Smart Review
รีวิว ROG Phone 9 Pro Edition เกมมิ่งโฟนทรงพลังที่สุด ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite l RAM 24GB พร้อมของเสริมเติมพลังความเป็นเกมเมอร์
รีวิว ROG Phone 9 Pro Edition สมาร์ทโฟนเกมมิ่งที่ทรงพลังมากที่สุดแห่งยุค จัดสโลแกน “AI ON, GAME ON” บนขุมพลัง Snapdragon 8 Elite เพื่อให้เราได้สัมผัสอรรถรสการเล่นเกมที่ดีที่สุดบนสุดยอดเกมมิ่งโฟนรุ่นใหม่ ภายใต้สัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นเกมเมอร์อย่าง ROG (Republic Of Gamers)
สรุปสเปค ROG Phone 9 Pro Edition
- ขนาดรอบเครื่อง : 163.8 x 77 x 8.9 มม.
- น้ำหนัก : 227 กรัม
- หน้าจอแสดงผล SAMSUNG Flexible AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate สูงสุด 185Hz (Game Genie), 720Hz Touch sampling rate, HDR 10 ความสว่างสูงสุด 2500 นิต, 107.37% DCI-P3, 145.65% sRGB, 103.16% NTSC และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus 2
- CPU : Qualcomm Snapdragon 8 Elite Octa-core ความเร็วสูงสุด 4.3GHz
- GPU : Adreno 830
- RAM : 24GB LPDDR5X
- ROM : 1TB UFS 4.0
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลัก 50MP รูรับแสง f/1.9, รองรับกันสั่น Gimbal OIS และเซ็นเซอร์ Lytia 700 ขนาด 1/1.56”
- เลนส์ Ultra-Wide 13MP มุมกว้าง 120 องศา
- เลนส์ Telephoto 3x 32MP รูรับแสง f/2.4 รองรับกันสั่น OIS
- กล้องหน้า 32MP
- ระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย ROG UI
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, NFC, 5G และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 5800mAh รองรับชาร์จเร็ว 65W HyperCharge
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
มาเริ่มแกะกล่องกัน !
ตัวกล่องของ ROG Phone 9 Pro Edition มีการเปลี่ยนแปลงเดิมครับ รอมบี้มาในทรงสี่เหลี่ยม พร้อมก้วยตราสัญลักษณ์ ROG Phone / 09 ซึ่งก็คือ ROG Phone รุ่นที่ 9 นั่นเองครับ
เปิดออกมาเราได้อุปกรณ์มาแบบครบๆ ที่ให้ชาวเกมเมอร์ได้เล่นเกมเต็มที่แบบทันที ไม่ต้องหาซื้อของเสริมเพิ่มแล้ว ตั้แต่ชั้นแรกก็จะเป็นตัวเครื่อง ROG Phone 9 Pro Edition
ขณะที่ฝั่งด้านบนจะมีเปิดออกมาได้ เพื่อมีของเสริมเป็นเคส 2 แบบ คือ เคสใส และเคส Aero รวมถึงเข็มเปิดถาดซิมมาให้
ส่วนภายในกล่องหลัก เปิดออกมาจะมีของเสริมครบที่วางเรียงกันอยู่ ตั้งแต่อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 65W, สายชาร์จ USB-C to C แบบถัก, พัดลม AeroActive Cooler X Pro และกระเป๋า AeroActive Cooler X Pro
สรุปแล้วสิ่งที่ให้มาในกล่องทั้งหมดจะมีตั้งแต่
- ตัวเครื่อง ROG Phone 9 Pro Edition
- อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 65W
- สายชาร์จ USB-C to C แบบถัก
- เคสใส
- เคส Aero
- เข็มเปิดถาดซิม
- พัดลม AeroActive Cooler X Pro
- กระเป๋า AeroActive Cooler X Pro
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ดีไซน์ตามแบบฉบับของ ROG Phone เอาใจเกมเมอร์ขั้นสุด
ROG Phone 9 Pro Edition ยังคงออกมาแบบมาพร้อมรูปแบบของการเป็นสมาร์ทโฟนเกมเมอร์ มาในรูปแบบสีดำล้วนผิวด้าน ทั้งยัวงมีการผสมผสานระหว่างการเคลือบเงาและแบบด้านได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งได้ลองสัมผัสแล้วจะรู้สึกถึงความทันสมัยและความพรีเมียมจริงๆ และที่ชอบมากๆ คือการเคือบผิวแบบนาโนคริสตัลเพื่อให้สัมผัสที่นุ่มนวลและไม่เกิดรอยนิ้วมือเลยครับ
ในการใช้งานก็จะให้ความสบายมือด้วยขอบตัวเครื่องที่มีความโค้งที่ขอบ ทำให้การใช้งานนานๆ ไม่รู้สึกบาดมือเลย แต่กลับตรงกันข้าง เพราะได้ความสบายและนุ่มมากๆ ครับ
ความสวยงามของฝาหลังยังมีสัญลักษณ์ ROG (Republic Of Gamers) ที่เด่นชัด และเส้นตัดตรงกลางเครื่องที่เพื่อรายละเอียดเข้าไปด้วยครับ
ยังมาพร้อม AirTriggers การควบคุมแบบ Ultrasonic
ตัวชูโรงของ ROG Phone 9 Pro Edition จะเป็น AirTriggers ที่ยังคงใส่มาให้เหมือนเดิมครับ โดยจะเป็นการควบคุมผ่านเซ็นเซอร์ Ultrasonic ที่ให้ควบคุมเกมเป็นเสมือนคอนโซลในปุ่ม L1 และ R1 ครับ ซึ่งเราสามารถปรับแต่งปุ่มการกดในแต่ละเกมได้ทั้งหมดครับ
AniMe Vision ไฟแอนิเมชัน เติมไฟให้ความเป็นเกมเมอร์
ฝาหลังของรุ่นนี้ ยังมีไฟ LED ที่เรียกว่า AniMe Vision ซึ่งจะเป็นคล้ายจอแสดงผลเสริมที่มีไฟ 648 ดวงที่เราสามารถตั้งโปรแกรมได้เพื่อให้แสดงผลเป็นรูปแบบต่างๆ ซึ่งจริงๆ การใส่เข้ามาก็ทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นเกมเมอร์ได้เลยครับ ซึ่งยังสามารถปรับแต่งเพื่อเพิ่มสัมผัสส่วนตัวลงได้ด้วย
จอแสดงผลเสริม AniMe Vision มีไฟ LED ขนาดเล็กที่ตั้งโปรแกรมได้ 648 ดวงสำหรับแอนิเมชั่นพิเศษมากมายที่ตอบสนองต่อการโต้ตอบของคุณ และไฟ LED ขนาดเล็กสีแดงที่เพิ่มเข้ามาใหม่จะช่วยเพิ่มความรู้สึกเป็นเกมเมอร์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งเพื่อเพิ่มสัมผัสส่วนตัวของคุณลงในประสบการณ์ภาพได้อีกด้วย ทั้งนี้ AniMe Vision จะแสดงผลในโหมดต่างๆ ในการใช้งาน เช่น การเล่นเกม ฟังเพลง การชาร์จ และอื่นๆ ทั้งหมดครับ
ไม่ใช่แค่จะเป็นหน้าจอแสดงผลสวยๆ เท่านั้น แต่ AniMe Vision ยังมี AniMe Play ด้วย โดยจะเป็นการเล่นเกมแบบพิกเซลสุดคลาสสิกมาใส่เอาไว้ให้ครับ ซึ่งการเล่น AniMe Play ยังช่วยให้เราได้ลองใช้งาน AirTriggers ได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น เพราะต้องใช้ในการควบคุมเกมต่างๆ ด้วยครับ
การจัดการความร้อนที่ดียิ่งขึ้นด้วย GameCool 9
ROG Phone 9 Pro Edition มาพร้อมการอัปเกรดการระบายความร้อนด้วย GameCool 9 ที่มาพร้อมการออกแบบระบบระบายความร้อนของชิปเซ็ตแบบ 360 องศา รุ่นที่ 3 ด้วยการใช้สารระบายความร้อนประสิทธิภาพสูงหลายชนิด รวมถึงระบบนี้ได้รับการออกแบบด้วยโครงสร้างที่เน้นการใช้ชิปเซ็ตเฉพาะและเสริมด้วยพัดลม AeroActive Cooler X Pro รุ่นล่าสุดเพื่อให้การกระจายความร้อนที่ดีขึ้นครับ
ทั้งนี้ ก็ยังใส่แผ่นกราไฟท์ขยายใหญ่มากขึ้นกว่าเดิมถึง 57% ทำให้ความร้อนถูกกระจายไปทั่วฝาหลัง ไม่กระจุกอยู่แค่ที่เดียวครับ ทำให้การระบายความร้อนดียิ่งขึ้นกว่าเดิมถึง 12% ครับ
หน้าจอ Flexible E6 AMOLED ขนาดใหญ่ พร้อมไหลลื่นสูงสุด 185Hz
เราจะเล่นเกมให้เต็มที่ไม่ได้หากไม่ได้หน้าจอแบบขั้นสุดครับ โดย ROG Phone 9 Pro Edition จัดหน้าจอแบบ SAMSUNG Flexible E6 AMOLED ขนาดใหญ่ถึง 6.78 นิ้ว มีความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) รองรับการแสดงผลแบบ HDR10 ค่าสีต่างๆ จัดเต็ม ตั้งแต่ 107.37% DCI-P3, 145.65% sRGB, 103.16% NTSC และยังพร้อมให้เราใช้งานในที่กลางแจ้งเพราะมีความสว่างสูงสุดถึง 2500 นิต
ความไหลลื่นของหน้าจอจะมีหลายรูปแบบ คือ ตั้งแต่การใช้ทั่วไปที่รองรับ LTPO 1-120Hz ในแบบอัตโนมัติ หรือปรับได้สูงที่ 165Hz ผ่านการตั้งค่า แต่หากใครที่เล่นเกมก็สามารถปรับได้สูงสุดในเกมจีนี่ถึง 185Hz ครับ
พาชมรอบเครื่องกันหน่อย !
เรามาดูรอบเครื่องกันต่อ !! เรื่มที่หน้าจอจะได้กล้องหน้า 32MP พร้อมด้วยลำโพงสเตอริโอที่อยู่ในแถบด้านบน
ฝั่งด้านล่างจะมีตั้งแต่ไมโครโฟนตัวที่ 1 ตามด้วยพอร์ต USB-C, ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ 2 ช่อง, ลำโพงสเตอริโออีกตัว และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
ด้านซ้ายตัวเครื่องจะมีพอร์ต USB-C มาให้ โดยใช้งานได้ทั้งการชาร์จปกติ และการใช้ร่วมกับพัดลม AeroActive Cooler X Pro ครับ
ฝั่งขวาจะมี AirTriggers ที่อยู่ชิดมุมซ้ายและขวา ขณะที่ตรงกลางจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง พร้อมปุ่ม Power และไมโครโฟนตัวที่ 2
ด้านบนจะมีไมโครโฟนตัวที่ 3 มาให้ !
จบที่ด้านหลังจะมีโมดูลกล้อง 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช LED ครับ
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
Android 15 พร้อม ROG UI
แน่นอนว่า ROG Phone 9 Pro Edition แกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Android 15 และยังใช้งานได้บน ROG UI ด้วยครับ โดยเราจะได้ฟีเจอร์ต่างๆ ด้านการเล่นเกมที่อัปเกรดขึ้นกว่าเดิม รวมถึงความไหลลื่นและฟังก์ชันที่อยู่บน Android 15 มาใช้งานควบคู่กันไป
ลำโพงสเตอริโอคู่พร้อมเทคโนโลยีจัดเต็มจาก Qualcomm
สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอคู่บนเทคโนโลยี Qualcomm aptX Adaptive และ aptX Lossless สำหรับการใชงานเสียงผ่านบลูทูธ ซึ่งคุณภาพของเสียงนั้นยอดเยี่ยมมากๆ และหากใครที่ใช้หูฟังไร้สายก็จะได้ประโยชน์จากการที่มีความหน่วงต่ำพิเศษด้วยครับ
ปรับ Launcher ได้ตามต้องการ
แม้ว่าจะได้ ROG UI เพื่อให้การใช้งานนั้นดูเหมาะกับตัวเครื่อง แต่เราก็สามารถปรับรูปแบบของ UI ได้ตามต้องการครับ ไม่ว่าจะเป็นธีม ROG หรือแบบธรรมดา รวมถึงไอคอนที่จะเป็นแบบแกนกลาง คลาสสิก และอื่นๆ ที่ยังสามารถปรับขนาดของไอคอนหรือสีสันได้ตามใจชอบ
มาพร้อมระบบการสแกนลายนิ้วมือที่รวดเร็วมาก !
ไม่ใช่แค่เรื่องเกมเท่านั้น แต่ความปลอดภัยที่ใส่มาในรุ่นนี้ก็ถือว่าใช้งานได้ยอดเยี่ยม เพราะรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่ทำได้รวดเร็วและเสถียรสุดๆ ครับ โดยตำแหน่งของตำแหน่งการสแกนก็อยู่ในระดับที่ค่อนข้างพอดีกับนิ้วโป้งในการถือปกติด้วยครับ
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ชิปเซ็ตทรงพลังสูงสุดอย่าง Snapdragon 8 Elite
หากพูดถึงการเป็นเกมมิ่งโฟนที่แรงที่สุดแล้ว ก็แน่นอน 100% ว่าต้องใช้หน่วยประมวลผลที่เร็วที่สุดครับ โดย ROG Phone 9 Pro Edition ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 8 Elite แบบ Octa-core ความเร็วสูงสุด 4.3GHz ควบคู่กับใช้งาน GPU Adreno 830 ที่ประมวลผลกราฟิกขั้นสูง ขอบอกเลยว่าสามารถเล่นทุกเกมบนสมาร์ทโฟนได้แบบลื่นๆ ไม่มีสะดุดสักเกม !! ที่สำคัญ RAM ก็ยังให้มาถึง 24GB พร้อมใช้งานแบบ Multi-Tasking ได้สบาย และยังเก็บการทำงานในพื้นหลังได้ได้ครบหลาย 10 แอปด้วยครับ
Armoury Crate ศูนย์กลางการตั้งค่าการเล่นเกม !
สำหรับแอป Armoury Crate จะถูกติดตั้งมาพร้อมกับตัวเครื่องอยู่แล้ว โดยเป็นศูนย์กลางของการตั้งค่าเกมและตัวเครื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโปรไฟล์ของเกมที่สามารถเปิดโหมด X เพื่อรีดพลังที่สูงที่สุดทั้งหมดไปยังเกมต่างๆ ได้ ทั้งนี้ ก็ภายในแอปนี้ก็ยังให้เราได้ตั้งค่า AniMe Vision ที่เป็นไฟด้านหลังเครื่องม การตั้งค่าพัดลม AeroActive Cooler X Pro ในการหมุนเพื่อระบายความร้อนในโหมดต่างๆ และสามารถตั้งแต่การใช้ AirTriggers ด้วยครับ
ยังใส่ Game Genie เพื่อจัดการเฉพาะเกม
ภายใน Armoury Crate จะมีฟีเจอร์ย่อยออกมาคือ Game Genie ที่จะเป็นการตั้งค่าของเฉพาะแต่ละเกมครับ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงข้อมูลการใช้งาน CPU/GPU หรือ FPS แบบเรียลไทม์ รวมถึงสามารถล็อคความสว่างหน้าจอ, ปรับ Refresh Rate และอื่นๆ อีกเพียบ !
ผลการทดสอบบน AnTuTu 10 และ Geekbench 6
- ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.4.3 ได้มาที่ 2,929,489 คะแนน
- ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 3,188 คะแนน และ Multi-Core ที่ 10,140 คะแนน
ทดสอบการเล่นเกมกัน !
Genshin Impact
เรามาเปิดการทดสอบการเล่นเกมแบบหนักๆ อย่าง Genshin Impact กันก่อนเลยครับ เกมนี้เราสามารถเปิดภาพกราฟิกได้ในระดับสูงสุดทั้งหมด รวมถึงเฟรมเรทแบบ 60fps ด้วย ในการเล่นก็ทำได้ยอดเยี่ยมตามคาดครับ หากใครที่ดูแถบด้านบนในมุมขวา ก็จะเห็นว่าเฟรมเรทวิ่ง 61fps ตลอดทั้งเกมครับ แถมหน้าจอก็ตอบสนองได้ไวเรียลไทม์ และภาพเวลาหมุนหน้าจอก็แทบไม่เจอการเบลอเลยด้วยครับ
PUBG Mobile
ต่อกันด้วยเกม FPS อย่าง PUBG Mobile สามารถเปิดภาพระดับ Ultra ได้ทั้งหมด และก็เล่นได้แบบสบายมากๆ ไม่มีสะดุดหรืออาการแปลกอะไรเลยครับ ที่สำคัญเราได้ประโยชน์ทั้งการใช้ปุ่ม AirTrigger เพื่อใช้ในการกดปุ่มต่างๆ รวมถึงลำโพงสเตอริโอคู่ที่สามารถรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวศัตรูได้แบบแม่นยำมาก
Asphalt Legends Unite
และตบท้ายด้วย Asphalt Legends Unite ที่เป็นเกมกราฟิกสูงอีเกมครับ สามารถเปิดระดับสูงได้สบายๆ โดยที่ตัวเกมวิ่ง 60fps ตลอดทั้งเกมตั้งแต่ช่วงของการกดปุ่มสกิลหรือช่วง Cut Scene ครับ
ฟีเจอร์ AI Gaming
นอกจากความแรงในการเล่นเกมที่ทำได้ไหลลื่นแบบหายห่วงแล้ว ฟังก์ชันที่ถูกใส่เข้ามาก็ได้รับการอัปเกรดด้วย ซึ่งจะเป็นการเล่นเกมที่ใช้ AI เข้ามาร่วมด้วย ตามฟังฏชืนหลักๆ ด้านล่างนี้เลย !
X Sense 3.0 ตัวช่วยการเล่นเกมให้ราบรื่น !
ในฟีเจอร์ X Sense 3.0 จะเป็นกลไกการจดจำด้วย AI ที่จะเป็นการใช้งานที่หลากหลายของเกมที่มีการช่วยเหลือเราให้ใช้เวลาเร็วขึ้นในทำสิ่งต่างๆ ดังนี้
- หลบหนีอย่างรวดเร็ว (หากตัวละคนถูกแช่แข็งหรือติดในบับเบิ้ล จะสามารถหนีออกมาได้อย่างรวสดเร็ว)
- การเก็บแบบอัตโนมัติ (เก็บสมบัติ พืช แมลง หรือไอเท็มอื่นๆ)
- การวิ่งวิ่งอัตโนมัติ
- เร่งความเร็วของบทสนทนา
X Capture 2.0 จับภาพช่วงเวลาสำคัญอัตโนมัติ
ต่อมาจะเป็น X Capture 2.0 ที่จะใช้ AI ในการตรวจจับการเล่นเกม และเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญในเกมก็จะถูกบันทึกไว้เป็นวิดีโอทันที เช่น ตอนได้รับถ้วยหรือเล่นเกมชนะ เป็นต้น
แปลภาษาในเกมง่ายๆ ด้วย AI Grabber 2.0
และในส่วนนี้จะเป็นการให้ AI จดจำตัวอักษร พร้อมแปลภาษาภายในเกมได้ทันที
อุปกรณ์เสริมก็ของดีทั้งหมด !!
แน่นอนว่าในการเป็นเกมมิ่งโฟน อุปกรณ์เสริมก็เป็นส่วนสำคัญมากๆ ครับ โดยใน ROG Phone 9 Pro Edition ก็มีให้เราได้ใช้กันเพียบ โดยเฉพาะการระบายความร้อนและมีคอนโทรลเลอร์ให้ใช้งานที่ดีขึ้นด้วย !
พัดลม AeroActive Cooler X Pro
สำหรับพัดลม AeroActive Cooler X Pro ที่แถมมาให้ในกล่องจะเป็นตัวช่วยในเรื่องการระบายความร้อน ซึ่งรุ่นนี้ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อยกระดับอุปกรณ์ระบายความร้อนไปอีกขั้น ใบพัดมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพิ่มขึ้น 12.5% ทำให้อากาศหมุนเวียนมากขึ้น ทั้งนี้ เราก็สามารถปรับโหมดระบายความร้อนของ AeroActive Cooler X Pro ได้ถึง 4 ระดับ ตั้งแต่อัจฉริยะ, เย็น, เย็นจัด และเยือกแข็ง (ต้องเสียบสายชาร์จไปด้วย)
เคสเสริม ROG Chill Case
ต่อมาเป็นอุปกรณ์เสริมที่ต้องซื้อแยก โดยเคส ROG Chill ได้ใช้เทคโนโลยี Composite Vapor Chamber (CVC) ที่ติดอยู่ในตัวเคสมาให้เลยเพื่อให้ได้ประโยชน์จากจุดเดือดต่ำในสภาพแวดล้อมสูญญากาศเพื่อปรับวงจรไอน้ำให้เหมาะสมที่สุด ทำให้ลดอุณหภูมิได้มากถึง 17% ทั้งยังช่วยให้เราเล่นเกมระดับ AAA ที่ต้องใช้กราฟิกระดับสูงได้นานมากขึ้นโดยไม่เกิดอาการกระตุกใดๆ ครับ
ROG Tessen Mobile Controller ตัวควบคุมเพื่อให้เล่นเกมระดับมืออาชีพ !
ความที่เป็นสมาร์ทโฟนที่เล่นเกม AAA ได้แล้ว ก็จะมาพร้อมอุปกรณ์เสริม ROG Tessen Mobile Controller ที่เป็นเหมือนจอยหรือตัวควบคุมให้เราได้ใช้งานเสมือนคอนโซลเครื่องหนึ่งเลยครับ ซึ่งการตอบสนองต่างๆ ทำได้ดีมากๆ ไม่มีอาการดีเลย์หรือความหน่วงอะไรเลย โดยการเชื่อมต่อก็ทำได้ง่ายผ่านพอร์ต USB-C และที่ตรงกลางยังมีแผ่นยางรองเพื่อให้ยึดติดได้แน่นด้วย
แบตเตอรี่ความจุสูง พร้อมชาร์จเร็ว 65W HyperCharge
ROG Phone 9 Pro Edition ให้แบตเตอรี่มาที่ 5800mAh ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปครับ ขณะที่การเล่นแบบหนักจริงๆ ก็จะอยู่ได้ราวๆ 4 ชั่วโมงครึ่งครับ ทั้งนี้ ในการชาร์จก็ถือว่ารวดเร็วเพราะอยู่ที่ 65W HyperCharge ชาร์จจาก 0-100% ได้ในเวลาเร็วสูงสุด 46 นาทีเท่านั้น และตัวแบตก็ยังมีความทนทานด้วยการชาร์จ 1,000 รอบก็ยังสามารถรักษาความจุเดิมไว้ได้มากกว่า 80% ด้วยครับ
กล้อง 3 เลนส์พร้อมใช้งานได้ครบทุกระยะ
ROG Phone 9 Pro Edition ไม่ได้เน้นแค่เรื่องเกมสำหรับเกมเมอร์เท่านั้น แต่ยังครบเครื่องเพราะใส่กล้องหลังมาให้ 3 เลนส์ให้เราได้ใช้งานกันแบบจบหลังกล้องได้เลยทีเดียวครับ ซึ่งเราจอสรุปสเปคกล้องไว้ให้อีกรอบสั้นๆ ตามนี้ !
- เลนส์หลัก 50MP, f/1.9, กันสั่น Gimbal OIS
- เลนส์ Ultra-Wide 13MP กว้าง 120 องศา
- เลนส์ Telephoto 3x 32MP รองรับกันสั่น OIS
- กล้องหน้า 32MP
ด้วยเลนส์ที่ให้มาก็ให้เราได้ใช้งานทั้งโหมด AI, Ultra-Wide, Portrait และยังได้เลนส์ Tele 3x ให้ถ่ายภาพได้แบบคมๆ ในระยะไกลด้วย ขณะที่ฟีเจอร์อื่นก็ถ่ายได้สวยงามและดีมากๆ เรียกว่า ROG Phone 9 Pro Edition เป็นเรือธงอีกรุ่นที่ครบเครื่องสุดๆ ครับ
สรุปการใช้งาน ROG Phone 9 Pro Edition
ROG Phone 9 Pro Edition นับเป็นเกมมิ่งโฟนตัวที่แรงที่สุดที่เข้ามาวางขายในไทยแล้วครับ โดยจัดเต็มทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่ถูกใจเกมเมอร์แน่นอน ทั้ยงัยงคงเอกลักษณ์ของ ROG Phone เอาไว้ มีความคมเข้ม สวยงาม แต่ยังแฝงด้วยความทันสมัยอยู่ครับ ขณะที่สเปคภายในทั้งหมดก็ใส่มาให้แรงขั้นสุด ด้วยชิป Snapdragon 8 Elite ที่ทำคะแนน AnTuTu ได้เกือบ 3 ล้านแต้ม (จากการทดสอบจริง) พร้อม RAM 24GB + ROM 1TB ที่จัดเต็มมากๆ แล้วครับ และยังได้หน้าจอ AMOLED จอใหญ่ 6.78″ รองรับ Refresh Rate ได้สูงสุดถึง 185Hz ครับ ที่สำคัญเรื่องกล้องก็ยังไม่ได้ทิ้งไปเพราะยังใช้งานได้สวยงามและดีพอสมควรเลยครับ
ราคาไทย ROG Phone 9 Pro Edition
ROG Phone 9 Pro Edition (24GB + 1TB) วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 49,990 บาท พิเศษ ! เมื่อซื้อในช่วงโปรโมชัน Early Bird ตั้งแต่วันนี้ – 2 มีนาคม 2568 จะได้รับฟรีเคส ROG Phone 9 Chill Case, กระเป๋า ROG Sling Bag 2.0 และกระจกหน้าจอ ROG Phone 9 Screen Protector
และพิเศษต่อที่ 2 เมื่อซื้อภายในงาน Thailand Mobile Expo 2025 ตั้งแต่วันนี้ – 2 กุมภาพันธ์ 2568 จะได้รับเพิ่ม ! คอนโทรลเลอร์ ROG Tesson และหูฟังไร้สาย ROG Ceta True Wireless