ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องในตอนนี้ต้องบอกว่า Redmi Note 8 Pro คือตัวเลือกอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ครับ เพราะมีสเปคเร็วแรง กล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่สุดอึด ซึ่งในภาพรวมของรุ่นนี้มาในราคาที่เกินคำว่าคุ้มจริงๆ
สรุปสเปค Redmi Note 8 Pro
- ขนาดตัวเครื่อง : 161.35 x 76.4 x 8.79 มม.
- น้ำหนัก : 199.8 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Dot Drop ชนิด IPS LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) รองรับ HDR, มาตรฐาน TÜV Rheinland และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
- หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio G90T Octa Core ความเร็ว 2.05 GHz
- GPU : Mali G76 MC4
- ความจุ RAM 6GB + ROM 128GB
- กล้องถ่ายรูปหลัง 4 เลนส์ แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.89
- เลนส์ Ultra Wide Angle 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- เลนส์ Ultra-macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย MIUI 11
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 4500mAh รองรับ Fast Charge 18W
ตัวกล่องของ Redmi Note 8 Pro มาในสไตล์เรียบง่าย เป็นสีขาวพร้อมเห็นทั้งตัวเครื่องและชื่อรุ่นทั้งหมด เมื่อเปิดออกมาจะเจอกับกล่องที่ใส่อุปกรณ์ต่างๆ ทั้งเคสใส, อุปกรณ์เปิดถาดซิม และคู่มือการใช้งานต่างๆ ถัดลงมาจะมีตัวเครื่อง Redmi Note 8 Pro และมีอะแดปเตอร์ พร้อมด้วยสาย USB Type-C ที่ชั้นล่างสุด
ดีไซน์ด้านหลังของ Redmi Note 8 Pro นั้นมีความโค้งมนแบบ 3 มิติ ทำให้จับถือได้ถนัดมือมากๆ ตัวกระจกไม่มีความลื่นและเกิดรอยนิ้วมือได้ยากมากๆ หากไม่สังเกตดีๆ จะไม่เห็นรอยนิ้วเลยด้วย
โดยสีที่เราได้มาคือสีขาวมุก หรือ Pearl White มีความไล่เฉดเบาๆ ระหว่างสีขาวและสีฟ้าอ่อนๆ ดูสวยงามและเรียบง่ายมากๆ
ด้านหน้าจอแสดงผลของ Redmi Note 8 Pro ถือว่าจัดเต็มพอสมควรเพราะมีความใหญ่ด้วยจอแบบ Dot Drop กว้าง 6.53 นิ้ว เห็นได้เต็มตา และคมชัดระดับ FHD+ กันเลยทีเดียว และยังช่วยถนอมสายตาของเราได้การตัดแสงสีฟ้าที่ได้รับการรับรองจากสถาบัน TÜV Rheinland อีกด้วย
จากที่เราบอกไปข้างต้นครับว่าหน้าจอของ Redmi Note 8 Pro นั้นกว้างถึง 6.53 นิ้ว ทำให้มีพื้นที่การแสดงผลถึง 91.4% ใครจะดูภาพยนตร์, ฟังเพลง หรือเล่นเกมก็ทำได้เต็มตา และยังได้สีที่สดใสอีกด้วยเพราะรองรับการแสดงผลแบบ HDR
เหนือหน้าจอแสดงผลจะมีลำโพงสำหรับสนทนา ถัดลงมามีตัวหยดน้ำที่ฝังกล้องหน้าลงไป พร้อมกับไฟ LED บอกสถานะ และระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ ครับ
ฝั่งซ้ายของตัวเครื่องมีเพียงช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง โดยช่องที่ 2 ให้เลือกระหว่าง MicroSD Card หรือซิมที่ 2 ครับ
ส่วนด้านขวาจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และถัดลงมาจะเป็นปุ่มล็อคเครื่อง
ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีทั้งช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., พอร์ต USB Type-C, ไมโครโฟน และลำโพงตัวหลัก
ด้านบนตัวเครื่องจะมีไฟโครโฟนตัวที่ 2 และ IR Blaster
และที่ด้านหลังตัวเครื่องจะมีกล้องหลัง 3 เลนส์อยู่ในกรอบดำ โดยที่ด้านล่างจะเป็นระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ถัดไปด้านขวาเล็กน้อยจะมีไฟแฟลช LED และกล้องเลนส์ที่ 4 ครับ
เรามาดูภาพตัวอย่างจากกล้องของ Redmi Note 8 Pro กันครับว่าจะสวยงามกันขนาดไหน โดยเราจะยกตัวอย่างโหมดกล้องเด่นๆ อย่างโหมดปกติ, Ultra-Wide และ AI Beautify มาให้ชมกันครับ
- AI Scene detection จดจำฉากได้ทันที : สำรหับ Redmi Note 8 Pro มาพร้อมกับ AI ที่แม้ว่าจะถ่ายด้วยโหมดปกติก็ถ่ายสวยได้ง่ายๆ เพียงแค่เปิดกล้องและกดถ่าย AI จะช่วยประมวลผลให้เองเลยครับ
- Ultra-Wide : Redmi Note 8 Pro ยังมาพร้อมกับเลนส์ Ultra-Wide ที่ให้ความกว้างได้มากถึง 120 องศา ทำให้เราเห็บได้ครบองค์ประกอบแน่อนน
ปิด Ultra-Wide / เปิด Ultra-Wide
Macro : นอกจากมุมกว้างสุดๆ แล้ว ก็ยังมีเลนส์ Macro ที่ทำให้เราเห็นวัตถุได้ใกล้มากๆ และยังคงเห็นรายละเอียดต่างๆ ได้คมชัดเด้วยเช่นกัน
สำหรับ Redmi Note 8 ในรุ่น RAM 8GB + ROM 128GB ได้วางจำหน่ายอย่างเเป็นทางการแล้วในราคาเพียง 8,999 บาทเท่านั้นครับ