Samsung เผยฟีเจอร์สแกนม่านตาใช้เวลาพัฒนากว่า 3 ปี และจะใส่มาในสมาร์ทโฟนระดับกลางด้วย

ในงาน Unpacked 2016 ที่ผ่านมา ทาง Samsung ก็ได้เปิดตัว Galaxy Note7 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมระบบสแกนม่านตา โดยประธานฝ่ายธุรกิจมือถือของ Samsung ได้พูดถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยนี้ว่าขณะนี้มีอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ Android เพียง 2 รุ่นที่มาพร้อมระบบยืนยันตัวตนนี้ ได้แก่ Galaxy Note7 และอีกรุ่นคือ Galaxy Tab Iris ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ในอินเดีย

D.J. Koh ประธานฝ่ายธุรกิจมือถือ เปิดเผยว่าเทคโนโลยีการสแกนม่านตานี้มีการลงทุนพัฒนามากกว่า 3 ปี ซึ่งก็น่าจะเป็นช่วงที่เขายังตำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ Samsung ก่อนจะย้ายมาอยู่ฝ่ายธุรกิจมือถือในปัจจุบัน

D.J. Koh ได้พูดถึงความปลอดภัยที่ดีที่สุดของระบบสแกนม่านตา และยังได้พูดถึงการใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นอื่น ๆ ด้วยการเปิด API ให้กับนักพัฒนา นอกเหนือจากการปลดล็อคตัวเครื่อง รวมไปถึงการใช้งานร่วมกับระบบธุกรรมทางการเงินของธนาคารด้วย

นอกจากนี้แล้ว ระบบสแกนม่านตาจะเริ่มเข้ามามีความสำคัญมากขึ้น จากความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน และจะมีการนำระบบสแกนม่านตามาใช้กับสมาร์ทโฟนรุ่นระดับกลางในอนาคตด้วย

ระบบสแกนม่านตาในรุ่น Galaxy Note7 สามารถทำงานได้ทั้งในที่มีแสงและในที่มืดด้วยเซ็นเซอร์อินฟราเรด (ด้านซ้ายเหนือหน้าจอ) และกล้องสแกนม่านตา (ด้านขวาเหนือหน้าจอ) ที่จะทำงานร่วมกันพร้อมตรวจจับดวงตาของคนทั้ง 2 ข้าง ซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่าระบบสแกนนิ้วมือ เนื่องจากไม่มีการทิ้งหลักฐานทางกายภาพเอาไว้บนตัวเครื่อง และไม่สามารถลอกเลียนแบบได้

คาดว่าในปีหน้า เราอาจจะได้เห็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก Samsung ทั้งรุ่นไฮเอนด์และระดับกลาง มาพร้อมระบบความปลอดภัยด้วยการยืนยันตัวตนผ่านการสแกนม่านตานี้

[table id=25 /]