Connect with us

Smart Review

รีวิว ROG Phone 8 Pro Edition โฉมใหม่ของเกมมิ่งโฟนสุดแรง ที่มาพร้อมชิป Snapdragon 8 Gen 3 | 24GB + 1TB | AeroActive Cooler X!

Published

on

รีวิว ROG Phone 8 Pro Edition เกมมิ่งโฟนรุ่นล่าสุดของ ASUS ที่เพิ่งเปิดตัวในไทยไปสด ๆ ร้อน ๆ เป็นอีกหนึ่งตัวตึงต้นปีที่บอกเลยว่าอัปเกรดจุก เปลี่ยนแปลงฉ่ำ ถูกใจทั้งสายเกมจริงจังและสายพรีเมี่ยมที่ต้องการความแรงแน่นอน เพราะว่ารอบนี้ ASUS ตั้งเป้าขยายกลุ่มลูกค้าของ ROG Phone ใหม่ด้วยการปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่ก็ยังไม่ทิ้งลูกเล่นสำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ด้วย!

และต้องบอกเลยว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำได้น่าสนใจมากด้วย หลังจากเราลองใช้งานจริง ROG Phone 8 Pro Edition มากว่า 2 สัปดาห์ วันจะได้รีวิวเต็ม ๆ ให้ชมสักที พร้อมแล้วติดตามกันเลยครับ!

สรุปสเปค ROG Phone 8 Pro Edition

  • ขนาดตัวเครื่อง : 163.77 x 76.8 x 8.9 มม.
  • น้ำหนัก : 225 กรัม
  • หน้าจอ : E6 AMOLED ขนาด 6.78″ 
  • ความละเอียด : FHD+ (2448 x 1080 พิกเซล) รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 2,500 nits กระจก Gorilla Glass Victus 2
  • Refresh rate : สูงสุด 165Hz (LPTO 1 – 120Hz)
  • CPU : Snapdragon 8 Gen 3 (4nm) Octa Core ความเร็ว 3.3GHz
  • GPU : Adreno 750
  • RAM : 24GB (LPDDR5X)
  • ROM : 1TB (UFS 4.0)
  • แบตเตอรี่ : 5500mAh
  • ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 65W HyperCharge, รองรับชาร์จไร้สาย 15W (Qi)
  • กล้องหน้า : 32MP เซ็นเซอร์ IMX663
  • กล้องหลัง : 3 ตัว
    • กล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX890, กันสั่น 6 แกน Gimbal Stabilizer 3.0, f/1.9
    • กล้อง Ultra Wide Angle 13MP มุมกว้าง 120º f/2.2
    • กล้อง Tele 3x 32MP, f/1.9, OIS
  • รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 7 (802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2×2 MIMO), Bluetooth 5.3, NFC, พอร์ต USB-C x 2 และแจ็คหูฟัง 3.5 มม.
  • มาตรฐานกันฝุ่นกันน้ำ : IP68
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 14 ครอบทับด้วย ROG UI
  • สีสัน : Phantom Black

ROG Phone 8 มีให้เลือก 3 โมเดล

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก ROG Phone 8 Series ของปีนี้กันก่อนดีกว่า ปีนี้ ASUS ประเทศไทยแบ่งแยกมาทั้งหมด 3 รุ่น แต่ละรุ่นก็จะแบ่งความจุที่ขายแยกไปเลยดังนี้ครับ

  • ROG Phone 8 ความจุ 12GB + 256GB ราคา 29,990 บาท
  • ROG Phone 8 Pro ความจุ 16GB + 512GB ราคา 37,990 บาท
  • ROG Phone 8 Pro Edition ความจุ 24GB + 1TB (มาพร้อม Cooler Active X ในกล่อง) ราคา 47,990 บาท

ซึ่งรุ่น ROG Phone 8 จะมีให้เลือก 2 สีคือ Phantom Black และ Storm Grey ส่วนบนรุ่น ROG Phone 8 Pro และ ROG Phone 8 Pro Edition จะมีให้เลือกแค่สีเดียวคือ Phantom Black ครับผม แน่นอนว่ารุ่นที่เราจะมารีวิวในวันนี้คือรุ่นท็อปสุดอย่าง ROG Phone 8 Pro Edition นั่นเอง อะ…แล้วจะพิเศษแค่ไหน มาดูกันเลย

ประสบการณ์เกมมิ่งตั้งแต่แพ็กเกจ

แม้จะบอกว่าปีนี้ ASUS พยายามปรับภาพลักษณ์ให้ดูเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่ความเป็นรุ่น Pro Edition ที่เน้นเป้าหมายเป็นเกมเมอร์ตัวยง กล่องจะธรรดาก็คงไม่ได้ รุ่นนี้มาพร้อมกล่องสีดำทรง 8 เหลี่ยมอย่างอลังการเลย ที่ด้านบนมีโลโก้ ROG เท่ ๆ เหมือนเดิมครับ

วิธีเปิดกล่องก็มีลูกเล่นทุกปี ปีนี้เป็นการดึงฝาเปิดออกมาด้านในก็จะมีอุปกรณ์เสริมที่วางไว้ในตำแหน่งต่าง ๆ ให้เราได้ค้นหากันอย่างตื่นเต้น

เริ่มกันที่ชั้นล่างสุดจะมีเข็มจิ้มถาดซิมที่ออกแบบมาพิเศษมีข้อความว่า Republic of Gamers และเคสกันรอยสีดำดีไซน์แนว ๆ

ส่วนตรงกลางก็แน่นอนว่าเป็นตัวเครื่อง ROG Phone 8 Pro สีดำ Phantom Black เท่ ๆ ที่เดี๋ยวเราให้ชมเต็ม ๆ อีกทีเนาะ

และชั้นบนก็จะมีชุดชาร์จทั้ง อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 65W สายชาร์จแบบถักและที่ขาดไม่ได้สำหรับ ROG Phone 8 Pro Edition ก็คือมาพร้อมชุดพัดลม AeroActive Cooler X ที่แถมมาในกล่อง และรอบนี้ยังมีกระเป๋าเล็กไว้ใส่ตัวพัดลมมาให้เหมือนเดิม พกพาติดตัวไปได้ง่ายขึ้นเนาะ

เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ภายในกล่องของ ROG Phone 8 Pro Edition ก็จัดมาให้แบบจุก ๆ 7 อย่าง ประกอบด้วย

  1. ตัวเครื่อง ROG Phone 8 Pro
  2. เคสกันรอย
  3. เข็มจิ้มถาดซิม
  4. อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 65W
  5. สายชาร์จ USB-C to C แบบถัก
  6. AeroActive Cooler X
  7. กระเป๋าใส่ AeroActive Cooler X

แต่ ๆ ความพิเศษของตัวกล่องพิเศษนี้ยังไม่หมดที่ความเวอร์วังของกล่องหรืออุปกรณ์ที่ให้มา เพราะเมื่อเราเปิดเครื่องขึ้นมาครั้งแรก หลังจากตั้งค่าทั่วไปเสร็จ เราจะเจอกับ Unboxing Mission มินิเกมที่ให้เราได้สัมผัสประสบการณ์เกมมิ่งเบื้องต้นจาก ROG Phone 8 Pro เครื่องนี้ด้วย

ซึ่งตัวกล่องก็จะให้เราได้เชื่อมต่อกับมินิเกมด้วยอย่างการวางแตะ NFC ที่ตัวกล่องเพื่อรับอาวุธมาใช้ หรือเสียบเข้ากับส่วนบนของกล่องเพื่อจบส่วนท้ายของเกมเป็นต้น

ซึ่งตัวมินิเกมนี้ก็จะเหมือนเป็นแอปที่ใช้ทดสอบตัวเครื่องได้เลยด้วย เพราะเราจะได้ลองทั้งความสามารถของ AirTriggers, Gyroscope, การแสดงผลหน้าจอ, ลำโพง รวมไปถึงระบบสั่นของตัวเครื่องด้วย

ก็ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์เกมมิ่งที่ใส่ใจมาก ๆ เพราะแค่เราเปิดเครื่องมาก็ตื่นตากับความล้ำของเครื่องแล้วล่ะเนาะ

ดีไซน์ใหม่หมด กลมกลืนกับทุกไลฟ์สไตล์มากขึ้น

ได้เวลามายลโฉม ROG Phone 8 Pro กันแบบเต็ม ๆ แล้วครับ เริ่มจากด้านหลังก่อนเลยเราจะเห็นว่ารอบนี้ลดความเกมมิ่งจ๋าลงอย่างชัดเจน ไม่ได้มีลวดลายแบบจัดหนักเหมือนแต่ก่อน ด้านหลังมีเส้นคาดลงมาเสริมความโฉบเฉี่ยวเล็กน้อยเท่านั้น ให้อารมณ์เหมือนโน้ตบุ๊ค ROG ยุคหลังที่มีความ Minimal มากขึ้น

มาพร้อมฝาหลังกระจกด้านที่มีผิวทรายให้ความละมุนเวลาสัมผัส และก็ยังสวยงามเวลากระทบกับแสงด้วย และขนาดตัวเครื่องก็ต้องบอกเลยว่าปรับลงมาจากรุ่นก่อน ๆ ชัดเจน ตัวเครื่องบางเพียง 8.9 มม. และเบาหนักแค่ 225 กรัมเท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบกับ ROG Phone 7 Ultimate เดิม (บาง 10.49 มม. | หนัก 246 กรัม) จะบางลง 15% และเบาลงกว่า 9% เลยทีเดียวครับ

ผันตัวมาเป็น “พรีเมี่ยมโฟนครบเครื่อง” ไม่ใช่ “เกมมิ่งโฟนจ๋า” แล้ว

ROG Phone นั้นเปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 จนถึงตอนนี้ก็มีมากกว่า 6 รุ่นหลักกันแล้ว เราจะเห็นว่ามีการปรับดีไซน์มาตลอด ๆ ซึ่ง ASUS จะแบ่งเป็น 3 Gen หลัก ๆ คือ

  • Gen 1 (ROG Phone, ROG Phone 2, ROG Phone 3) แนวคิด Concept & Explore : การค้นพบและความล้ำ
  • Gen 2 (ROG Phone 5, ROG Phone 6, ROG Phone 7) แนวคิด Cutting Edges : ปรับโฉมให้ลงตัวขึ้น เพิ่มความเร็ว, ระบบ Cooling, แบตเตอรี่, ระบบเสียงและความเทรนดี้เข้าไป
  • Gen 3 (ROG Phone 8) แนวคิด Beyond Gaming : เน้นการใช้งานจริง, การพกพา และปรับโฉมดีไซน์ใหม่หมด

แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะใน Gen 3 นี้ ASUS ตั้งใจเปลี่ยน ROG Phone 8 Series เป็น Premium All-Rounder Phone (พรีเมี่ยมโฟนสุดครบเครื่อง) จาก Pure Gaming Phone (เกมมิ่งโฟนจ๋า ๆ) เปลี่ยนภาพจำของ ROG Phone ที่มักจะเกาะกลุ่มฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ ให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการประสบการณ์ราบรื่นขั้นสุด ในรูปลักษณ์เท่แต่ไม่เทอะทะก็ใช้งานได้!

ดีไซน์ยังแฝงความเป็นเกมมิ่งอยู่แหละ

ถึงแม้เราจะบอกว่าปีนี้ ASUS ตั้งใจเปลี่ยนภาพลักษณ์ของ ROG Phone 8 Series ใหม่หมด แต่จะให้ทิ้งลูกเเอกลักษณ์ของตัวเองไปหมดก็คงไม่ได้เนาะ ความเป็นเกมมิ่งโฟนยังแทรกอยู่ในรายละเอียดต่าง ๆ ด้วยการสลักข้อความไว้รอบฝาหลังเหมือนเดิม มีทั้ง ROG Eye โลโก้ดั้งเดิมของแบรนด์, Dare to Win สโลแกนของค่าย หรือ EST 2006 ปีที่ก่อตั้งแบรนด์ ROG ขึ้นมาครบ

โมดูลกล้องของ ROG Phone 8 Pro ก็ค่อย ๆ ปรับลดความแฟนซีลงชัดเจน เหลือเพียง 5 เหลี่ยมที่มีมุมโค้งเล็ก ๆ แต่เรื่องข้อมูลก็ขาดไม่ได้มีระบุ 8K ULTRA HD ไว้เพื่อแสดงว่ารุ่นนี้กล้องก็ไม่ธรรมดานะจ๊ะ ซึ่งบนรุ่น Pro จะได้กล้องหลังมา 3 ตัวอัปเกรดน่าสนใจที่เดี๋ยวเรามาอธิบายกันอีกที

ไฟ Mini-LED ใหม่ AniMe Vision

และที่ขาดไม่ได้ไฟ LED ที่ด้านหลังเครื่องที่รอบนี้ปรับใหม่เลย ไม่ใช้จอที่ดูเว่อ ๆ แล้ว ปรับมาเป็นไฟ Mini-LED สีขาวกว่า 341 ตัวซ่อนอยู่ในฝาหลังได้อย่างแนบเนียน ซึ่งสามารถแสดงผลเป็นข้อความ รูปแบบอนิเมชั่นได้แบบสวย ๆ ได้หลากหลายแบบ อาทิ ตอนเล่นเพลง, มีสายเข้า, การแจ้งเตือน, ชาร์จแบตฯ, นับถอยหลังตอนถ่ายรูป หรือตอนเล่นเกมเป็นต้น ตรงนี้ ASUS ใช้ชื่อเรียกใหม่ว่า AniMe Vision ดู Minimal ลง แต่ก็ยังไม่ทิ้งฟีเจอร์เด็ดนี้ออกไปนะ

หน้าจอที่เข้ายุคสมัยแล้ว

พลิกกลับมาดูที่หน้าจอกันบ้าง ROG Phone 8 Pro เปลี่ยนมาใช้หน้าจอแบบเจาะรูกับเขาเสียที หลังจากที่ยึดรูปแบบหน้าจอที่มีขอบบน-ล่างสำหรับลำโพง Stereo คู่หน้ามาตั้งแต่รุ่นแรก ทำให้พื้นที่หน้าจอดูเต็มขึ้น ทันสมัยขึ้นมาก ขอบจอก็คือชิดสุด ๆ ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดเล็กลง แต่ยังได้ขนาดจอที่ 6.78″ เท่าเดิมเป๊ะครับ!

ในเรื่องการแสดงผลก็ทำได้ยอดเยี่ยมเหมือนเดิมด้วยจอ E6 AMOLED ที่อัปเกรดใหม่ ความสว่างสูงสุดถึง 2500nits แล้ว ความละเอียดสูงระดับ FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) เพียงพอต่อการเล่นเกมกราฟิกอลังการ หรือดูคอนเทนต์ความละเอียดสูงมาก ๆ ครับ

ส่วนเรื่องการตอบสนอง ROG Phone 8 Pro ยังได้ Refresh rate สูงสุดถึง 165Hz เหมือนเดิม แต่เพิ่มเทคโนโลยี LTPO เข้ามาใหม่ที่จะสามารถปรับตามการใช้งานในหลายสถานการณ์ได้ตั้งแต่ 1 – 120Hz ด้วย ทำให้นอกจากจะลื่นติดนิ้วมาก ๆ แล้ว ยังประหยัดแบตเตอรี่เพราะมีการปรับขึ้น-ลงอยู่เสมอให้เหมาะที่สุดอีกด้วยครับ

ลำโพงคู่ Stereo ยังมีอยู่

แม้ ROG Phone 8 Pro จะปรับรูปแบบขอบหน้าจอใหม่หมด ทำให้ไม่เหลือพื้นที่ให้ลำโพงคู่หน้าแล้ว แต่รุ่นนี้ก็ยังมีลำโพง Stereo อยุ่เหมือนเดิม หลักการก็เหมือนพรีเมี่ยมโฟนหลาย ๆ รุ่นแหละครับคือใช้ลำโพงสนทนาด้านบนหน้าจอคู่กับลำโพงหลักที่ด้านล่างตัวเครื่องทำงานพร้อมกันให้มิติเสียงออกมา 2 ทิศทาง ซึ่งคุณภาพโดยรวมก็ยังยอดเยี่ยมครับ แทบไม่รู้สึกถึงความต่างจากรุ่นก่อน ๆ เลย แถมได้จอเต็มขึ้นแบบนี้ แจ่ม!

กรอบเครื่องเหลี่ยม มี AirTrigger มาให้ใช้งานเหมือนเคย

ด้วยความที่ปรับโฉมให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น กรอบเครื่องของ ROG Phone 8 Pro ก็ปรับเป็นแบบเหลี่ยมที่ตัดมุมโค้งไว้เล็ก ๆ ช่วยให้เราจับเครื่องได้เต็มมือมากขึ้น แต่ก็ไม่บาดเวลาจับแบบเต็ม ๆ ครับ ตำแหน่งปุ่มกดยังอยู่ที่ด้านขวามือของตัวเครื่องเช่นเคย แยกเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงและปุ่ม Power และที่มุมซ้าย-ขวาก็ยังมีปุ่ม Air Trigger แบบ Ultra Sonic อยู่ซ้าย-ขวาที่เราสามารถเพิ่มเป็นปุ่ม L R เวลาเล่นเกมได้ครับ

ซึ่งด้วยความที่กรอบเครื่องมีความเหลี่ยมมากขึ้น เรารู้สึกว่าเวลาแตะกดที่ AirTrigger จะได้ความเต็มนิ้วมากขึ้นอีกหน่อย ทำให้ถือเล่นในแนวนอนได้ถนัดยิ่งขึ้นด้วยครับ

พอร์ตการเชื่อมต่อ 2 จุด

พอร์ตการเชื่อมต่อของ ROG Phone 8 Pro จะมีอยู่ 2 จุดคือด้านล่างตัวเครื่องปกติแบ่งเป็นพอร์ต USB-C และช่องหูฟัง 3.5 มม. และที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องก็ยังมีพอร์ต USB-C อีกพอร์ตเพื่อใช้งานชาร์จแบตฯขณะเล่นเกมไปได้อย่างสะดวก และยังใช้เป็นที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริม AeroActive Cooler X ที่แถมมาในกล่องได้อีกด้วย

กันน้ำมาตรฐาน IP68 แล้วนะ

และด้วยความที่ยกตัวเองเป็นพรีเมี่ยมโฟนสุดครบเครื่องแล้ว จะขาดฟีเจอร์การกันน้ำกันฝุ่นได้อย่างไรล่ะเนาะ ROG Phone 8 Series ทุกรุ่นในปีนี้ยกระดับจาก IP54 ที่แค่กันละอองน้ำมาเป็น IP68 เต็มตัวคือสามารถลงน้ำลึก 1.5 เมตรได้นาน 30 นาทีเลยด้วย มั่นใจได้ว่าถ้าเผลอทำตกน้ำหรือน้ำหกใส่แบบเต็ม ๆ ตัวเครื่องจะไม่พังง่าย ๆ แน่นอนครับ

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ ROG Phone 8 Pro (Edition) นั่นก็ถือว่าออกแบบมาได้ลงตัวมากขึ้น ดูไม่ยัดเยียดความเป็นเกมมิ่งโฟนจ๋าแบบที่ผ่านมา ฝาหลังที่ซ่อนลูกเล่น AniMe Vision ไฟ Mini-LED เท่ ๆ แต่เวลาใช้งานปกติก็สวยหรูเหมือนพรีเมี่ยมโฟนสักรุ่น หน้าจอที่เต็มตาแบบสมัยนิยมสักที พร้อมขนาดตัวเครื่องที่อยู่ในระดับเรือธงทั่วไป ไม่เทอะทะล้นกระเป๋าแล้ว สำหรับคนที่อยากได้ขุมพลังและฟีเจอร์สุดแรงจากภายในแต่ภายนอกเรียบง่ายก็น่าจะถูกใจแน่นอนครับ!

ขุมพลังระดับสูงสุดกับ Snapdragon 8 Gen 3

มาต่อในเรื่องประสิทธิภาพกันเลยครับ ROG Phone 8 Pro Edition มาพร้อมสเปคแรงที่สุดเท่าที่จะหาได้บนสมาร์ทโฟนตอนนี้แล้ว ทั้งชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 ความเร็วสูงสุดที่ 3.3GHz มาพร้อม RAM แบบ LPDDR5X 24GB มี Storage แบบ UFS 4.0 ความจุ 1TB เรียกว่าไม่กั๊กอะไรเลยให้มาสุดจริง ๆ ครับ

Benchmark ถูกใจสายตัวเลขทุกแอป

และด้วยสเปคระดับนี้คะแนน Benchmark ที่ได้ก็ต้องบอกเลยว่าสูงมาก เราทดสอบแล้วได้ไปถึง 2,227,229 คะแนนกันเลย เป็นคะแนนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เราเคยทดสอบมาเลยก็ว่าได้ครับ ยกความดีความชอบให้ Snapdragon 8 Gen 3 กับหน่วยความจำชั้นแนวหน้าไปเลย

ส่วนคะแนน CPU ที่ทดสอบได้ผ่านแอป Geekbench 6 ก็สูงสุด ๆ เช่นกันได้ Single-Core ไปที่ 2330 คะแนนและ Multi-Core ไปที่ 7392 คะแนน นี่ก็ยังสูงที่สุดเท่าที่เราเคยทดสอบบนสมาร์ทโฟน Android อีกเช่นกันครับ!

แล้วแรงนี่ต่อเนื่องรึเปล่าล่ะ ? เชื่อว่าหลายคนมีคำถามนี้แน่นอน ซึ่งเราก็ลองทดสอบผ่านแอป CPU Throttling Test มาให้แล้ว ผ่านไป 15 นาที CPU ยังทำงานได้ดีเยี่ยมระดับ 90% อยู่เลย ถือว่าหายห่วงเล่นได้แบบจัดเต็มก็ไม่ต้องกลัวหน่วงแล้วล่ะครับ

จัดการความร้อนได้เหนือชั้นด้วย GameCool 8

ROG Phone 8 Pro อัปเกรดระบบระบายความร้อนใหม่เป็น GameCool 8 ที่ยังออกแบบให้ CPU อยู่ตรงกลางเหมือนเดิม แต่เพิ่มตัว Rapid-Cooling Conductor เข้ามาควบคุมการกระจายความร้อนอีกตัว ทำให้ลดความร้อนได้เร็วขึ้นถึง 20% ทำให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนนั้นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะครับ อย่างในการ Benchmark ที่ผ่านมาใน 3 แอปหลักนั้น หลังจบการทดสอบก็บอกเลยว่าเครื่องร้อนมาก แต่ทิ้งไว้ครู่เดียวก็เย็นพอที่จะกลับมาเล่นต่อได้แล้วครับ

ระบายความร้อนได้เหนือชั้นขึ้นไปอีกด้วย AeroActive Cooler X

แต่ถ้าจะเล่นแบบต่อเนื่องจริง ไม่อยากเสียเวลามาพักเครื่อง ASUS ก็มีตัวเลือก AeroActive Cooler X ชุดพัดลมตัวใหม่ที่แถมมาให้ในกล่อง (เฉพาะรุ่น ROG Phone 8 Pro Edition เท่านั้น) ด้วยไง รอบนี้ปรับขนาดให้เล็กลงถึง 29% และเบาลงอีก 10% ช่วยให้รวมร่างกันแล้วไม่หนักจนเกินไป ยังมีความเกมมิ่งด้วยไฟ AuraRGB พร้อมปุ่มกดที่ด้านหลังอีก 2 ปุ่มและยังขาตั้งให้เราใช้งานด้วย

เห็นจิ๋วลง แต่ความสามารถยังแจ๋วเหมือนเดิม ASUS เคลมว่าเมื่อเชื่อมต่อกับ ROG Phone 8 Pro แล้วเปิดโหมดสูงสุด (Frozen) จะสามารถลดอุณหภูมิของฝาหลังได้สูงสุด 36º เลยทีเดียว ถ้าประกอบร่างเข้าหากันแบบนี้ก็คือประหนึ่งเครื่องเกมที่ทรงพลังที่สุดได้เลยล่ะครับ

Armoury Crate โซนสำหรับคอเกม จัดการทุกอย่างในทีเดียว

ก่อนจะไปเข้าเรื่องการเล่นเกมจริงจัง เราขอเสริมในเรื่องของแอปพิเศษที่ ASUS เพิ่มเข้ามาบน ROG Phone สักหน่อยกับ Armoury Crate แอปตัวนี้จะเป็นโซนที่รวมเอาทุกฟีเจอร์การเล่นเกม อาทิ คลังรวมเกมที่มีในเครื่อง, โหมดของการจัดารพลังงาน, การปรับรูปแบบ AniMe Vision รวมถึงการจัดการเกี่ยวกับ AeroActive Cooler X ด้วยครับ

Game Genie จัดการทุกอย่างในการเล่นเกม

ถ้า Armoury Crate คือการจัดการระบบของตัวเครื่องภายนอก Game Genie ก็คือศูนย์รวมการจัดการภายในเกมครับ ซึ่งรอบนี้ ASUS ได้ปรับหน้า UI ใหม่หมด ใช้พื้นที่เต็มหน้าจอมากกว่าเดิม ในนี้จะมีการตั้งค่าหลายอย่างเกี่ยวกับการเล่นเกมอาทิ การตั้งค่า AirTrigger, การแสดงข้อมูลการใช้งาน CPU/GPU หรือ FPS แบบเรียลไทม์, ล็อคความสว่างหน้าจอ, ปรับ refresh rate และอีกเพียบเลยจริง ๆ ครับ เรียกว่าหาการตั้งค่าอะไรไม่เจอก็ให้เลื่อนเปิด Game Genie แล้วหาได้เลยครับ รวมไว้ในนี้หมดแล้ว

X Sense 2.0 ฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ปี 2024 นี้ใคร ๆ ก็พูดถึงแต่ AI แล้ว ASUS จะไม่ใส่ฟีเจอร์ AI ในการเล่นเกมได้อย่างไรเนาะ ROG Phone 8 Pro มาพร้อมฟีเจอร์ X Sense (Beta) ลูกเล่นเสริมสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะเกมแนว Action RPG นี่เหมาะมาก ๆ เคยเบื่อที่จะต้องมาคอยกดเก็บของในเกมทุกครั้งที่ Drop ไหมครับ ? หรือเบื่อที่ต้องมากดข้ามบทสนทนาหลาย ๆ ครั้ง ถ้าเบื่อก็เปิดฟีเจอร์ X Sense นี้ได้เลย เพราะในนี้จะมีตัวเลือกเพิ่มความสะดวกให้เราอีก 5 อย่าง ประกอบด้วย

  • Auto Pickup (หยิบของอัตโนมัติ)
  • Auto Run (วิ่งอัตโนมัติ)
  • Speed (เพิ่มความเร็วให้บทสนทนา)

โดยทั้งหมดนี้จะใช้ AI คอยคำนวณรูปแบบของแต่ละเกมให้อีกที เราลองกับ Genshin Imapct ก็คือตอบสนองได้ดีเลย ไม่อยากกดเดินไปข้างหน้าค้างก็แตะไอคอน Auto Run หรือจังหวะที่เข้าภารกิจก็ไม่ต้องรอฟังนาน ๆ เร่งความเร็วให้ได้ แจ่มเหมือนกันนะ

AirTrigger ยังช่วยเติมเต็มการเล่นเกมเหมือนเดิม

อย่างที่บอกว่า ROG Phone 8 Pro นั้นมาพร้อมปุ่ม AirTrigger ที่ใช้งานเป็นปุ่ม L R ได้ และด้วยกรอบเครื่องที่เป็นทรงเหลี่ยมขึ้น ช่วยให้เราแตะสั่งงานได้ดีขึ้นอีก และมาตรฐานก็ยังดีเหมือนเดิม ใช้งานเล่นเกม แนวยิง ๆ ที่เซ็ตให้ปุ่ม L เป็นการเล็ง และปุ่ม R เป็นปุ่มยิง ให้อารมณ์เหมือนเกมคอนโซลที่มักวางปุ่มแนวนี้อยู่แล้ว การตอบสนองของปุ่มก็เป็นแบบ Ultra Sonic ก็ทำได้ดีมีระดับในการกด รวมถึงความสามารถ Motion Control เข้ามาด้วย ไม่ว่าจะเป็นเอียงเครื่อง ขยับไปซ้าย-ขวา รวม ๆ แล้วทำได้เพิ่มกว่า 10 แบบเลยทีเดียว เพิ่มทางเลือกในการเล่นเกมให้สนุกขึ้นไปอีกครับ

เล่นเกมกันเลยไหมล่ะ!?

ฟีเจอร์ว่าแน่นขนาดนี้แล้ว เราลองมาลงสนามจริงด้วยการเล่นเกมกันเลย เกมที่เราใช้ทดสอบวันนี้มี 4 เกมใหญ่ประกอบด้วย Asphalt 9, Call of Duty, War Thunder Mobile และ Genshin Impact ครับ และนี่คือผลลัพธ์ที่เราได้ทดสอบมาครับ

เล่น Asphalt 9 บน ROG Phone 8 Pro

เริ่มต้นกับเกมแข่งรถภาพสวยอย่าง Asphalt 9 ตัวเกมสามารถเปิดกราฟิกได้ถึงระดับ High Quality พร้อม 60fps ซึ่งถือว่าสูงที่สุดที่ปรับได้ในตอนนี้แล้ว เท่าที่เล่นจริงจังเฟรมเรตอยู่ที่ 59 – 60fps ตลอดทั้งเกม แม้จะมีเอฟเฟกต์เต็มฉากไปหมด และพอหน้าจอของ ROG Phone 8 Pro รอบนี้เต็มมากขึ้น ชิดขอบแล้วก็ให้ความรู้สึกเต็มอิ่มขึ้นกว่าเดิมด้วยนะ

เล่น Call of Duty บน ROG Phone 8 Pro

ต่อมากับเกมยิงสุดอลังการ Call of Duty Mobile การตั้งค่ากราฟิกและเฟรมเรตปรับได้ 2 แบบคือ Very High + Max (เฟรมเรตสุดที่ 60fps) หรือ Medium + Ultra (เฟรมเรตสุดที่ 120fps) ซึ่งเราลองทั้ง 2 รูปแบบมาแล้ว ก็พบว่าลื่นทั้งคู่ครับ ถ้าสายตาไปไหวอยากได้สูงสุดแบบลื่นหัวแตกที่ 120fps ก็ปรับได้ หรืออยากได้ภาพสวยสุดมีเอฟเฟกต์สะท้อนพื้นผิวของฉากแน่นก็ปรับตัวเลือกแรกไปเลย ความได้เปรียบของฮาร์ดแวร์ที่มีปุ่มพิเศษ AirTrigger เข้ามา ก็ช่วยให้เรากดยิงเหมือน Shoulder Button แบบเดียวกับที่เล่นบนคอนโซลได้ด้วย เล่นแล้วสนุกสะใจไปอีกแบบ!

เล่น War Thunder Mobile บน ROG Phone 8 Pro

อีกเกมแนวสงครามที่ภาพอลังการมาก เกมนี้ถูกแนะนำโดย ASUS เองเลยด้วย เพราะตัวเกมรองรับทั้งเฟรมเรตสูงสุด 120fps และ Ray Tracing แบบเต็มระบบ ซึ่งเท่าที่เราเล่นดูก็พบว่าภาพสวยจริง เปิดได้สุดทุกอย่าง เฟรมเรตจะมีแกว่งบ้างที่ระดับ 60 – 112fps แต่ก็ถือว่าราบรื่น ไม่เจอกระตุกจนขัดตา เทียบกับภาพที่แสงเงาสวยขนาดนี้ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมจริง ๆ ครับ

เล่น Genshin Impact บน ROG Phone 8 Pro

ปิดท้ายที่เกมสุดโหดอย่าง Genshin Impact เช่นเดียวกับหลาย ๆ เกมเราสามารถปรับระดับกราฟิกได้ที่สูงสุดทั้งหมด รวมถึงเฟรมเรต 60fps ด้วย ในการเล่นจริงจังตัวเกมรันได้อย่างลื่นไหลและต่อเนื่องดีมาก แม้จะเล่นเป็นเวลานานก็ยังให้เฟรมเรตที่ลื่นไหลระดับ 59 – 60fps ตลอด ไม่เจออาการเฟรมเรตดรอปเลย ยิ่งเป็นเกม Action RPG แบบนี้ ได้ฟีเจอร์ X Sense ที่ใช้ AI เข้ามาช่วยก็ทำให้เล่นได้สะดวกขึ้นอย่างที่บอกไปครับ

แบตเตอรี่ลดลง แต่ใช้งานจริงก็อึดเหมือนเดิม

อย่างที่บอกไปว่า ROG Phone 8 Series ปรับรูปลักษณ์ให้เข้ากับการใช้งานแบบไลฟ์สไตล์มากขึ้น ตัวเครื่องบางลง เบาลง ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องลดอะไรลงบ้าง ซึ่งนั่นก็คือแบตเตอรี่ครับ รุ่นนี้ได้แบตฯมาที่ 5500mAh (รุ่นก่อน 6000mAh) แต่ในการใช้งานจริงเราก็แทบไม่รู้สึกเลยว่าแบตฯอึดน้อยกว่า เพราะยังเล่นได้เต็มวันแบบไม่ต้องกังวลเหมือนเดิม คงต้องยกความดีความชอบให้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 และหน้าจอ LTPO ใหม่ด้วย แต่แหม…เอาจริง 5500mAh นี่ก็เยอะมาก ๆ แล้วแหละ

ชาร​์จไว 65W ROG Hyper Charge

ส่วนระบบชาร์จก็ได้ชาร์จเร็ว 65W HyperCharge มาให้ด้วย และพอแบตฯน้อยลงอีกหน่อยก็เลยทำให้ชาร์จจาก 0 – 100% เร็วขึ้นในเวลาแค่ 39 นาที (จากเดิม 42 นาที) ถือว่ารวดเร็วมากสำหรับเกมมิ่งโฟนที่มีแบตฯความจุเยอะถึง 5500mAh แบบนี้เนาะ อ๊ะ…ละก็รอบนี้รองรับระบบชาร์จไร้สายแล้วด้วยนะ มีความเป็นพรีเมี่ยมโฟนมากขึ้นแล้วใช่ไหมล่ะ

สรุปแล้วในเรื่องประสิทธิภาพ ROG Phone 8 Pro Edition ก็ยังทำได้ยอดเยี่ยมสมกับที่เป็นแบรนด์ที่เข้าใจความเป็นเกมมิ่งเป็นอย่างดี เพราะนอกจากสเปคที่อัดแน่นมาตั้งแต่ ชิป Snapdragon 8 Gen 3, หน้าจอ AMOLED ลื่น ๆ 165Hz, ความจุที่มากถึง 24GB + 1TB, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5500mAh พร้อมชาร์จเร็ว 65W แล้ว การออกแบบภายในอย่าง GameCool 8 และฟีเจอร์เสริม AirTrigger กับ Armoury Crate ก็ยังส่งให้เราเล่นเกมได้ต่างออกไปจากสมาร์ทโฟนทั่วไป แถมรุ่น Pro Edition สูงสุดที่นอกจากจะมีความจุเยอะที่สุดแล้ว ยังมี AeroActive Cooler X ตัวใหม่ที่พอรวมร่างเข้าด้วยกันแล้ว กลายเป็นเครื่องเกมพกพาประสิทธิภาพสูงโดยแท้เลยจริง ๆ ครับ!

ซอฟต์แวร์ Android 14 พร้อม ROG UI

มาเข้าเรื่องซอฟต์แวร์ ROG Phone 8 Pro ได้ระบบปฏิบัติการ Android 14 ที่ครอบทับด้วย ROG UI ที่เราสามารถปรับเลือกไอคอน Wallpaper แบบพิเศษเสริมความเป็นเกมเมอร์ได้เต็มที่ หรือถ้าไม่อยากใช้แบบเท่ ๆ ก็มีแบบ Stock Android มาตรฐานให้เลือกปรับเหมือนกันครับ

กล้องหลัง 3 ตัว อัปเกรดใหม่ มี Tele มาให้แล้วนะ!

ปิดท้ายที่เรื่องกล้อง ด้วยความที่ปีนี้ ASUS ตั้งใจจะให้ ROG Phone 8 Pro เป็นพรีเมี่ยมโฟนครบเครื่อง จุดที่จะดึงดูดได้ก็คงเป็นเรื่องกล้อง ที่เกมมิ่งโฟนอาจจะไม่ได้เน้นมาตลอด แต่รอบนี้มีการอัปเกรดใหม่หมด กล้องหลักเซ็นเซอร์ดีขึ้น อีกทั้งยังมีกล้อง Tele 3x มาให้ด้วย สเปคคร่าว ๆ ก็ตามนี้เลยครับ

  • กล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX890, f/1.9, กันสั่น 6 แกน Gimbal Stabilizer 3.0
  • กล้อง Ultra Wide 13MP f/2.2
  • กล้อง Tele 3x 32MP, f/1.9, OIS

ซึ่งการที่กล้องหลักอัปเกรดเป็นเซ็นเซอร์ระดับเรือธงแบบนี้ก็สมกับการที่จะผันตัวมาเป็น “พรีเมี่ยมโฟนสุดครบเครื่อง” แล้วจริง ๆ ครับ ในเรื่อง AI ประมวลผลภาพเพิ่มเติม ตรงนี้ ASUS เขาก็เก่งมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว แถมรอบนี้ได้กล้อง Tele 3x เข้ามาก็ช่วยให้ได้ภาพในระยะที่หลากหลายมากขึ้นอีก รวม ๆ แล้วถือว่าเป็นเกมมิ่งโฟนที่กล้องทำได้ดีเกินคาดจริง ๆ ครับ

ส่วนกล้องหน้าของ ROG Phone 8 Pro ก็ได้รับอัปเกรดมาใหม่เช่นกัน เป็นความละเอียด 32MP แถมได้มุมกว้างสุดระดับ 0.7x ด้วย ก็ทำให้เซลฟี่ได้สวยหรือเซลฟี่แบบหลายคนได้อย่างครบถ้วนดีเลยล่ะครับ

นอกจากภาพนิ่งจะทำได้ยอดเยี่ยมแล้ว ในเรื่องของวิดีโอ ROG Phone 8 Pro ยังสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 8K 24fps กันเลยทีเดียวครับ อลังการเกินเบอร์เกมมิ่งโฟนไปแล้ว!

ราคาและโปรโมชั่น ROG Phone 8 Series

สรุปราคา ROG Phone 8 Series อีกครั้ง รอบนี้จะมีให้เลือก 3 รุ่นคือ ROG Phone 8, ROG Phone 8 Pro และ ROG Phone 8 Pro Edition (รุ่นที่รีวิว) มีความจุและราคาดังนี้เลย

  • ROG Phone 8 ความจุ 12GB + 256GB ราคา 29,990 บาท
  • ROG Phone 8 Pro ความจุ 16GB + 512GB ราคา 37,990 บาท
  • ROG Phone 8 Pro Edition ความจุ 24GB + 1TB (มาพร้อม Cooler Active X ในกล่อง) ราคา 47,990 บาท

โดยจะมีโปรโมชั่น Early Bird ซื้อก่อน คุ้มกว่า! ดังนี้

  • เก่าแลกใหม่ รับส่วนลดเพิ่มจากราคาประเมินเครื่องเก่าอีก 3,000 บาท (ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. – 31 มี.ค.67)
  • รับฟรีทันที! เคส DevilCase ROG Phone 8 มูลค่า 1,490 บาท + Glass Screen Protector มูลค่า 590 (ตั้งแต่วันที่ 1 – 18 ก.พ.67)
  • รีบเพิ่ม! ROG Slash Sling Bag 2.0 มูลค่า 1,990 บาท (เมื่อสแกนลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 – 18 ก.พ.67)

นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นกับทาง AIS ราคาพิเศษเมื่อซื้อเครื่องพร้อมแพ็คเกจรายเดือนกับ AIS 5G

  • ROG Phone 8 ราคาเริ่มต้นที่ 25,690 บาท
  • ROG Phone 8 Pro ราคาเริ่มต้นที่ 33,690 บาท
  • ROG Phone 8 Pro Edition ราคาเริ่มต้นที่ 43,690.-*

เงื่อนไขตามที่ AIS กำหนด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: https://m.ais.co.th/epHZ4PpuY

สรุปแล้ว “นี่คือเกมมิ่งโฟนตัวจบที่จัดสเปคมาให้สูงที่สุดของปี 2024”

สรุปแล้ว ROG Phone 8 Pro Edition ก็ถือเป็นเกมมิ่งโฟนตัวจบที่ให้ทุกอย่างที่เทคโนโลยีปี 2024 จะให้มาได้อย่างครบถ้วน ทั้งสเปคที่เหนือชั้นที่สุดไม่ว่าจะเป็น ชิป Snapdragon 8 Gen 3, ความจุสูงที่สุด 24GB + 1TB, แบตเตอรี่จัดเต็ม 5500mAh พร้อมชาร์จเร็ว 65W ที่ชาร์จเต็มในไม่ถึง 1 ชม. หรือจะเป็นลูกเล่นเสริมอย่าง Armoury Crate, Game Genies, X Sense 2.0, AirTrigger หรือ AeroActive Cooler X ใหม่ที่ช่วยให้ประสบการณ์การเล่นเกมเหนือขึ้นไปอีกระดับ ความเข้าถึงได้ที่มากกว่าเดิมด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายขึ้น แต่ยังแฝงความเป็นเกมมิ่งได้อย่างเต็มเปี่ยม เรียกว่าสายเกมที่ต้องการความสุดในทุกด้านแห่งปี 2024 เราว่า ROG Phone 8 Pro Edition รุ่นนี้ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอนครับ!

มือถือ realme รุ่นไหนดี มือถือ realme รุ่นไหนดี
Buying Guides3 ชั่วโมง ago

มือถือ realme รุ่นไหนดี วิธีเลือกซื้อมือถือ รุ่นที่ดีที่สุด ในปี 2024

มือถือ realme รุ่นไห...

New Movies on Netflix in December 2024 New Movies on Netflix in December 2024
IT News1 วัน ago

หนังใหม่ Netflix ประจำเดือนธันวาคม 2024

หนังใหม่ Netflix ประ...

Android News1 วัน ago

เปิดตัว OPPO Find X8 Series ราคาเริ่มต้น 29,999 บาท

ออปโป้ เปิดตัว “OPPO...

Android News1 วัน ago

เปิดตัวแล้ว OPPO Enco Air4 และ OPPO Pad 3 Pro

เปิดตัวแล้ว! “OPPO E...

IT News2 วัน ago

สรุปข่าวรอบสัปดาห์ระหว่างวันที่ 16 – 22 พ.ย. 67

ข่าวเด่นช่วงระหว่างว...

The first Nintendo Authorized Store by SYNNEX in Southeast Asia is now open The first Nintendo Authorized Store by SYNNEX in Southeast Asia is now open
ข่าวประชาสัมพันธ์2 วัน ago

เปิดแล้ว Nintendo Authorized Store by SYNNEX แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ซินเน็ค จับมือคอปเปอ...

NT GSB NT GSB
ข่าวประชาสัมพันธ์2 วัน ago

NT อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าธนาคารออมสินใช้งานแอป MyMo ไม่เสียค่าเน็ตผ่าน 2 เครือข่ายมือถือ

NT อำนวยความสะดวกลูก...

AIS 5G strengthens its leadership with SEA COVERAGE, spanning both sides of the Thai sea AIS 5G strengthens its leadership with SEA COVERAGE, spanning both sides of the Thai sea
ข่าวประชาสัมพันธ์2 วัน ago

AIS 5G โชว์แกร่งโครงข่ายที่ 1 ตัวจริง SEA COVERAGE ครอบคลุม 2 ฝั่งทะเลไทย

AIS 5G โชว์แกร่งโครง...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก