Android News
Redmi Note 8 Series สมาร์ทโฟนราคาเกินคุ้มด้วยกล้องอัจริยะ 4 เลนส์ พร้อมโปรโมชั่นในงาน Mobile Expo ที่ต้องห้ามพลาด!
เมื่อพูดถึงบริษัท Xiaomi หลายคนคงนึกถึงทั้งเรื่องสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เสริมต่างๆ เพียบ โดย Xiaomi นั้นถือว่าเติบโตได้ค่อนข้างเร็วนับตั้งแต่ก่อตั้งและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Main Board of the Hong Kong Stock Exchange ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 ซึ่งตรงจุดของการเติบโตแบบก้าวกระโดดนี้เป็นวิสัยทัศน์ของบริษัทที่มาจากการเริ่มต้นที่ความมุ่งมั่นในการเอาใจใส่ผู้บริโภคเป็นหลัก โดยอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน Xiaomi ได้เน้นเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพของสินค้าให้เราได้ใช้เทคโนโลยีต่างๆ ที่แทบจะครอบคลุมในทุกหมวดหมู่ จนมาถึงในตอนนี้ Xiaomi ได้กลายเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับที่ 4 ของโลก แถมมีผู้ใช้งานอุปกรณ์ IoT กระจายอยู่ทั่วโลกมากกว่า 213.2 ล้านผลิตภัณฑ์ พร้อมกับการวางจำหน่ายไปมากกว่า 90 ประเทศและตลาดหลักๆ หลายประเทศ
ทั้งนี้ หนึ่งในความก้าวหน้าของ Xiaomi ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือการขายสมาร์ทโฟนรุ่นระดับกลางที่สเปคคุ้มค่าและมาในราคาที่จับต้องได้ โดยรุ่นที่ขายดีสุดๆ ในช่วงที่ผ่านมาคงไม่พ้น Redmi Note 8 Series ทั้ง Redmi Note 8 และ Redmi Note 8 Pro ที่เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่เรียกเสียงฮือฮากับรุ่นกลางที่มีกล้องหลังความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ทั้งยังมีให้รวมทั้งหมดถึง 4 เลนส์ ในราคาต่ำหมื่น
สำหรับทั้ง 2 รุ่นนี้จะมีความแตกต่างในเรื่องของกล้องบางส่วน ได้แก่ รุ่นพี่ Redmi Note 8 Pro จะมาพร้อมกับเลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล + เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล + เลนส์ Macro และเลนส์ Depth อีกอย่างละ 2 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ขณะที่รุ่นน้อง Redmi Note 8 จะมีเลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล + เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล + เลนส์ Macro และเลนส์ Depth อีกอย่างละ 2 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
โดยความพิเศษของกล้องแต่ละเลนส์และความสามารถต้องบอกว่าถ่ายรูปได้สวยแบบธรรมชาติ จบหลังกล้อง ไม่ต้องรีทัชในแอปให้วุ่นวาย แล้วยิ่งช่วงนี้ใกล้จะวันวาเลนไทน์เข้ามาทุกทีแล้ว หากคุณผู้ชายต้องการถ่ายภาพคนรักให้จบและสวยงามแบบง่ายๆ ก็ต้อง Redmi Note 8 Series ทั้ง 2 รุ่น ที่มีฟีเจอร์ต่างๆ แบบครบครัน แต่จะมีอะไรบ้าง เรามีภาพตัวอย่างของจริงมาให้ชมกันเต็มๆ ครับ
ความคมชัดระดับ 64 ล้านพิกเซลใน Redmi Note 8 Pro ที่นอกจากจะเป็นรุ่นแรกของโลกที่ใช้เลนส์นี้แล้ว ในเรื่องคุณภาพก็ถือว่าทำให้เราได้รับความละเอียดของพิกเซลที่มากไปด้วย ทำให้เราสามารถซูมหรือขยายภาพได้โดยไม่แตก แถมยังนำไปใช้เป็นการพิมพ์ขนาดใหญ่ได้ถึง 3.26 เมตรเลยทีเดียวครับ ส่วนรุ่นน้อง Redmi Note 8 ก็คมชัดไม่แพ้กันที่ 48 ล้านพิกเซล ที่แม้ว่าความละเอียดจะน้อยกว่า แต่สิ่งที่ได้ออกมาจะเหมือนกับตัว Pro โดยจะได้ภาพใหญ่และละเอียด สามารถขยายและมองเห็นสิ่งเล็กๆ ในภาพได้ชัดเจนกว่าเดิม
สำหรับภาพที่ถ่ายด้วย Redmi Note 8 Pro นั้นได้ความสวยงามจากสถานที่ Three Monkey ร้านอาหารที่ออกแบบมาให้ลงตัวกับธรรมชาติมากที่สุดพร้อมทั้งดีไซน์เฉดสีต่างๆ ให้เหมาะกับการมาถ่ายภาพคู่รักอีกด้วย
การจดจำภาพอัจฉริยะด้วย AI ที่จะเป็นการแบ่งแยกหมวดหมู่ต่างๆ กับสิ่งที่เราโฟกัส ซึ่งจะปรับแสงและสีให้เหมาะสมกับวัตถุที่เราถ่ายแต่ละอย่างนั่นเอง ไม่ต้องไปเสียเวลาเข้าแอปพลิเคชั่นเสริมอะไรทั้งนั้นก็ได้ภาพสวยๆ ออกมาแล้ว ที่สำคัญเราแค่รอกดชัตเตอร์อย่างเดียวพอ ไม่ต้องทำอะไรเลยด้วย โดยภาพที่ถ่ายออกมาด้านล่างนี้เรียกว่าจบได้แค่กดชัตเตอร์ครั้งเดียวเท่านั้น ขอแค่บรรยากาศสวยๆ อย่าง The Kee Sky Lounge ร้านอาหารรูฟท็อปชื่อดังย่านป่าตองที่ได้นำ Redmi Note 8 Pro ไปถ่ายครับ ซึ่งเราจะเห็นเลยว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้นั้นเก็บแสงและสีได้แบบงดงามเกินราคาจริงๆ
เก็บได้ครบด้วยเลนส์ Ultra Wide มุมกว้าง 120 องศา ที่ช่วยให้เราได้องค์ประกอบและภาพตรงหน้าได้แบบเต็มๆ ไม่จำเป็นต้องมาถ่ายแบบพาโนรามาให้เสียเวลาครับ ที่สำคัญยังได้ประโยชน์ที่เราไม่ต้องถอยไกลเพื่อถ่ายภาพให้ครบอีกด้วย
ทั้งนี้ การถ่ายภาพเลนส์ ultra-wide กว้าง 120 องศา ยังได้ทดสอบผ่านสถานที่ที่เป็นหนึ่งในมนต์เสน่ห์ในเมืองภูเก็ตอย่างถนนรมณีย์ เมืองเก่าภูเก็ต Old Town Street Art อีกด้วย ทำให้เราเก็บองค์ประกอบได้ครบและเห็นสถานที่ได้แบบเต็มๆ ตา
นอกจากที่เลนส์ Ultra Wide จะถ่ายองค์ประกอบต่างๆ ได้ครบแล้ว คุณผู้หญิงทั้งหลายก็สามารถใช้ประโยชน์จากเลนส์นี้ได้เหมือนกัน เพราะจะทำให้ขาดูเรียวยาวและดูสูงขึ้นกว่าเดิม เพียงแค่วางกล้องในระดับเอวและเสยขึ้นเล็กน้อยก็ได้ภาพแบบงามๆ แล้วครับ
ในเลนส์ Depth ที่ทั้ง 2 รุ่นมีมาให้เป็นการช่วยแยกแยะพื้นหลังกับตัววัตถุ โดยการถ่าย Portrait จะได้ใช้ประโยชน์แบบเต็มๆ ครับ ช่วยให้พื้นหลังเบลอได้เนียนและเป็นธรรมชาติด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีแสงลอดมาทางต้นไม้ หากเราปรับเป็นโหมด Portrait จะทำให้ภาพมีความละมุนขึ้นมากขึ้นตามตัวอย่างครับ
นอกจากนี้ Redmi Note 8 Series ยังสามารถถ่ายใกล้ๆ ด้วยเลนส์ Macro ก็ได้เช่นกัน ซึ่งช่วยให้เราได้เจาะรายละเอียดของสิ่งที่ตาเราแทบมองไม่เห็นให้ชัดเจนขึ้น ขณะที่กล้องหน้าของทั้ง 2 รุ่น ก็มีความแตกต่างกัน ซึ่ง Redmi Note 8 Pro มาพร้อมความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ส่วน Redmi Note 8 มาพร้อมความละเอียด 13 ล้านพิกเซล แต่ในเรื่องการถ่ายกล้องหน้าถือว่าแต่งเติมได้สวยงาม ดูธรรมชาติด้วย AI หากใครที่เป็นสายเซลฟี่ต้องชอบแน่นอน
นอกจากเรื่องกล้องแล้ว Remi Note 8 Pro และ Remi Note 8 ยังมีความแตกต่างในเรื่องสเปคอื่นเช่นกัน ทั้งหน้าจอแสดงผลของตัว Remi Note 8 Pro มีขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล), ขุมพลัง Helio G90T, รุ่น RAM 6GB+64GB และ RAM 6GB+128GB, แบตเตอรี่ความจุ 4500mAh รองรับ Fast Charge 18W ส่วน Redmi Note 8 มีหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+, ขุมพลัง Snapdragon 665, รุ่น RAM 4GB+64GB และ RAM 4GB+128GB และแบตเตอรี่ความจุ 4000mAh รองรับ Fast Charge 18W
โปรโมชั่นสุดพิเศษ กับครั้งแรกของ Xiaomi ในงาน Thailand Mobile Expo 2020
ครั้งแรกกับการยกทัพของ Xiaomi พร้อมนำสมาร์ทโฟน และสินค้า AIoT ที่ใครหลายคนรอคอย มาพร้อมกับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะในงานครั้งนี้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น
รับฟรีทันที เครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier 2C มูลค่า 3,990 บาท เมื่อซื้อสมาร์ทโฟนรุ่น Mi Note 10 ความจุ 6GB + 128GB ราคา 16,990 บาท หรือ Mi Note 10 Pro รุ่น 8GB + 256GB ราคา 19,990 บาท
รับฟรีทันที อุปกรณ์หูฟังไร้สาย Mi True Wireless Earbuds Basic มูลค่า 699 บาท และ Redmi Note 8 Series Special Gift Pack มูลค่ากว่า 1,000 บาท เมื่อซื้อสมาร์ทโฟนรุ่น Redmi Note 8 Pro รุ่น 6GB + 64GB ราคา 7,999 บาท หรือ รุ่น 6GB + 128GB ราคา 8,999 บาท หรือรับ Redmi Note 8 รุ่น 4GB + 64GB ราคา 5,999 บาท หรือ รุ่น 4GB + 128GB ราคา 6,999 บาท
อย่าพลาดกับโปรโมชั่นพิเศษ กับงาน Thailand Mobile Expo 2020 วันที่ 30 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์นี้ ที่บูธเสียวหมี่ ฮอลล์ 98-99 ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา