Smart Review
Review : ASUS ZenFone 2 Deluxe Special Edition ดีไซน์แห่งพลัง และเร็วแรงกว่าเดิม
ASUS ZenFone 2 Deluxe Special Edition มาพร้อมกับดีไซน์ฝาหลัง Silver Polygon วาววับด้วยรูปร่างสามเหลี่ยมที่สัมผัสได้ถึงพลังที่เร็วแรงกว่าเดิมด้วยขุมพลัง Intel Atom Z3590 และฝาหลัง Carbon Night สีดำแห่งรัติกาล ใส่ความจุตัวเครื่องมาให้มากถึง 128GB และแถมฟรี microSD card ความจุ 128GB รวมทั้งหมด 256GB !!!
สรุปข้อมูลและสเปค ASUS ZenFone 2 Deluxe Special Edition
- ราคาเปิดตัว 14,990 บาท (มกราคม 2559)
- ขนาดตัวเครื่อง 152.5 x 77.2 x 10.9 มม.
- น้ำหนัก 170 กรัม
- 2G : GSM 850 / 900 / 1800 / 1900 MHz
- 3G : HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100 MHz
- 4G : LTE Cat6 300/50 Mbps 1(2100), 2(1900), 3(1800), 5(850), 7(2600), 8(900), 20(800)
- รองรับ 2 ซิม (micro SIM + micro SIM)
- หน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว IPS Full HD ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop
- ชิปเซ็ต Intel Atom Z3590
- ซีพียู Quad-core 2.5 GHz
- กราฟิก (GPU) PowerVR G6430
- หน่วยความจำ RAM 4 GB
- หน่วยความจำ ROM 128 GB เพิ่มความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 128 GB
- แถมฟรี microSD ความจุ 128 GB
- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล แฟลช True Tone Dual-LED
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
- รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.0
- GPS/ A-GPS
- แบตเตอรี่ Li-Po 3,000 mAh
แกะกล่อง ASUS ZenFone 2 Deluxe Special Edition (Unboxing)
ASUS ZenFone 2 Deluxe มาในกล่องลายดีไซน์เดียวกับฝาหลัง Carbon Night อุปกรณ์ภายในกล่อง ได้แก่
- ตัวเครื่อง ASUS ZenFone 2 Deluxe Special Edition ใส่ฝาหลัง Silver Polygon วาววับด้วยรูปร่างสามเหลี่ยม พร้อมแบตเตอรี่ฝังติดมากับตัวเครื่อง
- แกะฝาออกจะพบ microSD card ขนาดความจุ 128GB แถมมาให้ด้วย
- อะแดปเตอร์
- สาย microUSB
- หูฟังกับปลอกสวมหูฟัง
- ฝาหลัง Carbon Night
- คู่มือการใช้งาน
ตัวเครื่อง ดีไซน์ และหน้าจอแสดงผล
ขนาดตัวเครื่อง น้ำหนักในรุ่น Special Edition จะเท่ากันกับรุ่นเดิมก็คือ ZenFone 2 Deluxe ที่เปิดตัวและวางจำหน่ายไปก่อนแล้ว แต่มาในรุ่นนี้จะเปลี่ยนสีบริเวณกรอบตัวเครื่องเป็นสีแดงตัดกับฝาหลังที่เป็น Silver Polygon
บริเวณกรอบเลนส์ด้านหน้าก็มีสีแดงด้วย และปุ่มปรับระดับเสียงที่ฝาหลังก็มีกรอบสีแดงเช่นกัน ส่วนตำแหน่งปุ่มต่าง ๆ รวมถึงพอร์ตเชื่อมต่อเหมือนเดิมกับรุ่น ZenFone 2 Deluxe ดูรีวิวได้ที่นี่ ซึ่งความพิเศษของรุ่นนี้คือมีฝาหลัง Carbon Night และ microSD card 128GB แถมมาให้ด้วย
หน้าจอแสดงผลเท่าเดิมคือ 5.5 นิ้ว IPS Full HD ให้สัดส่วนหน้าจอมาประมาณ 70.8% ของพื้นที่ตัวเครื่อง ความหนาแน่นประมาณ 401 พิกเซลต่อนิ้ว ซึ่งความหนาแน่นระดับนี้ให้ความคมชัดแน่นอน และปกป้องหน้าจอด้วยกระจก Gorilla Glass 3
ซอฟต์แวร์ และผลทดสอบประสิทธิภาพการทำงาน
ASUS ZenFone 2 Deluxe Special Edition รันระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop ซึ่งเหมือนกันกับรุ่นเดิม แต่เมื่อเปิดเครื่องมาจะพบกับธีมใหม่จากเกมแข่งรถสุดมันส์ Asphalt 8: Airborne ซึ่งเป็นเฉดสีดำแดงที่ให้ความรู้สึกถึงพลังความแรง
เรามาดูในส่วนที่มีการอัปเกรดใหม่ดีกว่า นั่นก็คือตัวชิปประมวลผล Intel Atom Z3590 Quad-core ความถี่การส่งข้อมูลสูงสุดที่ 2.5GHz จากเดิมจะใช้ตัว Z3580 Quad-core 2.3GHz ส่วนจีพียูเป็นตัวเดิม PowerVR G6430 กับแรม 4GB
ผลการทดสอบ AnTuTu 6.0 ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรมและประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 63,894 คะแนน ระดับคะแนนเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก โดยรุ่นเดิม ZenFone 2 Deluxe ที่เคยทดสอบทำคะแนนรวมไว้ที่ 48,091 คะแนน และทำคะแนนได้ดีกว่า ZenFone 2 ZE551ML ที่เคยทำได้ 45,386 คะแนน
ทดสอบด้วย Geekbench 3 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผลและหน่วยความจำแรม การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี ทำคะแนน Single-Core ได้ 962 คะแนน (รุ่นเดิมทำได้ 910) และ Multi-Core ทำได้ 2,975 คะแนน (รุ่นเดิมทำได้ 2,842) หากเทียบกับรุ่นเดิมแล้วไม่แตกต่างกันมากนักในส่วนของการทดสอบด้วย Geekbench 3
กล้องถ่ายรูป
ASUS ZenFone 2 Deluxe Special Edition ทั้งตัวฮาร์ดแวรและซอฟต์แวร์เหมือนเดิม คือ กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ประกอบด้วย 5 ชิ้นเลนส์ อัตราส่วนภาพ 4:3 ขนาดภาพ 4,096 x 3,072 พิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 และแฟลชแบบคู่ True tone (Dual LED)
ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในหน้าแอพกล้องก็จะมีปุ่มปรับค่ากล้องแบบกำหนดเอง (ไอคอนตัว M) เพื่อสลับไปใช้งานโหมดกำหนดเองได้สะดวกขึ้น จะมีไอคอนนี้เมื่อเลือกใช้งานในโหมดออโต้ และโหมดกำหนดเอง สามารถปรับระยะโฟกัส, ความเร็วชัตเตอร์, ISO, EV และ WB
มีโหมดให้ใช้งานหลากหลาย ได้แก่ โหมดถ่ายภาพกลางคืน, พาโนรามา และ HDR เป็นต้น ซึ่งสามารถเลือกโหมดถ่ายทันได้ ไม่ต้องกดหนดค่าใด ๆ ในขณะที่โหมดกำหนดเอง หรือ Manual Mode สามารถกำหนดค่า White balance, ISO, EV และความเร็วชัตเตอร์ปรับได้นานสุดเพียง 1/2 วินาที ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดเพิ่มความสวยงาม เอาใจคนรักเซลฟี่ และยังเอาใจคนชอบเซลฟี่เป็นกลุ่มด้วยโหมดเซลฟี่พาโนรามา
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปจุดเด่น
- ดีไซน์สวยงามด้วยฝาหลังลายสามเหลี่ยมแบบใหม่ ให้มาในกล่องทั้ง 2 แบบ
- หน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว IPS Full HD ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล
- ชิปเซ็ต Intel Atom Z3590 Quad-core 2.5 GHz เร็วแรงกว่าเดิมเมื่อเทียบกับ Z3580 ในรุ่น ZenFone 2 Deluxe
- หน่วยความจำ RAM 4 GB และ ROM 128 GB เพิ่มความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 128 GB (แถมฟรีมาให้ในกล่อง microSD ความจุ 128 GB)
- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล แฟลช True Tone Dual-LED และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
- รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.0, GPS/ A-GPS
- แบตเตอรี่ Li-Po 3,000 mAh
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ปุ่มกดไม่มีไฟเหมือนเดิม มองไม่เห็นเมื่อใช้งานในที่มืด
- ช่องซิม 2 รองรับเฉพาะ 2G เพื่อโทรด้วยเสียงเท่านั้น
ขอบคุณ ASUS ประเทศไทย