อาร์ทีบีฯ รุกจับมือ เอชดับบลิว เทรดดิ้งเปิดตัวลำโพงรุ่นใหม่แห่งปี “BeoSound EDGE” จาก B&O โดดเด่นด้วยระบบ Active Bass Port ผสานดีไซน์ใหม่สุดหรูมีสไตล์เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในการฟังเพลงเต็มพิกัด
อาร์ทีบีฯ ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย Gadget รายใหญ่ในประเทศไทย เปิดศักราชปีกุน เดินหน้ารุกผนึกกำลังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท เอชดับบลิว เทรดดิ้ง จำกัด ผู้นำเข้าและดำเนินการร้าน Bang & Olufsen เปิดตัวสุดยอดนวัตกรรมลำโพงตั้งพื้น/แขวนผนังระดับพรีเมี่ยมรุ่นใหม่ล่าสุด “BeoSound EDGE” ที่ยังคงโดดเด่นด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ B&O ด้วยดีไซน์ใหม่ในรูปทรงเหรียญปอนด์ โดดเด่นอย่างมีสไตล์ ผสานเข้ากับเทคโนโลยีใหม่สุดล้ำมากมายที่พัฒนาขึ้นสำหรับลำโพงโดยเฉพาะเป็นครั้งแรก ทั้ง Active Bass Port และระบบเสียงรอบทิศทาง ที่จะตอบสนองไลฟ์สไตล์คอเพลงยุคใหม่โดยเฉพาะสายปาร์ตี้ได้เพลิดเพลินไปกับพลังเสียงเบสได้อย่างง่ายดายตามต้องการ พร้อมมั่นใจการผนึกกำลังครั้งนี้ จะสร้างการเข้าถึงแบรนด์ง่ายขึ้น และขยายตลาดได้ในวงกว้างภายในสิ้นปีแน่นอน
สำหรับ Beoplay BeoSound EDGE นับเป็นสุดยอดลำโพงไร้สายระดับพรีเมี่ยมแห่งปี ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ในการฟังเพลงให้สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม โดยมาพร้อมกับแนวคิดการดีไซน์จากนักออกแบบชื่อดัง MICHAEL ANASTASSIADES ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากเหรียญหนึ่งปอนด์ของประเทศอังกฤษ กระทั่งพัฒนามาเป็นรูปลักษณ์ที่โดดเด่นมีสไตล์ในทรงกลมเหมือนวงล้อ ผสานเข้ากับเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุดมากมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการฟังเพลงทั้งในเรื่องคุณภาพเสียง และการใช้งานที่ง่ายดายและสนุกสนานยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี Active Bass Port ลิขสิทธิ์เฉพาะของ Bang & Olufsen โดย Active Bass Port จะพอร์ทพิเศษ ที่เป็นระบบเพิ่ม – ลด เสียงเบสตามความดังของเพลง การทำงานคล้ายกับสปอยเลอร์ของรถสปอร์ต ที่เมื่อเสียงเพลงดังขึ้น และต้องการเบสมาก ก็จะเปิดตัวพอร์ทนี้เพื่อให้ความดังเบสออกมารองรับอย่างเหมาะสม ในขณะที่เมื่อเพลงเบาลง ก็จะสามารถปิดเพื่อไม่ให้เสียงเบสมีมากเกินจนกลบย่านกลางและสูง เหลือเพียงเสียงใส สะอาด ตามฉบับ B&O ได้เหมือนเดิม
นอกจากนั้น BeoSound Edge ยังมาพร้อมระบบเสียงรอบทิศทางแบบ 360 องศา ที่จะทำให้ไม่ว่าคุณจะนั่งอยู่บริเวณใดในบ้าน โดยจะวางที่พื้นหรือแขวนผนัง ก็ได้ยินเสียงเพลงสุดโปรดได้เท่าๆ กันทุกมุมแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น Beoplay BeoSound EDGE ยังมาพร้อมกับ Woofer 200 วัตต์สองตัว, Midrange 100 วัตต์สองตัว, และ Tweeter 100 อีกสองตัว ช่วยให้การขับเสียงเบสได้อย่างทรงพลังยิ่งขึ้น ดังนั้น BeoSound EDGE จะสามารถเข้าถึงแนวเพลงกรูฟเท่ๆ เบสหนึบๆ และ เหมาะสำหรับสายปาร์ตี้ ขาแดนซ์อย่างแน่นอน ขณะที่ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุคุณภาพชั้นเยี่ยม โดยตัวลำโพงทำจากอะลูมีเนียมขัดเงา ให้ความแข็งแรงและหรูหราไปพร้อมกัน เสมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์สุดหรูที่สามารถตั้งโชว์ประดับไว้ในบ้านตัวหนึ่งได้เลย ขณะเดียวกันยังสามารถควบคุมการทำงานได้ง่ายดายผ่านการสัมผัสที่ตัวลำโพง เพราะด้วยรูปทรงที่เหมือนวงล้อแบบนี้ จึงมีวิธีการเพิ่ม-ลดเสียงเท่ๆ ด้วยการกลิ้งลำโพง ไปด้านหน้า หรือด้านหลัง ก็ทำได้แล้ว
พร้อมการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Bluetooth ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือจะเชื่อมต่อแบบ Streaming AirPlay และ Chromecast ก็ทำได้อย่างสะดวกสบายเช่นกัน โดยวางจำหน่ายในราคา 139,000 บาท ซึ่งเป็นราคามาตราฐานที่เท่ากันทั่วโลก
การร่วมมือกันระหว่างสองบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน จะทำให้กลยุทธ์ในการขยายตลาดของแบรนด์ B&O หรือ Bang & Olufsen ประสบความสำเร็จ และทั้งสองตั้งเป้าไว้ว่า จะเพิ่มยอดขายโดยรวมให้ได้ 200% ในปี 2020
สัมผัสประสบการณ์สุดยอดเสียงจากลำโพงวงกลมทรงพลัง ได้ที่ Bang & Olufsen Store
- ชั้น 1 เกษร วิลเลจ 02 656 1017
- ชั้น 1 คริสตัล วีรันด้า 02 515 0648
- ชั้น 3 เอ็มควอเทียร์ ตึกเฮลิกซ์
- .Life ชั้น 3 สยามพารากอน 02-610-9884-5
- .Life ชั้น 4 เซ็นทรัลเวิร์ด 02-613-1299
- King Power Duty Free มหานคร ชั้น 4 02-677-8721