Featured
รีวิว Redmi 13C สมาร์ทโฟนหน้าจอ 90Hz Adaptive Sync l กล้อง 3 ตัว AI 50MP l แบตฯ ใหญ่ 5000mAh และสเปคที่ครบจบได้ในราคาสุดคุ้ม
รีวิว Redmi 13C สมาร์ทโฟนน้องใหม่สเปคแรงสุดในระดับเดียวกัน ขุมพลัง MediaTek Helio G85, หน้าจอไหลลื่น 90Hz Adaptive Sync Refresh rate พร้อมด้วยกล้องหลังคมชัด 50MP และดีไซน์แบบใหม่ได้ความสวยเพรียวบางและเบากว่าเดิม ! บอกเลยว่ารุ่นนี้ไม่ควรมองข้ามเลย วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net จะมารีวิวเต็มๆ ให้ชมกันครับ
สรุปสเปค Redmi 13C
- ขนาดตัวเครื่อง : 168 x 78 x 8.09 มม.
- น้ำหนัก : 192 กรัม
- หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 6.74 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล), 260PPI รองรับ 90Hz Adaptive Sync Refresh Rate, Touch Sampling Rate 180Hz, 1500:1 Contrast Ratio, ความสว่างสูงสุด 600 นิต และรองรับ DC dimming
- หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio G85 Octa Core ความเร็ว 2.0GHz
- GPU : ARM Mali-G52
- RAM : 6/8GB
- ROM : 128/256GB รองรับ MicroSD สูงสุด 1TB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- เลนส์ Auxiliary
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.3, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W Fast Charging
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
แกะกล่อง Redmi 13C
ตัวกล่องของ Redmi 13C ได้ความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มากๆ ด้วยสีส้มที่อยู่ในแถบด้านหน้าส่วนบนแทบทั้งหมด พร้อมด้วยชื่อรุ่น Redmi 13C ชัดเจน และด้านหน้าแถบสีขาวจะบอกขนาดหน้าจอ 6.74″ (17.11cm)
เปิดออกมาจะเจอกับตัวเครื่องที่ยังไม่ได้ติดฟิล์มกันรอยมาให้ครับ ตามด้วยคู่มือการใช้งานเบื้องต้น และเข็มเปิดถาดซิม
และชั้นสุดท้ายจะเป็นอะแดปเตอร์ที่ให้มาเป็นกำลังไฟ 10W ที่ยังไม่ใช่ 18W ตามสเปคที่รองรับ แต่ก็ได้หัวกลมตามมาตรฐานมอก. ใหม่ และสาย USB Type-C
ความเพรียวบางที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่
Redmi 13C มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่ปรับโฉมให้มีความเพรียวบางและเบามากกว่ารุ่นเดิม โดยรุ่นนี้มีตัวเครื่องที่มีความหนาลดลงถึง 0.68 มม. อยู่ที่เพียง 8.09 มม.
รวมถึงน้ำหนักก็อยู่ที่ 192 กรัม ที่ไม่ได้รู้สึกหนักจนเกินไป ผู้หญิงก็ถือว่าได้สบายไม่เมื่อยมือ แถวยังช่วยให้เราจับมือถือได้แน่นและถนัดมือยิ่งขึ้นครับ
โมดูลกล้องหลังก็มีการปรับดีไซน์ใหม่ให้ทันสมัยกว่าเดิมด้วยการออกแบบที่เรียบง่าย ตัวผิวฝาหลังจะเป็นแบบด้าน แต่ตรงส่วนที่วางเลนส์กล้องจะตัดด้วยความมันเงา และมีเส้นแบ่งบางๆ อย่างลงตัวครับ
Redmi 13C มีให้เลือก 3 สี ซึ่งแต่ละสีก็ได้รับแรงบันดาลใจจากองค์ประกอบจากธรรมชาติ ได้แก่ สีดำ Midnight Black ที่เราได้มาในรีวิวนี้ ได้ความคลาสสิก มองยังไงก็ไม่เบื่อแน่นอน ขณะที่อีก 2 สีจะเป็นสี Navy Blue และ Clover Green ครับ
หน้าจอขนาดใหญ่ ไหลลื่นแบบ 90Hz Adaptive Sync
กลับมาดูที่ฝั่งด้านหน้ากันบ้าง Redmi 13C ให้หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ถึง 6.74 นิ้ว เป็นพาเนลแบบ LCD ที่ยังคงได้ความสดใสของสีสันที่จัดเต็ม ใครชอบชมวิดีโอหรือความบันเทิงต่างๆ ยังคงได้รับอรรถรสเต็มที่ โดยความละเอียดหน้าจออยู่ที่ HD+ (1600 x 720 พิกเซล) ได้ความหนาแน่นพิกเซลที่ 260PPI พร้อม 1500:1 Contrast Ratio และยังได้ความสว่างสูงสุด 600 นิตผ่านโหมดแสงแดดที่ไม่ให้หน้าจอมืดเกินไปเวลาใช้งานในที่กลางแจ้งครับ
ด้านความไหลลื่นยังรองรับ 90Hz Adaptive Sync ที่ระบบจะปรับค่า Refresh Rate เองตามการใช้งานในแต่ละแอพพลิเคชั่นเพื่อการประหยัดพลังงาน แต่หากใครต้องการใช้ 90Hz ตลอดเวลาก็สามารถเปิดได้เช่นกันครับ
และหน้าจอของ Redmi 13C ยังรองรับเทคโนโลยี DC Dimming ที่เข้ามาช่วยในการถนอมสายตาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดความเมื่อยล้าของดวงตาเวลาใช้งานที่แสงน้อย แถมยังผ่านมาตรฐานจาก TÜV Rheinland รวมถึงเทคโนโลยีการปล่อยแสงสีฟ้าต่ำ(Low Blue Light) และการไม่กระพริบ (Flicker Free) อีกด้วย
พาชมรอบเครื่อง
พามาดูรอบเครื่องกันครับ เริ่มที่ด้านบนของหน้าจอกันเลย จะได้กล้องหน้าที่ฝังอยู่ในหยดน้ำ และลำโพงสำหรับการสนทนา
ทางด้านซ้ายจะมีเพียงช่องใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM 2 ช่อง และช่องใส่ MicroSD Card แบบครบๆ 3 Slot
ส่วนทางขวาจะได้ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงที่ส่วนบน พร้อมด้วยปุ่ม Power ที่ฝังระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย
ที่ด้านล่างจะมีทั้งไมโครโฟนตัวหลัก ตามด้วยพอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลักครับ
โดยใครที่ใช้ช่องเสียบฟัง 3.5 มม. ก็สามารถใช้ได้ที่ด้านบนตัวเครื่อง
และที่ด้านหลังจะมีวงกล้องใหญ่ๆ 2 วง เป็นเลนส์หลักในวงด้านบน ส่วนเลนส์ Macro และ Auxiliary จะอยู่ด้วยกันในวงด้านล่างครับ ขณะที่ไฟแฟลชก็มีมาให้ที่มุมขวาบนของโมดูล และทางมุมขวาล่างจะเป็นข้อความ “50MP AI CAMERA”
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
Redmi 13C แกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14 ที่มีฟังก์ชันและการจัดการระบบภายในได้ค่อนข้างดี ทำให้เราใช้งานได้ไหลลื่น
สแกนลายนิ้วมือด้านข้างได้สะดวก
ในรุ่นนี้เราสามารถสแกนลายนิ้วมือได้อย่างสะดวกที่ด้านข้าง สามารถตรวจจับและสแกนได้รวดเร็วมากๆ แต่ก็ยังมีความแม่นยำอยู่ครับ
ส่วนการสแกนใบหน้าก็ยังใช้งานได้เป็นอย่างดีครับ
วอลเปเปอร์มีให้เลือกเพียบ !!
ใครที่ชอบใช้วอลเปเปอร์ที่ต้องการเปลี่ยนเยอะๆ ในรุ่นนี้ก็มีให้เลือกเพียบเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นวอลเปเปอร์ฉากหลังที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง หรือจะเป็นแบบธรรมชาติและภาพถ่ายก็มีให้ใช้งานกันฟรีๆ เลยครับ
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ชิปเซ็ตเกมมิ่งตัวประหยัด MediaTek Helio G85
Redmi 13C จัดหน่วยประมวลผล MediaTek Helio G85 แบบ Octa Core ความเร็ว Clock สูงสุด 2.0GHz พร้อมใช้ GPU ARM Mali-G52 ที่ประมวลผลกราฟิกในการเล่นเกมได้ดีเลยทีเดียวกับสมาร์ทโฟนระดับนี้ครับ
ส่วนขยาย RAM เพิ่มได้สูงสุดถึง 8GB
ในรุ่นนี้ยังมาพร้อมส่วนขยาย RAM ที่เพิ่มจากเดิมได้สูงสุดถึง 8GB (ในรุ่น RAM 8GB) ทำให้สามารถมี RAM ได้รวมสูงสุดถึง 16GB แต่ที่เราได้มาจะเป็นรุ่น RAM 6GB ก็สามารถเพิ่มได้ที่ 6GB รวมเป็น 12GB ที่ก็ถือว่าไม่น้อยเลยครับ
ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.1.0 ได้มาที่ 274,536 คะแนน
ส่วนผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 439 คะแนน และ Multi-Core ที่ 1,377 คะแนน
ทดสอบการเล่นเกม
ROV
เริ่มกันด้วยเกม ROV กันเช่นเคยครับ สามารถเปิดทุกอย่างสูงสุดได้เลย ยกเว้นเพียงการแสดงผลที่เปิดได้ในระดับสูง จากที่เราได้ลองเล่นเฟรมเรทวิ่งได้ค่อนข้างนิ่งเลยครับ จะอยู่ที่ราวๆ 58-60fps ตลอด ยังไม่เจออาการดรอปลงมาจนกระตุกครับ
Call of Duty: Mobile
และเกม Call of Duty: Mobile สามารถเปิดภาพกราฟิกได้ที่ระดับกลางและเฟรมเรทสูงครับ ซึ่งการปรับระดับนี้ก็ถือว่าพอเหมาะกับเกมนี้จริงๆ เล่นได้ลื่นๆ หน้จอตอบสนองได้ไว และไม่เจอเรื่องความร้อนที่ผิดปกติครับ
แบตเตอรี่ใหญ่ 5000mAh พร้อมใช้งานได้ทั้งวัน
แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh ใน Redmi 13C ทำให้ใช้งานแบบทั่วไปได้ครบตลอดวันแบบแน่นอน และยังเหลือๆ ให้สำหรับชาร์จตอนกลางคืนด้วย
ซึ่งรุ่นนี้รองรับการชาร์จเร็ว 18W PD ที่สามารถใช้อะแดปเตอร์กำลังไฟสูงได้เพื่อทำการชาร์จด่วน
กล้องหลัง 50MP AI CAMERA
Redmi 13C จัดกล้องหลัง AI มาให้ในความคมชัดระดับ 50MP พร้อมด้วยเลนส์ Macro เพื่อถ่ายภาพได้ในระยะใกล้ๆ 4 ซม. ครับ โดยหลักๆ กล้องใน Redmi 13C จัดว่าถ่ายสวยและรองรับหลายฟีเจอร์พอสมควรสำหรับราคาระดับนี้
กล้องหลัง AI 50MP ถ่ายสวยคมชัด
ในเลนส์หลักของรุ่นนี้ที่จัดมาให้ถึง 50MP รองรับการถ่ายภาพแบบ HDR ย้อนแสงได้ค่อนข้างดีและแสดงภาพพรีวิวให้เห็นกันแบบเรียลไทม์ ทำให้จบได้ในหลังกล้อง แทบไม่ต้องมาแต่งอะไรเพิ่มเติมแล้ว เพราะค่าสีค่อนข้างสด แสงและเงาก็เร่งมาให้เห็นได้ชัดเจนทั้งภาพเลยครับ
ฟิลเตอร์กล้องฟิล์มอีก 10 แบบ
ใครที่อยากลองอะไรใหม่ๆ ให้แตกต่างจากภาพปกติ ก็ยังมีฟิลเตอร์แบบกล้องฟิล์มมาให้อีกกว่า 10 แบบเลยทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็นแบบสีสันหรือขาวดำก็มีให้เลือกตามใจชอบเลย
Portrait ตัดขอบได้เนียน พร้อมถ่ายได้อย่างเป็นธรรมชาติ
โหมดบุคคล (Portrait) ในรุ่นนี้ก็ยังให้ภาพที่ออกมาเป็นธรรมชาติ ตัดขอบรอบตัวบุคคลได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวเมื่อยู่ในที่แสงกลางแจ้งครับ แต่น่าเสียดายที่ความบิวตี้บนใบหน้าไม่สามารถปรับได้ในโหมดนี้ครับ
ถ่ายภาพกลางคืนได้ดีสมราคา
ในรุ่นราคาประหยัดอย่าง Redmi 13C ก็ยังมีโหมดกลางคืนมาให้ใช้กันครับ โดยภาพกลางคืนก็ถ่ายได้ค่อนข้างดีสำหรับราคารุ่นประหยัดครับ โดย Noise ก็ยังมีให้เห็นอยู่บ้างครับ แต่โดยรวมก็ยังเห็นรายละเอียดของวัตถุอยู่นะ
ถ่ายได้ใกล้ด้วยเลนส์ Macro
เลนส์ Macro มีมาให้เช่นเคย ให้เราถ่ายภาพใกล้ๆ ระยะ 4 ซม. ได้เลยแบบชัดๆ ครับ ซึ่งแนะนำให้ถ่ายในที่แสงเยอะๆ จะได้ภาพที่คมชัดเลยทีเดียวครับ
เซลฟี่ได้สวยพร้อมรองรับในโหมดบุคคลด้วย
การเซลฟี่ในรุ่นนี้ก็ยังให้ภาพที่สวย ถ่ายย้อนแสงได้อยู่สะด้วย และยังรองรับการถ่ายในโหมดบุคคลที่ละลายฉากหลังได้เป็นอย่างดี
สรุปการใช้งาน Redmi 13C
Redmi 13C เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดที่ค่อนข้างครบเครื่องเลยครับ ตั้งแต่การได้หน้าจอขนาดใหญ่ 6.74 นิ้ว คมชัดแบบ HD+ และได้ความไหลลื่น 90Hz ได้ทั้งรับชมความบันเทิงและเล่นเกมได้เป็นอย่างดีครับ รวมถึงการได้ CPU MediaTek Helio G85 ที่เป็นชิปรุ่นเล็กแต่เล่นเกมได้ไม่ธรรมดาเลย และที่ชอบเลยคือแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 5000mAh ทำให้ใช้งานแบบทั่วไปได้เต็มวันแน่นอนครับ ส่วนกล้องหลังที่ให้มาก็เพียงพอต่อสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและยังถ่ายได้สวยงามตามสไตล์ตระกูล Redmi ด้วยครับ
ราคาและวันวางจำหน่าย
Redmi 13C มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Navy Blue และ Clover Green โดยมี 2 รุ่นความจุ ได้แก่ รุ่นความจุ 6GB+128GB ราคา 3,999 บาท และรุ่นความจุ 8GB+256GB ราคา 4,799 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม
พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi 13C ในระหว่างวันที่ 24 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2566 รับฟรี Redmi 13C Giftbox มูลค่า 299 บาท