Android News
เปิดตัว Redmi K50 Ultra และรุ่นพิเศษ Mercedes AMG PETRONAS F1 Team Edition
Redmi K50 Ultra เปิดตัวอย่างเป็นทางการ สมาร์ทโฟน Redmi รุ่นแรกที่มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen 1 โดยมีรุ่นพิเศษ Mercedes AMG PETRONAS F1 Team Edition สำหรับแฟนๆ F1 ซึ่งงานนี้ยังได้เปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่ Xiaomi Pad 5 Pro ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น 12.4 นิ้ว อีกด้วย
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้เป็นเหมือนการผสมผสานระหว่าง K50 Pro และ K50 Gaming แต่มีฟีเจอร์บางอย่างที่เหนือกว่า เพราะเป็น Redmi รุ่นแรกที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen 1 รุ่นใหม่ ต่อจากรุ่นเรือธง Xiaomi 12S และ Mix Fold 2 ที่ทาง Xiaomi เปิดตัวไปก่อนหน้านี้
ตัวเครื่องได้รับการออกแบบให้ชิปเซ็ตติดอยู่กับแผงระบายความร้อนที่มีขนาด 3,725 ตร.มม. ซึ่งช่วยทำให้ชิปรักษาอุณหภูมิในการประมวลผลไม่ให้ร้อนจนเกินไปแม้หลังจากเล่นเกมนานกว่า 2 ชั่วโมง และที่สำคัญกว่านั้นคือสามารถคงอัตรารีเฟรช 120fps ได้ตลอดการใช้งาน อีกทั้งยังเลือกใช้ RAM LPDDR5 ขนาด 8GB และ 12GB (6400Mbps) พร้อมความจุตัวเครื่องที่เป็นชนิด UFS 3.1 ขนาด 128GB, 256GB และ 512GB
จอแสดงผล AMOLED มีขนาด 6.67 นิ้ว เป็นแผงแบบ 12 บิตที่ต้องบอกว่าเป็นของใหม่มากๆ บนสมาร์ทโฟนที่สามารถแสดงสีได้ 68.7 พันล้านสี เมื่อเทียบกับรุ่น K50 Gaming ที่หน้าจอเป็นแผง 10 บิต (1080 x 2400 พิกเซล) และ K50 Pro เป็นแผงหน้าจอ 8 บิต (1440 x 3220 พิกเซล) โดยจอแสดงผลมีการปรับเทียบสีที่สมบูรณ์แบบ (deltaE อยู่ที่ประมาณ 0.38) แถมรองรับ HDR10+ และ Dolby Vision อีกด้วย
K50 Ultra มีแผง 12 บิตหายากพร้อมความละเอียดที่ปรับสมดุลคุณภาพของภาพกับการใช้พลังงาน K50 Ultra มีแผง 12 บิตหายากพร้อมความละเอียดที่ปรับสมดุลคุณภาพของภาพกับการใช้พลังงาน K50 Ultra มีแผง 12 บิตหายากพร้อมความละเอียดที่ปรับสมดุลคุณภาพของภาพกับการใช้พลังงาน K50 Ultra มีแผง 12 บิตหายากพร้อมความละเอียดที่ปรับสมดุลคุณภาพของภาพกับการใช้พลังงาน
K50 Ultra มีแผง 12 บิตหายากพร้อมความละเอียดที่ปรับสมดุลคุณภาพของภาพกับการใช้พลังงาน
Redmi K50 Ultra มีความละเอียดหน้าจออยู่ระหว่าง FHD+ และ QHD+ คือ 1220 x 2712 พิกเซล (446ppi) จากข้อมูลของ Xiaomi จอแสดงผลนี้เกกือบใกล้เคียงกับ QHD+ แต่ใช้พลังงานน้อยกว่า ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ก็ได้แก่ การรองรับอัตรารีเฟรช 120Hz, อัตราการสุ่มความไวในการตอบสนองต่อสัมผัส 480Hz และการหรี่ PWM ความถี่สูง 1920Hz รวมไปถึงเซ็นเซอร์สำหรับอ่านลายนิ้วมือใต้หน้าจอยังสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ด้วย
สำหรับแบตเตอรี่ 5000mAh ที่ให้มาก็รองรับการชาร์จเร็ว 120W ด้วยชิป Surge P1 ที่ทาง Xiaomi พัฒนาขึ้นมา ซึ่งทางบริษัทเคลมว่าปริมาณแบตเตอรี่นี้ใช้งานได้ตลอดทั้งวันด้วยชิปเซ็ตใหม่และจอแสดงผลที่มีประสิทธิภาพ
กล้องหลังยังคงคล้ายกับรุ่น Pro โดยมีกล้องหลัก 108MP พร้อมระบบกันภาพสั่นไหว OIS เซ็นเซอร์ HM6 ขนาด 1/1.67 นิ้ว ที่มีพิกเซลเนทีฟ 0.64µm ที่เป็นเทคโนโลยีรวมพิกเซล 9 ต่อ 1 เป็นพิกเซลที่ใช้งานจริงได้ 1.92µm และรูรับแสงกว้าง f/1.6 เพื่อการรับแสงได้สว่างขึ้น
นอกจากนี้ ที่ด้านหลังยังมีกล้อง Ultra-wide ขนาด 8MP ให้มุมกว้าง 120 องศา และ Macro 2MP ในขณะที่กล้องเซลฟี่ด้านหน้ามีขนาด 20MP เป็นเซ็นเซอร์ IMX596
สมาร์ทโฟน 5G รุ่นนี้ รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6e มีทั้ง NFC และ IR Blaster พร้อมลำโพงสเตอริโอรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ในขณะที่พอร์ตเชื่อมต่อเป็นแบบ USB-C และการเชื่อมต่อไร้สายไปยังหูฟังก็รองรับระบบเสียง Hi-Res
ตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี ไดแก่ สีดำ สีเงิน และสีฟ้า ราคาในแต่ละรุ่น ดังนี้
- 8GB+128GB ราคา 2,999 หยวน (ประมาณ 15,700 บาท)
- 8GB+256GB ราคา 3,099 หยวน (ประมาณ 16,200 บาท)
- 12GB+256GB ราคา 3,399 หยวน (ประมาณ 17,800 บาท)
- 12GB+512GB ราคา 3,699 หยวน (ประมาณ 19,400 บาท)
- 12GB+512GB Mercedes F1 Edition ราคา 4,199 หยวน (ประมาณ 22,000 บาท)
Mercedes AMG PETRONAS Formula One Team Edition เป็นรุ่นพิเศษเพื่อแฟนๆ F1 ใช่ มีจำนวนจำกัดเพียง 20,000 เครื่องเท่านั้น
สเปค Redmi K50 Ultra
- หน้าจอ: 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1220 x 2712 พิกเซล OLED, 68 พันล้านสี, 144Hz, HDR10+, Dolby Vision
- ระบบปฏิบัติการ: Android 12 ครอบทับด้วย MIUI 13
- ชิปเซ็ต: Snapdragon 8+ Gen 1
- RAM: 8GB/12GB
- ความจุเครื่อง: 128GB/256GB/512GB
- microSD card: ไม่รองรับ
- กล้องหลัง 3 ตัว:
- กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล f/1.6
- กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
- กล้องหน้า: 20 ล้านพิกเซล
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 120W
ที่มา : Xiaomi