Featured
รีวิว Redmi Note 11 สมาร์ทโฟนที่ก้าวสู่ความท้าทายใหม่ด้วยสเปคสุดแรง Snapdragon 680 ชาร์จไว 33W Pro และกล้อง 50MP
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review00.jpg)
รีวิว Redmi Note 11 สมาร์ทโฟนตระกูลสุดคุ้มจาก Xiaomi ที่บอกเลยว่าให้เราได้ก้าวสู่ความท้าทายใหม่ๆ ด้วยสเปคที่เร็วแรงแบบจัดเต็มขั้นสุด ตั้งแต่หน้าจอ AMOLED แบบ 90Hz ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 680 ให้แบตเตอรี่ยักษ์ 5000mAh ชาร์จเร็ว 33W แถมได้กล้องหลัง AI 4 เลนส์ คมชัดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล แต่ก็ยังฟีเจอร์ระดับท็อปมาให้ใช้งานกันด้วย โดยจะมีอะไรบ้างวันนี้ทีมงาน iphone-droid.net จะมาพาชมรีวิวเต็มๆ กันครับ
สรุปสเปค Redmi Note 11
- ขนาดตัวเครื่อง : 159.87 x 73.87 x 8.09 มม.
- น้ำหนัก : 179 กรัม
- ป้องกันละอองน้ำมาตรฐาน IP53
- หน้าจอแสดงผล AMOLED DotDisplay ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล), Refresh Rate สูงสุด 90Hz, Touch Sampling rate 180Hz และความสว่างสูงสุด 1,000 นิต
- หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 680 Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.4GHz
- RAM : 4/6GB
- ROM : 128GB รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุด 1TB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 มุมกว้าง 118 องศา
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 ซม.
- เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 13.0.1
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และใช้พอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 33W Pro
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
- ตัวเครื่อง Redmi Note 11 พร้อมติดฟิล์มกันรอย
- อะแดปเตอร์ 33W
- สาย USB Type-C
- เคสใส
- อุปกรณ์เปิดถาดซิม
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review71.jpg)
ดีไซน์ผิวด้านสุดพรีเมี่ยม
ต้องบอกเลยว่าประทับใจตั้งแต่ได้สัมผัสตัวเครื่อง Redmi Note 11 เป็นครั้งแรกเลยครับ ด้วยฝาหลังที่มีความพรีเมี่ยมด้วยวัสดุผิวด้านที่ติดรอยนิ้วมือได้ยาก และดูมีความแข็งแรงในการประกอบมากแม้จะใช้วัสดุเป็นพลาสติกก็ตาม
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review01.jpg)
โดยสีน้ำเงินเข้ม Twilight Blue ที่เราได้มารีวิวในครั้งนี้ก็มีความดูมีความเข้มขรึมดูลึกลับน่าค้นหา และสีสันก็มีการเล่นแสงเบาๆ อีกด้วย ที่สำคัญเมื่อเราลองสัมผัสฝาหลังก็จะรู้สึกถึงความคล้ายกลิตเตอร์เล็กๆ
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review10.jpg)
งานประกอบของ Redmi Note 11 สามารถป้องกันละอองน้ำได้สบายด้วยมาตรฐาน IP53 ซึ่งเอาไว้ป้องกันเหตุที่ไม่คาดฝันได้ครับ (ไม่แนะนำให้ไปเล่นในน้ำนะครับ)
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review23.jpg)
หน้าจอ AMOLED พร้อมจอ 90Hz
เรื่องหน้าจอในรุ่นนี้ก็ให้มาสุดเช่นกันครับ ให้หน้าจอแบบ AMOLED มาเลยทีเดียว โดยมีขนาดใหญ่ 6.43 นิ้ว ควบคู่ความละเอียด FHD+ ที่ให้เราได้รับชมวิดีโอต่างๆ ได้เต็มตาและสีสันก็ถือว่าสวยสดตามสไตล์ของจอ AMOLED ด้วย พร้อมกับได้ความสว่างของหน้าจอสูงสุดถึง 1,000 นิต ทำให้ใช้งานที่กลางแจ้งได้สบายๆ
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review14.jpg)
และที่ขาดไปไม่ได้เลยคือการรองรับ Refresh Rate 90Hz ที่ใช้งานได้ไหลลื่นติดมืออย่างมาก ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนเวลาเล่นเกมครับ
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review31.jpg)
บริเวณเหนือหน้าจอจะมีกล้องหน้าแบบ Punch Hole ตรงกลาง และลำโพงที่ 2 อยู่ทางด้านบน และเป็นลำโพงสเตอริโอด้วย
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review26.jpg)
ทางซ้ายตัวเครื่องจะมีถาดใส่ซิมการ์ดและ MicroSD Card แบบ 3 ช่องเลยครับ ใส่ได้ 2 ซิม และอีก 1 MicroSD Card
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review30.jpg)
ทางขวาตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ที่รองรับการสแกนลายนิ้วมือ ที่มีการดีไซน์ให้เหมือนกับปุ่ม Power ทั่วไปที่จะไม่มีการยุบลงไปในตัวเครื่องเหมือนรุ่นอื่นๆ ครับ
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review27.jpg)
ด้านบนเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ถัดไปเป็นเซ็นเซอร์ IR Blaster และไมโครโฟนตัวที่ 2
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review29.jpg)
ส่วนด้านล่างจะมีไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวที่ 1
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review28.jpg)
และที่ด้านหลังเครื่องจะมีโมดูลกล้องที่มุมซ้ายบน พร้อมด้วยกล้อง 4 เลนส์ และไฟแฟลชอีก 1 ดวง ทั้งยังมีสโลแกน “50MP AI CAMERA”
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review25.jpg)
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
Redmi Note 11 แกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบทับด้วย MIUI 13 ในเวอร์ชัน 13.0.1 ครับ โดยการใช้งานถือว่าเสถียรมากๆ และมีลูกเล่นให้เราลองใช้งานกันเพียบ
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review33.jpg)
รองรับ Always-On Display ด้วย
แม้จะเป็นรุ่นกลางแต่ฟีเจอร์ Always-On Display ที่มักอยู่ในรุ่นเรือธงก็มาด้วยครับ โดยเราสามารถเปิดเพื่อดูข้อมูลเบื้องต้นได้ เช่น เวลา, วันที่, แบตเตอรี่คงเหลือ รวมถึงไอคอนของแอปพลิเคชั่นที่มีการแจ้งเตือนเข้ามา
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review32.jpg)
ทั้งนี้เราก็สามารถปรับแต่งความสวยงามหรือข้อความที่จะให้แสดงได้ด้วยเหมือนกัน บอกเลยว่ามีให้เลือกเยอะสุดๆ
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review63.jpg)
ลำโพงสเตอริโอแบบคู่ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ
สิ่งที่ Redmi Note 11 มีให้เราและสายความบันเทิงคงชอบกันแน่ๆ ครับ ในการมีลำโพงแบบคู่ที่แยกแยะเสียงฝั่งซ้าย-ขวาได้ชัดเจนมาก แถมความดังก็ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงด้วย ใครที่เล่นเกมแนว FPS หรือภาพยนตร์บนบริการสตรีมมิ่งต่างๆ จะยิ่งได้อรรถรสขึ้นไปอีกขั้นเลย
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review17.jpg)
ระบบความปลอดภัย
Redmi Note 11 มีระบบความปลอดภัยให้เราใช้งานกันหลักๆ 2 แบบ เป็นการสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ข้างตัวเครื่อง เรื่องความเสถียรและความแม่นยำก็หายห่วงได้เลยครับ เพราะทำได้ดีมากๆ จากที่ลองใช้มายังไม่เจอความผิดพลาดอะไร
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review19.jpg)
ส่วนแบบที่ 2 จะเป็นการสแกนใบหน้าที่ทำได้เป็นอย่างดี สแกนได้รวดเร็วมากๆ
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review20.jpg)
เปิดศูนย์ควบคุมทำได้ 2 แบบ
ในค่าเริ่มต้นตอนใช้งานครั้งแรก เราสามารถเลือกรูปแบบศูนย์ควบคุมได้ 2 แบบ โดยแบบแรกจะเป็นเวอร์ชันเก่าที่เพียงปัดลงจากเหนือหน้าจอเพื่อดูได้ทั้งการแจ้งเตือนใหม่และการตั้งค่าด่วนครับ ส่วนแบบเวอร์ชันใหม่จะแบ่งเป็นครึ่งซ้าย-ขวา ซึ่งปัดลงทางทางซ้ายเหนือหน้าจอจะเป็นการแจ้งเตือน และปัดลงฝั่งขวาจะเป็นการตั้งค่าด่วนครับ
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review65.jpg)
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review66.jpg)
ใช้งานได้นานด้วยฟีเจอร์แสงเน้นการอ่าน
สำหรับ Redmi Note 11 เราสามารถปรับแสงหน้าจอเพื่อการอ่านข้อความเป็นเวลานานๆ ได้ถึง 2 แบบ โดยแบบแรกจะเป็นการตัดแสงสีฟ้าออกไป ซึ่งเราสามารถปรับอุณหภูมิสีได้ด้วย
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review35.jpg)
ส่วนแบบที่ 2 จะเป็นกระดาษที่จะเพิ่มพื้นหลังให้คล้ายกับกระดาษของจริงเพื่อช่วยลดอาการเมื่อยล้าดวงตา โดยเราจะปรับได้ทั้งอุณหภูมิสีและความเข้มของพื้นผิวกระดาษได้ครับ
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review36.jpg)
โหมดมืดก็ใช้งานได้เช่นกัน
หากใครต้องการใช้งานสีแบบเดิมก็เปลี่ยนเป็นโหมดมืดได้ครับ โดยพื้นหลังและแอปที่รองรับจะเปลี่ยนเป็นธีมเข้มทั้งหมด ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในที่แสงน้อยเหมือนกันนะ
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review67.jpg)
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
Redmi Note 11 ขับเคลื่อนด้วย CPU Qualcomm Snapdragon 680 Octa-core มีความเร็วสูงสุด 2.4GHz ซึ่งเป็นชิประดับกลางที่คุ้มค่ามากๆ เพราะได้ความเร็วในการใช้งานและเล่นเกมได้แบบสบายๆ ครับ ทั้งยังให้ RAM มาที่ 6GB การเปิดหรือสลับแอปต่างๆ ก็ทำได้ไหลลื่นและก็ไม่ต้องโหลดใหม่ให้เสียเวลา
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review21.jpg)
ที่สำคัญ Redmi Note 11 ยังมีเทคโนโลยีแปลงพื้นที่ว่างเป็น RAM ได้อีก 2GB รวมกับของเดิมที่มี 6GB ทำให้รุ่นนี้มี RAM สูงถึง 8GB เลยทีเดียว
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review68.jpg)
Redmi Note 11 ได้ผลคะแนนการทดสอบประสิทธิภาพบน AnTuTu อยู่ที่ 252,005 คะแนน
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review60.jpg)
ปรับแต่งคาวมแรงก่อนการเล่นเกมด้วย Game Turbo
ในรุ่นนี้จะมีฟีเจอร์ Game Turbo มาให้ใช้งานกันครับ (เข้าไปได้เปิดที่ การตั้งค่า > คุณลักษณะพิเศษ > Game Turbo) โดยในฟีเจอร์นี้จะเป็นการรวบเกมทั้งหมดไว้ในที่เดียวกัน แถมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความแรงของเกมต่างๆ ให้เล่นได้ลื่นมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มความเสถียรของเครือข่าย, การสัมผัสหน้าจอ และมีการปิดการแจ้งเตือนเพื่อไม่ให้แอปต่างๆ มารบกวนระหว่างเล่นด้วย
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review61.jpg)
และที่ชอบมากๆ เลยคือเราสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมของแต่ละเกมได้ อย่างการตอบสนองการสัมผัสและความไวต่อการแตะต่อเนื่อง ซึ่งลองไปปรับให้เหมาะกับเกมแต่ละแนวได้เลยครับ
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review62.jpg)
ทดสอบการเล่นเกม
Genshin Impact
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review15.jpg)
เริ่มกันด้วยเกมกินสเปคสุดๆ อย่าง Genshin Impact ในค่าเริ่มต้นระบบจะปรับกราฟิกระดับต่ำมาให้ครับ ซึ่งจริงๆ เราก็ขยับขึ้นมาเป็นระดับกลางได้เหมือนกันนะ เพราะเล่นได้ไหลลื่น ยังสัมผัสหน้าจอหรือเคลื่อนไหวหมุนไปมาได้ไวอยู่เหมือนเดิมครับ
ROV
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review17-1.jpg)
สำหรับเกม ROV เปิดได้สุดทั้งหมดรวมถึงเฟรมเรทสูงได้ด้วย ยกเว้นการแสดงผลระดับสูง โดยการเล่นโหมดปกติ ด้วยความที่เป็นชิป Snapdragon 680 ก็เล่นได้ลื่นและเฟรมเรทก็นิ่งมากๆ ครับ และจากที่ลองไปประมาณ 3 รอบ หรือประมาณ 35 นาที ตัวเกมก็ไม่มีอาการดื้อให้เห็น
PUBG Mobile
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review18.jpg)
ส่วนแนว FPS อย่าง PUBG Mobile ก็สามารถเปิดกราฟิกได้ในระดับ HD และเฟรมเรทกลางครับ ซึ่งใครไม่เน้นภาพสวยๆ แต่เน้นการเล่นที่ไหลลื่นก็มาถูกทางแล้วครับ โดยไม่มีอะไรติเลยสำหรับการเล่นเกมนี้ครับ และเกือบลืมไปว่าได้ลำโพง 2 ตัวในการช่วยเรื่องจับทิศทางคู่ต่อสู้ตอนไม่ใส่หูฟังด้วย!
แบตเตอรี่อึด 5000mAh แถมชาร์จไวสุด 33W Pro
ด้วยความที่แบตให้มาจุกๆ ถึง 5000mAh การใช้งานทั่วไปก็อยู่รอดไปตลอดวันแล้วครับ ที่สำคัญยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Pro เข้ามาช่วย ซึ่งจากที่เราลองชาร์จจาก 30% ให้เต็ม 100% จะใช้เวลาประมาณ 70 นาที
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review73.jpg)
กล้องถ่ายรูป
สำหรับ Redmi Note 11 ยังไปสุดในเรื่องกล้องที่ให้ความคุ้มค่าด้วยกล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera เลยครับ โดยฟีเจอร์และความสวยงามของภาพทำได้ดีมากๆ ในเรทราคานี้
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review24.jpg)
ถ่ายคมชัดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล ด้วยโหมดความละเอียดสูง
เลนส์หลักของรุ่นนี้มีความละเอียดสูงสุดที่ 50 ล้านพิกเซล ซึ่งจะอยู่ในโหมด “50M” ซึ่งจะได้ภาพที่มีความละเอียดสูง สามารถซูม/ครอปได้โดยภาพไม่แตก หรือใครจะนำไปใช้งานต่อก็ได้เช่นกัน
AI สุดฉลาดปรับแต่งภาพได้รวดเร็ว
Redmi Note 11 ยังมีความฉลาดของ AI เข้ามาช่วยในโหมดปกติครับ ซึ่งตรวจจับวัตถุได้แม่นยำมากๆ ระบุได้เลยว่าสิ่งที่เราจะถ่ายคืออะไร โดยจะแสดงเป็นสัญลักษณ์ไอคอน AI เหนือตัวอย่างภาพ และสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือความสดของสีจะโดดเด่นขึ้นมาทันที ช่วยเสริมให้ภาพมีความสวยงามมากขึ้นด้วย
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review72.jpg)
Ultra-Wide Angle ถ่ายมุมกว้างสุด 118 องศา
ในเลนส์มุมกว้างก็ถ่ายได้กว้าง 118 องศา ช่วยให้เราเก็บองค์ประกอบของภาพได้ครบถ้วนโดยไม่จำเป็นต้องถอยออกมาไกลๆ เลยครับ แถมภาพที่ได้ก็มีความคม ความสด และสีสันยังคงฉูดฉาดไม่ต่างจากเลนส์หลักมากเกินไปครับ บอกเลยว่าได้ใช้งานบ่อยแน่นอน
เลนส์หลัก / เลนส์ Ultra-Wide Angle
ถ่ายวัตถุได้ใกล้ Macro แถมรองรับ AI สะด้วย!
ในโหมด Macro น่าจะได้ใช้งานกันจนชินแล้วครับ รุ่นนี้ก็ถ่ายได้ใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร แต่ความพิเศษคือการรองรับ AI ที่ช่วยเพิ่มสีสันความสวยงามขึ้นไปอีกด้วย
Night Mode ถ่ายกลางคืนได้สว่างและชัดขึ้น
สำหรับโหมดกลางคืนใน Redmi Note 11 ทำได้ดีในระดับหนึ่งเลยครับเมื่อเทียบกับโหมดปกติ ภาพจะมีความสว่างมากขึ้น รวมถึงสีสันก็จะมีความโดดเด่นและสดใสขึ้นมาด้วยเหมือนกัน
โหมดปกติ / Night Mode
โหมด Portrait เบลอหลังได้เนียนพร้อมปรับบิวตี้ได้ธรรมชาติ
Redmi Note 11 เป็นอีกรุ่นที่ถ่าย Portrait ได้ดีมากๆ เพราะการเบลอฉากหลังทำได้เนียนตามากๆ ตัดขอบได้แม่นยำ (ถ้าดูตามรอยผมหรือช่องว่างของนิ้วมือจะเห็นชัดมากๆ) ที่สำคัญ การปรับแต่งใบหน้าหรือความบิวตี้ก็ไม่ได้จัดจ้านจนเกินธรรมชาติครับ ทำให้เรายังคงนำมาปรับแต่งเพิ่มเติมได้อีกหากต้องการเพิ่ม
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ชอบมากๆ เลยคือการปรับความเบลอได้ทีหลัง เมื่อเราลองมาดูภาพแล้วอยากได้ความเบลอหลังมากขึ้นหรือลดลงก็สามารถกดปรับเองได้เลยครับ สามารถทำได้ตั้งแต่ f/1.0 – f/16 เลยทีเดียว
![](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review70.jpg)
ฟิลเตอร์ในโหมด Portrait มีให้เลือกเพียบ
ใครที่อยากได้อารมณ์ภาพหลากหลายรูปแบบ ในโหมด Portrait จะมีฟิลเตอร์ให้เราเลือกใช้กันเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นวันหยุด, ออกซิเจน, มิ้นท์, สีน้ำเงินท้องฟ้า, หวานฉ่ำ, รุ่งอรุณ, ขาวดำ หรือคลาสสิค เป็นต้น ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีสีสันที่ต่างกันครับ เลือกใช้กันได้ไม่มีเบื่อแน่ๆ
เซลฟี่สวยงามได้เป็นธรรมชาติเกินราคา
กล้องหน้าคมชัด 13 ล้านพิกเซลของรุ่นนี้ทำได้ดีเกินคาดโดยเฉพาะในการถ่ายโหมดบุคคล มีการเบลอดูจะไล่ระดับไปเรื่อยๆ ยิ่งไกลยิ่งเบลอเยอะ และใบหน้ายังให้ความบิวตี้เป็นธรรมชาติไม่ต่างจากกล้องหลัง
สรุปการใช้งาน
จากที่ได้ทดสอบใช้งาน รีวิว Redmi Note 11 เกือบมาเกือบ 1 สัปดาห์ บอกเลยว่าน่าจะชอบสำหรับคนที่มองหาสมาร์ทโฟนสักเครื่องที่ราคาไม่แรงจนเกินไปแต่ใช้งานได้ครบเครื่องครับ จริงๆ แค่หน้าจอ AMOLED DotDisplay 90Hz พร้อมกล้อง 50 ล้านพิกเซลก็คุ้มค่าแล้วครับ แต่ยังได้ชิป Snapdragon 680 ที่ช่วยให้สายเล่นเกมได้เล่นกันเพิ่มเติมอีกด้วย (ยังไม่รวมลำโพงคู่มาให้อีกนะ) หรือหากใครที่เคยใช้ Redmi Note Series มาก่อนก็น่าจะรู้ถึงความคุ้มค่าของตระกูลนี้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องข้อสังเกตยังไม่มีอะไรที่ยังไม่ประทับใจครับ เพราะด้วยราคาไม่ถึง 7,000 บาท สเปคได้ระดับนี้ก็เกินคุ้มแล้วจริงๆ
![รีวิว Redmi Note 11](https://www.iphone-droid.net/wp-content/uploads/2022/01/redmi-note-11-review22.jpg)
ราคาและวันวางจำหน่าย
Redmi Note 11 จะมีทั้งหมด 2 ความจุ 2 ราคาให้เลือก ดังนี้
- รุ่น RAM 4GB + ROM 128GB : 6,299 บาท
- รุ่น RAM 6GB + ROM 128GB : 6,999 บาท
โดยจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป ผ่านทาง Xiaomi Stores ทุกสาขา, ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม สำหรับ ผู้ที่สั่งซื้อระหว่างวันที่ 5-28 กุมภาพันธ์ 2565 จะได้รับฟรี! กระเป๋า Canvas Tote Bag มูลค่า 590 บาท
นอกจากนี้ ก็ยังมี Redmi Note 11S วางจำหน่ายด้วยเช่นกันในราคาเพียง 8,299 บาท สำหรับรุ่นความจุ RAM 8GB + ROM 128GB