รีวิว หูฟัง Voyager 5200 จัดเต็มไมค์ 4 ตัว ตัดเสียงรบกวนยอดเยี่ยม และ Portable Power เคสชาร์จแบตเตอรี่ได้

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Plantronics พาบินลัดฟ้าไปเปิดตัวหูฟัง Voyager 5200 และ BackBeat Go 3 ที่ประเทศสิงคโปร์ และตามสัญญาว่าจะมีรีวิวทั้ง 2 รุ่นนี้มาฝากกันอย่างแน่นอน โดยรุ่นที่รีวิวกันวันนี้คือ Voyager 5200 ที่มาพร้อมไมค์ถึง 4 ตัว สามารถตัดเสียงรบกวนแบบที่เรียกได้ว่าอยู่ในที่เสียงดังๆ ผู้ที่สนทนากับเราก็ไม่ได้ยินเสียงใดๆ มารบกวนเลยครับ จากที่ได้ทดลองใช้งานมากกว่า 2 สัปดาห์บอกได้เลยว่าประทับใจกับรุ่นนี้มากๆ เลยทีเดียว

VOYAGER 5200 ราคา 4,590 บาท วางจำหน่ายแล้วที่ร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไป 

ด้านข้างกล่องจะบอกถึงตัวหูฟัง, Micro USB สำหรับชาร์จ / อัปเดทเฟิร์มแวร์ และ ยางหูฟัง 3 ไซส์ S, M, L ด้านล่างระบุ HD Voice ซึ่งรองรับการใช้งานคุณภาพเสียงคมชัดระดับ HD Voice

ระยะเวลาสนทนาสูงสุด 7 ชั่วโมง, สแตนด์บายสูงสุด 9 ชั่วโมง, รัศมีการทำงาน 90 ฟุต / 30 เมตร น้ำหนัก 20 กรัม

ด้านหลังของกล่องจะบอกถึงคุณสมบัติการใช้งานต่างๆ มีหลายภาษารวมถึงภาษาไทยด้วยครับ

อุปกรณ์ที่มีมาในกล่อง

1. หูฟังบลูทูธ Voyager 5200
2. Micro USB charge cable สามารถใช้ชาร์จได้ทั้ง PC/Laptop และใช้ในการเชื่อมต่อเพื่อการอัพเกรดเฟิร์มแวร์ 
3. คู่มือการใช้งานมีถึง 7 ภาษา แน่นอนว่ามีภาษาไทยด้วย
4. ยางหูฟัง 3 ขนาด

จุดเด่นและสเปค

• เวลาสนทนาสูงสุดถึง 7 ชั่วโมง / เปิดเครื่องรอรับสาย 9 วัน
• Noise cancelling ปรับแต่งเสียงด้วยเทคโนโลยี digital signal processing (DSP) ไมโครโฟน 4 ตัว และระบบลดเสียงก้อง
• WindSmart technology ไมโครโฟนที่สามารถกรองเสียงลมได้ถึง 6 ชั้น
• Multipoint technology เชื่อมต่อสลับการใช้งานได้ 2 อุปกรณ์
• Streams audio สามารถฟังเพลง หรือดูหนังสลับฟังเพลงได้พร้อมกัน 2 เครื่อง
• Bluetooth v4.1
• Moisture protection ป้องกันความชื้นด้วยเทคโนโลยี P2i Nano Coating
• Voice alerts แจ้งสถานะการใช้งานหูฟังและระดับแบตเตอรี่ด้วยเสียงพูด
• อัปเดทเฟิร์มแวร์ ได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ และ ผ่านแอพบน iOS / Android
• แสดงแบตเตอรี่หูฟังบนหน้าจออัตโนมัติบนระบบ iOS และบน Andriod เมื่อเปิด App Plantronics Hub
• รัศมีทำการสูงสุด 30 เมตร

แกะกล่องออกมาแล้ว อันดับแรกอย่าลืมนะครับเพื่อให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพให้โหลดแอพ Plantronics Hub มาติดตั้งด้วย มีทั้ง iOS และ Android เดี๋ยวเราจะพูดถึงในลำดับต่อไป

Voyager 5200 จะมีสวิตซ์ เปิด ปิดเครื่องที่คล้องหูซึ่งตรงนี้จะเป็นพลาสติกแข็งๆ นะครับ ด้านในจะเป็นยางนิ่ม และจะมีพอร์ตสำหรับชาร์จแบตเตอรี่กับอุปกรณ์เสริมซึ่งวางจำหน่ายแยกครับ

พอร์ตสำหรับชาร์จแบเตอรี่ด้วยสาย Micro USB จะชาร์จผ่านหัวชาร์จปกติ หรือจะผ่าน PC/ Laptop ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน

ปุ่มที่อยู่บนก้านไมค์นี้คือปุ่ม ปุ่มปิดเสียงสนทนา (Mute) และสามารถควบคุมด้วยเสียงเรียกใช้งาน Siri, Google Now, Cotana ได้อีกด้วยนะครับ วิธีการใช้งานก็ง่ายๆ เพียงแค่กดปุ่มสีแดงนี้ค้างไว้ก็สามารถใช้คำสั่งเสียงได้แล้วครับ

ปุ่ม เพิ่ม ลด ระดับเสียง เมื่อใส่อยู่กับหูจะอยู่ด้านบนสุดการใช้งานสะดวกดีครับ

เมื่อเปิดเครื่อง จะมีไฟสีฟ้าโชว์แบบนี้ครับ

ปุ่มที่อยู่ด้านบนสุดของก้านหูฟัง ปุ่มนี้เอาไว้รับสายและวางสายนะครับ หรือถ้าไม่ใช้ปุ่มนี้ สามารถพูดคำว่า Answer (อาน-เซอะ) เพื่อรับสาย หรือพูดคำว่า Ignore (อิก-นอร์) เพื่อปฏิเสธการรับสายได้

นอกจากจะเป็นปุ่มสำหรับรับ วางสายแล้ว เมื่อกดปุ่มนี้ค้างไว้นานๆ จะเป็นการ Pair กับสมาร์ทโฟนซึ่งจะเห็นไฟสีฟ้าและสีแดงกระพริบอยู่ครับ

การ Pair รุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อด้วย NFC ด้วยนะครับ เปิด NFC ที่สมาร์ทโฟน จากนั้นเปิดหูฟัง แล้วเอาไปแตะด้านหลังสมาร์ทโฟนที่ตำแหน่งของ NFC ง่ายๆ แค่นี้ก็สามารถเชื่อมต่อกันได้แล้ว

ตัวหูฟังสามารถหมุน สลับด้านซ้าย หรือขวาได้ ขึ้นอยู่กับว่าต้องการใส่กับหูด้านไหน อย่างในภาพด้านล่างนี้หมุนมาเพื่อใส่กับหูขวา สังเกตว่าถ้าใส่กับหูขวาคำว่า plantronics จะหันออกมาด้านนี้

แต่ถ้าหมุนมาอีกด้านเพื่อใส่หูด้ายซ้าย คำว่า PLT จะหันออกมาครับ ซึ่งสามารถหมุนใส่หูซ้าย หรือขวา ได้ตามถนัด

การอัปเดทเฟิร์มแวร์ สามารถทำได้ง่ายๆ ครับ เพียงโหลดโปรแกรม Plantronics Hub มาติดตั้ง ซึ่งมีเวอร์ชั่นทั้งของ PC/ Mac สามารถดาวน์โหลดได้จากที่นี่ http://www.plantronics.com/us/support/myheadset/updater/

หลังจากที่ติดตั้งไปแล้วจะพบว่าตัวโปรแกรมจะแจ้งรายละเอียดต่างๆ ของตัวหูฟัง Voyager 5200 รวมไปถึงสามารถตั้งค่าการใช้งานต่างๆ ได้อย่างง่ายๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็น การตั้งค่าทั่วไป ตั้งค่าภาษา เซ็นเซอร์ต่างๆ เป็นต้นครับ

อย่างที่ได้เกริ่นไปกันก่อนหน้านี้แล้วว่า Voyager 5200 ยังมีแอพ Plantronics Hub สำหรับ iOS และ Android ซึ่งแนะนำเลยว่าให้โหลดมาติดตั้งกันที่ตัวเครื่องไว้เลยครับ เพราะตัวแอพสามารถตั้งค่าต่างๆ ได้เหมือนคอมพิวเตอร์เลยทีเดียว

โดยเมื่อเชื่อมต่อแล้วตัวแอพจะบอกด้วยนะครับว่า มีระยะเวลาในการสนทนาเหลืออีกเท่าไหร่ และยังบอกด้วยว่าตอนนี้ตัวหูฟัง สวมที่หู หรือถอดจากหูครับ

ตัวแอพสามารถอัปเดทเฟิร์มแวร์ สามารถเลือกใช้งานภาษาต่างๆ ซึ่งมีภาษาไทยด้วย การตั้งค่าเพียงเข้าไปที่ การอัปเดทเฟิร์มแวร์ จากนั้นเข้าไปเลือกภาษา เพื่อตั้งค่ากันได้เลยครับ

หรือถ้าในกรณีที่มีเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่นใหม่ๆ ออกมาเพื่อปรับปรุงการทำงานต่างๆ ของตัวหูฟัง ก็ยังสามารถอัปเดทผ่าน Plantronics Hub ได้เลย

ตัวอย่างการตั้งค่าภาษาไทย สามารถดาวน์โหลดภาษา และติดตั้งเพื่อใช้งานได้ทันที สะดวกมากๆ ทีเดียว ต้องการใช้ภาษาไหนเลือกใช้งานได้เลยครับ

นอกจากนี้ยังสามารถค้นหาหูฟังได้ด้วย เผื่อวางลืมไว้ไหน สามารถค้นหาจากแอพ Plantronics Hub ได้

มาดูตัวอย่างหน้าตาแอพบน Android กันบ้าง จะเห็นว่าตัวแอพเป็นภาษาไทย สามารถตั้งค่าต่างๆ ผ่านแอพนี้ได้อย่างง่ายๆ รับรองได้ว่าโหลดแอพนี้มาแล้วจะช่วยให้ใช้งานหูฟัง Voyager 5200 ได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อยากปรับแต่ง หรือตั้งค่าใดๆ สามารถทำผ่านแอพกันได้เลยครับ

การใช้งานจริง

ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนเลยว่า ก่อนที่จะไปงานเปิดตัวหูฟัง Voyager 5200 นี้ ได้ฟังข้อมูลรุ่นนี้มาว่า มีไมค์ถึง 4 ตัว สามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างยอดเยี่ยม มีระบบตัดเสียงลมถึง 6 เลเยอร์ นึกภาพประมาณว่าไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่คนเยอะๆ ร้านกาแฟ ตามห้าง หรือจะเดินริมถนน ที่มีเสียงรถค่อนข้างดัง ก็จะไม่มีเสียงเหล่านั้นเข้ามารบกวน ได้ยินแบบนี้ผมต้องบอกเลยว่าอยากลองมากๆ และหลังจากที่ได้ลองแล้วถึงกับรู้สึกประหลาดใจมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะตัดเสียงรบกวนได้ยอดเยี่ยมมากขนาดนี้

โดยการใช้งานนั้นผมเทียบกับหูฟังรุ่นอื่นที่ผมมีด้วยนะครับ ลองใช้ในสถานการณ์เดียวกัน ซึ่งพบว่าหูฟังรุ่นอื่นยังมีเสียงจากรอบๆ ตัวที่ผมอยู่เข้าไปบ้าง แต่เมื่อทดลองใช้งาน Voyager 5200 พบว่าไม่มีเสียงรบกวนเลยแม้แต่น้อย ต้องบอกเลยครับว่าประทับใจมาก และการสวมที่หูก็สามารถสวมได้ทั้งวันได้อยางสบายๆ นะครับ ไม่ได้รู้สึกหนัก หรือเจ็บหูแต่อย่างใด แนะนำเลยครับว่าถ้าต้องใช้หูฟังบลูทูธเพื่อสนทนากันบ่อยๆ จะต้องประทับใจกับรุ่นนี้ครับ

ในส่วนของเรื่องภาษาเป็นอีกจุดที่ทำให้ Voyager 5200 ใช้งานได้อย่างง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นแอพ Plantronics Hub ที่เป็นภาษาไทย ตัวหูฟังเองคำสั่งเสียงที่ผู้ใช้งานได้ยินก็เป็นเสียงภาษาไทยทั้งหมด จึงเป็นอีกจุดที่จะทำให้ใช้งานได้อย่างง่ายๆ

มาต่อกันที่อุปกรณ์เสริมของ Voyager 5200 กันครับ นั่นคือ Portable Power ซึ่งสามารถใช้ชาร์จหูฟัง รวมถึงเป็นเคสใช้เก็บ หรือจะตั้งไว้เพื่อให้พร้อมใช้งานตลอดเวลาพร้อมชาร์จไฟไปในตัวก็ได้เช่นกันครับ

Portable Power ราคา 1,590 บาท วางจำหน่ายแล้วเช่นกันครับ

ด้านข้างกล่องด้านนี้จะบอกว่ามีเคสสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และมีสาย Micro USB

ด้านหลังกล่องจะมีบอกถึงการใช้งานซึ่งเอาไว้ชาร์จหูฟังซึ่งเป็นแทนชาร์จ มีหลายภาษาด้วยกันครับ

หลังจากที่ชาร์จไฟเต็มแล้ว สามารถใช้ชาร์จได้นานสูงสุดถึง 12 ชม.

อุปกรณ์ที่มีมาในกล่อง

• เคสแท่นชาร์จแบตเตอรี่
• สาย Micro USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่

ตัวเคสจะมีช่องสำหรับวางหูฟัง Voyager 5200

ฝาด้านในลายสวยงามครับ

เมื่อวางไปตรงนี้จะเป็นจุดสัมผัสเพื่อชาร์จแบตเตอรี่เข้าตัวหูฟัง

จุดนี้สำหรับวางชาร์จเพื่อพร้อมใช้งานครับ ซึ่งสามารถวางเพื่อพร้อมใช้งานและชาร์จแบตไปในตัว

พอร์ตสำหรับชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ผ่านสาย USB ที่แถมมาให้ในกล่องครับ ซึ่งจะมีปุ่มสำหรับกดดูสถานะของแบตคงเหลือทั้งตัวเคส และตัวหูฟังด้วย

วางหูฟังลงไปแล้วจะเป็นแบบนี้ครับ เท่ๆ สวยน่าใช้งานมากทีเดียว ไม่ใช่แค่สวยงามและใช้เก็บหูฟังเท่านั้น ยังชาร์จแบตได้ด้วย ส่วนตัวผมคิดว่ามันดีมากๆ ครับ เพราะถ้าต้องเดินทาง และไม่สะดวกชาร์จเพียงแค่มีเคสตัวนี้ก็สามารถใช้ชาร์จและใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

วางตั้งแบบนี้ก็ได้นะครับ ถ้าวางแบบนี้ก็ชาร์จไปในตัวและยังพร้อมใช้งานด้วย ถ้ามีสายโทรเข้าหยิบใช้ได้ทันท่วงที ส่วนตัวผมว่าออกมาแบบได้สวย และลงตัวจริงๆ ดูหรู และมีระดับมากๆ

ไฟบอกสถานะแบตเตอรี่ครับ อย่างที่ได้บอกไป ซึ่งจะมีบอกทั้งตัวเคสเอง และตัวหูฟังด้วยครับ ถ้าขึ้น 3 ขีดแบบนี้ไฟเต็มทั้งหูฟังและเคสครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ทั้งหูฟัง Plantronics Voyager 5200 และตัวเคสแบตเตอรี่ Portable Power ซึ่งถูกออกแบบให้ใช้งานร่วมกันได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าพกคู่นี้ไปไหน สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง และรูปลักษณ์สวยงามอีกด้วย

พิเศษสำหรับผู้ซื้อหูฟังตระกูล Voyager & BackBeat ทุกรุ่น ในราคาเต็ม จะได้รับสิทธิในแคมเปญ “FULL PRICE WARRANTY” ขยายการรับประกันจากเดิม 1 ปี เป็น 2 ปี อีกด้วยครับ สามารถดูเงื่อนไขและรายละเอียดการรับประกันพร้อมทั้งลงทะเบียนได้จากที่นี่ http://www.systems2000.co.th

สถานที่จัดจำหน่าย Plantronics Voyager 5200 : http://www.systems2000.co.th/Where-to-buy_Voyager-5200