Connect with us

Smart Review

รีวิว ROG Phone 6 เกมมิ่งโฟนสุดโหด จัดเต็มด้วยชิป SD 8+ Gen 1 | จอ 165Hz | RAM 16GB | แบตเตอรี่ 6000mAh

Published

on

รีวิว ROG Phone 6 เกมมิ่งโฟนรุ่นล่าสุดของ ASUS ที่รอบนี้อัปเกรดสเปคมาได้อย่างน่าสนใจ ทั้งหน้าจอ AMOLED 165Hz | ชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen 1 | RAM สูงสุด 16GB | ความจุสูงสุด 512GB | แบตเตอรี่ 6000mAh | ระบบชาร์จไว 65W เรียกว่าแค่ไฮไลท์สเปคก็ชวนว้าวสุด ๆ แล้วใช่ไหมล่ะครับ รอบนี้ ASUS ยังปรับปรุงในเรื่องฟีเจอร์การเล่นเกมให้ตอบโจทย์เกมเมอร์ยิ่งขึ้น รวมถึงอุปกรณ์เสริมชิ้นใหม่อย่าง AeroActive Cooler 6 ด้วย ใช้คู่กันแล้วจะน่าสนใจแค่ไหน ติดตามได้จากรีวิว ROG Phone 6 นี้เลยครับ!

สรุปสเปค ROG Phone 6

  • ขนาดตัวเครื่อง : 172.834 x 77.252 x 10.39 มม.
  • น้ำหนัก : 236 กรัม
  • หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.78″ ความละเอียด FHD+ (2448 x 1080 พิกเซล) รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 1,200 nits กระจก Gorilla Glass Victus
  • Refresh rate : 165Hz
  • CPU : Snapdragon 8+ Gen 1 (4nm) Octa Core ความเร็ว 3.2GHz
  • GPU : Adreno 730
  • RAM : 12GB/16GB (LPDDR5)
  • ROM : 256GB/512GB (UFS 3.1)
  • แบตเตอรี่ : 6000mAh
  • ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 65W HyperCharge และ PD Charging
  • กล้องหน้า : 12MP เซ็นเซอร์ IMX663
  • กล้องหลัง : 3 ตัว
    • กล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX766
    • กล้อง Ultra Wide Angle 13MP เซ็นเซอร์ OmniVision OV13B มุมกว้าง 120º
    • กล้อง macro 5MP เซ็นเซอร์ OmniVision OV8856
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย ROG UI
  • รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 6/6E (802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2×2 MIMO), Bluetooth 5.2, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • มาตรฐานกันน้ำ : IPX4
  • สีสัน : Phantom Black, Storm White

แกะกล่อง ROG Phone 6

ก่อนเราจะไปยลโฉมตัวเครื่องกันแบบเต็ม ๆ เราขอมาแกะกล่องเช็กอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องสักหน่อยว่ามีอะไรบ้างเนาะ รอบนี้แพ็กเกจของ ROG Phone 6 กลับสู่โหมดปกติคือเป็นกล่องสี่เหลี่ยมไซซ์มาตรฐานของสมาร์ทโฟนทั่วไปแล้ว ต่างจากรุ่นก่อน ๆ ที่มักจะมาเป็นทรง 6 เหลี่ยมเวอร์ ๆหน่อย ที่ด้านหน้ามีโลโก้ ROG และชื่อรุ่น ROG Phone 6 อย่างชัดเจน

เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับกล่องเล็กที่มีอุปกรณ์เสริมอยู่ก่อนในชั้นนี้ ภายในมีการ์ดเชิญชวนเข้าสู่กลุ่ม ROG, เข็มจิ้มถาดซิมที่มีโลโก้ของ Replublic of Gamers และมีเคส Bumper กับเอกสารคู่มือครับ

ถัดลงไปเราจะเจอกับตัวเครื่องที่คว่ำหน้าอยู่ในซองอย่างเรียบร้อย สีที่เราได้มารีวิวเป็นสี Phantom Black เดี๋ยวไว้มาดูตัวเครื่องกันเต็ม ๆ อีกทีละกันเนาะ

ถัดลงไปชั้นล่างสุดเราจะเจอกับอะแดปเตอร์ที่มีโลโก้ ROG พร้อมกับสายชาร์จแบบถัก USB-C to C สีดำอยู่ด้วย เรียกว่าเข้าคู่กันได้อย่างดีทีเดียวครับ

เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ภายในกล่องของ ROG Phone 6 จะมีด้วยกัน 6 อย่างดังนี้ครับ

  1. ตัวเครื่อง ROG Phone 6
  2. เคส Bumper
  3. สายชาร์จ
  4. อะแดปเตอร์
  5. เข็มจิ้มถาดซิม
  6. เอกสารคู่มือ

ดีไซน์สไตล์เกมมิ่ง อย่างที่เคย

ROG Phone 6 มาพร้อมดีไซน์ที่คงความเป็น ROG Phone ไว้อย่างมาก ฝาหลังยังคงมาพร้อมลวดลายแบบพิเศษที่เห็นแว้บแรกก็รู้ได้เลยว่านี่คือเกมมิ่งโฟน เพราะทั้งโฉบเฉี่ยวและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมากครับ สีที่เราได้มารีวิวคือสี Phantom Black มีมีในโทนสีดำแบบที่ ROG ถนัดพร้อมลายเส้นสีเทาและสีแดงตัดกันได้อย่างลงตัว

ที่ฝาหลังของ ROG Phone 6 นี้จะมีโลโก้ ROG ที่มีไฟ RGB อยู่ภายใน เมื่อเปิดเล่นเกมหรือเข้า X Mode ตัวไฟนี้จะติดและกระพริบเป็นสีแดงเพิ่มความเท่ให้กับเหล่าเกมเมอร์อย่างเรา ๆ ได้อีกเยอะเลยล่ะครับ

โมดูลกล้องยังคงวางดีไซน์ได้เท่เหมือนเดิม ใช้ดีไซน์ทรง 6 เหลี่ยมที่ตัดขอบมาได้เหมาะกับความเป็นเกมมิ่งโฟน มีวงสีแดงเด่น ๆ เพื่อเน้นว่ากล้องตัวนั้นคือกล้องหลัก พร้อมมีข้อความระบุไว้ด้วยว่า 8K Ultra HD 1/1.56″ เผยสเปคเลยว่ารุ่นนี้มีกล้องเซ็นเซอร์ขนาด 1/1.56″ พร้อมถ่ายวิดีโอสูงสุดได้ที่ 8K Ultra HD นั่นเอง

หน้าจอ AMOLED เร็วลื่น 165Hz

พลิกกลับมาดูที่หน้าจอกันบ้าง ROG Phone 6 มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 6.78″ เต็มตาและสีสันสวยงามขั้นสุด รองรับการแสดงผล HDR10+ ความแม่นยำของสี DCI-P3 111.23%, NTSC 106.87%, sRGB 150.89% พร้อมความสว่างสูงสุด 1200nits เรียกว่าจัดเต็มขนาดนี้เอามาดูคอนเทนต์หรือเล่นเกมก็สะใจแน่นอนครับ

ส่วนเรื่องการตอบสนอง ROG Phone 6 ยังอัปเกรดขึ้นมาจากรุ่นก่อนเพิ่ม Refresh rate สูงสุดเป็น 165Hz ตอบสนองไวในทุกการใช้งาน เรียกว่าลื่นหัวแตกไปซะหมด ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไปในหน้าโฮม เล่นแอปโซเชี่ยลต่าง ๆ หรือจะเป็นการเล่นเกมจริงจังก็ไวติดนิ้วไปหมดจริง ๆ ครับ

ลำโพงคู่ Stereo ที่ด้านหน้า

ROG Phone 6 ยังคงให้ลำโพงมา 2 ตัวที่วางตำแหน่งไว้ที่ด้านบน-ล่างของหน้าจอเหมือนเดิม ทำให้เสียงที่ได้นั้นได้มิติและส่งตรงมาถึงตัวเราอย่างมาก ทั้งการใช้งานแนวตั้งและแนวนอน ให้เสียงที่ครบอย่างมากครับ

ปุ่มกดวางตำแหน่งดี มี AirTrigger มาให้ใช้งานเช่นเคย

ตำแหน่งปุ่มกดของ ROG Phone 6 ยังอยู่ที่ด้านขวามือของตัวเครื่องเช่นเคย แยกเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงและปุ่ม Power และที่มุมซ้าย-ขวาก็ยังมีปุ่ม Air Trigger แบบ Ultra Sonic อยู่ซ้าย-ขวาที่เราสามารถเพิ่มเป็นปุ่ม L R เวลาเล่นเกมได้ครับ

พอร์ตการเชื่อมต่อ 2 จุด

พอร์ตการเชื่อมต่อของ ROG Phone 6 จะมีอยู่ 2 จุดคือด้านล่างตัวเครื่องปกติแบ่งเป็นพอร์ต USB-C และช่องหูฟัง 3.5 มม. และที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องรอบนี้ปรับมาเป็นพอร์ต USB-C เหมือนกันเลย เราสามารถใช้งานเชื่อมต่อ ชาร์จ ขณะเล่นเกมไปได้อย่างสะดวก เรียกว่าออกแบบมาสำหรับคนเล่นเกมโดยเฉพาะจริง ๆ ครับ

ใส่ได้ 2 ซิมนะรุ่นนี้

ช่องใส่ซิมของ ROG Phone 6 ก็ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลครับ ตรงแถบที่แดงที่เห็นเด่น ๆ นั่นเองครับ ตัวถาดซิมจะเป็นแบบ Dual-SIM ใส่ได้ 2 ซิมหน้า-หลังครับ ส่วนหน่วยความจำภายนอกหรือ microSD รุ่นนี้เพิ่มไม่ได้ครับ

สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ สแกนใบหน้าครบ

ในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย ROG Phone 6 มีมาให้ทั้งระบบสแกนใบหน้าและระบบสแกนลายนิ้วมือ เรียกว่าให้มาครบมาก ถ้าใช้งานทั่วไปสแกนใบหน้าได้ก็รวดเร็ว หรือในสถานการณ์ที่ต้องใส่หน้ากากอนามัยตอนออกไปข้างนอกก็มีสแกนลายนิ้วมือให้ใช้งานปลดล็อคหน้าจอได้อย่างถนัดครับ

โดยรวมในเรื่องของดีไซน์ ROG Phone 6 ก็ออกแบบมาได้ยอดเยี่ยมสไตล์เกมมิ่งเหมือนเดิม ทั้งความเท่ของลวดลายด้านหลัง พร้อมไฟ LED เวลาเปิดใช้งาน X Mode หรือเล่นเกม หน้าจอที่เต็มตาพร้อมความลื่นไหลของหน้าจอระดับ 165Hz ที่ตอบสนองได้เป็นอย่างดี พอร์ตการเชื่อมต่อที่ให้มาเป็น USB-C สองพอร์ตเลือกใช้กันได้ตามถนัด และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ Air Trigger ปุ่มกด L R ที่ช่วยให้เราเล่นเกมได้สนุกขึ้นแน่นอนครับ

เร็ว แรงที่สุด ด้วยขุมพลัง Snapdragon 8+ Gen 1

มาต่อในเรื่องประสิทธิภาพกันเลยครับ ROG Phone 6 นั้นจัดเต็มเอามาก ๆ สมกับเป็นเกมมิ่งโฟนตัวแรง มาพร้อมชิปเซ็ตที่แรงที่สุดอย่าง Snapdragon 8+ Gen 1 แรม 16GB รอม 512GB เรียกว่าจัดเต็มมาสุด ๆ เท่าที่เกมมิ่งโฟนเครื่องหนึ่งจะให้ได้แล้วครับ เท่าที่เราลองใช้งานจริงบอกเลยว่าทุกการทำงานมันเร็วมาก รวดเร็วทันใจไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอป ดาวน์โหลดเกม หรือเลื่อนไปมาตอบสนองได้ดีจริง ๆ

ด้วยสเปคที่จัดเต็มขนาดนี้แน่นอนว่าคะแนนทดสอบก็ออกมาสูงตามคาดอย่างบนแอป AnTuTu Benchmark ก็ทำคะแนนไปมากถึง 1115764 คะแนน เป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ทำคะแนนได้มากที่สุดเท่าที่เราเคยทดสอบมาเลย

ส่วนคะแนนจาก Geekbench 5 ก็สูงไม่แพ้กันได้ Single-Core ไปที่ 1315 คะแนน และ Multi-Core ไปที่ 4320 คะแนนครับ

Armoury Crate โซนสำหรับการปรับแต่งทุกอย่าง

ก่อนจะไปเข้าเรื่องการเล่นเกมจริงจัง เราขอเสริมในเรื่องของแอปพิเศษที่ ASUS เพิ่มเข้ามาบน ROG Phone สักหน่อยกับ Armoury Crate แอปตัวนี้จะเป็นโซนที่รวมเอาทุกฟีเจอร์การเล่นเกม อาทิ คลังรวมเกมที่มีในเครื่อง การปรับแต่งระบบหรือลูกเล่นต่าง ๆ เช่น โหมดการใช้งานของตัวเครื่องอย่าง X-Mode ก็ปรับในนี้ได้ ปรับรูปแบบการใช้งานอุปกรณ์เสริมอย่าง AeroActive Cooler หรือกระทั่งเกมแนะนำที่รองรับ refresh rate สูงด้วยเช่นกัน

Game Genie จัดการทุกอย่างในการเล่นเกม

ถ้า Armoury Crate คือการจัดการระบบของตัวเครื่องภายนอก Game Genie ก็คือศูนย์รวมการจัดการภายในเกมครับ ซึ่งรอบนี้ ASUS ได้ปรับหน้า UI ใหม่หมด ใช้พื้นที่เต็มหน้าจอมากกว่าเดิม ในนี้จะมีการตั้งค่าหลายอย่างเกี่ยวกับการเล่นเกมอาทิ การตั้งค่า AirTrigger, การแสดงข้อมูลการใช้งาน CPU/GPU หรือ FPS แบบเรียลไทม์, ล็อคความสว่างหน้าจอ, ปรับ refresh rate และอีกเพียบเลยจริง ๆ ครับ เรียกว่าหาการตั้งค่าอะไรไม่เจอก็ให้เลื่อนเปิด Game Genie แล้วหาได้เลยครับ รวมไว้ในนี้หมดแล้ว

AirTrigger ใช้งานได้หลากหลายขึ้น

อย่างที่บอกว่า ROG Phone 6 นั้นมาพร้อมปุ่ม AirTrigger ที่ใช้งานเป็นปุ่ม L R ได้ ตรงนี้จะช่วยให้เราเล่นเกมได้สนุกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเกมแนวยิง ๆ ที่เราสามารถเซ็ตให้ปุ่ม L เป็นการเล็ง และปุ่ม R เป็นปุ่มยิง ให้อารมณ์เหมือนเกมคอนโซลที่มักวางปุ่มแนวนี้อยู่แล้ว การตอบสนองของปุ่มก็เป็นแบบ Ultra Sonic ก็ทำได้ดีมีระดับในการกด แถมรอบนี้ยังมีคำสั่งเพิ่มเติมให้ใช้มากกว่า 9 รูปแบบอีกด้วย

นอกจากการแตะเพื่อเป็นปุ่มพิเศษแล้ว รอบนี้ ASUS ยังเพิ่มความสามารถ Motion Control เข้ามาด้วย ไม่ว่าจะเป็นเอียงเครื่อง ขยับไปซ้าย-ขวา รวม ๆ แล้วทำได้เพิ่มกว่า 10 แบบเลยทีเดียว เพิ่มทางเลือกในการเล่นเกมให้สนุกขึ้นไปอีกครับ

เล่นเกมกันได้แล้วแหละ

เห็นฟีเจอร์คร่าว ๆ ของ ROG Phone 6 ไปแล้ว ได้เวลามาลงสนามจริงด้วยการเล่นเกมกันเลย เกมที่เราใช้ทดสอบวันนี้มี 4 เกมใหญ่ประกอบด้วย Asphalt 9, PUBG NEW STATE, ROV และ Genshin Impact ครับ

เล่น Asphalt 9 บน ROG Phone 6

เริ่มต้นกับเกมแข่งรถภาพสวยอย่าง Asphalt 9 ตัวเกมสามารถเปิดกราฟิกได้ถึงระดับ High Quality พร้อม 60fps ซึ่งขณะที่เราเล่นเกมและเปิดเช็ก fps แบบเรียลไทม์ไปด้วย ก็ถือว่าทำได้ดีมากครับ เฟรมเรตอยู่ที่ 59 – 60fps ตลอดทั้งเกม แม้จะมีเอฟเฟกต์เต็มฉากไปหมด แถมรอบนี้ยังมีตัวเลือกให้เปิดระบบสั่นได้ด้วย ทำให้จังหวะที่รถเบียดปะทะกันหรือปล่อย Nitro แรง ๆ ก็จะมีการสั่นรับไปอีก เพิ่มความสนุกให้เกมนี้แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

เล่น PUBG NEW STATE บน ROG Phone 6

มาต่อกันที่เกม Battle Royale อย่าง PUBG NEW STATE เราสามารถปรับเฟรมเรตได้สูงสุดที่ MAX ร่วมกับกราฟิกระดับ Ultra พร้อมเปิด Graphic Resolutin เป็น High ด้วย เรียกว่าสุดทุกด้านแล้วล่ะครับ เท่าที่ลองเล่นก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมเลย เฟรมเรตในเกมนิ่ง ๆ ที่ 59 – 60fps ตลอดทั้งเกม ไม่เจออาการกระตุกมากวนใจ ความได้เปรียบของ ROG Phone 6 ก็คือหน้าจอที่ตอบสนองไวมาก ๆ ทำให้เล่นได้อย่างลื่นไหล อีกทั้งยังมีปุ่ม AirTrigger มาช่วยให้เราเล่นเกมแนวยิง ๆ แบบนี้สนุกขึ้นด้วย

เล่น ROV บน ROG Phone 6

และเกม Moba ยอดฮิตอย่าง ROV เมื่อเล่นเกม ROG Phone 6 ก็เรียกว่ายอดเยี่ยมเลยครับ เพราะเราสามารถปรับทุกการตั้งค่าเป็น Extreme ได้ทั้งหมด รวมถึงเปิดเฟรมเรตเป็น High อีกต่างหาก เท่าที่เล่นมาเฟรมเรตในเกมก็นิ่งมาก อยู่ในระดับ 60 – 61fps ทั้งเกมเลย ความหน้าจอใหญ่ของ ROG Phone 6 ก็ช่วยให้เราเล่นเกมได้อย่างเต็มตาและกวาดนิ้วไปแตะสกิล ควบคุมตัวละครได้ง่ายขึ้นด้วยครับ

เล่น Genshin Impact บน ROG Phone 6

ปิดท้ายที่เกมปราบเซียนอย่าง Genshin Impact เชื่อว่าทุกคนที่เคยลองต้องทราบอยู่แล้วว่าเกมนี้กินสเปคสูงมาก ๆ เรียกว่าสูงที่สุดบนบรรดาเกมสมาร์ทโฟนแล้วก็ได้ ซึ่งพอมาเล่นบน ROG Phone 6 ก็ไม่มีปัญหาครับ เราปรับระดับกราฟิกและเฟรมเรตไปที่สูงสุด (60fps) ตัวเกมรันได้อย่างลื่นไหลและต่อเนื่องดีมาก แม้จะเล่นเป็นเวลานานก็ยังให้เฟรมเรตที่ลื่นไหลระดับ 50 – 60fps ตลอด ไม่เจออาการเฟรมเรตดรอปเลย

จัดการความร้อนได้เหนือชั้นด้วย GameCool 6

เท่าที่เราได้ลองเล่นเกมแบบจริงจังไป ไม่มีเกมไหนเลยที่เราบ่นว่าตัวเครื่องร้อนหลังจากเล่นไปหนัก ๆ ทำไมน่ะหรอ ก็เพราะรอบนี้ ROG Phone 6 เขาอัปเกรดระบบระบายความร้อนใหม่ GameCool 6 ที่ออกแบบให้ CPU อยู่ตรงกลางพร้อมแบตเตอรี่ที่แยกออกเป็น 2 ส่วนทำให้กระจายความร้อนมายัง Vapor Champer (ที่ขนาดใหญ่ขึ้น 30%) เพื่อส่งต่อความร้อนออกไปยังแผ่นแกรไฟต์ (ขนาดใหญ่ขึ้น 80%) ทำให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนนั้นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะครับ

ระบายความร้อนได้เหนือชั้นขึ้นไปอีกด้วย AeroActive Cooler 6

หรือถ้าเล่นเกมแบบหนักต่อเนื่องจริง ๆ แบบเป็นชม. ASUS ก็ยังมีทางเลือกใหม่คือ AeroActive Cooler 6 หรือชุดพัดลมระบายความร้อนแบบไร้สาย ที่จะเข้ามาช่วยลดความร้อนสะสมเวลาเล่นเกมได้อีกขั้น รอบนี้ออกแบบมาใหม่หมด ดีไซน์มีความล้ำเป็นอวกาศ พร้อมปุ่มกดที่ด้านหลังอีก 4 ปุ่มและยังมีไฟ RGB ที่สัญลักษณ์ ROG เมื่อเชื่อมต่อเข้ากับตัวเครื่องอีกด้วย

ในเรื่องการระบายความร้อน ASUS เคลมว่าเมื่อเชื่อมต่อ AeroActive Cooler 6 เข้ากับ ROG Phone 6 แล้ว จะช่วยลดอุณหภูมิผิวสัมผัสตัวเครื่องได้มากสูงสุดถึง 25ºC โดยจะมีระบบควบคุมผ่าน AI ในการจัดการเพื่อรักษาสมดุลอุณหภูมิของตัวเครื่องพร้อม ๆ กับการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานที่สุด

แบตเตอรี่ 6000mAh เล่นเกมได้จุใจไม่ต้องกังวล

ในเรื่องแบตเตอรี่ ROG Phone 6 ก็ยังได้ความจุแบตฯที่มากถึง 6000mAh มาเหมือนเดิม สบายใจได้สำหรับสายเกมที่ต้องการเล่นเกมแบบต่อเนื่องหลาย ๆ แมทช์ เพราะด้วยความจุระดับนี้เราสามารถเล่นได้ต่อเนื่องหลายชม.โดยไม่ต้องมากังวลว่าแบตฯจะหมดง่าย ๆ อีกต่อไป

ชาร​์จไว 65W ROG Hyper Charge

ส่วนระบบชาร์จก็ได้ชาร์จไว 65W ROG HyperCharge มาให้ด้วย ASUS เคลมว่าชาร์จจาก 0 – 60% ได้ในเวลาเพียง 19 นาทีเท่านั้น และเต็ม 100% ในแค่ 42 นาที ถือว่ารวดเร็วมากสำหรับเกมมิ่งโฟนที่มีแบตฯความจุเยอะถึง 6000mAh แบบนี้ครับ

สรุปแล้วในเรื่องประสิทธิภาพต้องบอกเลยว่า ROG Phone 6 นั้นออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การเล่นเกมอย่างแท้จริง ด้วยสเปคระดับสูงสุดทั้งชิป Snapdragon 8+ Gen 1 หน้าจอ AMOLED 165Hz พร้อมความจุสูงถึง 16GB + 512GB เรียกว่าเพียงพอต่อการเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลมาก ๆ อีกทั้งยังมีระบบระบายความร้อนแบบใหม่ GameCool 6 ที่ช่วยให้เล่นเกมต่อเนื่องได้เป็นเวลานานแต่ก็ไม่ทำให้เครื่องร้อนจนเกมกระตุก หรือจะเป็นฟีเจอร์เสริมอย่าง AirTrigger กับ Motion Control ที่เสริมให้เราเล่นเกมได้สนุกขึ้น และที่ขาดไม่ได้ก็คืออุปกรณ์เสริมรุ่นใหม่ AeroActive Cooler 6 ที่รอบนี้นอกจากดีไซน์จะเท่ขึ้นแล้วยังจัดการความร้อนได้ดีและมีปุ่มกดเพิ่มเข้ามาอีกต่างหาก เรียกว่าผ่านการคิดมาแล้วจนถึงตอนนี้ว่านี่เครื่องเครื่องเกมพกพาระดับสุดยอดจริง ๆ ครับ

ซอฟต์แวร์ Android 12 พร้อม ROG UI

มาเข้าเรื่องซอฟต์แวร์ ROG Phone 6 ได้ระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่ครอบทับด้วย ROG UI มีการปรับแต่งที่เพียงพอ แต่ก็ยังคงความคลีนในการใช้งานไม่ต่างจาก Pure Android มากนัก เราจึงรับรู้ได้ถึงความลื่นไหลในแบบที่ควรจะเป็นจากเกมมิ่งโฟนเครื่องนี้ครับ

ในส่วนของการปรับแต่ง ROG Phone 6 ก็มีฟีเจอร์ Theme ที่ให้เราเลือก Wallpaper พิเศษจากเกมฮิตมากมาย รวมถึง Theme ที่เราสามารถดาวน์โหลดเพิ่มมาเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายในเครื่องให้เป็นเฉพาะของตัวเครื่องได้ด้วยครับ

กล้อง 50MP ระดับเรือธง

ปิดท้ายที่เรื่องกล้อง ถึงแม้ ROG Phone 6 จะเป็นเกมมิ่งโฟนที่เน้นไปที่ประสิทธิภาพของการเล่นเกมและสเปคเป็นหลักแต่รอบนี้ก็ไม่ได้มาเล่น ๆ ให้กล้องหลัง 3 ตัวที่ความสามารถครบมาด้วยมีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้ครับ

  • กล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX766
  • กล้อง Ultra Wide 13MP
  • กล้อง Macro 5MP

อย่างที่เห็นกล้องหลักของ ROG Phone 6 นั้นใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX766 ตัวฮิตที่คุณภาพยอดเยี่ยม ตรงนี้ทาง ASUS เคลมว่าขนาดพิกเซลใหญ่ขึ้นถึง 40% และยังปรับปรุงในเรื่อง HDR ให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย และนี่คือตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ ROG Phone 6 ครับ

เรียกว่าเป็นกล้องจากเกมมิ่งโฟนที่คุณภาพโดยรวมทำได้ดีทีเดียว ทั้งในเรื่องคุณภาพ ความคมชัดและโทนสีครับ ส่วนอีกจุดที่รุ่นนี้ทำได้น่าสนใจก็คือวิดีโอ เพราะสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 8K 24fps กันเลยทีเดียวครับ ใครชอบถ่ายวิดีโอแบบคมชัดขั้นสุด ROG Phone 6 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง

ราคา ROG Phone 6

สรุปราคา ROG Phone 6 มีให้เลือก 2 โมเดลคือ 12GB + 256GB และ 16GB + 512GB โดยจะมีราคาและตัวเลือกสีดังนี้

  • ความจุ 12GB + 256GB มีให้เลือก 2 สี Phantom Black, Storm White ราคา 28,990 บาท
  • ความจุ 16GB + 512GB มีให้เลือกเฉพาะสี Phantom Black ราคา 32,990 บาท

ส่วน ROG Phone 6 Pro รุ่นท็อปสุดจะมีวางจำหน่ายเฉพาะสี Storm White และความจุเดียวคือ 18GB + 512GB เปิดราคามาที่ 39,990 บาท

สรุปแล้ว “นี่คือสุดยอดเกมมิ่งโฟนที่ครบและลงตัวที่สุดในตอนนี้”

สรุปแล้ว ROG Phone 6 ก็ถือว่าเป็นเกมมิ่งโฟนตัวท็อปที่จัดเต็มและลงตัวที่สุดในตอนนี้แล้ว ทั้งหน่วยประมวลผล Snapdragon 8+ Gen 1 แรม 16GB (LPDDR5) แรม 512GB (UFS 3.1) แบตเตอรี่จุใจ 6000mAh เรียกว่าไม่มีกั๊กจัดที่สุดของสเปคมาให้เราจริง ๆ เท่าที่ใช้งานมาจริงต้องยอมรับว่าสเปคที่มอบให้เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมให้ดีขึ้นจริง ๆ ทุกเกมฮิตใน Store ตอนนี้เล่นได้หมดและดีที่สุดด้วย อีกทั้งระบบระบายความร้อนในรอบนี้ก็ปรับปรุงขึ้น แม้จะไม่พึ่งอุปกรณ์เสริมเราก็ยังรู้สึกว่าเล่นได้ต่อเนื่องแบบไม่ร้อนมือจนเกินไป แถมยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้การเล่นเกมนั้นสนุกและแปลกใหม่อีกหลายอย่าง สุดท้ายคือเรื่องงบประมาณที่เรามองว่ารุ่นนี้ราคาต่างจากรุ่น Pro อยู่หลายพันบาท แต่หากมองในแง่ประสิทธิภาพที่ได้รับแทบไม่ต่างกันมากเลย แต่ก็ได้สเปคระดับสูงสุดไม่แพ้กัน จะมีก็แต่ RAM ที่น้อยกว่า 2GB และหน้าจอ ROG Vision ที่ไม่ได้ทำให้การเล่นเกมนั้นสนุกน้อยลงเลย ใครที่กำลังมองหาเกมมิ่งโฟนจ๋า ๆ แบบที่มีงบ 30,000 บาท + – นิดหน่อย รอบนี้ ROG Phone 6 คือคำตอบที่น่าสนใจมาก ๆ เลยล่ะครับ

Android News13 ชั่วโมง ago

เช็คกัน !! OPPO เผยตารางอัปเดต ColorOS 15 บน Android 15 ทั่วโลก

ในวันนี้ OPPO ได้เปิ...

Apple News13 ชั่วโมง ago

อย่างสวย ! YouTuber โชว์ดีไซน์ iPhone 17 Air กล้องหลัง 1 เลนส์ พร้อมจอ Dynamic Island

เราได้ยินมาแค่ข่าวลื...

HUAWEI IdeaHub HUAWEI IdeaHub
IT News14 ชั่วโมง ago

หัวเว่ยเผยโฉม IdeaHub รุ่นเรือธงพร้อมอัดโปรเด็ดหนุนผู้นำจออัจฉริยะเพื่อออฟฟิศยุคใหม่

หัวเว่ยเปิดตัว IdeaH...

Smart Review16 ชั่วโมง ago

รีวิว ASUS Vivobook S 14 OLED (S5406) โน้ตบุ๊คดีไซน์มินิมอล l Intel Core Ultra 7 258V l ใช้นานสุด 27 ชม. และคีย์บอร์ดมีไฟ RGB !

รีวิว ASUS Vivobook ...

Android News17 ชั่วโมง ago

มาอีก ! หลุดสเปค vivo X200S จัดเต็มด้วยชิป Dimensity 9400 Plus และรองรับสแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic

เมื่อเดือนที่ผ่านมา ...

IT News18 ชั่วโมง ago

Facebook Messenger เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ผสานรวมกับ Siri, ข้อความเสียงและวิดีโอ และอื่นๆ เพียบ

ในวันนี้ Meta ได้ทำก...

Android News19 ชั่วโมง ago

น่าสนนะ ! หลุดสเปคแท็บเล็ต OnePlus Pad Pro โมเดลใหม่ เตรียมใช้หน้าจอ 13″ คมชัดระดับ 3K

OnePlus Pad Pro เคยเ...

Android News19 ชั่วโมง ago

ลือ…Galaxy S25 Ultra มีต้นทุนสูงกว่า S24 Ultra ถึง $110 อาจทำให้ราคาเปิดตัวสูงขึ้นอีกในปีหน้า!?

ลือกันต่อกับ Galaxy ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก