Featured
รีวิว realme X7 Pro 5G หน้าจอ 120Hz ชิปเซ็ต Dimensity 1000+ และชาร์จเร็ว 65W ราคาเริ่มต้น 9,990 บาท
รีวิว realme X7 Pro 5G สมาร์ทโฟนหน้าจอ 120Hz มาพร้อมสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ใช้ชิปเซ็ต Dimensity 1000+ มี 4 กล้องหลัง 64 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 4500mAh ชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge
สรุปสเปค realme X7 Pro 5G
- ขนาดตัวเครื่อง : 160.8 × 75.2 × 8.5 มม.
- น้ำหนัก : 184 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Super AMOLED Fullscreen ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) พร้อม Refresh Rate 120Hz อัตราส่วน 20:9 มีพื้นที่การแสดงผล 91.6% และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
- หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 1000+ 5G ความเร็ว 2.6GHz
- GPU : ARM Mali-G77 MC9
- RAM : 8GB
- ROM : 128/256GB
- กล้องถ่ายรูปหลัง 4 เลนส์ แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX686 รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 119 องศา รูรับแสง f/2.25
- เลนส์ B&W Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 เซนติเมตร
- กล้องหน้า In-display Selfie ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย realme UI 1.0
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0 และพอร์ต USB Type-C
- รองรับลำโพงคู่ Dolby Atmos
- แบตเตอรี่ความจุ 4500mAh รองรับ 65W SuperDart Charge
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
อุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้
- ตัวเครื่อง realme X7 Pro 5G
- อะแดปเตอร์ 65W SuperDart Charge
- สายชาร์จ USB Type-C
- เคสใส
- ตัวแปลงพอร์ต USB Type-C เป็นช่อง 3.5 มม.
- อุปกรณ์เปิดถาดซิม
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ตอกย้ำด้วยดีไซน์ที่สวยงามเช่นเคยใน realme X7 Pro 5G ด้วยสีสัน Iridescent ที่เล่นลวดลายพร้อมเฉดสีอย่างหลากหลายในชื่อว่า Double-Grain, Double-Pated และ Anti-Glare Glass โดยเราจะได้สีสันโดดเด่น กระจกแบบด้านที่ให้ความพรีเมี่ยม แถมผิวสัมผัสก็ทำออกมาได้เป็นอย่างดี จับถือได้สะดวกมากครับ ขณะที่อีกสีที่มีจะเป็นสีดำ Aerolite Black ให้ความคลาสสิกและสวยงามในตัว
realme X7 Pro 5G ไม่ได้ให้แค่ความสวยงามมาเทานั้นครับ เพราะหน้าจอแสดงผลนั้นบางลง 29.4% และน้ำหนักตัวเครื่องอยู่แค่เพียง 184 กรัม ทำให้ใช้งานได้นาน ไม่รู้สึกหนักจนเกินไปแน่นอนสำหรับคุณผู้หญิงที่ต้องการใช้งานนานๆ
ในด้านหน้าจอแสดงผล realme X7 Pro 5G ถือว่าจัดมาให้เต็มที่มากๆ สมกับการเป็นระดับเรือธง ชูโรงด้วย Refresh Rate 120Hz พร้อมด้วยชนิด Super AMOLED ที่เน้นเรื่องสีสันที่สดใสและความสดของภาพ ทั้งยังมีความสว่างสูงสุดถึง 1,200 นิต, Colour Gamut 100% DCI-P3 และ 103% NTSC ยิ่งช่วงนี้ภาพยนตร์และซีรี่ย์เพียบ ซื้อรุ่นนี้มาไว้ดูต้องถูกใจแน่นอนจ้า
ทั้งนี้หน้าจอยังกว้างถึง 6.55 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ทำให้ได้รับความคมชัดไปและความเต็มตาในการใช้งานและรับชมไปอีกด้วย
เหนือหน้าจอแสดงผลมีกล้องหน้า In-display Selfie ฝังไว้ในหน้าจอและอยู่ใต้กระจกทำให้ปกป้องตัวเลนส์ได้เมื่อเกิดการกระแทกครับ ส่วนตรงกลางจะมีลำโพงสำหรับการสนทนาและเป็นลำโพงที่ 2 อีกด้วย
ด้านล่างหน้าจอ OLED จะมีความบางลง 10% ในส่วนของขอบเพราะมีการนำกระบวนการบรรจุ COP แบบใหม่มาใช้ครับ
ทางซ้ายตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่มและลดเสียง
ทางขวามีปุ่ม Power
ส่วนด้านล่างตัวเครื่องมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ช่อง ถัดไปเป็นไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวที่ 1
ขณะที่ด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 2 เพื่อตัดเสียงรบกวน
และสุดท้ายที่ด้านหลังมีโมดูลกล้องที่มุมซ้ายบน มีกล้อง 4 เลนส์และไฟแฟลช LED ครับ
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
realme X7 Pro 5G แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย realme UI 1.0 ซึ่งใช้งานได้ไหลลื่นและดีไซน์ของ UI มีความสวยงามและใช้งานง่ายครับ
หน้าตา UI : realme UI 1.0
รองรับ 5G Dual-SIM Dual Standby
realme X7 Pro 5G แกะกล่องมาแล้วก็สามารถใช้งานเครือข่าย 5G ได้ทันทีโดยไม่ต้องรออัปเดทใดๆ ครับ ทั้งยังรองรับความถี่ 5G NSA ตั้งแต่ n1/n3/n5/n7/n8/n20/n28/n38/n40/n41/n77/n78 และ SA ทั้ง n1/n3/n41/n78/n79 ที่สำคัญยังใช้งาน 5G ได้แบบ Dual SIM อีกด้วย จะโหลดภาพยนตร์มาดูแบบออฟไลน์หรือแอปพลิเคชั่นไฟล์ใหญ่ๆ ก็ใช้เวลาไม่ถึงนาทีแน่นอน
Always on Display ดูสถานะได้สะดวก
เมื่อมาเป็นหน้าจอแบบ Super AMOLED ก็ใช้งานฟีเจอร์ Always on Display ได้ครับ โดยจะเป็นการดูเวลา, วันที่, แบตเตอรี่ และการแจ้งเตือนได้ โดยสามารถเลือกเปิดหรือปิดไม่ให้แสดงหมวดหมู่ไหนก็ได้
นอกจากนี้เราก็ยังสามารถใช้ฟีเจอร์นี้มาเป็นข้อความตามที่เรากำหนดได้ด้วย
ชมวิดีโอได้สะใจด้วยระบบเสียงสเตอริโอ Dolby Atmos
realme X7 Pro 5G มาพร้อมกับเทคโนโลยี Dolby Atmos พร้อม Hi-Res ทำให้ลำโพงปล่อยเสียงออกมาทั้งด้านบนและล่าง จะรับชมวิดีโอหรือฟังเพลงต่างๆ ก็จะได้ฟังเสียงแบบเต็มอรรถรสแน่นอนครับ
ระบบความปลอดภัยขั้นสูง
เมื่อเป็นสเปคระดับเรือธงก็สามารถใช้งานการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้อย่างรวดเร็วครับ เพียงแค่แตะก็ปลดล็อกได้ทันที
หรือจะเป็นการสแกนมบหน้าก็ได้เช่นกันครับ
โหมดถนอมสายตา Eye Protection
สำหรับ realme X7 Pro 5G นั้นมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลที่ช่วยถนอมสายตาผู้ใช้งานได้ดี สามารถตัดแสงสีฟ้าได้ดี ใช้งานได้สบายตายิ่งขึ้น โดยเราสามารถใช้โหมดถนอมสายตาได้ด้วยเหมือนกัน
โหมดกลางคืน
สำหรับโหมดกลางคืนหรือ Dark Mode ก็ยังใช้งานได้เหมือนกันครับ โดยจะเปลี่ยนธีมเครื่องให้เป็นพื้นหลังสีดำทั้งหมด และสามารถตั้งค่าเวลาเพื่อเปิดอัตโนมัติได้
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
realme X7 Pro 5G ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลจาก MediaTek แต่เป็นตัวท็อปสุดในตอนนี้อย่าง Dimensity 1000+ 5G และต้องบอกเลยว่าชิพตัวนี้แรงระดับเรือธงเลยทีเดียว ควบคู่กับ GPU ARM Mali-G77 MC9 ช่วยให้ใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมกราฟิกหนักๆ ได้ไหลลื่นมาก นอกจากนี้ Dimensity 1000+ 5G ยังมาพร้อมสถาปัตยกรรมใหม่ มีชิพ AI ถึง 6 ตัวเพื่อรองรับพลังประมวลผลที่ทรงพลังสูงสุด 4.5 TOPS ทำให้ถ่ายกล้องหลังด้วย AI ได้ทรงพลังยิ่งขึ้น
ผลการทดสอบทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมตั้งแต่หน่วยประมวลผล, การ์ดจอ และหน่วยความจำด้วยโปรแกรม AnTuTu Benchmark ทำคะแนนได้ไปได้ที่ 517,583
ส่วนผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ทำคะแนนฝั่ง Single-Core ไปที่ 763 และคะแนน Multi-Core ที่ 2,680
ฟีเจอร์การเล่นเกม
ปรับแต่งก่อนเล่นด้วย Game Space
ในรุ่นนี้ก็มีฟีเจอร์ Game Space มาให้เหมือนเดิมครับ โดยสามารถปิดกั้นการแจ้งเตือนรวมถึงเปิดประสิทธิภาพเป็นการแข่งขันเพื่อรีดประสิทธิภาพทั้งหมดของเครื่องออกมา ทั้งยังระบุเฟรมเรทและการใช้งาน CPU และ GPU ได้ด้วย
ทดสอบการเล่นเกม
ROV
ใครที่เล่น ROV เป็นประจำจะต้องชอบแน่นอนครับ นอกจากจะเปิดทุกอย่างได้สูงสุดทั้งหมดแล้ว ภายในเกมเฟรมเรทก็วิ่งแบบนิ่งๆ 60-61fps ตลอดทั้งเกม และไม่เจออาการกระตุกใดๆ ครับ
PUBG Mobile
สำหรับเกม PUBG Mobile สามารถเปิดกราฟิกได้ในระดับ Ultra HD และเฟรมเรทสูงครับ ก็เล่นได้แบบลื่นสุดๆ ระบบการสัมผัสหน้าจอก็ทำได้ดีเยี่ยม ไปตามนิ้วได้ดีมากๆ
Genshin Impact
และสุดท้ายกับเกมฮิตอย่าง Genshin Impact ก็สามารถเล่นได้ไหลลื่น กราฟิกที่แสดงผลออกมาก็ทำได้ดีครับ
ระบบสั่น 3 มิติ Super Vibrated Tactile Engine
ใครที่เล่นเกมที่รองรับระบบสั่นจะทำให้เราได้สัมผัสถึงการสั่นแบบ 3 มิติช่วยสมจริงยิ่งขึ้นตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเกมครับ
ชาร์จได้แรงระดับเรือธงด้วย 65W SuperDart Charge
65W SuperDart Charge ถือเป็นหนึ่งในกำลังไฟที่ชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วที่สุดในโลกของสมาร์ทโฟนตอนนี้ครับ ซึ่งจากที่ทดสอบกับ realme X7 Pro 5G ที่มีแบตเตอรี่ความจุ 4500mAh ชาร์จจาก 0% – 80% ในเวลาไปประมาณ 30 นาที และเต็ม 100% ในเวลาประมาณ 50 นาทีเท่านั้นครับ
ทั้งนี้หากใครที่กลัวเรื่องความร้อนจากการชาร์จ realme X7 Pro 5G ก็มีทั้ง VCVT เพื่อควบคุมอุณหภูมิอย่างปลอดภัยในระหว่างกระบวนการชาร์จ และ VFC ที่เมื่อแบตเตอรี่ใกล้เต็มก็จะชาร์จด้วยกระแสต่ำลงเพื่อยืดอายุการใช้ ทั้งยังมีระบบป้องกัน 5 ชั้น ตั้งแต่อะแดปเตอร์ไปยังแบตเตอรี่ในตัวเครื่อง
ประหยัดพลังงานขั้นสูง Super Power Saving
นอกจากนี้หากใครที่แบตเตอรี่แทบไม่เหลือแล้วแต่อยู่ในช่วงที่ไม่สามารถชาร์จได้ ก็เปิดโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง หรือ Super Power Saving ได้เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ได้นานยิ่งขึ้น โดยเราสามารถใช้ได้เพียง 6 แอปพลิเคชั่นเท่านั้น แต่แลกกับการใช้แบต 5% ใช้ส่งข้อความได้นานสูงสุดถึง 90 นาที
กล้องถ่ายรูป
และสุดท้ายในฟีเจอร์ที่ทุกคนรอคอยอย่างเรื่องกล้อง ที่บอกว่า realme X7 Pro 5G ทำออกมาได้ดีมากๆ สมกับการเป็นเรือธง โดยใช้งานได้ครบทุกระยะทั้งปกติ, Ultra-Wide, Macro รวมถึงการถ่าย Portrait
คมชัดสูงสุด 64 ล้านพิกเซลด้วยเซ็นเซอร์ Sony IMX686
realme X7 Pro 5G จัดเลนส์หลักมาให้ความละเอียดสุงถึง 64 ล้านพิกเซล ด้วยการใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX686 ทำให้ได้รายละเอียดในภาพที่มีความคมชัดสูงและเห็นสิ่งเล็กๆ ในภาพได้ชัดเจนเมื่อซูมเข้าไปดูครับ ซึ่งพิกเซลที่สูงๆ ทำให้ปรินท์ภาพขนาดใหญ่ออกมาได้เช่นกัน
AI ถ่ายได้อัจฉริยะ สวยงามด้วยคลิกเดียว
นอกจากจะถ่ายได้ในโหมด 64 ล้านพิกเซลแล้ว ในโหมดปกติก็ถ่ายได้สวยงามมากๆ มีการแยกแยะหมวดหมู่ได้รวดเร็วด้วย AI เช่น แมวน้อย, อาหาร, ดอกไม้ หรือรูปคน เป็นต้น ซึ่งแต่ละหมวดจะมีการปรับแต่งให้เหมาะสม อย่างอาหารก็จะปรับให้มีความสดใสดูน่ากิน หรือสัตว์เลี้ยงก็จะเห็นขนให้คมชัดยิ่งขึ้น
ถ่าย Portrait ให้คมชัด ผิวเนียนดูเป็นธรรมชาติ
ด้วยความที่เป็น realme ก็ถ่าย Portrait ได้แบบตัดขอบได้เนียนตาครับ ที่สำคัญการปรับแต่งผิวพรรณก็ทำได้ดีมากๆ ออกมาดูมีความเป็นธรรมชาติ ไม่ดูจัดจ้านเกินไป ผู้หญิงหลายคนน่าจะชอบโทนสีผิวนี้แน่นอน
เลนส์ B&W Portrait เพิ่มมิติของการการถ่ายภาพ
ที่กล้องหลังก็ยังมีเลนส์ B&W Portrait ให้เราได้ถ่ายภาพแบบขาวดำได้อย่างมีมิติยิ่งขึ้น ดูมีอะไรมากกว่าการใช้ฟิลเตอร์แบบปกติครับ
ถ่ายได้ครบด้วย Ultra Wide Angle ถึง 119 องศา
อีกเลนส์ที่มีมาให้ก็เป็น Ultra Wide Angle มุมมองกว้างถึง 119 องศาครับ ทำให้ถ่ายได้ครบทุกองค์ประกอบในภาพ ไม่มีขาดแน่นอน แถมไม่ต้องถอยออกไปไกลๆ ให้เสียเวลาอีกด้วย และสีสันของภาพมีความสดใสสวยงามไม่ต่างจากเลนส์หลัก
เพิ่มความพิเศษด้วยป้องกันการบิดเบี้ยว Portrait Distortion Correction
ความพิเศษของเลนส์ Ultra Wide Angle คือการป้องกันภาพบิดเบี้ยวเมื่อเราถ่ายภาพบุคคลเลนส์นี้ครับ ทำให้ใบหน้าไม่เบี้ยวดูเป็นธรรมชาติเพราะมีการ Distortion โดยอัตโนมัติ
Macro ใกล้สุดถึง 4 เซนติเมตร
เลนส์สุดท้ายของกล้องหลังคือเลนส์ Macro ที่ถ่ายในระยะใกล้สุดถึง 4 เซนติเมตร โดยภาพยังให้สีสันความสวยงามอยู่ด้วย
เพิ่มความสวยงามในตอนกลางคืนด้วยฟีเจอร์ Super Nightscape 4.0
Super Nightscape 4.0 ถือเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราถ่ายภาพตอนกลางคืนได้อย่างสวยงาม มีความสว่างมากขึ้น และคมชัดกว่าเดิม ทั้งยังใช้เวลาในการประมวลผลน้อยลง และใช้งานได้ทั้งเลนส์หลักและเลนส์ Ultra-Wide angle ที่สำคัญใครที่ชอบถ่ายภาพกลางคืนให้ดูมีมิติยื่งขึ้นก็สามารถใช้ Pro Nightscape Mode เพื่อปรับค่า ISO, ความเร็วชัตเตอร์, ไวท์บาลานซ์ และโฟกัสอัตโนมัติได้ด้วย ทำให้เราถ่ายภาพตอนกลางคืนให้เป็นที่แสงไฟเส้นๆ ได้อย่างสวยงามครับ
นอกจากนี้ โหมด Super Nightscape 4.0 ก็ยังมีฟิลเตอร์ให้เราได้เล่นอีก 3 แบบ ได้แก่ สีทองทันสมัย, ไซเบอร์พังก์ และฟลามิงโก ที่ให้มิติของภาพออกมาในรูปแบบที่แตกต่างกัน
กล้องหน้า AI Beauty สวยเป็นธรรมชาติ
ในกล้องหน้ามีความคมชัดมากสุดถึง 32 ล้านพิกเซล พร้อมใช้งานฟีเจอร์ Portrait ได้เหมือนกับกล้องหลังครับ แถมใบหน้าและการปรับแต่งต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดูธรรมชาติอย่างมาก
แสงน้อยไม่ต้องกลัวด้วย Nightscape Selfie
หรือใครที่จะเก็บภาพตัวเองในตอนกลางคืนหรือที่แสงน้อยก็สามารถใช้โหมดกลางคืนในกล้องหน้าได้เช่นกันครับ ช่วยให้ใบหน้ามีความคมชัดและความสว่างไปพร้อมกัน
ปิด Nightscape Selfie / เปิด Nightscape Selfie
วิดีโอก็ถ่ายได้แจ่มๆ ในหลากหลายโหมด
ในการถ่ายวิดีโอ realme X7 Pro 5G ก็มีลูกเล่นให้เราใช้งานเพียบครับ ดังนี้
AI Color Portrait Video ที่จะตรวจจับสีต่างๆ ตามที่กำหนดเท่านั้น เช่น จับเฉพาะสีน้ำเงิน, สีเขียว, สีแดง หรือเฉพาะสีตัวบุคคลเท่านั้น
Real-time Bokeh Effect Video จะเป็นการถ่ายวิดีโอที่ฉากหลังจะเบลอแบบเรียลไทม์ ซึ่งการละลายก็ทำได้เนียนๆ แทบไม่มีหลุดโฟกัส
สรุปจุดเด่น
- ดีไซน์ realme X7 Pro 5G สวยงาม จับถือได้สะดวก พร้อมมีน้ำหนักเบาพกพาได้สะดวก
- รองรับ 5G ทั้งแต่แกะกล่อง ใช้งานได้เต็มสปีด
- หน้าจอแสดงผลสุดคมชัด Super AMOLED ใช้งานได้เต็มตาด้วยขนาด 6.5 นิ้ว และไหลลื่นขั้นสุดด้วย Refresh Rate 120Hz
- ชาร์จไวเพียงไม่กี่นาทีด้วย 65W SuperDart Charge
- กล้องหลังจัดเต็ม 4 เลนส์ คมชัดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล พร้อมใช้งานได้ครบทุกระยะและทุกฟังก์ชันที่ต้องการแน่นอน
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ไม่มีหูฟังให้ในกล่อง
- ไม่สามารถใส่ MicroSD Card ได้
realme X7 Pro 5G มาในราคาเพียง 16,990 บาทเท่านั้น โดยเปิดพรีออเดอร์แล้วตั้งแต่วันนี้ – 20 ธันวาคมนี้ พร้อมรับสิทธิ์พิเศษมากมาย ได้แก่ รับฟรี VIP Card ประกันจอแตก 1 ปี และ realme Smart Scale มูลค่ารวม 5,999 บาท โดยวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะอยู่ใวันที่ 21 ธันวาคมนี้