Smart Review
รีวิว ROG Phone 6D Ultimate เกมมิ่งโฟนที่แรงที่สุด จัดเต็มด้วยชิป Dimensity 9000+ | RAM 16GB | จอ 165Hz
รีวิว ROG Phone 6D Ultimate อีกหนึ่งเกมมิ่งโฟนตัวแรงจาก ASUS ที่มาพร้อมสเปคจัดเต็มที่สุดเท่าที่จะหาได้ในตอนนทั้งชิปเซ็ตตัวล่าสุด Dimensity 9000+ ความเร็วสูงถึง 3.2GHz , RAM 16GB LPDDR5X , ความจุ 512GB แบบ UFS 3.1, หน้าจอ AMOLED 6.78″ Refresh rate 165Hz, และแบตเตอรี่ 6000mAh นอกจากนี้ยังมีระบบระบายความร้อนชั้นยอดกับฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกมแบบครบครัน
ส่วนการใช้งานจริงจะแรงสะใจสักแค่ไหน ฟีเจอร์การเล่นเกมที่เพิ่มมาให้จะถูกใจเกมเมอร์รึเปล่า ติดตามได้จากรีวิว ROG Phone 6D Ultimate นี้พร้อม ๆ กันเลยครับ!
สรุปสเปค ROG Phone 6D Ultimate
- ขนาดตัวเครื่อง : 173 x 77 x 10.4 มม.
- น้ำหนัก : 247 กรัม
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.78″ ความละเอียด FHD+ (2448 x 1080 พิกเซล) รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 1,200 nits กระจก Gorilla Glass Victus
- Refresh rate : 165Hz
- CPU : MediaTek Dimensity 9000+ (4nm) Octa Core ความเร็ว 3.2GHz
- GPU : Mali-G710 MC10
- RAM : 16GB (LPDDR5X)
- ROM : 512GB (UFS 3.1)
- แบตเตอรี่ : 6000mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 65W HyperCharge และ PD Charging
- กล้องหน้า : 12MP เซ็นเซอร์ IMX663
- กล้องหลัง : 3 ตัว
- กล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX766
- กล้อง Ultra Wide Angle 13MP เซ็นเซอร์ OmniVision OV13B มุมกว้าง 120º
- กล้อง macro 5MP เซ็นเซอร์ OmniVision OV8856
- ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย ROG UI
- รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 6/6E (802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2×2 MIMO), Bluetooth 5.2, NFC และพอร์ต USB Type-C
- มาตรฐานกันน้ำ : IPX4
- สีสัน : Space Gray
แกะกล่อง ROG Phone 6D Ultimate
เริ่มแกะกล่องกันก่อนเลย ROG Phone 6D Ultimate มาพร้อมกล่องทรง 6 เหลี่ยมล้ำ ๆ ที่เห็นแล้วก็รู้เลยว่ารุ่นนี้มีความเกมมิ่งอย่างมาก ที่หน้ากล่องจะมีทั้งโลโก้ ROG สโลแกนของรุ่นนี้ “For Those Who Dare” และชื่อซีรีส์ ROG Phone 6 อยู่ครบครับ
นอกจากกล่องจะเท่แล้ว วิธีเปิดกล่องก็เท่ด้วยจะใช้การเลื่อนออกด้านข้างในแนวนอน หรือยกขึ้นในแนวตั้งก็ได้ครับ ให้อารมณ์เหมือนยานอวกาศกำลังเปิดออกเลยล่ะ
เมื่อเปิดออกมาเราจะเจอกับอุปกรณ์ที่แยกเป็น 2 ฝั่งฝั่งขวาเป็นตัวเครื่อง, เคส, สายชาร์จและที่ชาร์จครับ
ส่วนฝั่งขวาจะเป็นการ์ดและพัดลม AeroActive Cooler 6 ที่แถมมาให้ในกล่องเลย ไม่ต้องซื้อแยกเหมือนรุ่นปกติ สมกับเป็นรุ่น Ultimate จริง ๆ ครับ
เบ็ดเสร็จแล้ว ROG Phone 6D Ultimate ก็ให้อุปกรณ์มาครบเต็มกล่อง รวมกัน 7 อย่างดังนี้ครับ
- ตัวเครื่อง ROG Phone 6D Ultimate
- เคส
- อะแดปเตอร์ชาร์จไว 65W
- สายชาร์จ USB-C to C
- เข็มจิ้มถาดซิม
- การ์ด ROG
- พัดลม AeroActive Cooler 6
ฝาหลังสีเทาผิวด้าน พร้อมลวดลายเกมมิ่งสุด ๆ
ได้เวลายลโฉมตัวเครื่อง ROG Phone 6D Ultimate กันแล้วครับ ดีไซน์ของรุ่นนี้จะอิงมาจาก ROG Phone 6 Pro แต่จะใช้สีเทา Space Gray แทน ให้ความดุดันที่มากขึ้น ลวดลายเกมมิ่งที่ฝาหลังยังมีมาให้เหมือนเดิม มองแว้บแรกก็รู้เลยว่ารุ่นนี้สเปคจัดเต็มแน่นอน
ผิวสัมผัสของ ROG Phone 6D Ultimate จะเป็นแบบด้านที่ให้ความรู้สึกเนียนมือ และคล้ายโลหะที่มีความแข็งแกร่งด้วย เวลาจับถือใช้งานก็ยอดเยี่ยมเลยไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือให้ดูเลอะเทอะ
โมดูลกล้องยังคงใช้ดีไซน์ได้เท่เหมือนเดิม มาในทรง 6 เหลี่ยมที่ตัดขอบมาได้เหมาะกับความเป็นเกมมิ่งโฟน มีวงสีฟ้าเด่น ๆ เพื่อเน้นว่ากล้องตัวนั้นคือกล้องหลัก พร้อมข้อความระบุไว้ด้วยว่า 8K Ultra HD 1/1.56″ แง้มสเปคเลยว่ารุ่นนี้มีกล้องเซ็นเซอร์ขนาด 1/1.56″ พร้อมถ่ายวิดีโอสูงสุดได้ที่ 8K Ultra HD เลยนะ!
ROG Vision จอแสดงผลเท่ ๆ สำหรับเกมเมอร์
นอกจากดีไซน์รวม ๆ ของฝาหลังจะเท่ด้วยลวดลายและผิวสัมผัสแล้ว ROG Phone 6D Ultimate ยังมาพร้อมหน้าจอ PMOLED ที่จะใช้แสดงผลเวลาเราเล่นเกมด้วยตรงนี้ ASUS ใช้ชื่อทางการว่า ROG Vision สามารถแสดงผลได้ตั้งแต่เราปลดล็อคใช้งาน, เข้าเกม, เปิด X Mode, สายเข้า หรือเวลาชาร์จแบตก็ได้อีกด้วย เสริมความเป็นเกมมิ่งที่ต้องมีลูกเล่นแนว ๆ นี้อยู่จริง ๆ ครับ
ช่องระบายความร้อนใหม่ AeroActive Portal
อีกเรื่องที่ ROG Phone 6D Ultimate นี้แตกต่างไปจาก ROG Phone 6 Pro นอกจากสีแล้วก็ยังมีช่องระบายความร้อนที่ Built-In มาที่ฝาหลังนี่แหละครับ เราจะเห็นว่ามีแถบสีดำเพิ่มเข้ามา ตรงนี้ ASUS ใช้ชื่อเรียกว่า AeroActive Portal จะสามารถเปิดออกได้เมื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอย่าง AeroActive Cooler 6 ซึ่งเดี๋ยวเราอธิบายการใช้งานเพิ่มเติมอีกทีในหัวข้อการเล่นเกมละกันเนอะ
หน้าจอ AMOLED ลื่นสุด 165Hz
พลิกกลับมาดูที่ด้านหน้าเครื่องกันบ้าง ROG Phone 6D Ultimate ยังคงมาพร้อมหน้าจอทรงเดิมคือมีอขอบบน-ล่างเล็กน้อย ตัวหน้าจอใช้จอ AMOLED ขนาดใหญ่ถึง 6.78″ เรียกว่าเต็มตาเอามาก อัตราส่วนของหน้าจอจะเป็น 20.4:9 ทำให้ถือใช้งานแนวตั้งได้ความยาวเพิ่มขึ้นอีกหน่อย
ส่วนในเรื่องสีสันก็สวยงามขั้นสุด รองรับการแสดงผล HDR10+ ความแม่นยำของสี DCI-P3 111.23%, NTSC 106.87%, sRGB 150.89% พร้อมความสว่างสูงสุด 1200nits เรียกว่าจัดเต็มขนาดนี้เอามาดูคอนเทนต์หรือเล่นเกมก็สะใจแน่นอนครับจอของรุ่นนี้
ส่วนเรื่องการตอบสนอง ROG Phone 6 ยังอัปเกรดขึ้นมาจากรุ่นก่อนเพิ่ม Refresh rate สูงสุดเป็น 165Hz ตอบสนองไวในทุกการใช้งาน เรียกว่าลื่นหัวแตกไปซะหมด ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไปในหน้าโฮม เล่นแอปโซเชี่ยลต่าง ๆ หรือจะเป็นการเล่นเกมจริงจังก็ไวติดนิ้วไปหมดจริง ๆ ครับ
เหนือหน้าจอด้านบนจะมีกล้องหน้า ลำโพงสนทนาของตัวเครื่องและอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของ ROG Phone ที่ยังเหลือมาถึงรุ่นนี้ก็คือ ไฟ LED แจ้งเตือนก็ยังมีให้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนเข้าหรือเสียบชาร์จแบตฯไฟตรงนี้ก็จะติดขึ้นมา
ลำโพงคู่ Stereo ที่ด้านหน้า
ROG Phone 6D Ultimate ยังคงให้ลำโพงมา 2 ตัวที่วางตำแหน่งไว้ที่ด้านบน-ล่างของหน้าจอเหมือนเดิม ทำให้เสียงที่ได้นั้นได้มิติและส่งตรงมาถึงตัวเราอย่างมาก ทั้งการใช้งานแนวตั้งและแนวนอน ให้เสียงที่ครบอย่างมากครับ
ปุ่มกดวางตำแหน่งดี มี AirTrigger มาให้ใช้งานเช่นเคย
ตำแหน่งปุ่มกดของ ROG Phone 6D Ultimate ยังอยู่ที่ด้านขวามือของตัวเครื่องเช่นเคย แยกเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงและปุ่ม Power และที่มุมซ้าย-ขวาก็ยังมีปุ่ม Air Trigger แบบ Ultra Sonic อยู่ซ้าย-ขวาที่เราสามารถเพิ่มเป็นปุ่ม L R เวลาเล่นเกมได้ครับ
พอร์ตการเชื่อมต่อ 2 จุด
พอร์ตการเชื่อมต่อของ ROG Phone 6D Ultimate จะมีอยู่ 2 จุดคือด้านล่างตัวเครื่องปกติแบ่งเป็นพอร์ต USB-C และช่องหูฟัง 3.5 มม. และที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องรอบนี้ปรับมาเป็นพอร์ต USB-C เหมือนกันเลย เราสามารถใช้งานเชื่อมต่อ ชาร์จ ขณะเล่นเกมไปได้อย่างสะดวก เรียกว่าออกแบบมาสำหรับคนเล่นเกมโดยเฉพาะจริง ๆ ครับ
สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ สแกนใบหน้าครบ
ในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย ROG Phone 6D Ultimate มีมาให้ทั้งระบบสแกนใบหน้าและระบบสแกนลายนิ้วมือ เรียกว่าให้มาครบมาก ถ้าใช้งานทั่วไปสแกนใบหน้าได้ก็รวดเร็ว หรือในสถานการณ์ที่ต้องใส่หน้ากากอนามัยตอนออกไปข้างนอกก็มีสแกนลายนิ้วมือให้ใช้งานปลดล็อคหน้าจอได้อย่างถนัดครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ ROG Phone 6D Ultimate ก็ถือว่าออกมาแบบมาได้เป็นเกมมิ่งโฟนตัวโหดดีจริง ๆ ทั้งโทนสีที่ใช้มาในโทนที่ดุดันมากขึ้น มีจอ ROG Vision เพิ่มลูกเล่นในการแสดงผลเวลาใช้งานเข้าไปอีก มีหน้าจอขนาดใหญ่ที่เต็มตาแถมยังตอบสนองได้อย่างลื่นไหลระดับ 165Hz พอร์ตการเชื่อมต่อที่ให้มาเป็น USB-C สองพอร์ตเลือกใช้กันได้ตามถนัด และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ Air Trigger ปุ่มกด L R ที่ช่วยให้เราเล่นเกมได้สนุกขึ้นแน่นอนครับ
แรงขั้นสุดด้วยชิป Dimensity 9000+
มาต่อในเรื่องประสิทธิภาพกันเลยครับ ROG Phone 6D Ultimate มาพร้อมสเปคสุดแรง ได้ชิปเซ็ตเรือธงตัวล่าสุดของ MediaTek อย่าง Dimensity 9000+ ความเร็วสูงสุดที่ 3.2GHz กันเลย RAM แบบ LPDDR5X 16GB มี Storage แบบ UFS 3.1 ความจุ 512GB เรียกว่าจัดเต็มมาสุด ๆ เท่าที่เกมมิ่งโฟนเครื่องหนึ่งจะให้ได้แล้วครับ!
เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นถึงความแรงของ ROG Phone 6D Ultimate ก็ขอยกตารางของ AnTuTu มาเทียบให้เห็นเลย ซึ่งรุ่นนี้แรงติดอันดับ 1 ประจำเดือนกันยายนที่ผ่านมา แซงทุกรุ่นที่ว่าแรง ๆ ทั้งหมดครับ
ซึ่งเท่าที่เราลองทดสอบจริง ๆ คะแนนที่ได้ก็อยู่ระดับเดียวกับในตารางเลยครับ ที่เราทดสอบได้สูงสุดก็ได้ถึง 1127573 คะแนน แรงที่สุดเท่าที่เราเคยทดสอบมาเลยก็ว่าได้ครับ โหดจริง ๆ !
ส่วนคะแนน CPU ที่ทดสอบได้ผ่านแอป Geekbench 5 ก็สูงสุด ๆ เช่นกันได้ Single-Core ไปที่ 1399 คะแนนและ Multi-Core ไปที่ 4540 คะแนน สูงที่สุดเท่าที่เราเคยทดสอบบนสมาร์ทโฟน Android เลยก็ว่าได้ครับ คะแนนนี้!
Armoury Crate โซนสำหรับการปรับแต่งทุกอย่าง
ก่อนจะไปเข้าเรื่องการเล่นเกมจริงจัง เราขอเสริมในเรื่องของแอปพิเศษที่ ASUS เพิ่มเข้ามาบน ROG Phone สักหน่อยกับ Armoury Crate แอปตัวนี้จะเป็นโซนที่รวมเอาทุกฟีเจอร์การเล่นเกม อาทิ คลังรวมเกมที่มีในเครื่อง โหมดของการจัดารพลังงาน การปรับรูปแบบ ROG Vision เป็นต้น
ซึ่งในการปรับตั้งค่า ROG Vision นั้นเราก็สามารถเลือกรูปแบบการแสดงผลได้เยอะมาก ๆ เช่น ให้จอด้านหลังติดขึ้นมาเมื่อเปิด X-Mode, ให้โชว์เวลาเข้าสู่โหมดเกมเอาคำว่า Game Start แบบไหน, หรือในการใช้งานทั่วไปเราก็ยังสามารถให้จอ ROG Vision นี้แสดงนาฬิกาก็ได้ด้วย
นอกจากการตั้งค่าต่าง ๆ แล้วในแอป Armoury Crate นี้ยังมีหมวดแนะนำเกมที่รองรับด้วยนะ เผื่อใครที่อยากเล่นเกมอื่น ๆ นอกจากเกมฮิตที่เล่นอยู่ประจำ ในนี้จะมีแนะนำเป็นรูปแบบตาม Refresh rate หน้าจอ อยากเล่นเกมที่ดัน fps ได้สูงถึง 120fps ไปเลย หรือจะเลือกตามอุปกรณ์เสริมที่ว่าเกมไหนรองรับบ้างก็ได้ด้วย เรียกว่าออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์โดยแท้ครับ
Game Genie จัดการทุกอย่างในการเล่นเกม
ถ้า Armoury Crate คือการจัดการระบบของตัวเครื่องภายนอก Game Genie ก็คือศูนย์รวมการจัดการภายในเกมครับ ซึ่งรอบนี้ ASUS ได้ปรับหน้า UI ใหม่หมด ใช้พื้นที่เต็มหน้าจอมากกว่าเดิม ในนี้จะมีการตั้งค่าหลายอย่างเกี่ยวกับการเล่นเกมอาทิ การตั้งค่า AirTrigger, การแสดงข้อมูลการใช้งาน CPU/GPU หรือ FPS แบบเรียลไทม์, ล็อคความสว่างหน้าจอ, ปรับ refresh rate และอีกเพียบเลยจริง ๆ ครับ เรียกว่าหาการตั้งค่าอะไรไม่เจอก็ให้เลื่อนเปิด Game Genie แล้วหาได้เลยครับ รวมไว้ในนี้หมดแล้ว
AirTrigger ใช้งานได้หลากหลายขึ้น
อย่างที่บอกว่า ROG Phone 6D Ultimate นั้นมาพร้อมปุ่ม AirTrigger ที่เป็นเอกลักษณ์ของ ROG Phone มาตั้งแต่รุ่นแรก เพิ่มปุ่ม L R เข้ามาบริเวณมุมเครื่อง ตรงนี้จะช่วยให้เราเล่นเกมได้สนุกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเกมแนวยิง ๆ ที่เราสามารถเซ็ตให้ปุ่ม L เป็นการเล็ง และปุ่ม R เป็นปุ่มยิง ให้อารมณ์เหมือนเกมคอนโซลที่มักวางปุ่มแนวนี้อยู่แล้ว การตอบสนองของปุ่มก็เป็นแบบ Ultra Sonic ก็ทำได้ดีมีระดับในการกด แถมรอบนี้ยังมีคำสั่งเพิ่มเติมให้ใช้มากกว่า 9 รูปแบบอีกด้วย
นอกจากการแตะเพื่อเป็นปุ่มพิเศษแล้ว รอบนี้ ASUS ยังเพิ่มความสามารถ Motion Control เข้ามาด้วย ไม่ว่าจะเป็นเอียงเครื่อง ขยับไปซ้าย-ขวา รวม ๆ แล้วทำได้เพิ่มกว่า 10 แบบเลยทีเดียว เพิ่มทางเลือกในการเล่นเกมให้สนุกขึ้นไปอีกครับ
เล่นเกมกันเลยไหม!?
อธิบายฟีเจอร์ซะครบถ้วน ถึงเวลามาลงสนามจริงด้วยการเล่นเกมกันเลย เกมที่เราใช้ทดสอบวันนี้มี 5 เกมใหญ่ประกอบด้วย Asphalt 9, Apex Legends, ROV, PUBG, และ Genshin Impact ครับ ผลการทดสอบของเราก็ออกมาดังนี้เลย…
เล่น Asphalt 9 บน ROG Phone 6D Ultimate
เริ่มที่ Asphalt 9 กันก่อนเลย ในเรื่องการตั้งค่าปรับได้สูงสุดที่ High Quality บวกกับ 60fps สูงที่สุดเท่าจะทำได้ และด้วยการที่ Gameloft กับ ASUS เป็นพันธมิตรกันมาอย่างยาวนาน ก็มีแถมฟีเจอร์พิเศษอย่างระบบสั่นตอบสนองเข้ามาให้ด้วย (ปัจจุบันบนสมาร์ทโฟน Android รุ่นอื่นยังไม่มีฟีเจอร์นี้) ช่วยให้เราเล่นเกมนี้ได้สะใจขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นจังหวะที่รถเบียดชน, ปล่อย Shockwave หรือลงกระแทกแรง ๆ ระบบสั่นจะทำงานเสริมความสมจริงให้ตัวเกมขึ้นไปอีก เราชอบมาก ๆ เพราะหาแบบนี้จากรุ่นไหนไม่ได้เลย
เล่น Apex Legends บน ROG Phone 6D Ultimate
มาต่อกันที่เกม Battle Royale ล่าสุดอย่าง Apex Legend เกมนี้เราสามารถปรับการตั้งค่าได้ 2 แบบคือ กราฟิกสูงสุดได้ที่ ExtremeHD บวกกับเฟรมเรตที่ Ultra หรือจะเลือกเป็นกราฟิก Smooth กับเฟรมเรต Extreme ก็ได้เช่นกันครับ ขึ้นอยู่กับความลื่นไหลล้วน ๆ ในการทดสอบนี้เราเลือกไปที่ ExtremeHD เพื่อให้ได้ภาพสวยมาก่อน เฟรมเรตที่ได้คือ 60fps ตัวเกมเล่นได้อย่างลื่นไหลมาก แทบไม่เห็นตัวเลข fps ที่โชว์ต่ำกว่า 60fps เลย เรียกว่าเล่นได้อย่างราบลื่น การตอบสนองของหน้าจอก็ยอดเยี่ยม ยิ่งเล่นกับ AirTrigger ยิ่งถูกใจเหมือนเล่นบนคอนโซลเลยล่ะครับ
เล่น ROV บน ROG Phone 6D Ultimate
ส่วน ROV ก็คงไม่ได้อธิบายเยอะด้วยสเปคระดับสูงสุดแบบนี้การตั้งค่าก็ปรับทุกอย่างได้สูงสุดทั้งหมดอยู่แล้วทั้งกราฟิก HD Display เฟรมเรตก็สูง เท่าที่เราเล่นจริงจังก็พบว่าตัวเกมทำได้อย่างลื่นไหลมาก เฟรมเรตนิ่ง ๆ อยู่ที่ระดับ 59 – 61fps ตลอดทั้งเกม ภาพก็สวยจัดเต็ม แถมอัตราส่วนจอยังเป็น 20.4:9 ให้ด้านข้างที่กว้างกว่ารุ่นทั่วไปอีกนิดหน่อย ได้เปรียบในเรื่องฉากที่กว้างกว่าด้วย เล่นแล้วก็ฟินมาก ๆ ครับ
เล่น PUBG บน ROG Phone 6D Ultimate
มาต่อกันที่ PUBG เราสามารถเลือกปรับกราฟิกและเฟรมเรตได้หลายระดับ จะอยากได้ภาพสวยที่สุดที่ Ultra HD คู่กับเฟรมเรต Ultra ก็ได้ หรือจะเลือกเป็นกราฟิกระดับกลางอย่าง HDR แล้วเฟรมเรตสูง Extreme ก็ได้เช่นกัน ซึ่งในการทดสอบนี้เราปรับไปที่เฟรมเรต Extreme เพื่อให้ได้เฟรมเรต 60fps ในเกมก็เล่นได้อย่างลื่นไหลเลย เฟรมเรตที่เราลองเช็กจากตัว Realtime-info จะวิ่งที่ 59 – 60fps ตลอดทั้งเกม ไม่มีเฟรมเรตตกไปกว่านั้นเลย ฟีเจอร์ Motion Control กับ AirTrigger ก็ช่วยเสริมเกมเพลย์ให้แตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไปได้อีกเยอะ ตรงนี้เราชอบมาก!
เล่น Genshin Impact บน ROG Phone 6D Ultimate
ปิดท้ายที่เกมสุดโหดอย่าง Genshin Impact เช่นเดียวกับหลาย ๆ เกมเราสามารถปรับระดับกราฟิกได้ที่สูงสุดทั้งหมด รวมถึงเฟรมเรต 60fps เช่นกัน ในการเล่นจริงจังตัวเกมรันได้อย่างลื่นไหลและต่อเนื่องดีมาก แม้จะเล่นเป็นเวลานานก็ยังให้เฟรมเรตที่ลื่นไหลระดับ 50 – 60fps ตลอด ไม่เจออาการเฟรมเรตดรอปเลย ยิ่งเป็นเกม Open World แบบนี้พอได้ลำโพงคู่ Stereo ที่ทรงพลังมาก ๆ ก็ช่วยให้เราเล่นเกมได้สมจริงยิ่งขึ้นด้วย ตรงนี้เราชอบเลยนะ
จัดการความร้อนได้เหนือชั้นด้วย GameCool 6
เท่าที่เราได้ลองเล่นเกมแบบจริงจังไป ไม่มีเกมไหนเลยที่เราบ่นว่าตัวเครื่องร้อนหลังจากเล่นไปหนัก ๆ ทำไมน่ะหรอ ก็เพราะรอบนี้ ROG Phone 6D Ultimate เขาอัปเกรดระบบระบายความร้อนใหม่ GameCool 6 ที่ออกแบบให้ CPU อยู่ตรงกลางพร้อมแบตเตอรี่ที่แยกออกเป็น 2 ส่วนทำให้กระจายความร้อนมายัง Vapor Champer (ที่ขนาดใหญ่ขึ้น 30%) เพื่อส่งต่อความร้อนออกไปยังแผ่นแกรไฟต์ (ขนาดใหญ่ขึ้น 80%) ทำให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนนั้นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะครับ
ระบายความร้อนได้เหนือชั้นขึ้นไปอีกด้วย AeroActive Cooler 6
หรือถ้าเล่นเกมแบบหนักต่อเนื่องจริง ๆ แบบเป็นชม. ASUS ก็ยังมีทางเลือกใหม่คือ AeroActive Cooler 6 หรือชุดพัดลมระบายความร้อนแบบไร้สาย ที่จะเข้ามาช่วยลดความร้อนสะสมเวลาเล่นเกมได้อีกขั้น (อันที่แถมมาในกล่องนั่นแหละ) รอบนี้ออกแบบมาใหม่หมด ดีไซน์มีความล้ำเป็นอวกาศ พร้อมปุ่มกดที่ด้านหลังอีก 4 ปุ่มและยังมีไฟ RGB ที่สัญลักษณ์ ROG เมื่อเชื่อมต่อเข้ากับตัวเครื่องอีกด้วย
ในเรื่องการระบายความร้อน ASUS เคลมว่าเมื่อเชื่อมต่อ AeroActive Cooler 6 เข้ากับ ROG Phone 6 แล้ว จะช่วยลดอุณหภูมิผิวสัมผัสตัวเครื่องได้มากสูงสุดถึง 25ºC โดยจะมีระบบควบคุมผ่าน AI ในการจัดการเพื่อรักษาสมดุลอุณหภูมิของตัวเครื่องพร้อม ๆ กับการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานที่สุด
ซึ่งความพิเศษยิ่งกว่าโดยเฉพาะของ ROG Phone 6D Ultimate ก็คือมาพร้อมช่องระบายความร้อนใหม่ AeroActive Portal ขีดสุดแห่งเทคโนโลยีการระบายความร้อนด้วยช่องรับอากาศทางด้านหลังของตัวเครื่อง ที่จะเปิดขึ้นอัตโนมัติเมื่อเชื่อมต่อกับ AeroActive Cooler 6 โดย AeroActive Portal จะเปิดขึ้นเพื่อรับลมเย็นจาก AeroActive Cooler 6 เพื่อผ่านไปยังครีบระบายความร้อนของ Vapor chamber ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อนของตัวเครื่องโดยภาพรวมได้ถึง 20%เพิ่มความเสถียรสำหรับการใช้งานระดับสูงสุดได้ยาวนานต่อเนื่องไปอีก
ซึ่งเท่าที่เราลองเล่นกับ AeroActive Cooler 6 นั้นรู้สึกได้เลยว่าตัวเครื่องเย็นขึ้นมาก และไม่เจออาการเกมกระตุกเนื่องจากความร้อนสะใจหลังจากเล่นต่อเนื่องไปนานจริง ๆ เรียกว่าเป็นทางเลือกในการจัดการกับขุมพลังสุดแรงที่มักจะมาพร้อมความร้อนสะสมได้เป็นอย่างดี ทีนี้เราก็หายห่วงเวลาเล่นเกมนาน ๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่าประสิทธิภาพจะตกแล้ว แถมชุดพัดลม AeroActive Cooler 6 นี้ก็ยังมีแถมมาในกล่องเลยด้วย ไม่ต้องซื้อแยกนะจ๊ะ
แบตเตอรี่ 6000mAh เล่นเกมได้จุใจไม่ต้องกังวล
ในเรื่องแบตเตอรี่ ROG Phone 6 ก็ยังได้ความจุแบตฯที่มากถึง 6000mAh มาเหมือนเดิม สบายใจได้สำหรับสายเกมที่ต้องการเล่นเกมแบบต่อเนื่องหลาย ๆ แมทช์ เพราะด้วยความจุระดับนี้เราสามารถเล่นได้ต่อเนื่องหลายชม.โดยไม่ต้องมากังวลว่าแบตฯจะหมดง่าย ๆ อีกต่อไป
ชาร์จไว 65W ROG Hyper Charge
ส่วนระบบชาร์จก็ได้ชาร์จไว 65W ROG HyperCharge มาให้ด้วย ASUS เคลมว่าชาร์จจาก 0 – 60% ได้ในเวลาเพียง 19 นาทีเท่านั้น และเต็ม 100% ในแค่ 42 นาที ถือว่ารวดเร็วมากสำหรับเกมมิ่งโฟนที่มีแบตฯความจุเยอะถึง 6000mAh แบบนี้ครับ
สรุปแล้วในเรื่องประสิทธิภาพต้องบอกเลยว่า ROG Phone 6D Ultimate นั้นออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การเล่นเกมอย่างแท้จริง ด้วยสเปคระดับสูงสุดทั้งชิป Dimensity 9000+ หน้าจอ AMOLED 165Hz พร้อมความจุสูงถึง 16GB + 512GB เรียกว่าเพียงพอต่อการเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลมาก ๆ อีกทั้งยังมีระบบระบายความร้อนแบบใหม่ GameCool 6 ที่ช่วยให้เล่นเกมต่อเนื่องได้เป็นเวลานานแต่ก็ไม่ทำให้เครื่องร้อนจนเกมกระตุก หรือจะเป็นฟีเจอร์เสริมอย่าง AirTrigger กับ Motion Control ที่เสริมให้เราเล่นเกมได้สนุกขึ้น อีกทั้งยังมี AeroActive Cooler 6 พัดระบายความร้อนที่เชื่อมต่อกับตัวเครื่องและ AeroActive Portal ช่วยให้เราเล่นเกมต่อเนื่องได้เป็นชม.โดยไม่เจอปัญหาความร้อนเลย เรียกว่าผ่านการคิดมาแล้วจนถึงตอนนี้ว่านี่เครื่องเครื่องเกมพกพาระดับสุดยอดจริง ๆ ครับ
ซอฟต์แวร์ Android 12 พร้อม ROG UI
มาเข้าเรื่องซอฟต์แวร์ ROG Phone 6D Ultimate ได้ระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่ครอบทับด้วย ROG UI มีการปรับแต่งที่เพียงพอ แต่ก็ยังคงความคลีนในการใช้งานไม่ต่างจาก Pure Android มากนัก เราจึงรับรู้ได้ถึงความลื่นไหลในแบบที่ควรจะเป็นจากเกมมิ่งโฟนเครื่องนี้ครับ
ในส่วนของการปรับแต่ง ROG Phone 6D Ultimate นอกจากพวก ROG Vision ที่เราสามารถเลือกปรับแต่งได้ผ่าน Armoury Crate แล้ว ก็มีฟีเจอร์ Theme ที่ให้เราเลือก Wallpaper พิเศษจากเกมฮิตมากมาย รวมถึง Theme ที่เราสามารถดาวน์โหลดเพิ่มมาเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายในเครื่องให้เป็นเฉพาะของตัวเครื่องได้ด้วยครับ
กล้อง 50MP คุณภาพเกินเบอร์เกมมิ่งโฟนมาก!
ปิดท้ายที่เรื่องกล้อง ถึงแม้ ROG Phone 6D Ultimate จะเป็นเกมมิ่งโฟนที่เน้นไปที่ประสิทธิภาพของการเล่นเกมและสเปคเป็นหลักแต่รอบนี้กล้องก็ไม่ธรรมดานะ ให้กล้องหลัง 3 ตัวที่ความสามารถครบมาด้วยมีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้ครับ
- กล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX766
- กล้อง Ultra Wide 13MP
- กล้อง Macro 5MP
อย่างที่เห็นกล้องหลักของ ROG Phone 6D Ultimate นั้นใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX766 ตัวฮิตที่คุณภาพยอดเยี่ยม ตรงนี้ทาง ASUS เคลมว่าขนาดพิกเซลใหญ่ขึ้นถึง 40% และยังปรับปรุงในเรื่อง HDR ให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย เท่าที่ลองใช้งานต้องบอกว่านี่เป็นเกมมิ่งโฟนที่เอาจริงเอาจังในเรื่องกล้องไม่น้อยเลย คุณภาพที่ออกมาต้องบอกว่าสวยเกินเบอร์เกมมิ่งโฟนไปเยอะจริง ๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ ROG Phone 6D Ultimate
นอกจากภาพนิ่งจะทำได้ยอดเยี่ยมแล้ว ในเรื่องของวิดีโอ ROG Phone 6D Ultimate สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 8K 24fps กันเลยทีเดียวครับ ใครชอบถ่ายวิดีโอแบบคมชัดขั้นสุดรุ่นนี้ไม่ทำให้ผิดหวัง
ราคา ROG Phone 6D Series
สรุปราคา ROG Phone 6D มีให้เลือก 3 รุ่นให้เลือกคือ ROG Phone 6D Ultimate (รุ่นที่รีวิว), ROG Phone 6D และ ROG Phone 6 Batman Edition จะมีความจุและราคาต่างกันดังนี้
- ROG Phone 6D Ultimate ความจุ 16GB + 512GB สี Space Gray ราคา 42,990 บาท
- ROG Phone 6D ความจุ 12GB + 256GB สี Space Gray ราคา 28,990 บาท
โดย ROG Phone 6D Series จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป แบบ Exclusive ผ่านทาง AIS เพียงเท่านั้นพร้อมราคาที่ดีที่สุดบนเครือข่าย 5G ที่ดีที่สดุครอบคลุมมากสุดทั่วประเทศ ราคาเริ่มต้นเพียง บาท
และพิเศษโปรโมชั่น Early Bird รับฟรี! หูฟังเกมมิ่งไร้สาย ROG Cetra True Wireless มูลค่า 3,990 บาท พร้อมความบันเทิงจัดเต็มและสิทธิพิเศษอื่น ๆ จาก AIS เมื่อซื้อ ROG Phone 6D Series รุ่นใดก็ได้ ตามแพ็กเกจที่บริษัทกำหนด ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. – 6 ธ.ค. 2565 เท่านั้น!
สรุปแล้ว “นี่คือเกมมิ่งโฟนตัวท็อปที่แรงที่สุดเท่าที่จะหาได้ตอนนี้แล้ว”
สรุปแล้ว ROG Phone 6D Ultimate ก็คือเกมมิ่งโฟนตัวท็อปสุดที่จัดเต็มที่สุดเท่าที่เราจะหาได้จาก ASUS ตอนนี้แล้ว ทั้งหน่วยประมวลผล Dimensity 9000+ ตัวแรง มี RAM 16GB (LPDDR5X) ความจุ 512GB (UFS 3.1) แบตเตอรี่จุใจ 6000mAh เรียกว่าไม่มีกั๊กจัดที่สุดของสเปคมาให้เราจริง ๆ ในการเล่นเกมก็บอกเลยว่าปรับไปสุดได้ทุกเกม แถมยังมีฟีเจอร์การเล่นเกมที่ตอบสนองเราได้อย่างดี ช่วยให้การเล่นเกมบนมือถือเปลี่ยนไปมากจากสมาร์ทโฟนทั่วไป อีกทั้งระบบระบายความร้อนในรอบนี้ก็ปรับปรุงขึ้น แม้จะไม่พึ่งอุปกรณ์เสริมเราก็ยังรู้สึกว่าเล่นได้ต่อเนื่องแบบไม่ร้อนมือจนเกินไป หรือถ้าต้องการเล่นแบบต่อเนื่องก็มี AeroActive Cooler 6 แถมมาให้ในกล่องเลย เชื่อมต่อกันได้ทันทีเล่นเกมเป็น Tournament ก็หายห่วง เราว่าใครที่มีงบไม่จำกัดอยากได้เกมมิ่งโฟนที่จัดเต็มทุกด้านแบบที่สุด เราว่า ROG Phone 6D Ultimate คือคำตอบที่คุณมองหาอยู่แน่นอนครับ!