In-display Selfie แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5 เซ็นเซอร์ Sony IMX616
- เลนส์ Ultra Wide Angle มุมกว้าง 105 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
คมชัดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล
เลนส์หลักของรุ่นนี้มีความละเอียดสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซล ซึ่งแน่นอนว่าใครที่ต้องการภาพขนาดใหญ่ แล้วเมื่อถ่ายออกมาแล้วสามารถซูมดูรายละเอียดต่างๆ ได้ชัดเจน ก็ต้องใช้โหมดนี้เลยครับ
โหมดความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล / ครอป
โหมดความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล / ครอป
AI อัจฉริยะ พร้อมเทคโนโลยี Quad Bayer
ความสามารถของเลนส์หลักไม่ใช่แค่ถ่ายความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซลเท่านั้นครับ แต่ก็มี Quad Bayer ที่เป็นการรวม 4 พิกเซล ให้เป็น 1 พิกเซล ทำให้ภาพมีความละเอียดมากขึ้น แสงและเงาดูชัดเจนกว่าเดิม แม้ในที่แสงน้อยครับ นอกจากนี้ เรื่องของการระบุหมวดหมู่ของวัตถุต่างๆ ก็ยังมีให้เหมือนเดิม สามารถปรับได้ตามสิ่งที่เราโฟกัสเลย
ถ่าย Portrait สวยงาม บิวตี้อย่างธรรมชาติ
realme X3 SuperZoom ก็สามารถถ่าย portrait ได้สวยงามตามสไตล์ของ realme ครับ มีการเบลอฉากหลังได้เป็นธรรมชาติ สวยงาม ตัดขอบรอบตัวบุคคลได้ดี ซึ่งโหมดนี้ใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและหลังเลยครับ สวยงามไม่แพ้กัน
กล้องหลัง
กล้องหน้า
ซูมได้ไกลสูงสุด 60 เท่า
ความพิเศษของชื่อรุ่น SuperZoom ไม่ได้มาเป็นแค่กิมมิกครับ เพราะสามารถซูมได้ไกลสูงสุดถึง 60 เท่า หรือเทียบเป็นระยะ 124 มม. อยู่ไกลแค่ไหนก็เห็นได้ โดยยังรองรับระบบกันสั่นไหว OIS ด้วย ทำให้เมื่อยิ่งซูม ความนิ่งของเลนส์ก็ยังมีอยู่ ทั้งนี้ตัวเลนส์ Periscope ยังรองรับ Optical Zoom ถึง 5 เท่า ซึ่งเป็นซูมที่ไม่เสียรายละเอียด
Ultra Wide Angle มุมกว้างถึง 119 องศา
เลนส์ Ultra Wide Angle ในรุ่นนี้สามารถถ่ายได้มุมมองกว้างถึง 119 องศา ถือว่ากว้างเบอร์ต้นๆ ในสมาร์ทโฟนครับ แถมเรื่องสีสันและเฉดสีต่างๆ ก็จัดเต็ม สวยงาม ซึ่งประโยชน์ของเลนส์นี้ ส่วนหนึ่งคือเราไม่ต้องเดินถอยออกไปไกลๆ ให้เสียเวลาด้วย
เลนส์หลัก / เลนส์ Ultra Wide Angle 119 องศา
เลนส์หลัก / เลนส์ Ultra Wide Angle 119 องศา
ใช้เลนส์นี้ถ่ายกับบุคคลก็งามไปอีกแบบครับ
Macro ถ่ายใกล้สุดถึง 4 เซนติเมตร
เลนส์ Macro ก็ยังมีให้เหมือนเดิมครับ เราสามารถถ่ายวัตถุได้ใกล้สุดถึง 4 เซนติเมตร ส่วนเรื่องความคมชัดก็ถือว่าชัดเจนอยู่ด้วย
NightScape 4.0 อัปเกรดครั้งใหญ่ ถ่ายกลางคืนได้สว่างขึ้น
realme X3 SuperZoom มาพร้อมกับการอัปเกรดเรื่องการถ่ายภาพกลางคืนเป็น NightScape เวอร์ชัน 4.0 แล้วครับ ช่วยให้ถ่ายภาพตอนกลางคืนได้สว่างขึ้นและรายละเอียดก็เก็บได้ครบ ซึ่งการถ่ายในโหมดนี้เป็นการใช้ AI เข้ามาช่วยด้วยระหว่างโหมด Super Nightscape และ Ultra Nightscape
นอกจากนี้ เป็นโหมดใหม่ใน realme สำหรับ Starry Mode หรือโหมดการถ่ายภาพดวงดาวตอนกลางคืน ที่ระบบจะเพิ่มความสว่างบนท้องฟ้า ปรับค่า ISO, การวัดแสง และอื่นๆ ให้นานเป็นพิเศษ เพื่อให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนเต็มไปด้วยดวงดาวนั่นเองครับ ซึ่งแนะนำว่าให้ทำตอนช่วงฟ้าเปิดแล้วใช้ขาตั้งกล้องครับ
โหมดปกติ / โหมด NightScape 4.0
สำหรับ NightScape 4.0 ยังใช้เลนส์ Ultra-Wide Angle ถ่ายได้ ก็สวยงามไม่แพ้กันครับ
โหมดปกติ / โหมด NightScape 4.0
กล้องหน้า AI Beauty ถ่ายสวยเป็นธรรมชาติ
จบที่กล้องหลังไปแล้ว ด้านกล้องหน้าคู่ Dual In-display Selfie ก็ถ่ายได้สวยงาม ฟีเจอร์ครบเช่นกันครับ หลังจากที่ด้านบนเราเห็นภาพ Portrait กล้องหน้าไปแล้ว ถ้าอยากถ่ายให้เห็นฉากหลังด้วยก็ยังคงทำได้สวยงามครับ โดย AI จะปรับแต่งเติมใบหน้าของเราให้สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติด้วย
กล้องหน้าก็มีเลนส์ Ultra Wide Angle
และสุดท้ายกล้องหน้าอีกเลนส์ที่เพิ่มเข้ามาเป็นเลนส์ Ultra Wide Angle มุมกว้างถึง 105 องศา ใครที่ชอบเซลฟี่แล้วอยากได้บรรยากาศดีๆ ไปด้วย ต้องได้ใช้เลนส์นี้บ่อยแน่นอนครับ ไม่จำเป็นต้องถ่ายแบบพาโนรามาด้วย
เลนส์หลัก / เลนส์ Ultra Wide Angle
เลนส์หลัก / เลนส์ Ultra Wide Angle
สรุปจุดเด่น
- กล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล จัดเต็มให้ครบทุกฟีเจอร์ พร้อมโหมดใหม่อย่าง Starry Mode ที่ทำให้เห็นดวงดาวตอนกลางคืนครับ
- กล้องหน้าคู่ Dual In-display Selfie ครบครันทุกมุมมองทั้งเลนส์ปกติและเลนส์ Ultra-Wide Angle
- หน้าจอแสดงผลคมชัดขนาด 6.57 นิ้ว พร้อมชูโรงด้วยอัตรา Refresh Rate 120Hz Ultra Smooth Display
- หน่วยประมวลผลเรือธงตัวแรงอย่าง Qualcomm Snapdragon 855+ ทำให้ใช้งานได้ไหลลื่น
- มีแบตเตอรี่ความจุ 4200mAh พร้อมรองรับ 30W Dart Charge ชาร์จได้เร็วแรง เพียง 50 นาทีก็ชาร์จเต็ม 100%
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ไม่มีหูฟังแถมมาในกล่อง
- ไม่สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้
realme X3 SuperZoom เปิดราคาอย่างเป็นทางการที่ 19,990 บาท โดยเปิด Pre-order แล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 5 มิถุนายนนี้ เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป โดยใครที่ Pre-Order จะได้รีบฟรี! เครื่องทำความชื้น และ VIP Card ประกันหน้าจอแตก 1 ครัง/ปี ที่ Banana, BKK, Kingkong ,CSC, TG Fone, Jaymart, IT City ส่วนช่องทาง E-commerce ที่ Lazada และ Shopee รับของแถมเพิ่มเติม FujiFilm Instax Mini Link สี Dark Denim (10 Order แรก)