เปิดตัว ROG Phone 8 Series เกมมิ่งโฟนตัวแรง ชิป Snapdragon 8 Gen 3 | จอ 165Hz | ความจุสูงสุด 24GB + 1TB | กันน้ำ IP68

โดย Map

ASUS เปิดตัว ROG Phone 8 Series อย่างเป็นทางการในงาน CES 2024 เป็นเกมมิ่งโฟนตัวแรงต้นปีที่น่าสนใจมาก ๆ ปีนี้มาด้วยกัน 3 รุ่น ROG Phone 8, ROG Phone 8 Pro และ ROG Phone 8 Pro Edition

ดีไซน์ ROG Phone 8 Series

ROG Phone 8 Series ปรับดีไซน์อีกครั้ง เพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย และตั้งใจเปลี่ยนจาก Pure Gaming Phone มาเป็น Premium All-rounder Phone แทนในเจนนี้ ปรับโฉมให้โตขึ้น จริงจังมากขึ้น ใช้งานได้จริงกว่าเดิม!

ROG Phone 8 มาพร้อมดีไซน์ฝาหลังมันวาว มาพร้อม Aura RGB บนโลโก้ ROG ใหม่ที่เพิ่มดวงไฟเป็น 4 ตัวไล่เฉดได้สวยขึ้น รุ่นนี้มีให้เลือก 2 สีคือสีดำ Phantom Black และสีเทา Storm Grey

ในขณะที่ ROG Phone 8 Pro (8 Pro Edition) จะใช้ดีไซน์ฝาหลังผิวด้านแทน จุดที่แตกต่างอีกอย่างคือตัวไฟด้านหลังจะใช้เป็น Mini-LED กว่า 341 ดวงที่สามารถเปลี่ยนเป็นรูปแบบได้หลากหลายพร้อมอนิเมชั่นสวย ๆ และสีสันของรุ่นนี้จะมีให้เลือกแค่สีดำ Phantom Black เท่านั้นครับ

ตัวเครื่อง ROG Phone 8 Series นั้นมีการปรับขนาดให้บางลง 15% และเบาลง 9% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 มาให้แล้วด้วยครับ

หน้าจอ ROG Phone 8 Series

ROG Phone 8 Series ทั้งหมดจะได้หน้าจอ E6 AMOLED ขนาด 6.78″ ความละเอียด FHD+ มี Refresh rate สูงสุด 165Hz พร้อมความสว่างสูงสุด 2500nits รอบนี้ปรับดีไซน์หน้าจอใหม่แล้วด้วย เป็นจอแบบชิดขอบที่มีรูกล้องหน้าบนหน้าจอแทนที่ขอบหนา ๆ แบบรุ่นที่แล้วมาครับ

สเปค ROG Phone 8 Series

ในเรื่องสเปคก็ไม่ต้องห่วงเลย ROG Phone 8 Series ทั้ง 3 รุ่นใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 เหมือนกันหมด มี RAM แบบ LPDDR5X และ Storage แบบ UFS 4.0 จุดที่แตกต่างจริง ๆ จะเป็นเรื่องความจุที่ให้มาในแต่ละรุ่นดังนี้เลยครับ

  • ROG Phone 8 ความจุ 16GB + 256GB
  • ROG Phone 8 Pro ความจุ 16GB + 512GB
  • ROG Phone 8 Pro Edition ความจุ 24GB + 1TB

แบตเตอรี่ ROG Phone 8 Series ลดขนาดลงมาเหลือ 5500mAh (จากเดิม 6000mAh) แต่ก็ได้ตัวเครื่องที่บางลง พร้อมระบบชาร์จเร็ว 65W และรอบนี้ยังรองรับระบบชาร์​จไร้สายมาตรฐาน Qi มาแล้วด้วยครับ

ภายในมีการออกแบบระบบระบายความร้อนใหม่เป็น GameCool 8 เพิ่มตัว Rapid-Cooling Conductor เข้ามาควบคุมการกระจายความร้อนอีกตัว ทำให้ลดความร้อนได้เร็วขึ้นถึง 20% ทำให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนนั้นดีขึ้น

และที่ขาดไม่ได้กับอุปกรณ์เสริมตัวใหม่ AeroActive Cooler X ที่รอบนี้ปรับขนาดให้เล็กลง เบาลงพกพาสะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังไม่ทิ้งความสามารถในเรื่องการเพิ่มความเย็นและปุ่มกดที่ด้านหลังเหมือนเดิมครับ ซึ่งชุดพัดลมตัวนี้จะใช้งานได้กับ ROG Phone 8 Series ทั้ง 3 รุ่น แต่บนรุ่น 8 Pro Edition จะมีแถมมาในกล่องเลยครับ

กล้อง ROG Phone 8 Series

กล้องของ ROG Phone 8 และ ROG Phone 8 Pro (8 Pro Edition) จะได้มา 3 ตัว แบ่งเป็นกล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์ IMX890 พร้อมกันสั่น 6 แกน Gimbal Stabilizer 3.0 + กล้อง Ultra Wide 13MP และกล้องตัวที่ 3 จะแตกต่างกันนิดหน่อยคือรุ่นปกติได้กล้อง Macro แต่รุ่น Pro และ Pro Edition จะได้เป็นกล้อง Tele 3x เข้ามาแทนครับผม

ส่วนกล้องหน้าจะอัปเกรดมาเป็น 32MP มุมกว้าง 90º พร้อมเซ็นเซอร์ RGBW ด้วยครับ

ราคา ROG Phone 8 Series

  • ROG Phone 8 ความจุ 16GB + 256GB ราคา $1099.99 (ประมาณ 38,200 บาท)
  • ROG Phone 8 Pro ความจุ 16GB + 512GB ราคา $1199.99 (ประมาณ 41,600 บาท)
  • ROG Phone 8 Pro Edition (พร้อม AeroActive Cooler) ความจุ 24GB + 1TB ราคา $1499.99 (ประมาณ 52,000 บาท)
  • AeroActive Cooler X ราคา $99.99 (ประมาณ 3,500 บาท)

โดยจะเริ่มเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ครับผม

สรุปสเปค ROG Phone 8

  • หน้าจอ : E6 AMOLED ขนาด 6.78″ 
  • ความละเอียด : FHD+ (2448 x 1080 พิกเซล) รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 2,500 nits กระจก Gorilla Glass Victus 2
  • Refresh rate : สูงสุด 165Hz (LPTO 1 – 120Hz)
  • CPU : Snapdragon 8 Gen 3 (4nm) Octa Core ความเร็ว 3.3GHz
  • RAM : 16GB (LPDDR5X)
  • ROM : 256B (UFS 4.0)
  • แบตเตอรี่ : 5500mAh
  • ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 65W HyperCharge, รองรับชาร์จไร้สาย 15W (Qi)
  • กล้องหน้า : 32MP เซ็นเซอร์ IMX663
  • กล้องหลัง : 3 ตัว
    • กล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX890, กันสั่น 6 แกน Gimbal Stabilizer 3.0, f/1.9
    • กล้อง Ultra Wide Angle 13MP มุมกว้าง 120º f/2.2
    • กล้อง Macro
  • มาตรฐานกันฝุ่นกันน้ำ : IP68
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 14 ครอบทับด้วย ROG UI
  • สีสัน : Storm Grey, Phantom Black

สรุปสเปค ROG Phone 8 Pro | 8 Pro Edition

  • หน้าจอ : E6 AMOLED ขนาด 6.78″ 
  • ความละเอียด : FHD+ (2448 x 1080 พิกเซล) รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 2,500 nits กระจก Gorilla Glass Victus 2
  • Refresh rate : สูงสุด 165Hz (LPTO 1 – 120Hz)
  • CPU : Snapdragon 8 Gen 3 (4nm) Octa Core ความเร็ว 3.3GHz
  • RAM : 16GB | 24GB (LPDDR5X)
  • ROM : 512GB | 1TB (UFS 4.0)
  • แบตเตอรี่ : 5500mAh
  • ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 65W HyperCharge, รองรับชาร์จไร้สาย 15W (Qi)
  • กล้องหน้า : 32MP เซ็นเซอร์ IMX663
  • กล้องหลัง : 3 ตัว
    • กล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX890, กันสั่น 6 แกน Gimbal Stabilizer 3.0, f/1.9
    • กล้อง Ultra Wide Angle 13MP มุมกว้าง 120º f/2.2
    • กล้อง Tele 3x 32MP, f/1.9, OIS
  • มาตรฐานกันฝุ่นกันน้ำ : IP68
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 14 ครอบทับด้วย ROG UI
  • สีสัน : Phantom Black

ที่มา : ROG Global, GSMArena

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More