นอกจากโปรดักส์หลักอย่างสมาร์ทโฟนแล้ว ในงานอีเว้นท์เมื่อคืน Xiaomi ยังเปิดตัวอุปกรณ์เสริมทั้ง Redmi Watch 3, Redmi Band 2 และ Redmi Buds 4 Lite ด้วย เรียกว่าเอาใจสายวัยรุ่นที่เน้นความสดใสและสีสันจริง ๆ ล่ะครับ รายละเอียดของแต่ละรุ่นก็มีดังนี้เลย!

Redmi Watch 3
เริ่มที่ Redmi Watch 3 สมาร์ทวอทช์รุ่นล่าสุดมาพร้อมกับจอแสดงผล AMOLED แบบสี่เหลี่ยมขนาด 1.75″ มีความหนาแน่นพิกเซลถึง 341 PPI และรองรับ Refresh rate 60Hz มีความสว่างสูงสุดที่ 600 nits

ตัวเครื่องและหน้าจอมาในทรง Flat หรือแบนราบแบบเดียวกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ที่ด้านข้างจะมีปุ่มกดเพียงหนึ่งปุ่มเท่านั้น ทำให้ดีไซน์ดูเรียบหรู ที่หน้าจอก็รองรับ Always on Display และมีรูปแบบ Watch Faces ให้เลือกปรับมากกว่า 200 แบบด้วย

Redmi Watch 3 มีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ 12 วัน มีฟีเจอร์ตรวจจับต่าง ๆ ครบ อาทิ SpO2 (ออกซิเจนในเลือด) อัตราการเต้นของหัวใจ รองรับมาตรฐานกันน้ำที่ 5ATM และยังทํางานร่วมกับ GNSS เพื่อการติดตามกีฬาที่แม่นยํา

มีโหมดการออกกําลังกายที่แตกต่างกัน 121 โหมด มี GPS ในตัว มีไมโครโฟนในตัวที่สามารถใช้รับสายพูดคุยผ่านบลูทูธเมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อีกด้วยครับ
Redmi Watch 3 เปิดราคามาที่ 499 หยวน (ประมาณ 2,490 บาท) มีให้เลือก 2 สีคือดำกับทอง ส่วนสายจะมีให้เลือกหลากสีสันโดยวางจำหน่ายเพิ่มเติมในราคา 69 หยวน (ประมาณ 340 บาท)
Redmi Band 2
Redmi Band 2 เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สวมใส่ที่เปิดตัวมาด้วย มาพร้อมหน้าจอ 1.47” ใหญ่ขึ้นกว่า Redmi Band รุ่นแรก ถึง 76% ตัวเรือนมีความหนา 9.99 มม. และหนัก 14.9 กรัม

ในเรื่องฟีเจอร์ก็ครอบคลุม ทั้งการวัดออกซิเจนในเลือดและตัวติดตามรอบประจําเดือนสําหรับผู้หญิง กันน้ำที่ระดับ 5ATM มีโหมดการออกกําลังกายมากกว่า 30 โหมด และแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ 6 วันในการใช้งานหนัก หรือเกือบ 14 วันเมื่อใช้งานทั่วไป

Redmi Band 2 เปิดราคามาที่ 159 หยวน (ประมาณ 790 บาท) มีให้เลือกมากถึง 6 สีประกอบด้วย Fluorescent Green, Pink Gold, Black, Light Blue, Dark Green, และ White ครับ
Redmi Buds 4 Lite
ปิดท้ายที่หูฟังรุ่นใหม่ Redmi Buds 4 Lite (หรือในจีนจะเรียก Youth) เน้นสีสันเจาะกลุ่มวัยรุ่นเช่นกัน
โดย Buds 4 Lite จะมาพร้อมกับไดรเวอร์ 12 มม. พร้อมทั้งระบบตัดเสียงรบกวนระหว่างการโทร หูฟังแต่ละข้างมีน้ําหนักเพียง 3.9 กรัม เคสชาร์จกับหูฟังมีแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้สูงสุด 20 ชม. มี Bluetooth 5.3 และหูฟังได้รับการรับรองกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP54 อีกด้วย

Redmi Buds 4 Lite เปิดราคามาที่ 139 หยวน (ประมาณ 690 บาท) มีให้เลือกมากถึง 4 สีคือ ขาว, ดำ, ส้มและเขียว ครับผม
ที่มา : GSMArena