IT News
ซัมซุงนำร่องส่งมอบเครื่องปรับอากาศนวัตกรรมระดับโลก ให้เด็กไทยมีสภาพแวดล้อมที่พร้อมเสริมศักยภาพการเรียนรู้สูงสุด
(บน) จากซ้ายไปขวา ธนวัฒน์ วราบรรทูลวิทย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ, อภิรดี พหลเวชช์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจเครื่องปรับอากาศ, พิศมัย เรืองศิลป์ รองผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร, ท่านผู้ช่วยอภิชาต แสนมาโนช ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตประเวศ,
วรรณภา สุขวารี ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนคชเผือกอนุสรณ์
ซัมซุงผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้าน Air-care ใส่ใจสุขภาพและอากาศบริสุทธิ์แก่ผู้บริโภคแบบรอบด้านด้วยนวัตกรรมล้ำหน้าพร้อมช่วยประหยัดไฟ ริเริ่มโครงการ “ห้องเรียนปลอดฝุ่น” นำร่องโรงเรียนใน
เขตพื้นที่สีแดงที่อยู่ในเกณฑ์ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานมีผลกระทบต่อสุขภาพ ได้แก่ โรงเรียนสุเหร่าศาลาลอย (เขตประเวศ), โรงเรียนคชเผือกอนุสรณ์ (เขตประเวศ) และโรงเรียนผ่องพลอยอนุสรณ์ (เขตบางนา) มุ่งพัฒนาเยาวชน ส่งเสริมสุขภาพและสุขภาวะการเรียนเด็กไทยโดยส่งมอบเครื่องปรับอากาศนวัตกรรมระดับโลกเพื่อคืนอากาศที่บริสุทธิ์และสร้างสภาวะแวดล้อมที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพการเรียนรู้สูงสุด ปลดล็อกศักยภาพของตนเองและส่งผลดีต่อสังคมและอนาคตที่ดีกว่า
PM 2.5 และคลื่นความร้อนมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย PM 2.5 มักเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีโดยเฉพาะในพื้นที่ที่อยู่ในระดับสีแดงที่มักจะพบค่าฝุ่นเกินมาตรฐานมีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่นเขตประเวศ และบางนา ระดับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็ก ที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ นอกจากจะส่งผลโดยตรงต่อระบบทางเดินหายใจแล้วยังสามารถส่งผลให้มีความผิดปกติด้านสติปัญญาและพัฒนาการอีกด้วย จากรายงานหลายฉบับโดยสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (EPA) แสดงให้เห็นว่าระดับมลพิษทางอากาศภายในอาคารโดยปกติสูงกว่าระดับมลพิษภายนอกอาคาร 2-5 เท่า อีกทั้งหน้าร้อนที่ร้อนแสนสาหัสมากขึ้นทุกปี อากาศที่ร้อนมักนำพาโรคบางอย่างมาได้โดยไม่ทันตั้งตัว ร่างกายที่อ่อนเพลียจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น อาจทำให้เด็กๆ ที่มีภูมิต้านน้อยอยู่แล้วเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น เช่น โรคอาหารเป็นพิษ โรคบิดในเด็ก โรคท้องร่วงเฉียบพลัน และฮีทสโตรก สำหรับเด็กๆ แล้ว ความสนุกสนานหรือการเพลิดเพลินกับกิจกรรมกับเพื่อนๆ และความไร้เดียงสา อาจนำมาซึ่งอาการป่วยของเขาได้
เทคโนโลยีของเครื่องปรับอากาศซัมซุงเป็นนวัตกรรมให้ความเย็นสบาย ทำงานเงียบ ทำให้เด็กสามารถโฟกัสกับการเรียนได้อย่างเต็มที่แบบไร้เสียงรบกวน อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยในการป้องกันฝุ่น ลดการเปิดประตูและหน้าต่างห้องเรียนเพื่อรับฝุ่นเข้ามาช่วยคลายกังวลเรื่องอากาศและฝุ่นให้กับคุณครูและผู้ปกครอง และจุดไฮไลท์คือ AI Energy Mode โหมดประหยัดพลังงานอัจฉริยะที่ช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างยั่งยืนและช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 20% เมื่อเทียบกับ AI Auto Cooling Mode ซึ่งเป็นโหมดที่ช่วยประหยัดพลังงานอยู่แล้ว ให้ห้องเรียนเย็นสบายได้อากาศสะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอโดยทางโรงเรียนไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟแต่อย่างใด
อภิรดี พหลเวชช์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจเครื่องปรับอากาศ เผยว่า “โรงเรียนคือบ้านหลังที่ 2 เป็นเหมือน Safe Zone ให้กับเด็กๆ ปัจจุบันอุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้นทุกปี และปัญหาฝุ่นละออง กลายเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้รูปแบบการเรียนการสอนเปลี่ยนแปลงไป ด้วยสภาพอากาศที่แย่ลงทุกวันเช่นนี้ การเปิดหน้าต่างรับลมธรรมชาติ ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี ห้องเรียนของน้องๆ ใน กทม. จำนวนมากเป็นห้องเรียนแบบพัดลม ยิ่งเปิด ฝุ่นก็ยิ่งคลุ้ง และเด็กๆยังต้องใส่แมสก์ตลอดทั้งวัน ทำให้เกิดความอึดอัด ไม่สบายตัว ซัมซุงจึงมุ่งสร้างห้องเรียนปลอดฝุ่น นำร่องติดตั้งเครื่องปรับอากาศซัมซุงให้กับ 3 โรงเรียนนำร่องในเขตที่มีค่าฝุ่นสูงจนเป็นอันตรายทั้งหมด 8 เครื่อง มูลค่า 628,700 บาท โดยเครื่องปรับอากาศของซัมซุงไม่ได้ให้แค่ความเย็นเท่านั้นแต่ยังช่วยป้องกันฝุ่นด้วย ภัยเงียบที่มาในทุกปีและไม่มีท่าทีจะหายไป เพราะห้องเรียนจะไม่ต้องเปิดประตูรับฝุ่นเข้ามา อีกทั้งเครื่องปรับอากาศของซัมซุงยังช่วยในเรื่องของการประหยัดไฟ โดยในอนาคตซัมซุงอยากให้เป็นโรงเรียนปลอดฝุ่นสำหรับทุกคน”
พิศมัย เรืองศิลป์ รองผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร เผยว่า “โรงเรียนมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาเยาวชนซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญของชาติ เพื่อให้ดำเนินชีวิตอยู่ในสังคม เป็นคนดี มีความสุขและมีคุณภาพ เด็กๆ กทม. ทุกคนต้องได้รับโอกาสและแรงผลักดันรวมถึงสภาพแวดล้อมทางศึกษาที่ช่วยให้พวกเขามีศักยภาพสูงสุด เรื่องฝุ่นเป็นเรื่องสำคัญ สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่จะกลับมาในช่วงปลายปีและต้นปีของทุกปี กลายเป็นปัญหาอย่างต่อเนื่อง กทม.เน้นย้ำการดำเนินการหาวิธีป้องกันและสนับสนุนการสร้างสุขภาวะที่ดีโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางอย่างนักเรียนชั้นอนุบาล ซึ่งวัยนี้เป็นช่วงสำคัญที่ร่างกายและสมองกำลังเจริญเติบโต มีโอกาสเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว โดยกทม.เองก็ยังมีความต้องการด้านเครื่องปรับอากาศเพิ่มเติม เพราะคุณภาพอากาศในห้องเป็นสิ่งสำคัญทั้งด้านพัฒนาการและสุขภาวะการเรียน ต้องขอขอบคุณทางซัมซุงที่สานฝันให้กรุงเทพมหานครและเด็กนักเรียน นับเป็นเรื่องดีองค์กรภาคเอกชนให้ความสำคัญด้านการศึกษาของเยาวชนไทย”
วรรณภา สุขวารี ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนคชเผือกอนุสรณ์ กล่าวว่า “ต้องขอขอบคุณซัมซุงที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาเด็กเล็กและสนับสนุนให้โรงเรียนมีห้องเรียนปลอดฝุ่น นับว่าโครงการนำร่องนี้มีประโยชน์และสามารถช่วยส่งเสริมให้เด็กนักเรียนสามารถเรียนรู้เพื่อเติมเต็มศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเป็นการฟื้นคืนชีพให้กับห้องเรียนของเราอีกครั้งจากเดิมที่นักเรียนมักจะหลีกเลี่ยงการเข้ามาใช้ห้องเรียนเพราะอากาศที่ร้อน ทำให้ไม่สบายตัว และเด็กๆยังสามารถนอนหลับในช่วงเวลากลางวันสบายมากขึ้นอีกด้วย”